ยิ่งลักษณ์ อวยพรสงกรานต์ ห่วงภาคเหนืออากาศแย่ อ้อน กึ๊ดเติงเสมอ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7609373
ยิ่งลักษณ์ เสียดายอากาศแย่ หลายคนอาจไม่ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ อยากเห็นภาคเหนืออากาศดีอีกครั้ง อวยพรประชาชนเดินทางปลอดภัย อ้อนกึ๊ดเติงเสมอ
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2566 น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
วันพรุ่งนี้เป็นการเริ่มต้นเทศกาลสงกรานต์แล้ว ปกติทุกปีที่อยู่เมืองไทยจะต้องกลับไปเฉลิมฉลองที่เชียงใหม่ น่าเสียดายที่คุณภาพอากาศย่ำแย่เป็นภัยต่อสุขภาพ หลายคนอาจจะไม่ออกมาเล่นน้ำกันเหมือนเคย
น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ระบุต่อว่า
ดิฉันอยากเห็นภาคเหนือกลับมามีอากาศที่ดีอีกครั้ง เราจึงต้องการรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ จริงจังกับการแก้ปัญหา เจรจากับเพื่อนบ้าน ผลักดันกฎหมายที่จำเป็นออกมาบังคับใช้โดยไว เพื่อขจัด PM 2.5 และคืนอากาศบริสุทธิ์ให้พี่น้องคนไทย
“
พี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดิฉันขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย ได้ใช้เวลากับครอบครัวและคนที่รักอย่างเต็มที่ และอย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ‘ยิ่งลักษณ์’ คนนี้ ยังกึ๊ดเติงหาปี้น้องเสมอ สวัสดีปี๋ใหม่เมืองเจ้า…” น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ระบุ
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >>
https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66
https://www.facebook.com/100044561160788/posts/pfbid02Q5iia4R4EJjpxow6a7DVRZhmzAvyRQ4Lu4isiEYHs4s6V2Pu9em9Ajga8eGwhvLGl/?mibextid=5zvaxg
‘เศรษฐา’ ลุยมหาชัย-แม่กลอง เบ่งกล้าม-ยิ้ม บอกยังไหวแจงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต่อ (มีคลิป)
https://www.matichon.co.th/election66/news_3923905
‘เศรษฐา’ ลุยสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม คุยผู้ประกอบการประมง เบ่งกล้าม-ยิ้ม บอกไม่มีปัญหา ยังไหวแจงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต่อ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 เมษายน ที่ศาลหลักเมือง จ.สมุทรสาคร นาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาครทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นาย
อุดม กันม่วง นาย
บุญมี นิลถนอม นาย
ประยงค์ นอบน้อม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จากนั้นนาย
เศรษฐาและคณะเดินทางไปยังสมาคมการประมงสมุทรสาคร เพื่อรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการประมง
โดยนาย
เศรษฐากล่าวว่า ปัญหาของผู้ประกอบการประมงเป็นเรื่องใหญ่เราจะทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ หากได้เป็นรัฐบาล จะเป็นตัวแทนชาวประมง เจรจาการค้าดูแลผู้ประกอบการการประมง จากนั้นได้เดินทักทายประชาชนที่ตลาดมหาชัย เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ขอคะแนนเสียงให้พรรค พท.ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ต่อมาเวลา 10.00 น. นาย
เศรษฐาพร้อมด้วย น.ส.
