เชียงรายฝุ่น PM2.5 ยังวิกฤต ทำคนป่วยเข้าห้องฉุกเฉินวันเดียว 60 ราย
https://www.matichon.co.th/region/news_3919435
เชียงรายฝุ่น PM2.5 ยังวิกฤต ทำคนป่วยเข้าห้องฉุกเฉินวันเดียว 60 ราย
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า พื้นที่ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา มีปริมาณฝุ่น PM2.5 ในปริมาณ 249 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ.เมืองเชียงราย มีปริมาณ 168 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว มีปริมาณ 194 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยแต่ละพื้นที่ถือว่าอยู่ภายในสภาวะอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาได้นานเกือบ 2 เดือนเต็มแล้ว โดย อ.แม่สาย เกิดขึ้นแล้วจำนวน 56 วัน อ.เมืองเชียงราย 49 วัน และ อ.เชียงของ 58 วัน
ล่าสุด นาย
พุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย (ศบก.) ไฟป่า จ.เชียงราย ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทำการดับไฟป่าและแนวกันไฟตามภูเขาต่างๆ ที่เกิดไฟอย่างหนักในหลายอำเภอของ จ.เชียงราย นั้น ล่าสุด กรมป่าไม้ได้ตรวจสอบจุดความร้อน หรือ Hot Spot ในช่วงเช้าพบว่าเหลืออยู่เพียงจำนวน 55 จุด จากเดิมที่มีกว่า 100-200 จุด โดยพบว่าคงเหลือมากที่สุดในเขต อ.แม่สรวย จำนวน 42 จุด อ.เวียงป่าเป้า จำนวน 5 จุด อ.พาน จำนวน 4 จุด อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก พบว่าเหลือเพียง 2 จุด อ.แม่จัน 1 จุด และ อ.เทิง 1 จุด
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานสถานการณ์ด้านสุขภาพของประชาชนกรณีฝุ่น PM2.5 ว่า ในวันที่ 9 เมษายนนี้ มีผู้ป่วยใน 7 กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาทั้งสิ้น 142 ราย โดยเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน 60 ราย ผู้ป่วยใน 14 ราย และผู้ป่วยนอก 68 ราย
เศรษฐา คอนเฟิร์ม ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น ไม่เพิ่มหนี้ประเทศ ยันไม่รีดภาษีประชาชน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7604993
เพื่อไทย บุกเมืองรถม้า อ้อนเลือกเบอร์ 29 ทั้งคน ทั้งพรรค แลนด์สไลด์ยกจังหวัด “เศรษฐา” โต้กระเป๋าตังค์ดิจิทัล เพิ่มหนี้ประเทศ ยันไม่รีดภาษี
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 เม.ย. 2566 ที่อ.แม่ทะ จ.ลำปาง พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยย่อยพบปะประชาชน นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และคณะ ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังจนเต็มพื้นที่ โดยเนื้อหาปราศรัยส่วนใหญ่เป็นการขอคะแนนจากประชาชนให้เลือกพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 และเลือกผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง ให้แลนด์สไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค ยกจังหวัด เพื่อได้นายกฯ คนที่ 30 ของพรรคเพื่อไทย และผลักดันการแก้ปัญหาต่างๆ
จากนั้น นาย
เศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท อาจเป็นภาระหนี้สินของประเทศ ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จะช่วยขยายความออกไปเรื่อยๆ นโยบายนี้ตนคิดว่าโดน ไม่เช่นนั้น พรรคอื่นๆ ก็คงไม่พูดกัน ทั้งนี้ เราต่อสู้กับความลำบากของประชาชน ที่เราบอกว่า 1 หมื่นบาท เพราะเป็นอะไรที่สามารถยกเราออกจากความยากจนได้
นาย
เศรษฐา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องรีดภาษีนั้นไม่มี เราไม่ได้บอกว่าเราจะขึ้นภาษีสักคำ เรามีการจัดการบริหารที่ชัดเจน โดยเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เรียกข้อมูลเพิ่มเติมจากพรรคไป ซึ่งคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายเศรษฐกิจ ก็ได้รวบรวมข้อมูล และนำส่งกกต.แล้ว หากกรณีที่กกต.ยังสงสัย เราก็พร้อมชี้แจง เพื่อที่พี่ประชาชนจะได้ไม่ต้องมีข้อกังขาอะไร
เมื่อถามว่า การใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาท จะเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้กับประเทศหรือไม่ นาย
เศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูสัดส่วนของหนี้ต่อจีดีพีเป็นหลัก ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะพยายามคงไว้ในระดับปัจจุบัน แต่อย่าลืมว่าหนี้ของประเทศโตขึ้นก็จะทำให้จีดีพีโตขึ้นด้วย จำนวนเงินที่พรรคเพื่อไทยวางไว้สำหรับนโยบายนี้ ไม่ได้เป็นการเพิ่มหนี้สิน แต่จะทำให้เงินเข้าสู่ระบบอีก 5 แสนล้านบาท เงินส่วนนี้จะก่อให้เกิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเดิม
“
ยืนยันว่าไม่มีการขึ้นภาษี และจะทำให้ประชาชน ร้านค้า และภาคอุตสาหกรรม มีการซื้อขายและผลิตสินค้ามากขึ้น ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีนิติบุคคลเพิ่มมากขึ้น เราคงภาษีเท่าเดิม แต่จัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น” นาย
เศรษฐา กล่าว
ด้าน นพ.
ชลน่าน กล่าวเสริมว่า งบประมาณปี 2567 ได้มีการกำหนดไว้แล้วที่ 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังคงใช้งบประมาณในกรอบนี้ ไม่มีการกู้เพิ่ม จึงไม่เป็นการเพิ่มภาระหนี้ตามที่มีการกล่าวหา และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการรีดภาษีและขยับอัตราภาษี แต่เป็นการขยายฐานภาษี เพื่อให้จัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้มากขึ้น ทั้งนี้ ตนถามกลับว่า หากลักษณะแบบนี้เรียกว่ารีดถาษี แล้วการปล่อยปละละเลย บิดเบือน บิดเบี้ยวให้คนกลุ่มหนึ่งไม่เสียภาษี แบบนี้เรียกว่าอะไร
นาย
เศรษฐา กล่าวถึงการปราศรัยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่จ.น่าน เกี่ยวกับการทุจริตของรัฐบาล พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาโต้กลับพาดพิงว่า ผู้นำที่ทุจริตไม่ใช่พล.อ.
ประยุทธ์ แต่เป็นนาย
ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ตนได้กล่าวถึงโพลที่ทำโดยองค์กรอิสระจากต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานที่เราวัด และมีตัวเลขที่ชัดเจนอยู่แล้ว ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นสูงขึ้น ทุกคนก็ทราบดี ย้ำว่าขอให้ดูที่ตัวเลขการสำรวจ และตนนำเสนอในข้อเท็จจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้สำรวจ หากพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปเถียง ก็ขอให้ไปเถียงกับองค์กรนั้นดีกว่า
นาย
เศรษฐา กล่าวถึงกรณีผลโพลของคนอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ขณะที่นาย
เศรษฐา อันดับ 4 ว่า ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปจากการทำงานหรือหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย เรามุ่งมั่นเดินสาย พูดคุยกับพี่น้องประชาชนต่อ และต้องขอขอบคุณพี่น้องอุบลฯ ซึ่งวันที่ 14 พ.ค. จะเป็นวันที่ชี้ขาด
เมื่อถามว่าการที่โพลออกมาเช่นนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยจะได้ 376 เสียง นายเศรษฐา กล่าวว่า เราพยายามจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้ เราเคารพการตัดสินใจของประชาชน และยังคงเดินหน้าทำงานหนักต่อเหมือนเดิม
ด้าน นพ.
