”ต้องเกิดจากการภาวนา“
ถาม : ขณะที่บริกรรมพุทโธอยู่นี้ ถือว่าสงบหรือเปล่า
พระอาจารย์ : ถ้ายังบริกรรมพุทโธอยู่ก็ยังไม่สงบเต็มที่ พุทโธเป็นวิตกวิจาร
ถาม : จนกว่าพุทโธจะหายไปเอง
พระอาจารย์ : จนกว่าจะวูบลงไปแล้วก็นิ่ง พุทโธก็จะหายไปเอง เวลาสงบจริงๆเหมือนตกหลุมตกบ่อตกเหว วูบแล้วก็สงบเย็นสบาย บังคับให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ ต้องเป็นเอง ต้องเกิดจากการภาวนา เช่นดูลมหายใจเข้าออก หรือบริกรรมพุทโธๆ ควรจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งจะดีกว่า ถ้าจะเอาพุทโธก็พุทโธอย่างเดียว เอาลมก็เอาลมอย่างเดียว ถ้าต้องการบริกรรมพุทโธให้เร็วขึ้น แต่ลมไม่เร็วตามก็ทำไม่ได้ เวลามีความคิดเข้ามาแทรกมาก การใช้พุทเข้าโธออก แล้วต้องการบริกรรมพุทโธให้ถี่ขึ้น เพื่อไม่ให้ความคิดเข้ามาแทรก ก็จะทำไม่ได้ ถ้าต้องการใช้การบริกรรมเพื่อระงับความคิดปรุงแต่งก็ใช้บริกรรมไปอย่างเดียว ไม่ต้องดูลม ถ้าไม่มีความคิดปรุงแต่งเข้ามาแทรกจะดูลมไปอย่างเดียว ไม่ต้องบริกรรมก็ได้
ดูลมหายใจเข้าหายใจออกที่ปลายจมูก เฝ้าดูไป แล้วก็จะสงบ ลมจะละเอียดเข้าไปเรื่อยๆจนรู้สึกว่าหายไป พอหายไปแล้วก็จะวูบลงไป จิตจะปล่อยลมเหมือนกับหายใจเฮือกสุดท้าย แล้วลมก็หายไป จิตก็เข้าสู่ความสงบ ไม่ต้องกลัวเวลาดูลมแล้วคิดว่าไม่มีลม ถ้าตกใจกลัวก็จะทำให้จิตถอนออกมา จิตจะหยาบขึ้น เกิดการปรุงแต่งขึ้นมา จิตก็จะไม่เข้าสู่ความสงบ ให้รู้ว่าลมละเอียดลมเบา จนลมหมดไป ให้รู้เฉยๆก็ได้ ให้รู้ว่าตอนนี้ไม่มีลมแล้ว แล้วจิตจะวูบลงไป ถ้าไม่ตกใจ.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ ๕๙มกัณฑ์ที่ ๔๔๗
วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๕
ต้องเกิดจากการภาวนา
ถาม : ขณะที่บริกรรมพุทโธอยู่นี้ ถือว่าสงบหรือเปล่า
พระอาจารย์ : ถ้ายังบริกรรมพุทโธอยู่ก็ยังไม่สงบเต็มที่ พุทโธเป็นวิตกวิจาร
ถาม : จนกว่าพุทโธจะหายไปเอง
พระอาจารย์ : จนกว่าจะวูบลงไปแล้วก็นิ่ง พุทโธก็จะหายไปเอง เวลาสงบจริงๆเหมือนตกหลุมตกบ่อตกเหว วูบแล้วก็สงบเย็นสบาย บังคับให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ ต้องเป็นเอง ต้องเกิดจากการภาวนา เช่นดูลมหายใจเข้าออก หรือบริกรรมพุทโธๆ ควรจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งจะดีกว่า ถ้าจะเอาพุทโธก็พุทโธอย่างเดียว เอาลมก็เอาลมอย่างเดียว ถ้าต้องการบริกรรมพุทโธให้เร็วขึ้น แต่ลมไม่เร็วตามก็ทำไม่ได้ เวลามีความคิดเข้ามาแทรกมาก การใช้พุทเข้าโธออก แล้วต้องการบริกรรมพุทโธให้ถี่ขึ้น เพื่อไม่ให้ความคิดเข้ามาแทรก ก็จะทำไม่ได้ ถ้าต้องการใช้การบริกรรมเพื่อระงับความคิดปรุงแต่งก็ใช้บริกรรมไปอย่างเดียว ไม่ต้องดูลม ถ้าไม่มีความคิดปรุงแต่งเข้ามาแทรกจะดูลมไปอย่างเดียว ไม่ต้องบริกรรมก็ได้
ดูลมหายใจเข้าหายใจออกที่ปลายจมูก เฝ้าดูไป แล้วก็จะสงบ ลมจะละเอียดเข้าไปเรื่อยๆจนรู้สึกว่าหายไป พอหายไปแล้วก็จะวูบลงไป จิตจะปล่อยลมเหมือนกับหายใจเฮือกสุดท้าย แล้วลมก็หายไป จิตก็เข้าสู่ความสงบ ไม่ต้องกลัวเวลาดูลมแล้วคิดว่าไม่มีลม ถ้าตกใจกลัวก็จะทำให้จิตถอนออกมา จิตจะหยาบขึ้น เกิดการปรุงแต่งขึ้นมา จิตก็จะไม่เข้าสู่ความสงบ ให้รู้ว่าลมละเอียดลมเบา จนลมหมดไป ให้รู้เฉยๆก็ได้ ให้รู้ว่าตอนนี้ไม่มีลมแล้ว แล้วจิตจะวูบลงไป ถ้าไม่ตกใจ.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
กำลังใจ ๕๙มกัณฑ์ที่ ๔๔๗
วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๕