JJNY : 5in1 ธนาธรลุยสมุทรสงคราม│ปชน.ลุยปราศรัยใหญ่│ปชน.ชี้ไทยฮับอาชญากรรม│ชาวไร่อ้อยโอด│จีนเตือนว่าที่รมต.ตปท.สหรัฐ

ธนาธร ขึ้นรถแห่ ลุยสมุทรสงคราม ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียง
https://www.matichon.co.th/region/news_5003479

 
ธนาธร ขึ้นรถแห่ ลุยสมุทรสงคราม ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียง 
 
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. ลงพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม ขึ้นรถแห่ช่วย น.ส.นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสงคราม ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาชน ปราศรัยหาเสียงในตลาดแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม โดยมีผู้สนใจร่วมฟังอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ นายธนาธรกล่าวว่า ได้ส่งผู้ที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมที่จะเข้ามาพัฒนาจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อสร้างและส่งต่อบ้านเมืองที่ดีไปสู่ลูกหลานต่อไป
 
นอกจากนี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง เข้าร่วมเวทีรับฟังสถานการณ์และแนวทางการแก้ปัญหาด้านการประมง จ.สมุทรสงคราม ขึ้นรถประชาสัมพันธ์ช่วยหาเสียง บริเวณถนนแหลมใหญ่ ศาลอาม้า ถนนไชยพร เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม อีกด้วย



พรรคประชาชน ขนแกนนำ-สส.ตัวตึง ลุยปราศรัยใหญ่ ทั่วไทย หาเสียง อบจ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5002990

พรรคประชาชน ขนแกนนำ-สส.ตัวตึง ลุยปราศรัยใหญ่ ทั่วไทย หาเสียง อบจ.
 
เมื่อวันที่ 16 มกราคม เพจเฟซบุ๊กพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความพร้อมภาพโดยระบุว่า
พร้อมลุยทั่วไทย! เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปพบกับเวทีปราศรัยใหญ่ อบจ. พรรคประชาชน จัดเต็มไลน์อัพผู้ร่วมปราศรัยแน่นๆ แล้วพบกัน
 
จ.เชียงใหม่ ประเสริฐแลนด์
จ.ลำพูน ตลาดนัดลำพูนจตุจักร
จ.จันทบุรี สามเหลี่ยมทุ่งนาเชย อ.เมือง
จ.ระยอง ตลาดสตาร์ อ.เมือง
จ.ชลบุรี ตลาดจตุจักร อ.เมือง
จ.ปราจีนบุรี ลานกิจกรรมนิคมอุตสาหกรรม304 อ.ศรีมหาโพธิ
จ.นครนายก ตลาดนัดศรีเมือง
จ.นนทบุรี ลานจอดรถหลังตลาดบีบี บางใหญ่
จ.สมุทรปราการ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ
จ.สมุทรสงคราม อำเภอเมือง (สถานที่จะแจ้งให้ทราบภายหลัง)
จ.สมุครสาคร ลานตลาดนัดอ้อมน้อย
จ.มุกดาหาร (สถานที่จะแจ้งให้ทราบภายหลัง)
จ.ภูเก็ต เวทีกลางสะพานหิน (ของเทศบาลนครภูเก็ต)
จ.พังงา ถนนคนเดินเมืองเก่า ตะกั่วป่า
จ.สุราษฎร์ธานี ลานหน้าโรงแรมวังใต้
จ.สงขลา (สถานที่จะแจ้งให้ทราบภายหลัง)

https://www.facebook.com/PPLEThai/posts/pfbid031YWUdAN9fdv1qv35KwqqY1j8fZ6o7Vx2Be8QAxLUdfzniBtExfC7kJDWg2DKDhyPl


  
สภาถกด่วนค้ามนุษย์ บี้ดันวาระแห่งชาติ ปชน.ได้ที ชี้ไทยฮับอาชญากรรม ขนาดนายกฯยังโดน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5003415

