JJNY : 5in1 ยอดขายทุเรียนตก│"หญ้าหวาน"กระทบ│เสนอเงินย้ายพรรคเรื่องจริง│“สุดารัตน์”ห่วงศก.ทรุดหนัก│โปแลนด์จะปิดสถานกงสุล

กระทู้ข่าว

ข่าวเศรษฐกิจ การเมือง พรรคประชาชน สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ข่าวต่างประเทศ

ยอดขายทุเรียนตก กำลังซื้อลดลง หลังประชาชนรัดเข็มขัดมากขึ้น ใช้จ่ายน้อยลง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9755883

ยอดขายทุเรียนราชบุรีหดเล็กน้อย กำลังซื้อลดลง หลังเศรษฐกิจชะลอตัว ประชาชนรัดเข็มขัดมากขึ้น ใช้จ่ายน้อยลง
.
วันที่ 12 พ.ค.2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ตลาดศรีเมือง ตลาดกลางผักและผลไม้ ตั้งอยู่ อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อสำรวจราคาสินค้าเกษตร หลังผลไม้ตามฤดูกาลหลายชนิดราคาตกต่ำ เนื่องจากมีปริมาณเข้าสู่ท้องตลาดจำนวนมาก
.
โดยได้พูดคุยกับ นายวีรศักดิ์ ตริยะธำรง เจ้าของร้านเจ๊แดง ค้าปลีกและค้าส่งทุเรียน ที่เปิดขายมาแล้วกว่า 20 ปี ก่อนจะได้รับการเปิดเผยว่า ในแต่ละปีตนจะรับซื้อทุเรียนหน้าสวนจากทางพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ทั้งสายพันธุ์หมอนทอง ชะนี นกกระจิบ พวงมณี และก้านยาว เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับแม่ค้าพ่อค้าอีกทอดหนึ่ง
.
ช่วงต้นฤดูทุเรียนปีนี้ ผลผลิตทุเรียนจากภาคพื้นที่ตะวันออก ทั้งระยอง และจันทบุรี มีออกสู่ตลาดจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศเย็น ในช่วงเดือนธ.ค.67 จนถึงกลางเดือนม.ค.68 ซึ่งเป็นช่วงที่ทุเรียนติดดอก นอกจากจะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นแล้ว ผลผลิตทุเรียนในปีนี้ เนื้อดี รสชาติอร่อย ทุเรียนหมอนทองขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม ทางร้านขายส่งอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 130 บาท ขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 2 – 4 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 150-160 บาท
.
ถึงแม้ว่าทุเรียนจะยังคงได้รับความนิยม แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคไม่เท่าเดิม ทำให้พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัดจะมาเลือกซื้อทุเรียนขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมไปขายต่อ ต่างจากปีก่อนที่จะซื้อขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 2-4 กิโลกรัม เพราะขายได้ง่ายกว่า
.
ด้าน เจ้าของร้านเจ๊อิ๋ม ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายทุเรียนแกะเนื้อคัดเกรด ยอมรับว่า ปีนี้ได้รับผลกระทบเช่นกัน ยอดขายหน้าร้านลดลง ลูกค้าหลายคนไม่มีกำลังซื้อ และบางส่วนหันมาประหยัดมากขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าเคยซื้ออยู่ที่ราคาตั้งแต่ 1,000-1,500 บาท ปัจจุบันเหลือเพียงราคาระหว่าง 400–900 บาท
.
ปัจจุบันราคาทุเรียนแกะเนื้อคัดเกรด อยู่ที่กิโลกรัมละ 800 บาท สำหรับระดับความสุก และเนื้อสัมผัสทุเรียนที่ลูกค้านิยมเลือกซื้อ จะเป็นแบบกรอบนอกนุ่มใน เนื้อด้านนอกจะไม่แข็งมาก เนื้อด้านในจะนุ่ม รสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมแต่ไม่มาก รองลงมาจะเป็นแบบเนื้อพอดี เนื้อด้านนอกจะไม่แข็งมาก ด้านในเนื้อจะนุ่มและออกเป็นครีม รสชาติหวาน หอม มีความมันไม่มาก และแบบสุดท้ายคือ เนื้อแบบไก่ฉีก เนื้อทั้งด้านนอกและในจะแข็ง รสชาติมัน หวานน้อย มีกลิ่นหอมเล็กน้อย
.

