พอล แชมเบอร์ส – เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 สมาคมรัฐศาสตร์อเมริกัน ได้ออกแถลงการณ์ ให้ปล่อยตัว พอล แชมเบอร์ อาจารย์ศูนย์อาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร โดยแถลงการณ์ดังกล่าว ได้เขียนถึง มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ , ส.ส. และ วุฒิสมาชิก โอคลาโฮมา หลายคน รวมถึง โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุดของไทย

ระบุว่า ในนามของสมาคมรัฐศาสตร์อเมริกัน เราขอแสดงความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อการจับกุม และ คุมขัง ดร.พอล แชมเบอร์ส นักรัฐศาสตร์ และ นักวิชาการชาวอเมริกัน จากมหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 8 เมษายน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 แม้ว่าปัจจุบัน ดร.พอล จะได้ประกันตัวแล้ว แต่วีซ่าของเขาถูกเพิกถอน หนังสือเดินทางถูกยึด และ แล็ปท็อปของเขาก็ถูกยึด

.

เงื่อนไขการประกันตัวดังกล่าว จำกัดสิทธิและเสรีภาพในการดำเนินชีวิตทางวิชาการของเขาอย่างรุนแรง เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยึดมั่นในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพทางวิชาการตามที่รับรองภายใต้รัฐธรรมนูญไทย และ พันธกรณีระหว่างประเทศของประเทศ

.

สมาคมรัฐศาสตร์อเมริกัน เป็นตัวแทนของศาสตราจารย์ นักปฏิบัติ และ นักศึกษาที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ มากกว่า 10,000 คน รวมถึงนักวิชาการในประเทศไทย ดร.พอล แชมเบอร์ส ก็เป็นอาจารย์ที่ศูนย์อาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร

.

งานวิจัยของเขา ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบอำนาจและอิทธิพลของกองทัพในไทย และลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปของความสัมพันธ์ระหว่างพลเรือนและทหารในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ได้รับการยกย่องอย่างสูง

.

ดร.แชมเบอร์ส อาศัยอยู่ในไทยตั้งแต่ปี 1993 แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายห้ามวิพากษ์วิจารณ์กองทัพไทย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการใช้ ม.112 เพื่อปิดปากนักวิชาการมากขึ้น ดร.แชมเบอร์ส เป็นนักวิชาการที่ไม่ใช่ชาวไทยคนแรก ที่ถูกกล่าวหาเช่นนี้

.

สมาคมฯ มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการสอบสวนทางอาญาของนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยทางวิชาการ และ การแสดงออกนอกมหาวิทยาลัย โดยปราศจากความรุนแรง กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองจาก ตราสารระหว่างประเทศหลักด้านสิทธิมนุษยชน และ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองระหว่างประเทศซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี เรากลัวว่าการดำเนินคดีกับ ดร.พอล แชมเบอร์ส จะส่งผลกระทบต่อการอภิปรายในที่สาธารณะ และ เสรีภาพทางวิชาการของนักวิชาการคนอื่นๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ

.

เราขอเรียกร้องอย่างนอบน้อม ให้ยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อ ดร.แชมเบอร์ส เนื่องจากเป็นการแสดงอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของไทย ต่อเสรีภาพทางวิชาการ การสอบสวนอย่างเสรี และ การแสดงออก หลักการเหล่านี้ มีความสำคัญต่อการศึกษาระดับสูงที่มีคุณภาพ และ เป็นองค์ประกอบสำคัญของสังคมที่เสรี มั่นคง และ เจริญรุ่งเรือง

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แถลงการณ์ดังกล่าว ยังได้แนบถึง นายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน รวมถึงผู้บริหารม.นเรศวร ด้วย

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่โรงแรมโนโวเทล แพลตตินัม ประตูน้ำกทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนได้จัดกิจกรรมปราศรัยหาเสียงให้กับ นายธีรวุฒิ แก้วฟอง หรือเหมา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่วันนี้ ว่า เราให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่เท่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามเลือกตั้งเทศบาลที่เราเห็นว่าเทศบาลมีอำนาจหน้าที่ โดยตรงกับปัญหาใกล้ตัวกับประชาชน ซึ่งในจังหวัดเชียงใหม่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวก่ายได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงเป็นความตั้งใจของพวกเราที่จะพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้ดีขึ้น

.

.

ส่วนประเมินว่าจะได้กี่เก้าอี้นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงจะตอบเหมือนทุกครั้งว่าคงประเมินเป็นจำนวนเก้าอี้ไม่ได้ ทุกสนามเราตั้งความหวังไว้ทุกที่อยู่ที่ประชาชนจะไว้วางใจพรรคประชาชนมากน้อยแค่ไหน

.

เมื่อถามว่าพื้นที่เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็ลงพื้นที่เช่นเดียวกันนั้นจะสู้ได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พร้อมสู้ทุกสนามไม่ว่าใครจะไปจะเป็นยิ่งมีบุคคลสาธารณะหรือนักการเมืองลงไปช่วยหาเสียงยิ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้นเท่านั้น

.