สภาฯ ถกญัตติด่วนค้ามนุษย์ ก่อนส่งให้ กมธ.ความมั่นคงฯ พิจารณาแก้ปัญหาต่อ ‘กัณวีร์’ บอกต้องมองภาพใหญ่ อย่ามองภาพเล็กไม่เช่นนั้นจะเดินตามปัญหา ขณะที่ ’ชุติพงศ์‘ ลั่น แม้แต่นายกฯ ยังเกือบเชื่อ ไม่แปลก ปชช.จะถูกหลอก จี้ ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ
 
เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 16 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นวาระกระทู้ถาม มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการค้ามนุษย์ โดย นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม (ปธ.) นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ส.ส.ระยอง พรรคประชาชน (ปชน.) และ นายทรงยศ รามสูต ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อเสนอต่อไปยังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
 
นายกัณวีร์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ และความมั่นคงของประเทศชาติ ซึ่งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กาสิโน หรือสแกมเมอร์ที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยประเทศไทยเป็นทั้งประเทศต้นทาง ประเทศกลางทาง และประเทศปลายทางที่มีผลกระทบต่อการนำพาและการค้ามนุษย์ ซึ่งเราต้องมองภาพใหญ่ ไม่สามารถมองภาพเล็กได้ หากมองเป็นจิ๊กซอว์เล็กๆ เรื่องเกี่ยวกับกาสิโน คอลเซ็นเตอร์ หรือสแกมเมอร์ เราจะไม่เข้าใจและจะวิ่งตามแต่ปัญหา ไม่สามารถวิ่งนำหรือหาทางแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นได้ ปัจจุบันเรากำลังเผชิญหน้ากับขบวนการมาเฟียระดับโลก ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ฉลาดและเดินนำประเทศไทยไปสามก้าว ประเทศไทยเราอยู่ตรงกลางเป็นไข่ดาว มีเพื่อนบ้านทั้งสามประเทศที่มีเรื่องเกี่ยวกับกาสิโน ธุรกิจออนไลน์ต่างๆ รวมถึงคอลเซ็นเตอร์
 
นายกัณวีร์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เราช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ออกมาได้ 2 คนหลังจากที่เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยได้มาพูดคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ ซึ่งการช่วยเหลือได้เพียง 2 คนไม่เพียงพอ เพราะยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกหลอกไปเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ การเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อเป็นเรื่องยาก แต่ที่ผ่านมาเราได้มีการบูรณาการในการทำงานกันหรือไม่ มีการติดต่อกับประเทศปลายทางที่เขายังมีเหยื่อการค้ามนุษย์บ้างหรือไม่ และทำอย่างไรบ้าง เราสามารถติดต่อรัฐผ่านรัฐได้แค่ลาว กัมพูชา แต่เมียนมานั้น ทหารเมียนมาเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น เราได้มีการประสานกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์หรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำการศึกษา ควบคุมให้ได้ว่ากฎหมายที่เรามีอยู่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันการค้ามนุษย์ที่เรามีอยู่นั้นเพียงพอหรือไม่ แต่เรายังไม่มีมาตรการหรือกฎหมายในการตั้งรับและปราบปรามกระบวนการนำพา เรายังไม่มีกระบวนการป้องกันเหยื่อให้ดี ฉะนั้น ตนจึงขอเสนอให้ส่งเรื่องต่อไปที่ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เพื่อพิจารณาศึกษากลไกการดูแล แก้ไขปัญหาการกระบวนการนำพาและการค้ามนุษย์
 
ด้าน นายชุติพงศ์กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นทางผ่านของขบวนการค้ามนุษย์ที่หลายคนถูกหลอก แม้กระทั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ยังบอกว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกจนเกือบเชื่อ ฟังแล้วก็สะดุ้ง เพราะแม้แต่นายกฯ ยังเกือบเชื่อ ก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะถูกหลอก แต่ประชาชนไม่ได้โชคดีเหมือนนายกฯ แม้จะรู้วงจรการค้ามนุษย์ แต่ยังพบการหลอกลวงอยู่ น่าคิดเหตุใดจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่หมดสักที ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของรัฐบาลทำได้แค่
 
1. การออกพระราชกำหนด​ (พ.ร.ก.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
2. การตั้งสายด่วน 1441 อายัดบัญชี และขอคำปรึกษาในการแจ้งความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3. การสร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาค
 
แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ น่าเจ็บใจที่รู้ว่าฐานที่มั่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ติดชายแดนไทย ใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย มาหลอกดูดเงินคนในประเทศไทยทุกวัน ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านหลอกประชาชน เพื่อเอาไปเป็นแรงงานทาส รัฐบาลควรประกาศให้ปัญหาค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ ประเทศไทยฝันอยากจะเป็นฮับแห่งเอเชีย แต่ขณะนี้เราเป็นฮับแห่งอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สภาผู้แทนราษฎรควรศึกษาเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเร่งด่วน
 
จากนั้น เปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวางสนับสนุนเรื่องนี้ ก่อนที่ที่ประชุมจะมีมติส่งให้  กมธ.ความมั่นคงฯ พิจารณาภายใน 90 วัน



ชาวไร่อ้อยโอด ไม่ทันตั้งตัว สั่งปิดโรงงานน้ำตาลกะทันหัน ตกค้างทะลุ 2 พันคัน จ่อยกระดับปิดถนน.
https://www.matichon.co.th/region/news_5003380
 
ชาวไร่อ้อยโอด ไม่ทันตั้งตัว สั่งปิดโรงงานน้ำตาลกะทันหัน ตกค้างทะลุ 2 พันคัน จ่อยกระดับปิดถนน
 
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ที่โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี และโรงไฟฟ้าไทยอุดรธานีเพาเวอร์ ยังคงไม่มีการเดินเครื่องจักร ตามคำสั่งของกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีนำอ้อยไฟไหม้เข้าโรงงานน้ำตาลฯเกิน 25% ตามประกาศของกรมโรงงานฯ ทำให้รับอ้อยไฟไหม้สะสมสูงสุด และประเด็นโรงไฟฟ้าประกอบกิจการอาจจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างรายแรง ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงมีคำสั่งด่วนที่สุดให้บริษัท ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งหมด จนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้ถูกต้อง มาตั้งแต่เย็นวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
 
ล่าสุด ยังคงมีรถบรรทุกอ้อยทยอยวิ่งเข้ามารอส่งเข้าโรงงานเพิ่ม จากที่เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ตกค้างอยู่ราว 1,200 คัน วันนี้ได้เพิ่มเป็น 2,000 คัน ทำให้ลานจอดรถ 2 และ 3 มีรถบรรทุกจอดจนเต็มพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีบางส่วนจอดรออยู่ริมถนนรอบโรงงานอีกด้วย ทั้งนี้ สมาคมชาวไร่อ้อยอีสานเหนือไทยอุดรบ้านผือ ได้นำเต็นท์มากางหน้าลานเพิ่มเติม และได้จัดพนักงานลูกจ้างของสมาคมมาคอยให้ข้อมูล และแจกข้าวกล่องวันละ 3 มื้อ โดยชาวไร่อ้อยและโชเฟอร์รถบรรทุกได้อาศัยเต็นท์และร่มไม้โดยรอบเป็นที่พักรอฟังข่าว
 
ด้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้า ตั้งแต่ออกมาแจ้งสมาคมบ่ายเมื่อวาน ว่ามีคำสั่งจากกรมโรงงานฯให้ปิด จากนั้นก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มหรือติดประกาศแจ้งเหมือนทุกครั้ง มีเพียงกระแสข่าวออกมาว่า ทางโรงงานกำลังรวบรวมหลักฐาน เดินทางไปรายงานส่วนกลาง เพื่อขอเอาอ้อยไฟไหม้ที่ตกค้าง 1,200 คัน เข้าโรงงานจากวันละ 25% เป็นวันละ 40% เมื่ออ้อยไฟไหม้ตกค้างหมดแล้ว อ้อยที่เข้าโรงงานจะเป็นอ้อยสดทั้งหมด ทั้งนี้ อ้อยไฟไหม้ที่ตกค้างนานเกิน 72 ชม.แล้ว สุ่มเสี่ยงที่อ้อยจะเป็น “เชื้อรา” หรือ “อ้อยเน่า” และความหวานต่ำกว่า 10 ซีซีเอส จะต้องขนอ้อยไปทิ้ง ไม่สามารถนำเข้าโรงงานได้
 
นายอานนท์ มโยธี อายุ 30 ปี ชาวไร่อ้อย อ.บ้านผือ เปิดเผยว่า ตนทำไร่อ้อยเกือบ 1 พันไร่ รวมทั้งของลูกไร่ด้วย รถขนอ้อยติดอยู่ที่โรงงานได้ 4-5 วันแล้ว มูลค่าอ้อยประมาณ 5-6 แสนบาท อยากอ้อนวอนรัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ขอให้อะลุ่มอล่วยให้ชาวไร่ด้วย ขอให้เอาอ้อยไฟไหม้ที่ตกค้างมาหีบก่อน หลังจากนั้นชาวไร่หรือลูกไร่ของเราก็จะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ความอัดอั้นของชาวไร่ก็เป็นอย่างที่เห็น เพราะอ้อยติดอยู่ที่นี่จำนวนมาก เกิดความเสียหายหลายล้านบาท ไม่ใช่แค่ตนที่เดือดร้อน พี่น้องชาวไร่ที่นี่เดือดร้อนกันทั้งหมด หากอ้อยเน่าเสียหาย ก็ต้องรอท่าทีของสมาคมว่าจะจัดการต่อไปอย่างไร ขอสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะได้ลงอ้อย
 
นายนิพัฒน์ ลัทธิพงษ์ อายุ 49 ปี ชาวไร่อ้อย อ.บ้านผือ เปิดเผยว่า ทำไร่อ้อยประมาณ 100 ไร่ ไม่ว่าจะเป็นอ้อยสดหรืออ้อยไฟไหม้ ตอนนี้ทุกคนเดือดร้อนกันหมด แต่ที่เดือดร้อนที่สุด คือ อ้อยไฟไหม้ เพราะอ้อยสดยังมีแนวโน้มที่จะได้ลงอ้อย ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะได้เทอ้อยไฟไหม้เลย หากเกิน 5 วันแล้ว จะเป็นอ้อยเสีย น้ำหนักก็จะลดลง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาอ้อยไปไว้ที่ไหน ที่เขาบอกว่าการเผาอ้อยส่งผลต่อฝุ่น PM2.5 ชาวไร่ก็จะต้องทำตามนโยบาย จะกลับมาตัดอ้อยสด แต่ก็ขอเวลาหน่อย เพราะยังมีอ้อยไฟไหม้ตกค้างอยู่เยอะ หากจะเก็บให้หมดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 วัน ถ้าหยุดชะงักอยู่แบบนี้ มันไม่มีทางทำได้

หากต้องตัดอ้อยสด เราก็ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็พร้อมทำตาม ซึ่งอยากให้รัฐบาลมาช่วยเหลือตรงนี้ด้วย ต้นทุนอ้อยไฟไหม้ 1 กอง ประมาณ 3-4 บาท หากเป็นอ้อยสดจะประมาณ 10-15 บาท ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว หากไม่เข้ามาช่วยชาวไร่อยู่แทบจะไม่ได้ หลังมีคำสั่งปิดโรงงาน บอกได้คำเดียวว่ามืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าจะเอาอ้อยไปไหน ทำได้อย่างเดียวคือรอ และอ้อนวอนผู้หลักผู้ใหญ่ที่รับผิดเรื่องนี้ให้มาช่วยเหลือชาวไร่ ขอให้ได้เทอ้อย แล้วจะได้กลับไปเก็บอ้อยที่เหลืออีกในไร่ ต่อไปก็เป็นอ้อยสด นี่คือสิ่งที่ชาวไร่คุยกันไว้ ขอให้เห็นใจพวกเราด้วย” นายนิพัฒน์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่