.
"สุขุม" ชี้ ประโยค "หญ้าหวาน" กระทบเลือกตั้งธัญบุรีครั้งหน้า
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/248502
.

"สุขุม" ชี้ ประโยค "หญ้าหวาน" นายกเบี้ยว หลังตระกูลหลีนวรัตน์ประกาศชัยชนะ กระทบเลือกตั้งธัญบุรีครั้งหน้า ลั่นคิดว่าคนเหล่านั้นคงคิดได้เองบ้าง

รองศาสตราจารย์ สุขุม นวลสกุล นักวิชาการทางรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มองปรากฏการณ์เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี หลังตระกูลหลีนวรัตน์คว้าชัยชนะ ว่า เหตุผลการเลือกของแต่ละคนนั้นต่างกัน แต่ในหลายพื้นที่มีอิทธิพลของ "คน" ซึ่งมีอำนาจกำหนดความเป็นไปในพื้นที่

ส่วนกรณีนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” ที่บอกว่า “คนธัญบุรีกินหญ้าหวาน” นั้น ตนรู้สึกยังไงคงไม่สำคัญ แต่คนที่ถูกบอกว่าเป็นคนทานหญ้าหวาน ก็คิดว่าคนเหล่านั้นคงจะคิดได้เองบ้าง

ส่วนจะกระทบกับเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่นั้น ก็เชื่อว่าคงจะกระทบตั้งแต่ตอนนี้

นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์สุขุม ได้วิเคราะห์กรณีของพรรคประชาชนที่ชนะเลือกตั้งเทศบาลได้เพียงแค่ 14 หน่วยเท่านั้น ว่าตนไม่แน่ใจว่าหนทางเก่าของพรรคประชาชนที่มุ่งแต่อุดมการณ์อย่างเดียว จะสามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

แม้เลือกตั้งครั้งนี้จะได้มาน้อยที่ แต่พรรคประชาชน ก็ควรจะต้องทำให้เห็นแล้วว่า ไม่ได้ดีแต่พูด เพราะผลที่ผ่านมาสิ่งหนึ่งที่พรรคประชาชนโดนปรามาสจากฝั่งตรงข้ามคือ ดีแต่พูดทำอะไรไม่เป็น

เพราะฉะนั้นตนมองว่า ในพื้นที่เทศบาลเมืองและเทศบาลตำบล ในสัดส่วนที่พรรคประชาชนได้มาสามารถทำให้เป็นแบบอย่างเป็นที่พอใจของคนในพื้นที่ก็อาจจะนำมาเป็นผลงานโชว์ในการเลือกตั้งคราวหน้าได้ และพรรคประชาชนหากเอาแต่เรื่องอุดมการณ์อย่างเดียว ความหน้าเชื่อถือต่อประชาชนที่จะแพร่ขยายต่อจากนี้ก็คงยากขึ้น

รองศาสตราจารย์ สุขุม ยังเชื่อว่าการเลือกตั้งเทศบาลมีผลต่อการเมืองภาพใหญ่อย่างแน่นอน และเชื่อว่าก็มีผลต่อการเมืองปี 2570 เช่นกัน แต่กว่าจะถึงปี 2570 นั้น ก็ยังมีปรากฏการณ์ทางการเมืองอีกหลายอย่างที่จะต้องวัดกันอีกต่อจากนี้