ชลน่าน กล่าวเสริมข้อสังเกตเรื่องโพลว่า เป็นผลสำรวจก่อนวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งเป็นวันก่อนการประกาศนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จึงเชื่อว่าหากนโยบายโดนใจประชาชนแบบนี้ จะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของโพล
จากนั้นเวลา 17.00 น. นาย
เศรษฐา และคณะ ขึ้นรถแห่รอบเมือง จ.ลําปาง และปราศรัยบนรถแห่ที่ห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมืองลำปาง จ.ลําปาง
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >>
https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66
'วิโรจน์' จวก 'พีระพันธุ์' เลิกโหน ผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ไล่ออกนอกประเทศ
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7604745
‘วิโรจน์’ จวก ‘พีระพันธุ์’ เลิกโหน ผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศ เอาเวลาไปชี้แจงประชาชน 8-9 ปี ยาบ้าเต็มเมือง บ่อนเถื่อน เว็บพนันเพียบ
วันที่ 9 เม.ย. 2566 นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวกรณี นาย
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยไล่คนเห็นต่างออกจากประเทศ พร้อมผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ล้มเจ้า ซึ่งเป็นผลผลิตของความขัดแย้งทางการเมืองนานนับทศวรรษ
นาย
วิโรจน์ กล่าวว่า ทัศนคติเช่นนี้ต่างหากที่เป็นอันตรายต่อชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สุด เพราะเท่ากับเป็นการดึงเอาสถาบันฯ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง และแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย
พฤติกรรมแบ่งแยกประชาชนแบบนี้ ส่งผลเสียต่อสถาบันฯ มามากพอแล้ว เช่นคนสร้างภาพว่าเป็นคนจงรักภักดี สักหน้าอก “
ทรงพระเจริญ” แล้วไปตั้งแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชน มูลค่าความเสียหายเป็นพันล้าน หรือกรณีมาเฟียทุนจีนสีเทา เอาภาพถ่ายที่ไปถ่ายกับพระราชวงศ์ชั้นสูง ไปแอบอ้างสร้างความเสียหายต่อสถาบันฯ
นาย
วิโรจน์ กล่าวต่อว่า ยังไม่รวมกลุ่มคนอันธพาล ที่อ้างว่าเป็นคนปกป้องสถาบันฯ แล้วไปเที่ยวใช้กำลังระรานประชาชนคนที่คิดต่างไปทั่ว เที่ยวไปแจ้งความมาตรา 112 ตามอคติของตน สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ต้องถามว่าการปกป้องสถาบันฯ ด้วยวิธีการของอันธพาลแบบนี้ ส่งผลดีต่อสถาบันฯ หรือไม่
“
ผมว่าแทนที่จะไล่ประชาชนที่เห็นต่างออกนอกประเทศ ตีตราประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับตนว่าเป็นคนชังชาติ ล้มสถาบัน สู้เอาเวลาไปชี้แจงประชาชนดีกว่าว่า ทำไมโครงสร้างทางเศรษฐกิจถึงได้เหลื่อมล้ำขนาดนี้ ทำไมนายทุนโรงไฟฟ้ารวยเป็นแสนล้าน ขณะที่ประชาชนคนไทยทุกคนต้องมาถูกรีดไถผ่านบิลค่าไฟราคาแพง”
“
ทำไม 8-9 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองถึงเต็มไปด้วยยาบ้า บ่อนเถื่อน เว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จีนสีเทา ทำไมถึงกู้หนี้มหาศาลมาผลาญกับการซื้ออาวุธ”
นาย
วิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เลิกโหนสถาบัน และขอให้คิดว่าปัญหาแทบทุกอย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ก็มาจากการโหนทั้งสิ้น ถ้ายังจะปราศรัยแบบนี้อีก คราวหลังไม่ต้องยืนปราศรัยแล้ว เอาบาร์คู่มาตั้ง แล้วโหนไปพูดไป น่าจะเหมาะกว่า
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >>
https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/
#โหวตอนาคต
#โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์
#เลือกตั้ง66
#มติชนเลือกตั้ง66
JJNY : 5in1 เชียงรายยังวิกฤต│เศรษฐาคอนเฟิร์มไม่เพิ่มหนี้│'วิโรจน์'จวกพีระพันธุ์│อนุสรณ์ยัน1หมื่นทำได้│เด็กกลับครอบครัว
https://www.matichon.co.th/region/news_3919435
เชียงรายฝุ่น PM2.5 ยังวิกฤต ทำคนป่วยเข้าห้องฉุกเฉินวันเดียว 60 ราย
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า พื้นที่ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา มีปริมาณฝุ่น PM2.5 ในปริมาณ 249 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ.เมืองเชียงราย มีปริมาณ 168 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว มีปริมาณ 194 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยแต่ละพื้นที่ถือว่าอยู่ภายในสภาวะอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาได้นานเกือบ 2 เดือนเต็มแล้ว โดย อ.แม่สาย เกิดขึ้นแล้วจำนวน 56 วัน อ.เมืองเชียงราย 49 วัน และ อ.เชียงของ 58 วัน
ล่าสุด นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย (ศบก.) ไฟป่า จ.เชียงราย ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทำการดับไฟป่าและแนวกันไฟตามภูเขาต่างๆ ที่เกิดไฟอย่างหนักในหลายอำเภอของ จ.เชียงราย นั้น ล่าสุด กรมป่าไม้ได้ตรวจสอบจุดความร้อน หรือ Hot Spot ในช่วงเช้าพบว่าเหลืออยู่เพียงจำนวน 55 จุด จากเดิมที่มีกว่า 100-200 จุด โดยพบว่าคงเหลือมากที่สุดในเขต อ.แม่สรวย จำนวน 42 จุด อ.เวียงป่าเป้า จำนวน 5 จุด อ.พาน จำนวน 4 จุด อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก พบว่าเหลือเพียง 2 จุด อ.แม่จัน 1 จุด และ อ.เทิง 1 จุด
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานสถานการณ์ด้านสุขภาพของประชาชนกรณีฝุ่น PM2.5 ว่า ในวันที่ 9 เมษายนนี้ มีผู้ป่วยใน 7 กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาทั้งสิ้น 142 ราย โดยเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน 60 ราย ผู้ป่วยใน 14 ราย และผู้ป่วยนอก 68 ราย
เศรษฐา คอนเฟิร์ม ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น ไม่เพิ่มหนี้ประเทศ ยันไม่รีดภาษีประชาชน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7604993
เพื่อไทย บุกเมืองรถม้า อ้อนเลือกเบอร์ 29 ทั้งคน ทั้งพรรค แลนด์สไลด์ยกจังหวัด “เศรษฐา” โต้กระเป๋าตังค์ดิจิทัล เพิ่มหนี้ประเทศ ยันไม่รีดภาษี
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 เม.ย. 2566 ที่อ.แม่ทะ จ.ลำปาง พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยย่อยพบปะประชาชน นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และคณะ ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังจนเต็มพื้นที่ โดยเนื้อหาปราศรัยส่วนใหญ่เป็นการขอคะแนนจากประชาชนให้เลือกพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 และเลือกผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง ให้แลนด์สไลด์ ทั้งคน ทั้งพรรค ยกจังหวัด เพื่อได้นายกฯ คนที่ 30 ของพรรคเพื่อไทย และผลักดันการแก้ปัญหาต่างๆ
จากนั้น นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท อาจเป็นภาระหนี้สินของประเทศ ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จะช่วยขยายความออกไปเรื่อยๆ นโยบายนี้ตนคิดว่าโดน ไม่เช่นนั้น พรรคอื่นๆ ก็คงไม่พูดกัน ทั้งนี้ เราต่อสู้กับความลำบากของประชาชน ที่เราบอกว่า 1 หมื่นบาท เพราะเป็นอะไรที่สามารถยกเราออกจากความยากจนได้
