JJNY : 5in1 ป้ายปชน.จันทบุรี ถูกกรีด│วิโรจน์ไม่ติดใจโดนขู่ยิง│ส.ส.ปชน.กังวล│ปชน.ภูเก็ต ชี้ถึงเวลา│ญี่ปุ่นระวังแผ่นดินไหว

ป้ายหาเสียงผู้สมัคร พรรคประชาชน จันทบุรี ถูกกรีดทำลายยับ แต่ยันขอสู้ต่อ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9589647
 
 
ป้ายหาเสียงผู้สมัคร พรรคประชาชน จันทบุรี ถูกกรีดทำลายยับ แต่ยันขอสู้ต่อ ขอชาวจันทบุรีให้โอกาส อบจ. ได้ทำงานกับ 3 ส.ส. อย่างไร้รอยต่อ

14 ม.ค. 2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์ภาพป้ายหาเสียง ผู้สมัคร นายกอบจ.จันทบุรี และผู้สมัคร ส.อบจ. ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ของพรรคประชาชน ที่ถูกทำลายจนพังเสียหายในทุกพื้นที่ของจังหวัด

นายวิโรจน์ ระบุว่า 
 
ต่อให้คนจะถูกขู่ ป้ายจะถูกกรีด พวกเราก็ยังตั้งใจสู้ต่อ ไม่หวั่นไหว

ป้ายที่ถูกกรีด ในหลายจุดกระจายทั่ว จ.จันทบุรี เดี๋ยวพวกเราจะเร่งเอาเทปกาวไปซ่อมตามสภาพ ให้ดีที่สุด เท่าที่ดูไม่ใช่การล้มเพราะแรงลม แต่เป็นการถูกของมีคมกรีดทำลายครับ

ผม พี่หน่อย มานะชนะสิทธิ์ เบอร์ 1 และผู้สมัคร ส.อบจ. พรรคประชาชน ทุกคน พร้อมด้วย ส.ส.ทั้ง 3 คน ญาณธิชา บัวเผื่อน, ปรัชญาวรรณ ไชยสืบ, วรายุทธ ทองสุข ก็ไม่หวั่นไหว ยังคงเดินหน้านำเสนอนโยบายที่ครบด้านสำหรับคนจันท์ต่อไป ทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำทั้งระบบ การเฝ้าระวังช้างป่า การฟื้นฟูอาชีพประมง การสนับสนุนการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างชาติ การยกระดับ รพ.สต. การยืนเคียงข้างชาวสวนเพื่อการรับซื้อที่เป็นธรรม

ขอโอกาสให้พวกเราได้บริหาร อบจ.จันทบุรี เราตั้งใจที่จะทำให้เต็มที่ ด้วยความโปร่งใส ไร้โกง ให้งบประมาณทุกบาท กลายเป็นคุณภาพชีวิตที่ดีของคนจันท์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยครับ

ขอชาวจันทบุรี กรุณาให้โอกาส อบจ. ได้ทำงานกับ 3 ส.ส. อย่างไร้รอยต่อด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/wirojlak/posts/1109779550938598



วิโรจน์ ไม่ติดใจโดนขู่ยิง แนะสู้ที่นโยบาย ไม่ใช้ความรุนแรง เชื่อคนจันทบุรีตัดสินใจได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4999793

‘วิโรจน์’ ไม่ติดใจมือขู่ยิงเอาชีวิต ชี้ควรสู้กันด้วยนโยบายตรงไปตรงมา พร้อมไม่ใช้ความรุนแรง เชื่อชาวจันทบุรีตัดสินใจเองได้ 1 ก.พ.นี้
 
เมื่อวันที่ 14 มกราคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกคนข่มขู่หมายเอาชีวิตในพื้นที่หาเสียง อบจ.จันทบุรี ว่าคิดว่าในยุคสมัยใหม่ ชาวจันทบุรีก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นการเมืองที่ใช้ความรุนแรงอีกแล้ว เชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายที่อยู่ในเนื้องานอย่างไปตรงมา และนำเสนอนโยบายที่แตกต่างกันเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ

นายวิโรจน์กล่าวว่า ถ้าอีกฝั่งที่เป็นผู้แข่งขันเห็นว่านโยบายของเรายังไม่ตอบโจทย์ตรงไหน หรือมีช่องว่างช่องโหว่ตรงไหน จะวิพากษ์วิจารณ์กลับมา หรือเสนอนโยบายที่ดีกว่า เราก็น้อมรับ เพราะประชาชนได้ประโยชน์ แต่เราและชาวจันทบุรีก็ไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายไม่มีนโยบายนำเสนอ หรือวิพากษ์วิจารณ์นโยบายได้ ก็ใช้ความรุนแรง หรือใช้การข่มขู่แบบนี้ เชื่อว่าชาวจันทบุรีและจังหวัดอื่นๆ จะตัดสินใจได้ว่าควรจะเลือกใครที่พวกเขาสามารถฝากความหวังในการขับเคลื่อนนโยบายได้

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้วใช่หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนก็พูดคุย โดยให้พนักงานสอบสวนเป็นพยานด้วย เพื่อความโปร่งใสว่าไม่ได้ไปกล่าวหาเขา ซึ่งจากการพูดคุยเขาก็ยอมรับใน 2 ข้อเท็จจริง คือ 

1. เขาเป็นผู้รับติดตั้งป้ายของผู้สมัครอีกรายที่เป็นคู่แข่งขัน เราก็กังวล เพราะเขามีความเกี่ยวพันในฐานะผู้ติดป้าย 
2. เขาก็ยอมรับว่าพูดจริง แต่ก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้เจตนาจะทำแบบนั้น
 
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า สำหรับตนไม่ได้อยากจะดำเนินคดีกับประชาชนอยู่แล้ว เมื่อเขายอมรับข้อเท็จจริงต่อหน้าตำรวจแล้วและขออภัยกันก็ให้อภัย และตักเตือนว่าอย่าทำแบบนี้เลย ขอให้ทำการเมืองที่พูดตรงไปตรงมา หรือนำเสนอนโยบายที่ดีกว่า เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ต้องพูดปัญหาและทางออกอยู่แล้ว และควรจะยอมรับทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณตัดสินในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ซึ่งตนเองก็ใจกว้าง และใหัโอกาสเขา พร้อมเดินหน้าทำงานต่อไป
 
เราในฐานะที่เราวิพากษ์วิจารณ์กับการทำงานที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจันทบุรีไปได้ไกลกว่านี้ด้วยนโยบายของเรา เราก็ยอมรับถ้านโยบายของเราจะถูกวิพากษ์วิจารณ์กลับมาเหมือนกัน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ” นายวิโรจน์ กล่าว
 
ส่วนจะทำให้ผู้สมัครของพรรค โดยเฉพาะพื้นที่บ้านใหญ่จะใจเสียหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ไม่เลย เพราะเราก็แข่งขัน อย่างที่ตนโดน วันรุ่งขึ้นก็เดินหน้าหาเสียงต่อไป เพราะเราเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และนำเสนอทางออกของประชาชนแต่ละจังหวัด เช่น จันทบุรีบริหารแบบเดิมๆ มา 28 ปี จึงอยากให้ชาวจันทบุรีได้ตัดสินใจว่าจะเอาแบบเดิม หรือจะเอาแบบใหม่ เพื่อให้วันที่ 1 ก.พ.ได้ตัดสินใจ



ส.ส.ปชน. กังวล หากรบ. ดัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หวั่น เป็นฮับสีเทาระดับโลก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4999722

ส.ส.ปชน. กังวล หากรบ.ดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หวั่น เป็นฮับสีเทาระดับโลก เหตุ ไทยบังคับใช้กม.หละหลวม-เลือกปฏิบัติ แนะกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน
 
เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)
การประกอบธุรกิจสถานบริการครบวงจร หรือ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ตนมีข้อวิตกกังวลในการมีกาสิโนในประเทศไทย หากรัฐบาลจะยังคงยืนยันผลักดันกฎหมายดังกล่าว โดยสภาพทั่วไปของประเทศไทย รัฐบาลยังปล่อยให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่หละหลวมและเลือกปฏิบัติ คอร์รัปชันยังเต็มไปหมดในทุกระดับ
 
เห็นว่าหากมีการเปิดกาสิโนในประเทศไทยจะกลายเป็นฮับระดับโลกในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ อบายมุข ยาเสพติด  อาชญากรรมข้ามชาติ การคอร์รัปชันทุกรูปแบบ แม้กระทั่งการทวงหนี้โหดที่เคยเกิดขึ้นในมาเก๊า กาสิโนจะเป็นถังขยะใบโตที่ทิ้งไว้ให้รุ่นลูกหลาน
 
นายจุลพงษ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าในสภาพสังคมไทยยังไม่พร้อมที่จะมีกาสิโน เพราะขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการเลือกปฏิบัติ การทุจริตคอร์รัปชันยังแพร่หลาย เรื่องเหล่านี้ ยังไม่เห็นรัฐบาลจะลงมือแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อเตรียมการสำหรับการมีกาสิโนในประเทศไทย จากการจับกระแสคนไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนในประเทศไทย
 
พบว่ามีสาเหตุสำคัญ คือ การหลั่งไหลของการกระทําผิดกฎหมายเพราะกาสิโนจะเป็นเครื่องเร่งในการทำให้ประเทศไทยเป็นฮับของการทำผิดกฎหมายข้ามชาติ มีความกังวลว่าผลกระทบทางลบจากการพนันในสังคมไทยจะมีมากขึ้น รวมถึงความโปร่งใสในการคัดเลือกผู้รับใบอนุญาต
 
รัฐบาลไม่ควรยกตัวอย่างสิงคโปร์หรือญี่ปุ่น ซึ่งเทียบกับประเทศไทยไม่ได้ในเรื่องประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมาย หลายสิบปีก่อนสิงคโปร์ก็ไม่ยอมให้มีกาสิโน แต่เมื่อรัฐบาสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการปราบคอร์รัปชันและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจึงยอมให้มีกาสิโน ส่วนประเทศญี่ปุ่น ทราบว่าจะยอมให้มีการเปิดกาสิโนในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีกระบวนการคิดหลายสิบปี ไม่ใช่ปีสองปีเท่านั้น
 
นายจุลพงษ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลยังดึงดันยืนยันให้ร่างพ.ร.บ. นี้ มีผลบังคับใช้จริง  ตนขอเสนอ 5 ประเด็น คือ 

1. ร่าง พ.ร.บ.ควรเพิ่มการกําหนดให้มีการประกาศเงื่อนไขและข้อกําหนดการประมูลใบอนุญาตกาสิโน รวมทั้งจัดมีการประมูลใบอนุญาตอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะเหมือนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมของ กสทช. เพื่อลดข่าวลือว่ามีการแบ่งใบอนุญาตกันล่วงหน้าแล้ว
 
2. การกำหนดจังหวัดและเขตที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจรที่จะมีกาสิโนอยู่ในนั้นด้วย ตามร่าง พ.ร.บ. ที่ ครม. เพิ่งอนุมัติไปได้ให้อํานาจแก่ครม. ที่จะออก พ.ร.ก.กําหนดจังหวัดและเขตที่ตั้งสถานบันเทิงฯ ได้เลย แต่เห็นว่าก่อนที่ ครม.จะออก พ.ร.ก. ควรทำประชามติของประชาชนในพื้นที่ก่อนว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่
 
3. การกําหนดเงื่อนไขการเข้าเล่นกาสิโนของคนไทยที่ไม่เพียงแต่มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี แต่ควรกำหนดเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น รายได้ขั้นต่ำ การไม่ติดเครดิตบูโร การไม่มีประวัติอาชญากรรม การขออนุญาตเข้าเล่นล่วงหน้าซึ่งอาจจะทําทางออนไลน์ เป็นต้น
 
4. การจัดแบ่งรายได้เข้ารัฐ ร่าง พ.ร.บ.นี้ ได้กำหนดให้ผู้ถือใบอนุญาตกาสิโนจัดแบ่งรายได้เข้ารัฐไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม โดยแบ่งให้รัฐเป็นรายปีจํานวน 5,000 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลาใบอนุญาต 30 ปี เหมือนเป็นจํานวนเงินที่สูงและการกําหนดจํานวนเงินรายได้เข้ารัฐที่แน่นอน
แท้จริงแล้วกาสิโนในต่างประเทศมีรูปแบบการจัดสรรรายได้ให้รัฐหลายรูปแบบ ดังนั้น ขอเสนอรูปแบบให้มีการจัดสรรรายได้ให้รัฐจากรายได้ก่อนหักภาษีและค่าใช้จ่ายผันแปรไปตามรายได้ของแต่ละปีตลอดระยะเวลาใบอนุญาต 30 ปี แทนที่รัฐจะได้รับรายได้จำนวนคงที่ตลอด 30 ปี
 
5. ควรจัดตั้ง “กองทุนป้องกันและฟื้นฟูผลกระทบจากการประกอบธุรกิจสถานประกอบการครบวงจร” ตัวอย่างผลกระทบดังกล่าวที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นคือปัญหาการติดการพนันที่จะทําให้ครอบครัวและสังคมเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้ตรงกับความห่วงใยของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้มีความเห็นไว้ในที่ประชุม ครม. กระทรวงการคลังจึงอาจจะพิจารณานําเรื่องการจัดตั้งกองทุนฯ ที่ถูกตัดออกไป กลับมาไว้ใน พ.ร.บ.ตามเดิม



นักท่องเที่ยวจีน ขี่เจ็ตสกีเฉี่ยวชนกัน ดับสลด 1 ส.ส.ปชน ภูเก็ต ชี้ถึงเวลาเข้มมาตรการความปลอดภัย
https://www.matichon.co.th/region/news_4999800

นักท่องเที่ยวจีน ขี่เจ็ตสกีเฉี่ยวชนกัน ดับสลด 1 ราย  ส.ส.ปชน ภูเก็ต ชี้ถึงเวลาเข้มมาตรการความปลอดภัย
 
เมื่อวันที่ 14 มกราคม  นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาชน กล่าวว่า ในช่วงเวลาประมาณ12.00น.ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ขับขี่เรือเจ็ตสกีชนกันเองบาดเจ็บ ที่บริเวณหน้าสวนสาธารณะโลมาหาดป่าตอง ตรวจสอบ เบื้องต้น พบว่า เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีน รายหนึ่งมีอาการหายใจไม่ออก ล่าสุดเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ป่าตองจึง ขอแสดงความเสียใจมา ณ โอกาสนี้ด้วย

นายเฉลิมพงศ์  กล่าวว่า ทั้งนี้ ถึงเวลาแล้วที่ จำเป็นจะต้องพูดถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตำรวจน้ำตำรวจภูธรหรือตำรวจท่องเที่ยว รวมไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการการท่องเที่ยวทางทะเลทุกประเภท จะต้องเข้ามามีบทบาท เข้มงวดกวดขัน และตรวจสอบ การให้บริการการท่องเที่ยวทางทะเล ดังเช่นกรณี เจ็ตสกี ล่าสุดนี้ เพราะมีการเฉี่ยวชนกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย อย่างน้อยที่สุดการให้บริการเรือเจ็ตสกี ผู้ให้บริการจะต้อง ชี้แจงรายละเอียดให้กับนักท่องเที่ยวทราบอย่างละเอียด เมื่อ มีการเช่าไปขับขี่ ในน่านน้ำสาธารณะ รวมไปถึงกรณี เรือลากร่ม หรือ Parasailing เกิดเหตุเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมาในท้องที่หาดกะรนอำเภอเมืองภูเก็ตจังหวัดภูเก็ต เป็นเหตุทำให้ พนักงานพี่เลี้ยง ตกลงมาเสียชีวิต เช่นเดียวกัน

นายเฉลิมพงศ์  กล่าวว่า ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องชี้แจงในการขึ้นลงอุปกรณ์ ทางน้ำเหล่านี้ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ละเอียดควบคู่ไปกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากไม่ว่าจะเล่นกิจกรรมทางน้ำใดๆจากต้องมีการทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวในเบื้องต้นไม่ใช่ว่าปล่อยให้ขับขี่เจ็ตสกีไปตามประสาโดยที่ผู้ประกอบการหรือพนักงานไม่ได้บอกข้อมูลใดๆให้กับนักท่องเที่ยวเลยสิ่งสำคัญที่สุดคือควรจะมี เสื้อชูชีพควบคู่ไปกับ การประกันชีวิต ให้กับ นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการตั้งแต่การติดต่อใช้บริการ ด้วยเพื่อ ผลประโยชน์ของตัวนักท่องเที่ยวเองในการที่สามารถใช้เป็น งบประมาณดูแล ในชีวิตทรัพย์สิน หากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน หรือ อุบัติเหตุในระหว่างการใช้ อุปกรณ์หรือเครื่องเล่นทางน้ำ ประเภทต่างๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่