ส่วนหลังจากนี้ก็อยากจะให้จับตาว่า พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่กำลังจะเข้าสภา จะเป็นเอกภาพในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ การเมืองตอนนี้ต้องดูเป็นไทม์ไลน์ ดูเป็นทีละเรื่อง แต่ละเรื่องก็ลุ้นทุกเรื่อง เพราะว่ามีท่าทีของการแข่งกันในพรรคร่วมรัฐบลด้วยกันด้วย

รองศาสตราจารย์ สุขุม กล่าวว่า “ผมไม่แน่ใจนะว่าไอหนทางเก่าองพรรคประชาชนในการมุ่งอุดมการณ์อย่างเดียว มันจะส่งไปสู่เป้าหมายได้เพราะฉะนั้นตรงนี้มันแม้จะได้มาน้อยที่แต่พรรคประชาชนต้องทำให้เห็นแล้วหล่ะว่าไม่ใช่ดีแต่พูดอะนะ เพราะผลที่ผ่านมาสิ่งหนึ่งซึ่งพรรคประชาชนโดนจากฝั่งตรงข้ามก็คือ ดีแต่พูดทำอะไรไม่เป็นหรอก”

“เพราะฉะนั้นตรงนี้ถ้า เทศบาลเมืองและเทศบาลตำบลสามารถทำเป็นแบบอย่างได้ เป็นที่พอใจของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ก็อาจจะนำไปโชว์นารเลือกตั้งครั้งหน้าในที่ต่าง ๆ ได้ พรรคประชาชนหากเอาแต่เรื่องอุดมการณ์อย่างเดียว ความหน้าเชื่อถือที่จะกลายเป็นแพร่กระจายออกไปคงยาก” รองศาสตราจารย์ สุขุม กล่าว

.
สส.พรรคประชาชนย้ำเสนอเงินแลกย้ายพรรคเป็นเรื่องจริง แต่ปฏิเสธไปแล้ว
https://www.thairath.co.th/news/politic/2857893
.
“ยอดชาย” สส.พรรคประชาชน อัดคลิปลงเฟซบุ๊ก นั่งยันนอนยันได้ ไม่ย้ายพรรคแน่นอน ย้ำสิ่งที่ปราศรัยเป็นเรื่องจริง แต่เปิดชื่อคนยื่นกล้วยไม่ได้ เหตุติดมารยาททางการเมือง
.
วันที่ 12 พ.ค. 2568 นายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรี เขต 9 พรรคประชาชน อัดคลิปวิดีโอลงเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่มีกระแสพรรคการเมืองอื่นมายื่นข้อเสนอ เพื่อย้ายออกจากพรรคประชาชน ว่า มีเพจข่าวบางเพจลงข่าวตัดเฉพาะบางส่วน แต่ไม่เป็นไร วันนี้ตนจะมานั่งยันนอนยันว่าสิ่งที่ตนได้ปราศรัยไปเกี่ยวกับการชักชวนของพรรคการเมืองให้ไปเข้าสังกัดพรรค ต้องตอบตรงนี้ว่าเป็นเรื่องจริง และยืนยันอีกว่าการย้ายพรรคของผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องปกติของระบบการเมืองเก่า ซึ่งพรรคประชาชนไม่เห็นด้วย
.
“ผมได้ปฏิเสธในคลิปตอนปราศรัยไปแล้ว ว่ามีการปฏิเสธข้อเสนอทุกข้อเสนอ ผมต้องขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนชาวหนองปรือและเมืองพัทยา ไว้ตรงนี้อีกครั้งหนึ่ง ว่าผมไม่อาจทรยศคะแนนเสียง ที่พี่น้องมอบให้กับพรรคก้าวไกลเดิม ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชน สิ่งที่ผมไม่สามารถเปิดเผยชื่อพรรค รวมถึงผู้ที่มาติดต่อ เนื่องจากเป็นมารยาททางการเมือง ซึ่งเราต้องให้เกียรติกัน” นายยอดชาย กล่าว
.
นายยอดชาย กล่าวต่อว่า ตนจะไม่ย้ายพรรค ด้วยความเคารพต่อคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนให้มา ขอยืนยันตรงนี้ว่าตนจะยืนหยัดต่อสู้กับการเมืองเก่าและจะปักธงส้มในพื้นที่เลือกตั้งของตนให้ได้
.