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องรีดภาษีนั้นไม่มี เราไม่ได้บอกว่าเราจะขึ้นภาษีสักคำ เรามีการจัดการบริหารที่ชัดเจน โดยเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เรียกข้อมูลเพิ่มเติมจากพรรคไป ซึ่งคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายเศรษฐกิจ ก็ได้รวบรวมข้อมูล และนำส่งกกต.แล้ว หากกรณีที่กกต.ยังสงสัย เราก็พร้อมชี้แจง เพื่อที่พี่ประชาชนจะได้ไม่ต้องมีข้อกังขาอะไร
เมื่อถามว่า การใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาท จะเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้กับประเทศหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูสัดส่วนของหนี้ต่อจีดีพีเป็นหลัก ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะพยายามคงไว้ในระดับปัจจุบัน แต่อย่าลืมว่าหนี้ของประเทศโตขึ้นก็จะทำให้จีดีพีโตขึ้นด้วย จำนวนเงินที่พรรคเพื่อไทยวางไว้สำหรับนโยบายนี้ ไม่ได้เป็นการเพิ่มหนี้สิน แต่จะทำให้เงินเข้าสู่ระบบอีก 5 แสนล้านบาท เงินส่วนนี้จะก่อให้เกิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเดิม
“ยืนยันว่าไม่มีการขึ้นภาษี และจะทำให้ประชาชน ร้านค้า และภาคอุตสาหกรรม มีการซื้อขายและผลิตสินค้ามากขึ้น ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีนิติบุคคลเพิ่มมากขึ้น เราคงภาษีเท่าเดิม แต่จัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า งบประมาณปี 2567 ได้มีการกำหนดไว้แล้วที่ 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังคงใช้งบประมาณในกรอบนี้ ไม่มีการกู้เพิ่ม จึงไม่เป็นการเพิ่มภาระหนี้ตามที่มีการกล่าวหา และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการรีดภาษีและขยับอัตราภาษี แต่เป็นการขยายฐานภาษี เพื่อให้จัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้มากขึ้น ทั้งนี้ ตนถามกลับว่า หากลักษณะแบบนี้เรียกว่ารีดถาษี แล้วการปล่อยปละละเลย บิดเบือน บิดเบี้ยวให้คนกลุ่มหนึ่งไม่เสียภาษี แบบนี้เรียกว่าอะไร
นายเศรษฐา กล่าวถึงการปราศรัยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่จ.น่าน เกี่ยวกับการทุจริตของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาโต้กลับพาดพิงว่า ผู้นำที่ทุจริตไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ตนได้กล่าวถึงโพลที่ทำโดยองค์กรอิสระจากต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานที่เราวัด และมีตัวเลขที่ชัดเจนอยู่แล้ว ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นสูงขึ้น ทุกคนก็ทราบดี ย้ำว่าขอให้ดูที่ตัวเลขการสำรวจ และตนนำเสนอในข้อเท็จจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้สำรวจ หากพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปเถียง ก็ขอให้ไปเถียงกับองค์กรนั้นดีกว่า
นายเศรษฐา กล่าวถึงกรณีผลโพลของคนอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ขณะที่นายเศรษฐา อันดับ 4 ว่า ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปจากการทำงานหรือหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย เรามุ่งมั่นเดินสาย พูดคุยกับพี่น้องประชาชนต่อ และต้องขอขอบคุณพี่น้องอุบลฯ ซึ่งวันที่ 14 พ.ค. จะเป็นวันที่ชี้ขาด
เมื่อถามว่าการที่โพลออกมาเช่นนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยจะได้ 376 เสียง นายเศรษฐา กล่าวว่า เราพยายามจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้ เราเคารพการตัดสินใจของประชาชน และยังคงเดินหน้าทำงานหนักต่อเหมือนเดิม