ส่วนกลยุทธ์หาเสียงในช่วงสุดท้ายนั้นเราคงเน้นในเรื่องของการสื่อสารความตั้งใจ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้จริง หากเราเห็นนโยบายของนายก อบจ. ลำพูน ก็จะเห็นว่าทุกอย่างมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น และในช่วงเวลาอันสั้นเราสามารถส่งมอบผลงานต่าง ๆ ที่เคยหาเสียงไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบ การเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ เพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกัน และอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเห็นประชาชนหันมาเลือกพรรคประชาชนมากขึ้นจากเดิมที่เลือกตั้งใหญ่เยอะอยู่แล้ว เพื่อให้พวกเราได้เข้าไปบริหาร

.

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณกล่าวปรามาสตนว่าเป็น “หนุ่มสึ่งตึง” นั้น ตนเองคงไม่คอมเมนต์อะไรเพิ่มเติม คนที่เป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง พูดอย่างไร สื่อสารอย่างไรก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน อยากให้เน้นไปที่การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของนโยบายในการหาเสียงทำงานมากกว่า ส่วนคำพูดที่โยนมาแบบนี้ก็คงไม่มีความเห็นเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่โรงแรมโนโวเทล แพลทินัม ประตูน้ำ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่จะไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะส่งผลต่อการไปเจรจากำแพงภาษีที่สหรัฐอเมริกาหรือไม่นั้นว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งที่เราอยากเห็นคือคนที่มีความรู้สามารถเป็นตัวแทนในการเจรจาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ เรื่องผลกระทบด้านการเกษตร ต้องมีการพูดคุยกันอย่างรอบด้านกับภาคเอกชนในไทยก่อนที่จะไปเจรจา

.

นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับตนเองมองว่าการปรับ ครม.เป็นเรื่องส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ถ้ามองผลของประเทศชาติเป็นหลักเวทีผู้นำฝ่ายค้านในวันนี้เราได้ส่งข้อเสนอหลายอย่าง โดยนำวาระเป็นตัวตั้งว่าเราอยากจะแก้ และวิธีใดสามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แน่นอนว่าเราอยากได้คนที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรานำเสนอก็สำคัญเช่นกันที่อยากให้รัฐบาลไปดำเนินการ

.

เมื่อถามว่าประเมินเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราได้สื่อสารมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ สุดท้ายการปรับ ครม. หรือควบคุมเสียงในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอำนาจเต็มของนายกรัฐมนตรีจะควบคุมได้หรือไม่ได้นั้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรีควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้มากน้อยแค่ไหน

.

ส่วนการปรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในช่วงนี้ ดีสำหรับการไปเจรจาภาษีหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากออกความเห็นเวทีสำหรับวันนี้ อยากให้เป็นของผู้นำฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ส่วนหนึ่งอย่างสร้างสรรค์ในการสนับสนุนทีมไทยแลนด์

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) พรรคประชาชนเดินทางเข้าพบ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการอว. เพื่อยื่นหนังสือกรณีการตรวจสอบประเด็นมหาวิทยาลัยศูนย์เหรียญที่มีวิศวกรต่างชาติอาศัยช่องว่างวีซ่านักศึกษาเข้ามาทำงานในประเทศไทย

.

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนเดินทางเข้ามายื่นหนังสือด้วยตนเองเพื่อที่จะได้หารือในการแก้ปัญหาเรื่องนี้กับทางอว.และเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับทางอว.ก็พบว่ามีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาไปแล้วหลายลำดับ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะหากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาในไทยกลายเป็นสะพานในการใช้วีซ่านักศึกษาทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในไทย

.

ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่จะทำให้เกิดการแย่งงานกับคนไทยขึ้นเท่านั้นแต่ยังส่งผลไปถึงเรื่องการพัฒนาศักยภาพของคนไทยเนื่องจากหากบริษัทต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนมีการลักลอบคนของประเทศนั้นๆเข้ามาทำงาน สร้างเป็นอาณาจักรขนาดย่อมขึ้นมา ประเทศไทยจะไม่ได้อะไรเลยแม้แต่การพัฒนาทักษะผ่านเทคโนโลยีและรวมไปถึงรายได้ต่างๆที่บริษัทเหล่านั้นทำได้ด้วยเช่นกัน

.

“ต้องขอบคุณทางอว.ที่เข้ามารับเรื่องได้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นน.ส.ศุภมาส ชี้แจงเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องมาแล้ว แต่ก็ยังต้องให้ความเป็นธรรมซึ่งก็จะอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป” นายวิโรจน์ กล่าว

.

ด้าน น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ในความเป็นจริงทางอว.ได้มีการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขเรื่องนี้มาโดยตลอด เพียงแต่ว่าอาจจะยังไม่สามารถเผยแพร่เรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชนได้ เพราะอาจทำให้มหาวิทยาลัยหรือผู้กระทำผิดไหวตัวทัน รวมไปถึงข้อจำกัดเรื่องกฏหมาย ที่ทำให้อว.เข้าไปดำเนินการแก้ปัญหาบางเรื่องได้ยาก โดยขณะนี้ได้ดำเนินการปรับแก้กฎหมายบางฉบับเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ และเตรียมแถลงให้ประชาชนรับทราบในสัปดาห์หน้า