.
“สุดารัตน์” ห่วงเศรษฐกิจไทยทรุดหนัก จี้ลดงบฟุ่มเฟือย รับมือวิกฤตโลกผันผวน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2857888
.

“สุดารัตน์” ห่วงเศรษฐกิจทรุดหนัก แนะรัฐทบทวนการใช้งบประมาณปี 2569 เตรียมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ ชี้สถานการณ์โลกผันผวน-ประชาชนรายได้ลด-หนี้เพิ่ม ต้องลดรายจ่ายภาครัฐที่ฟุ่มเฟือย “สร้างการเมืองสุจริต”

วันที่ 12 พ.ค. 2568 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยหลังลงพื้นที่ พบปะพี่น้องประชาชนหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน โดยแสดงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทั่วประเทศ โดยระบุว่าขณะนี้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อย กำลังประสบปัญหารายได้ลดลงอย่างรุนแรง ขณะที่สถานการณ์โลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา สงครามการค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า รายงานจาก IMF และธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตเพียงร้อยละ 1 กว่าๆ เท่านั้น ขณะที่ Moody’s Investors Service ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินชั้นนำของโลก ได้ส่งสัญญาณเตือนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย

เสนอรัดเข็มขัดงบฟุ่มเฟือย

คุณหญิงสุดารัตน์ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนร่างงบประมาณปี 2569 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเสนอให้ “รัดเข็มขัด” ลดงบที่ไม่จำเป็น เช่น งบก่อสร้างอาคาร งบที่จะเอาไปซ่อมอาคารสภาใช้งานมาเพียงห้าปี งบก่อสร้างถนน งบจัดซื้อคุรุภัณฑ์ รถประจำตำแหน่ง และงบศึกษาดูงาน ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเลย ปีนี้คือปีแห่งความไม่แน่นอน รัฐบาลจึงต้องใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสที่สุด

.
คอร์รัปชันในไทยยังสูง

พร้อมยกตัวอย่าง รายงานขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ACT) ประเทศไทย ที่ออกมาชี้ว่าการใช้งบลงทุนในปี 2568 ซึ่งอยู่ที่ 900,000 ล้านบาท แต่มีการประเมินจากภาคเอกชนที่รับงานภาครัฐว่า ต้องจ่ายใต้โต๊ะ หรือมีการคอร์รัปชันสูงถึงร้อยละ 30 คิดเป็นเงินถึง 300,000 ล้านบาท หรือหนึ่งในสามงบประมาณ ที่สูญหายไปเข้ากระเป๋านักการเมือง และข้าราชการขี้โกง ซึ่งควรจะเป็นงบที่นำไปพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา และสร้างอาชีพให้กับคนไทย

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ยังเน้นย้ำว่า ปีนี้เป็นปีแห่งความไม่แน่นอนจึงต้องสำรองงบประมาณไว้มากที่สุด เพื่อรับมือกับวิกฤตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ สงครามการค้า หรือภัยธรรมชาติต่างๆ

เรียกร้องนายกฯแสดงจุดยืน

พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนจริงจังในการปราบปรามการทุจริต เพราะ “หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก” หากผู้นำไม่จริงใจในการปราบโกง การทุจริตก็จะยังคงอยู่ต่อไป และที่สำคัญจะต้องร่วมกัน “สร้างการเมืองสุจริต” ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังเตือนด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้งบประมาณปี 2569 ด้วยการกู้เงินสูงเป็นประวัติการณ์ ดังนั้น “ทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินภาษีของประชาชน และเป็นภาระหนี้ที่ต้องจ่ายกันชั่วลูกชั่วหลาน” รัฐบาลจึงต้องใช้งบอย่างคุ้มค่าและซื่อสัตย์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง