JJNY : ‘อังคณา’แฉถูกล็อบบี้│“นันทนา”ยันไม่ได้บูลลี่│‘ไพศาล’ส่องอนาคต‘ครม.’ เสี่ยงคว่ำ│ส.อ.ท.หวั่นค่าแรงทำเอสเอ็มอีปิดรง.

‘อังคณา’ แฉ ถูกล็อบบี้ ให้ถอนตัวชิงปธ. กมธ.พัฒนาการเมืองฯ  ซัดเป็นเรื่องน่าละอายมาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4807452
 
 
‘อังคณา’ แฉ ถูกล็อบบี้ ให้ถอนตัวชิงปธ.กมธ.พัฒนาการเมืองฯ  ซัดเป็นเรื่องน่าละอายมาก ได้ตำแหน่งไปก็ไม่สง่างาม
 
เมื่อเวลา 08.50 น.วันที่ 24 กันยายน ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวถึงการเสนอตัวสมัครเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ว่า กมธ.ชุดดังกล่าวเป็นการควบรวม ของ กมธ. 2 คณะ
 
ซึ่งส่วนตัวได้มีการเสนอตัวเองว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานตรงนี้ แสดงเจตจำนงเลยว่าตนมีความสามารถที่จะทำงานได้ในฐานะประธาน กมธ.ฯ และหากพิจารณาตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ การเลือกประธานกมธ.ฯไม่ใช่การแข่งขันแต่เป็นการพิจารณาเพื่อให้คนที่มีความเหมาะสมเข้ามาทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่ถ้าหากใช้วิธีการอื่น ตนก็หนักใจ

ส่วนตัวก็มีกรรมการในคณะ โทรมาบอกว่าให้ถอนตัว เพื่อนบางคนก็ถูกประกบให้ไปเลือกคนอื่น ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่น่าละอาย และสำหรับวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภาทุกท่านไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำแบบนี้ ส่วนตัวดิฉันอยากเห็นการพิจารณาอย่างรอบคอบเป็นธรรม โปร่งใส โดยไม่มีวิธีการอื่น ที่เป็นการกระทำที่น่าละอาย เป็นการกดดัน ให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องจำยอม และถอนตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดิฉะนกังวล” นางอังคณากล่าว

นางอังคณา กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวจะได้หรือไม่ได้ ก็ไม่ได้จะเป็นจะตาย ไม่ว่าจะอย่างไรเราทำงานอยู่ ฉะนั้นถ้าได้ก็ทำงาน ไม่ได้ก็ทำงาน แต่การที่จะได้มาก็ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าควรพิจารณาตามคุณสมบัติความเหมาะสมและความสามารถ
 
สำหรับภาพลักษณ์ออกไปดูไม่ดี ที่อาจมองว่ามีการแย่งตำแหน่งประธานกมธ.กันนั้น นางอังคณากล่าวว่า สว.บางคนบอกว่าไม่มีพวก ไม่มีกลุ่ม ไม่มีเสียงข้างมากข้างน้อย แต่ในทางปฏิบัติความเป็นจริงปฏิเสธไม่ได้ ส่วนตัวเป็นคนกลุ่มน้อยไม่ใช่พวกเขาก็เป็นคนอื่นเราถูกมองแบบนี้มาโดยตลอด อยากให้คุยกันแบบตรงไปตรงมาดีกว่า
 
เมื่อถามถึงการบล็อกโหวตในชั้นกรรมาธิการ อาจนำไปสู่การบล็อกโหวตอีกหลายครั้งในอนาคตหรือไม่ นางอังคณากล่าวว่า ถ้าเราจะใช้ระบบ คุณธรรมในการพิจารณาทำงานความโปร่งใสก็ต้องตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริต ที่สำคัญมากคือประมวลจริยธรรมข้อหนึ่ง ขององค์กรอิสระและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเขียนไว้ ว่า “คนที่จะปฏิบัติหน้าที่ใน องค์กรอิสระหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องทำงานด้วยความกล้าหาญไม่หวั่นเกรงต่ออิทธิพลใดๆ” ทั้งนี้ ส่วนตัวทำงานอย่างตรงไปตรงมา และไม่สบายใจอย่างยิ่งกับวิธีการใดๆที่พยายามจะกดดัน ไม่ว่าจะเป็นตนที่โดน หรือคนอื่นที่โดน การกระทำแบบนี้ถึงแม้จะได้เป็นประธานกมธ.ก็ไม่สง่างาม



“นันทนา” ยันไม่ได้บูลลี่ “แม่ค้าขายหมู” ย้ำเลือกกมธ.ผิดฝาผิดตัว
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_779791/

“นันทนา” ยันไม่ได้บูลลี่ “แม่ค้าขายหมู” ย้ำเลือก กมธ.ผิดฝาผิดตัว งานสำเร็จน้อย ด้าน “สว.แดง” เดินผ่านทำหูทวนลม ไม่ตอบกลับสื่อ 
 
