“ทิม” ขอคะแนนพื้นที่ฐานเสียงเพื่อไทย “ต๋อม” สวน “พร้อมพงศ์” พาดพิงมาก็ต้องพูดบ้าง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2826102
 
 
เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี “พิธา” ขึ้นเวทีปราศรัยรอบเย็นขอคะแนนพื้นที่ฐานเสียงเพื่อไทย ลานทุ่งศรีเมือง อ.บ้านดุง “ชัยธวัช” สวน “พร้อมพงศ์” พาดพิงมาก็ต้องพูดบ้าง หลังถูกหาว่าชกใต้เข็มขัด

เวลา 17.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากลานทุ่งศรีเมือง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลและอดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะที่ทั้ง 2 คนเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมทีมงาน เดินทางมาปราศรัยเพื่อขอคะแนนเสียงให้ นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ของพรรคประชาชน จัดเวทีปราศรัยย่อย โดยมีชาว อ.บ้านดุง มาร่วมรับฟัง และยังมี น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ช่วยขอคะแนน เพื่อให้ญาติของลูกหลานที่ไปทำงานที่ต่างจังหวัดกลับมาลงให้คะแนนผู้สมัครพรรคประชาชน และช่วยตรวจสอบคะแนนด้วยหัวคะแนนธรรมชาติ
 
ทางด้าน นายคณิศร ปราศรัยนโยบายแก่ประชาชน ทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้ง อบจ.โปร่งใส ต้องมาให้พี่น้องได้รับรู้ ทางออนไลน์ อบจ. มีงบเท่าไหร่ ใช้ไปทางไหน อย่างไร, ไทอุดรมีส่วนร่วม ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนด คอร์รัปชันเป็นศูนย์ จะทำโครงการที่ตรวจสอบได้, รพ.สต.ก้าวหน้า อยู่ไหนก็ใกล้หมอ เจ้าหน้าที่เก่งแต่ไม่มีงบประมาณ ทางพรรคจะรับโอน รพ.สต. เอามาเข้า อบจ. เพื่อหางบประมาณมาดูแลญาติพี่น้อง, น้ำประปาใส ดื่มได้ทุกที่, ขนส่งสาธารณะ สนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว ให้มีรถขนส่งในแหล่งท่องเที่ยวทุกที่, ถนนปลอดหลุม ถนนเดินได้ ทุกที่ไฟสว่างและมีกล้องวงจรปิด, ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด โดยจะจัดสรรหาเครื่องมือตรวจสแกนเพื่อตรวจหาสารเสพติด เพื่อนำไปรักษา เพื่อส่งต่อบ้านเมืองที่ดี ในอนาคตให้กับลูกหลานของเรา
 
ต่อมาเวลา 18.20 น. นายพิธา ขึ้นเวทีปราศรัยอ้อนชาว อ.บ้านดุง อ.ทุ่งฝน ซึ่งถือว่าเป็นฐานเสียงของ นายวิเชียร ขาวขำ อดีตนายก อบจ.อุดรธานี และฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยด้วย แนะนำให้รู้จัก นายคณิศร ผู้ลงสมัครนายก อบจ.อุดรธานี ชูนโยบายเร่งด่วนของพรรคประชาชน และผู้ลงสมัครในพื้นที่ จ.อุดรธานี ว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องในอนาคตครั้งยิ่งใหญ่ การจัดการปัญหาชีวิต จะเร็วขึ้น เหตุผลที่ อนาคตใหม่ ก้าวไกล และพรรคประชาชน ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่น เราจะทำสิ่งที่นักการเมืองหรือผู้นำท้องถิ่นอ้างว่าทำไม่ได้ ด้วยรอยยิ้มและอ่อนน้อมถ่อมตน โดยนายพิธา ใช้เวลา 30 นาที ก่อนเดินทาง ท่ามกลางแฟนคลับขอเซลฟี่ คล้องพวงมาลัย และผูกผ้าขาวม้า เพื่อให้กำลังใจตามประเพณีของคนอีสาน ก่อนพากันทยอยเดินทางกลับ
 
ทางด้าน นายชัยธวัช ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่าขอให้เลิกย้อน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้นโยบายสู้กัน และมองว่าการทำเช่นนี้เป็นการชกใต้เข็มขัด (อ่านเพิ่มเติม : ป้อง “ทักษิณ” ช่วยหาเสียง อัด “พิธา-ชัยธวัช” ชกใต้เข็มขัด เลิกย้อนอดีต) ว่า นายพร้อมพงศ์ น่าจะต้องบอก นายทักษิณ เป็นหลัก รวมถึงทีมงานหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เพราะหากติดตามการหาเสียงของพรรคประชาชนเน้นเรื่องนโยบายเป็นหลักมาตลอด แต่เนื้อหาที่ปราศรัยพาดพิงพรรคเพื่อไทย หรือ นายทักษิณ มีจุดเริ่มต้นจากกรณีที่ นายทักษิณ และทีมหาเสียงพรรคเพื่อไทยบางคน พาดพิงพรรคประชาชน พรรคก้าวไกล ก็ต้องมีการตอบโต้บ้างเป็นธรรมดา ไม่ได้เป็นเจตนาของเราอยู่แล้ว เพราะอยากเห็นการแข่งขันเชิงนโยบายมากกว่า
 
“ผมคิดว่าการพาดพิงพรรคก้าวไกล พรรคประชาชน ในทางที่อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด มันก็เสียหาย ดังนั้นก็จำเป็นที่จะต้องชี้แจง พูดบ้าง แต่ว่าถ้าดูภาพรวมตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ ทุกเวทีเนื้อหาเกือบทั้งหมดเป็นเรื่องที่เราพูดถึงวิสัยทัศน์ในการทำงานการเมืองท้องถิ่นของเรา ประสบการณ์ในการทำงานการเมืองท้องถิ่นของเรา ความมุ่งมั่นตั้งใจของคุณคณิศร ผู้สมัครของเรา แล้วก็นโยบาย ถ้าดูภาพรวมทั้งเวที อย่าดูแค่ผมคนเดียว”
 

---

"อดิศร" ร่ายกลอนถึง "พรรคส้ม" ด่า "ทักษิณ" ทั่วอุดรธานี ระวังปาก!
https://siamrath.co.th/n/581195
 
วันที่ 18 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์คลิปผ่านติ๊กต็อก @adisorn.piengkes โดยในคลิป นายอดิศร กล่าวว่า...
 
การหาเสียง อบจ. ที่จังหวัดอุดรธานี ไม่ทราบว่าพรรคส้มไปกินอะไรมา โอ้โหด่าดอกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร ยังกับเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาอดีตหลายชาติเลยทีเดียว หาเสียงก็ว่ากันไป ก็อยากให้ประชาชนเลือกตั้งตนเองเอาชนะพรรคการเมืองหรือผู้สมัครคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา นี่เล่นว่า ดอกเตอร์ทักษิณยังจะไม่คบกันอีกในอนาคต ผมก็ถึงบางอ้อ ปัจจุบันการที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมมือหรือจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาชน หรือพรรคก้าวไกลในอดีต มันเป็นสัจธรรม เป็นแนวทางคนละแนวทางเลยทางการเมือง ยิ่งนานไปยิ่งรู้เช่นเห็นชาติ พี่น้องประชาชนคนอุดรธานีที่จะเลือกตั้งใครเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะเลือกนายก อบจ. มาบริหารท้องถิ่น ประสานมือกับทางรัฐบาล

ด่ามั่วทั่วอุดร ปากสัญจรด่าทักษิณ
นโยบายไม่ได้ยิน ด่าถึงถิ่นคนเสื้อแดง

ไปกล่าวหาว่าคนอดุนถูกซื้อเสียงห้าร้อยบาท ไปด่าเสื้อแดงอย่างโน้นไปด่าเสื้อแดงอย่างนี้ เอาให้มันพอดิบพอดี เพราะว่าคนอุดรคนอีสานไม่ชอบการด่าแบบปากพาจนอย่างนี้ ขอให้โชคดีนะครับ ระวังปากไว้หน่อย ชนะอยู่ที่พวกสะดวกอยู่ที่ีเงิน เจริญอยู่ที่นาย -ิบหายอยู่ที่ปาก
 
https://www.tiktok.com/@adisorn.piengkes/video/7438346996576013576
 

---

"สภาพัฒน์" แถลงจีดีพีไทยไตรมาส 3/67 ขยายตัว 3% คงประมาณการจีดีพีปีนี้ 2.6%
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1154000

"สภาพัฒน์" แถลงจีดีพีไทยไตรมาส 3 ปี 67 ขยายตัวได้ 3% รวม 9 เดือนเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.3% คงประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ขยายตัวได้ 2.6% เศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ 3% คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36 ล้านคน รายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 1.5 ล้านล้านบาท จับตานโยบายโดนัลด์ ทร้มป์
 
วันนี้ (18 พ.ย.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงข่าวผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย (จีดีพี) ไตรมาส 3/2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3% โดยรวมเศรษฐกิจไทยใน 9 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวได้ 2.3% 
 
โดยในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้จากการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวได้ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน การส่งออกสินค้าและบริการ และการอุปโภคภาครัฐยังขยายตัวในเกณฑ์สูง 
 
โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ 3.4% การใช้จ่ายในภาคบริการขยายตัวได้ 6.5% สาขาก่อสร้างขยายตัวได้ 15.5% การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวถึง 10.5% การนำเข้าสินค้าและบริการขยายตัวได้ 9.6% 

สศช.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ 2.6% และในปี 2568 จะขยายตัวได้ ในกรอบ 2.3 - 3.3% โดยมีค่ากลางที่ 2.8% โดยในปีหน้าจะมีแรงหนุนจากการลงทุนในเรื่องของเซมิคอนดักเตอร์ แต่ต้องมีการระวังปัจจัยนโยบายที่ไม่แน่นอนจากการเข้ามาของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องเฝ้าระวังความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น 

ก่อนหน้านี้นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่า “เศรษฐกิจไทยปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.2% ถึง 3.2%) คงเดิมจากประมาณการครั้งก่อนและนับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ขยายตัวที่ 1.9% ต่อปี นำโดยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก
 
ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสขยายตัวใกล้เคียงกับ 3% และปีหน้าตนอยากเห็นเศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3.5%