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมข้อสังเกตเรื่องโพลว่า เป็นผลสำรวจก่อนวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งเป็นวันก่อนการประกาศนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จึงเชื่อว่าหากนโยบายโดนใจประชาชนแบบนี้ จะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของโพล
จากนั้นเวลา 17.00 น. นายเศรษฐา และคณะ ขึ้นรถแห่รอบเมือง จ.ลําปาง และปราศรัยบนรถแห่ที่ห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมืองลำปาง จ.ลําปาง
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66
'วิโรจน์' จวก 'พีระพันธุ์' เลิกโหน ผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ไล่ออกนอกประเทศ
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7604745
‘วิโรจน์’ จวก ‘พีระพันธุ์’ เลิกโหน ผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศ เอาเวลาไปชี้แจงประชาชน 8-9 ปี ยาบ้าเต็มเมือง บ่อนเถื่อน เว็บพนันเพียบ
วันที่ 9 เม.ย. 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวกรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยไล่คนเห็นต่างออกจากประเทศ พร้อมผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ล้มเจ้า ซึ่งเป็นผลผลิตของความขัดแย้งทางการเมืองนานนับทศวรรษ
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทัศนคติเช่นนี้ต่างหากที่เป็นอันตรายต่อชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สุด เพราะเท่ากับเป็นการดึงเอาสถาบันฯ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง และแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย
พฤติกรรมแบ่งแยกประชาชนแบบนี้ ส่งผลเสียต่อสถาบันฯ มามากพอแล้ว เช่นคนสร้างภาพว่าเป็นคนจงรักภักดี สักหน้าอก “ทรงพระเจริญ” แล้วไปตั้งแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชน มูลค่าความเสียหายเป็นพันล้าน หรือกรณีมาเฟียทุนจีนสีเทา เอาภาพถ่ายที่ไปถ่ายกับพระราชวงศ์ชั้นสูง ไปแอบอ้างสร้างความเสียหายต่อสถาบันฯ
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ยังไม่รวมกลุ่มคนอันธพาล ที่อ้างว่าเป็นคนปกป้องสถาบันฯ แล้วไปเที่ยวใช้กำลังระรานประชาชนคนที่คิดต่างไปทั่ว เที่ยวไปแจ้งความมาตรา 112 ตามอคติของตน สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ต้องถามว่าการปกป้องสถาบันฯ ด้วยวิธีการของอันธพาลแบบนี้ ส่งผลดีต่อสถาบันฯ หรือไม่
“ผมว่าแทนที่จะไล่ประชาชนที่เห็นต่างออกนอกประเทศ ตีตราประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับตนว่าเป็นคนชังชาติ ล้มสถาบัน สู้เอาเวลาไปชี้แจงประชาชนดีกว่าว่า ทำไมโครงสร้างทางเศรษฐกิจถึงได้เหลื่อมล้ำขนาดนี้ ทำไมนายทุนโรงไฟฟ้ารวยเป็นแสนล้าน ขณะที่ประชาชนคนไทยทุกคนต้องมาถูกรีดไถผ่านบิลค่าไฟราคาแพง”
“ทำไม 8-9 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองถึงเต็มไปด้วยยาบ้า บ่อนเถื่อน เว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จีนสีเทา ทำไมถึงกู้หนี้มหาศาลมาผลาญกับการซื้ออาวุธ”
นายวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เลิกโหนสถาบัน และขอให้คิดว่าปัญหาแทบทุกอย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ก็มาจากการโหนทั้งสิ้น ถ้ายังจะปราศรัยแบบนี้อีก คราวหลังไม่ต้องยืนปราศรัยแล้ว เอาบาร์คู่มาตั้ง แล้วโหนไปพูดไป น่าจะเหมาะกว่า
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/
#โหวตอนาคต
#โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์
#เลือกตั้ง66
#มติชนเลือกตั้ง66