น.ส. นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่มีชื่ออยู่ในคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ว่า ชื่ออยู่ใน กมธ.นั้น มีผู้สมัคร 18 คน พอดี จึงไม่การโหวตออก แต่สำหรับ กมธ.พัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา มีผู้สมัครเกิน จึงมีการโหวตออก
 
ทั้งนี้ ตนจะเสนอตัวเองเป็นประธาน กมธ.การอุดมศึกษาฯ เพราะถือว่าเรามีความรู้ความสามารถตรง และมีประสบการณ์ตรงในเรื่องการศึกษา
 
ส่วนถึงกรณีที่เมื่อวาน (23 ก.ย.) น.ส.นันทนา ได้มีการระบุว่า ได้คนขายหมูได้เป็น กมธ.พัฒนาการเมืองฯ คนมองว่าเป็นการบูลลี่และด้อยค่านั้น น.ส.นันทนา ชี้แจงยืนยัน ตนไม่ได้บูลลี่ใคร แต่เลือกการเลือก ประธาน กมธ. ที่ผิดฝาผิดตัวตั้งแต่ต้นโอกาสที่จะผลักดันวาระจนประสบความสำเร็จก็จะเป็นไปได้น้อยหรือแทบไม่มีเลย เราจึงเรียกร้องว่า การเอา สว. เข้า กมธ. แบบตรงคุณสมบัติจะเป็นสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
 
ด้าน นางแดง กองมา สว. ที่ถูกพาดพิงว่า เป็นแม่ค้าขายหมูนั้น เดินผ่านมาพอดี ก็ทำหูทวนลม ไม่ตอบกลับสื่อ และออกอาการยิ้มเจื่อนก่อนเดินเข้าห้องประชุมทันที



‘ไพศาล’ ส่องอนาคต ‘ครม.แพทองธาร’ เสี่ยงคว่ำทั้งคณะ เซ่นปมแถลงนโยบายขัด รธน.
https://www.dailynews.co.th/news/3897602/
 
"กูรูไพศาล" เผยปมนักร้อง ร้องการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีขัด รธน. 162 เสี่ยง "ครม.แพทองธาร" คว่ำทั้งคณะ 35 คนพ้นตำแหน่ง ย้ำเป็นจุดอ่อนทางกฎหมายยังแก้ไม่ตก
 
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol โดยระบุว่า 

ครม. อุ้งอิ้งไปไม่เป็น

จากกรณีที่นักร้อง ได้ร้องว่า การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 162 เพราะไม่ได้แถลงว่าจะนำรายได้จากไหนมาใช้จ่าย และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพิกถอนคณะรัฐมนตรีทั้ง 35 คนออกจากตำแหน่ง
 
ขณะนี้กำลังเกิดอาการอกสั่นขวัญผวา แต่ยังไม่ตัดสินใจกันว่าจะทำอย่างไร

เพราะถ้าปล่อยไปอย่างนี้ก็จะมีความเสี่ยงสูงมาก ที่คณะรัฐมนตรีทั้งคณะจะถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนออกจากตำแหน่ง ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ใช้เวลาประมาณ 60 วัน ก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญได้แล้ว
 
ดังนั้นจำนวนหนึ่งจึงเห็นว่า รัฐบาลควรขอเปิดรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอแถลงนโยบายเพิ่มเติมเสียให้ครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 แต่บางพวกเห็นว่าเป็นเรื่องเสียหน้า และเห็นว่าการผิดรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ เป็นเรื่องไม่ร้ายแรง ไม่น่าจะถูกถอดถอน แบบนี้ก็ป่วนสิครับ
ที่สำคัญ คือ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มไม่มั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะไปได้สักกี่วัน เพราะเรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ว่าผิดรัฐธรรมนูญชัดเจน

ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า จุดอ่อนทางกฎหมายยังแก้ไม่ตก เพราะถึงวันนี้ ยังไม่ปรากฏว่า มีทีมกฎหมายหรือไม่ และเรื่องนี้จะว่าอย่างไร
ทุกอย่างอยู่ในความมืดมนและเสี่ยงอันตรายทั้งสิ้น ความสำคัญคือ ประเทศชาติและประชาชน ถูกจับโยนลงในความเสี่ยง และความไม่แน่นอนของอนาคตทางการเมือง ในยามที่วิกฤตทั่วด้านกำลังรุมเร้าประเทศไทยอยู่ เกิดเป็นคนไทยยามนี้ต้องถือว่าซวยนักหนาและซวยอย่างยิ่ง
จึงมีผู้เปรียบว่าขณะนี้คนไทยทั้งประเทศ เหมือนผู้โดยสารรถบัส ที่โชเฟอร์ขับรถไม่เป็น แต่มีคนซื้อใบขับขี่ให้ ก็ต้องอกสั่นขวัญผวากันร่ำไป

https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid029KV1ooWf8Mny4CGxmEC6b7hMQPHfvpBt3Mireuw4aQykGX3nK3Yn8STcYr8DDKrgl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่