ณิชาภา โกวิทานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรค พท. และคณะ เดินทางต่อไปยังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) เพื่อสักการะหลวงพ่อบ้านแหลมและนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม ซึ่งได้ให้พรนาย
เศรษฐาว่า “
กุศลเจตนาที่จะทำเพื่อประเทศชาติ ขอให้สำเร็จบรรลุผลตามที่มุ่งมาดปรารถนา” พร้อมมอบวัตถุมงคลเป็นหลวงพ่อวัดบ้านแหลม
พร้อมทั้งได้ทักทายนาย
พานทองแท้ว่า “
นี่ลูกนายทักษิณใช่ไหม” จากนั้นนาย
เศรษฐาและคณะได้เดินเท้าต่อไปยังตลาดร่มหุบ เพื่อพบปะประชาชน โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน เข้ามามอบดอกไม้ขอถ่ายภาพกับนาย
เศรษฐาและคณะอย่างอบอุ่น ก่อนเดินทางไปยังสหกรณ์ประมงแม่กลอง เพื่อรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการประมง
จากนั้นเวลา 12.00 น. นาย
เศรษฐาให้สัมภาษณ์กรณีที่กระทรวงการคลังชี้แจงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงงบประมาณปี 2567 หากหักงบประจำและงบต่อเนื่องแล้ว จะเหลืองบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท หากพรรค พท.เป็นรัฐบาล งบส่วนนี้จะเพียงพอหรือไม่ว่า เราต้องมาปรับปรุงกัน ในเรื่องของการหารายได้เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยงบประมาณที่เหลือ 2 แสนกว่าล้านนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่า ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่าโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลจะได้ไม่คุ้มเสีย นาย
เศรษฐากล่าวว่า ทุกภาคส่วนมีความเป็นห่วง แต่เราก็มั่นใจในนโยบายของเรา ว่าเป็นนโยบายที่ถูกต้องและโดนใจประชาชน
ถามต่อว่า หลายฝ่ายกังวลว่า 1 หมื่นคูณ 70 ล้านคน จะใช้งบมากเกินไป นาย
เศรษฐากล่าวว่า ปกติแล้วนี่ไม่ใช่ทางของตนเท่าไหร่ที่จะไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่บางพรรคการเมืองที่ให้ 700 บาทต่อเดือนต่อคน คูณไปก็ 7-8 แสนล้านแล้ว ซึ่งเป็นการเฉลี่ย 4 ปี แต่คิดว่าการทำเช่นนั้นเป็นการหยอดน้ำข้าวต้ม ไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบที่เราอยากให้เป็น เพราะพี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันมานาน เขาต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ วิธีที่เราใช้เป็นวิธีที่เราคิดมาแล้วว่าหาเงินได้ และผลตอบแทนที่กลับมาในรูปแบบภาษีก็ชัดเจน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับตัวเลขของพรรคการเมืองอื่นๆ หากเปรียบเทียบกับพรรค พท.ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ นาย
เศรษฐากล่าวว่า ก็อย่างที่บอกว่าให้ไปศึกษาดูว่าบางพรรคการเมืองจริงๆ แล้วใช้จ่ายเยอะกว่า จริงๆ ไม่ใช่วิสัยของเราที่จะไปดูคนอื่นแล้วจะพูดคุย หน้าที่ของตน ในนามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. เรามีหน้าที่เดินสายพบปะพี่น้องประชาชน กระจายนโยบายดีๆ ที่เรามี ให้พี่น้องประชาชนทราบ ซึ่งแต่ละพรรคก็มีวิธีการที่จะแถลงนโยบายแตกต่างกันไปให้พี่น้องประชาชนตัดสินวันที่ 14 พฤษภาคม
เมื่อถามว่า หากโครงการนี้สะดุดจะมีโครงการอื่นมาเทียบเคียงหรือไม่ นาย
เศรษฐากล่าวว่า มีอยู่แล้ว เรามั่นใจว่านโยบายเราดีมีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน วันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้เข้าคูหากาพรรค พท.
ถามต่อว่า โครงการนี้จะได้ภาษีกลับมาเพียงพอหล่อเลี้ยงโครงการต่อไปหรือไม่ นาย
เศรษฐากล่าวว่า ยืนยันว่าอัตราการเก็บภาษีเท่าเดิม แต่จำนวนเม็ดเงินที่ได้เข้ามาจากการที่ห้างร้าน SME ภาคอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากรายได้สูงขึ้นมายังภาษีนิติบุคคล ภาษี VAT ซึ่งทุกอย่างเท่าเดิม อัตราการเก็บเท่าเดิม 7% ยืนยันว่าเราไม่ได้ขึ้นภาษี ทั้งนี้ เราคิดไว้หมดแล้วว่าหากเราเก็บภาษีเท่าเดิมจะได้รายได้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ตามที่เคยมีการชี้แจงไป อย่างไรก็ตาม การได้เงิน 10,000 บาท จะไม่มีการหักภาษีใดๆ อย่าให้ใครเบี่ยงเบนความจริง
เมื่อถามว่า แปลกใจหรือไม่ว่าทำไม กกต.ถึงเพ่งเล็งพรรค พท.เป็นพิเศษ นาย
เศรษฐากล่าวว่า “
ไม่ครับ ท่านทำตามหน้าที่ท่าน เราเคารพการตัดสินใจและการทำงานขององค์กรอิสระไม่มีปัญหา ยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงตลอด”
เมื่อถามว่า ยังไหวที่จะชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่ นาย
เศรษฐายกแขนซ้ายเบ่งกล้าม ยิ้มมุมปาก พร้อมกล่าวว่า “
ยังไหวครับ ไม่มีปัญหาครับ แข็งแกร่งครับ สู้”
วิโรจน์ ลั่นก้าวไกล ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางหลัก ตั้งเป้ากวาด ส.ส. 80 ที่นั่ง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7609723
วิโรจน์ ลั่น ก้าวไกล ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางหลักสำหรับประชาชน ตั้งเป้ากวาด 70-80 ที่นั่ง ย้ำพรรคไหนได้เสียงมากสุด ต้องได้สิทธิ์ตั้งรัฐบาล
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2566 นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลจะเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนอย่างไร ว่า ถ้าพูดกันตรงๆ ผลงานที่ผ่านมาเราไม่ใช่ทางเลือก แต่เราคือทางหลัก จากผลงานในสภา 4 ปีที่ผ่านมากับการยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน พรรคก้าวไกลน่าจะเป็นพรรคหลักพรรคหนึ่ง และน่าจะเป็นพรรคเดียวด้วยซ้ำที่พยายามปกป้องผลประโยชน์ให้ประชาชน ดังนั้น ยืนยันว่าเราไม่ใช่ทางเลือกใหม่ แต่เรากําลังกลายเป็นทางหลักสําหรับประชาชน
นาย
วิโรจน์ กล่าวอีกว่า ผู้สมัครก็ตั้งใจทํางานมีอุดมการณ์ที่มั่นคง พร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนจากนายทุนใหญ่ นายทุนผูกขาด รวมทั้งทำให้ประชาชนมีปากท้องดี เพื่อคืนอนาคตให้กับลูกหลาน ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลตั้งความหวังจะได้ ส.ส.มากน้อยแค่ไหนนั้น ยังเหลือเวลาอีกยาวที่จะประเมินแบบแม่นยํา แต่วันนี้ตนคิดว่าจะได้รับการตอบรับที่ไม่น้อยไปกว่าเดิม โดยเราตั้งเป้าว่าอย่างน้อยควรจะมีสัก 70-80 ที่นั่ง
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเป็นแกนนําในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และหากได้เสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาล จะชูใครเป็นนายกฯ นาย
วิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคก้าวไกลชัดเจนอยู่แล้ว แคนดิเดตนายกฯ ของเราคือ นายคุณ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค แต่อย่างไรก็ตาม การเมืองในระบบรัฐสภา เราต้องเคารพเสียงประชาชน ดังนั้น พรรคการเมืองไหนที่ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุดก็ควรจะต้องได้สิทธิ์ในการตั้งรัฐบาล และได้รับการพิจารณาในตําแหน่งนายกฯ ก่อน ซึ่งเราก็จะทําตามกฎกติกา
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >>
https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66
JJNY : 5in1 ยิ่งลักษณ์อวยพรสงกรานต์│‘เศรษฐา’ลุยมหาชัย│วิโรจน์ลั่นทางหลัก│IMF ปรับลดคาดการณ์ │รัสเซียเตรียมผ่านกม.ใหม่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7609373
ยิ่งลักษณ์ เสียดายอากาศแย่ หลายคนอาจไม่ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ อยากเห็นภาคเหนืออากาศดีอีกครั้ง อวยพรประชาชนเดินทางปลอดภัย อ้อนกึ๊ดเติงเสมอ
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2566 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
วันพรุ่งนี้เป็นการเริ่มต้นเทศกาลสงกรานต์แล้ว ปกติทุกปีที่อยู่เมืองไทยจะต้องกลับไปเฉลิมฉลองที่เชียงใหม่ น่าเสียดายที่คุณภาพอากาศย่ำแย่เป็นภัยต่อสุขภาพ หลายคนอาจจะไม่ออกมาเล่นน้ำกันเหมือนเคย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุต่อว่า ดิฉันอยากเห็นภาคเหนือกลับมามีอากาศที่ดีอีกครั้ง เราจึงต้องการรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ จริงจังกับการแก้ปัญหา เจรจากับเพื่อนบ้าน ผลักดันกฎหมายที่จำเป็นออกมาบังคับใช้โดยไว เพื่อขจัด PM 2.5 และคืนอากาศบริสุทธิ์ให้พี่น้องคนไทย
“พี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดิฉันขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย ได้ใช้เวลากับครอบครัวและคนที่รักอย่างเต็มที่ และอย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ‘ยิ่งลักษณ์’ คนนี้ ยังกึ๊ดเติงหาปี้น้องเสมอ สวัสดีปี๋ใหม่เมืองเจ้า…” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66
https://www.facebook.com/100044561160788/posts/pfbid02Q5iia4R4EJjpxow6a7DVRZhmzAvyRQ4Lu4isiEYHs4s6V2Pu9em9Ajga8eGwhvLGl/?mibextid=5zvaxg
‘เศรษฐา’ ลุยมหาชัย-แม่กลอง เบ่งกล้าม-ยิ้ม บอกยังไหวแจงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต่อ (มีคลิป)
https://www.matichon.co.th/election66/news_3923905
‘เศรษฐา’ ลุยสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม คุยผู้ประกอบการประมง เบ่งกล้าม-ยิ้ม บอกไม่มีปัญหา ยังไหวแจงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต่อ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 เมษายน ที่ศาลหลักเมือง จ.สมุทรสาคร นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาครทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายอุดม กันม่วง นายบุญมี นิลถนอม นายประยงค์ นอบน้อม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จากนั้นนายเศรษฐาและคณะเดินทางไปยังสมาคมการประมงสมุทรสาคร เพื่อรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการประมง
โดยนายเศรษฐากล่าวว่า ปัญหาของผู้ประกอบการประมงเป็นเรื่องใหญ่เราจะทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ หากได้เป็นรัฐบาล จะเป็นตัวแทนชาวประมง เจรจาการค้าดูแลผู้ประกอบการการประมง จากนั้นได้เดินทักทายประชาชนที่ตลาดมหาชัย เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ขอคะแนนเสียงให้พรรค พท.ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายเศรษฐาพร้อมด้วย น.ส.ณิชาภา โกวิทานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรค พท. และคณะ เดินทางต่อไปยังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) เพื่อสักการะหลวงพ่อบ้านแหลมและนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม ซึ่งได้ให้พรนายเศรษฐาว่า “กุศลเจตนาที่จะทำเพื่อประเทศชาติ ขอให้สำเร็จบรรลุผลตามที่มุ่งมาดปรารถนา” พร้อมมอบวัตถุมงคลเป็นหลวงพ่อวัดบ้านแหลม
พร้อมทั้งได้ทักทายนายพานทองแท้ว่า “นี่ลูกนายทักษิณใช่ไหม” จากนั้นนายเศรษฐาและคณะได้เดินเท้าต่อไปยังตลาดร่มหุบ เพื่อพบปะประชาชน โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน เข้ามามอบดอกไม้ขอถ่ายภาพกับนายเศรษฐาและคณะอย่างอบอุ่น ก่อนเดินทางไปยังสหกรณ์ประมงแม่กลอง เพื่อรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการประมง
จากนั้นเวลา 12.00 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กรณีที่กระทรวงการคลังชี้แจงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงงบประมาณปี 2567 หากหักงบประจำและงบต่อเนื่องแล้ว จะเหลืองบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท หากพรรค พท.เป็นรัฐบาล งบส่วนนี้จะเพียงพอหรือไม่ว่า เราต้องมาปรับปรุงกัน ในเรื่องของการหารายได้เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยงบประมาณที่เหลือ 2 แสนกว่าล้านนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่า ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่าโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลจะได้ไม่คุ้มเสีย นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกภาคส่วนมีความเป็นห่วง แต่เราก็มั่นใจในนโยบายของเรา ว่าเป็นนโยบายที่ถูกต้องและโดนใจประชาชน
ถามต่อว่า หลายฝ่ายกังวลว่า 1 หมื่นคูณ 70 ล้านคน จะใช้งบมากเกินไป นายเศรษฐากล่าวว่า ปกติแล้วนี่ไม่ใช่ทางของตนเท่าไหร่ที่จะไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่บางพรรคการเมืองที่ให้ 700 บาทต่อเดือนต่อคน คูณไปก็ 7-8 แสนล้านแล้ว ซึ่งเป็นการเฉลี่ย 4 ปี แต่คิดว่าการทำเช่นนั้นเป็นการหยอดน้ำข้าวต้ม ไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบที่เราอยากให้เป็น เพราะพี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันมานาน เขาต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ วิธีที่เราใช้เป็นวิธีที่เราคิดมาแล้วว่าหาเงินได้ และผลตอบแทนที่กลับมาในรูปแบบภาษีก็ชัดเจน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับตัวเลขของพรรคการเมืองอื่นๆ หากเปรียบเทียบกับพรรค พท.ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็อย่างที่บอกว่าให้ไปศึกษาดูว่าบางพรรคการเมืองจริงๆ แล้วใช้จ่ายเยอะกว่า จริงๆ ไม่ใช่วิสัยของเราที่จะไปดูคนอื่นแล้วจะพูดคุย หน้าที่ของตน ในนามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. เรามีหน้าที่เดินสายพบปะพี่น้องประชาชน กระจายนโยบายดีๆ ที่เรามี ให้พี่น้องประชาชนทราบ ซึ่งแต่ละพรรคก็มีวิธีการที่จะแถลงนโยบายแตกต่างกันไปให้พี่น้องประชาชนตัดสินวันที่ 14 พฤษภาคม
เมื่อถามว่า หากโครงการนี้สะดุดจะมีโครงการอื่นมาเทียบเคียงหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มีอยู่แล้ว เรามั่นใจว่านโยบายเราดีมีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน วันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้เข้าคูหากาพรรค พท.
ถามต่อว่า โครงการนี้จะได้ภาษีกลับมาเพียงพอหล่อเลี้ยงโครงการต่อไปหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยืนยันว่าอัตราการเก็บภาษีเท่าเดิม แต่จำนวนเม็ดเงินที่ได้เข้ามาจากการที่ห้างร้าน SME ภาคอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากรายได้สูงขึ้นมายังภาษีนิติบุคคล ภาษี VAT ซึ่งทุกอย่างเท่าเดิม อัตราการเก็บเท่าเดิม 7% ยืนยันว่าเราไม่ได้ขึ้นภาษี ทั้งนี้ เราคิดไว้หมดแล้วว่าหากเราเก็บภาษีเท่าเดิมจะได้รายได้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ตามที่เคยมีการชี้แจงไป อย่างไรก็ตาม การได้เงิน 10,000 บาท จะไม่มีการหักภาษีใดๆ อย่าให้ใครเบี่ยงเบนความจริง
เมื่อถามว่า แปลกใจหรือไม่ว่าทำไม กกต.ถึงเพ่งเล็งพรรค พท.เป็นพิเศษ นายเศรษฐากล่าวว่า “ไม่ครับ ท่านทำตามหน้าที่ท่าน เราเคารพการตัดสินใจและการทำงานขององค์กรอิสระไม่มีปัญหา ยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงตลอด”
เมื่อถามว่า ยังไหวที่จะชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่ นายเศรษฐายกแขนซ้ายเบ่งกล้าม ยิ้มมุมปาก พร้อมกล่าวว่า “ยังไหวครับ ไม่มีปัญหาครับ แข็งแกร่งครับ สู้”
วิโรจน์ ลั่นก้าวไกล ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางหลัก ตั้งเป้ากวาด ส.ส. 80 ที่นั่ง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7609723
วิโรจน์ ลั่น ก้าวไกล ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางหลักสำหรับประชาชน ตั้งเป้ากวาด 70-80 ที่นั่ง ย้ำพรรคไหนได้เสียงมากสุด ต้องได้สิทธิ์ตั้งรัฐบาล
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลจะเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนอย่างไร ว่า ถ้าพูดกันตรงๆ ผลงานที่ผ่านมาเราไม่ใช่ทางเลือก แต่เราคือทางหลัก จากผลงานในสภา 4 ปีที่ผ่านมากับการยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน พรรคก้าวไกลน่าจะเป็นพรรคหลักพรรคหนึ่ง และน่าจะเป็นพรรคเดียวด้วยซ้ำที่พยายามปกป้องผลประโยชน์ให้ประชาชน ดังนั้น ยืนยันว่าเราไม่ใช่ทางเลือกใหม่ แต่เรากําลังกลายเป็นทางหลักสําหรับประชาชน
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ผู้สมัครก็ตั้งใจทํางานมีอุดมการณ์ที่มั่นคง พร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนจากนายทุนใหญ่ นายทุนผูกขาด รวมทั้งทำให้ประชาชนมีปากท้องดี เพื่อคืนอนาคตให้กับลูกหลาน ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลตั้งความหวังจะได้ ส.ส.มากน้อยแค่ไหนนั้น ยังเหลือเวลาอีกยาวที่จะประเมินแบบแม่นยํา แต่วันนี้ตนคิดว่าจะได้รับการตอบรับที่ไม่น้อยไปกว่าเดิม โดยเราตั้งเป้าว่าอย่างน้อยควรจะมีสัก 70-80 ที่นั่ง
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเป็นแกนนําในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และหากได้เสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาล จะชูใครเป็นนายกฯ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคก้าวไกลชัดเจนอยู่แล้ว แคนดิเดตนายกฯ ของเราคือ นายคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค แต่อย่างไรก็ตาม การเมืองในระบบรัฐสภา เราต้องเคารพเสียงประชาชน ดังนั้น พรรคการเมืองไหนที่ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุดก็ควรจะต้องได้สิทธิ์ในการตั้งรัฐบาล และได้รับการพิจารณาในตําแหน่งนายกฯ ก่อน ซึ่งเราก็จะทําตามกฎกติกา
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66