เปิด 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหืดจับ เสี่ยงปิดตัว นักเศรษฐศาสตร์ชี้ไม่ง่ายปั๊มจีดีพีโต3%
https://www.matichon.co.th/economy/news_4631059
เปิด 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหืดจับ เสี่ยงปิดตัว นักเศรษฐศาสตร์ชี้ไม่ง่ายปั๊มจีดีพีโต3%
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นาย
พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า สถานการณ์การปิดกิจการโรงงานในปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง เนื่องจากอัตราการปิดเร่งตัวมากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากข้อมูลที่ออกมา พบว่าตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงไตรมาสแรกปี 2567 ที่ผ่านมา มีโรงงานปิดตัวกว่า 1,700 แห่ง โดยอุตสาหกรรมที่น่าห่วง 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่ใช้แรงงานจำนวนมากและได้รับผลกระทบจากค่าแรง เช่น รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ทอผ้า เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้มีปิดไปบ้างแล้วและจะเหนื่อยมากขึ้น
2. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีและดีมานด์ที่หายไป เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น
และ 3. กลุ่มที่มีการแข่งขันโดยตรงจากสินค้าจีน เช่น เหล็ก รถยนต์ เป็นต้
นายพิพัฒน์กล่าวว่า จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่อาจจะยังไม่ฟื้นตัวดี ดังนั้นจึงยากที่รัฐบาลจะดันจีดีพีปี 2567 เติบโตถึง 3% เนื่องจากไตรมาสแรกจีดีพีโตแค่ 1.5% เท่านั้น ซึ่งถ้าจะให้ทั้งปีโตได้ 3% ในแต่ละไตรมาสจีดีพีต้องโต 3.5% อย่างไรก็ตามมองว่าถ้าดูรายไตรมาสก็มีโอกาสจะเห็นจีดีพีแตะ 3% โดยไตรมาส 2 ของปีนี้มีปัจจัยหนุนจากงบประมาณปี 2567 ที่มีการเบิกจ่ายแล้ว น่าจะเห็นจีดีพีโตใกล้ 3%
“
ปัญหาของเศรษฐกิจไทย คือ เรื่องโครงสร้างและขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ดังนั้นรัฐบาลต้องดูเรื่องการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระยะยาวมากกว่าออกมาตรการกระตุ้นในระยะสั้น และปัจจุบันยังมีปัญหาการเมืองที่ยังไม่นิ่งมาเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นด้วย” นาย
พิพัฒน์กล่าว
ไม่แผ่ว!กองทัพ-ตร. ร้อนฉ่า หักเงินทหาร-เรือน้ำมันหาย
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_733422/
ห้วงนี้แม้หมุดหมายความสนใจจะโฟกัสไปยัง 18 มิถุนายน 2567 ในความเคลื่อนไหวหลายคดีการเมือง แต่ทว่า บรรดาคนมีสี ทั้งกองทัพและตำรวจ ยังคงต้องเผชิญกับปมดราม่าร้อน พิสูจน์วิฤกตศรัทธากันไม่หยุดหย่อน เริ่มจากขุนทหาร ที่ เพิ่งซาเรื่องพลโทกร่างกับแม่ค้าสาวไปได้ไม่ทันข้ามสัปดาห์ ก็ปรากฏมือมืดจงใจปล่อยเอกสารหลุดหลายประเด็น หวังโจมตี กองทัพ ในยุคที่มี บิ๊กทิน สุทิน คลังแสง พลเรือนจากมหาสารคามเป็นนายใหญ่ของท๊อปบู้ท
เริ่มจาก ปมมีการหักค่าดูดส้วมทหารใหม่ ทางด้านกองทัพบก แจงทันควัน ว่าได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของหน่วยฝึกทหารใหม่ หน่วยหนึ่ง โดยยังไม่ได้มีการอนุมัติหรือดำเนินการหักเงินของทหารใหม่ตามรายการในเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะ
บิ๊กทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำนโยบาย ห้ามหักค่าใช้จ่ายทหารเกณฑ์ ในรายการที่ไม่อนุมัติ ฝ่าฝืนต้องลงโทษ มีมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก
หรือจะเป็นประเด็นรายรับของทหารใหม่ ถูกหักค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยทหารบางรายมีรายได้ 7,120 บาท แต่โดนหักค่าต่างๆ แล้วเหลือ 5,318 บาท งานนี้
“
จิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกกระทรวงกลาโหมแจงยิบว่า เอกสารชุดดังกล่าวมีเจตนาพิเศษในเชิงลบต่อกองทัพ เพราะเป็นเอกสารเก่าหลายปีมาแล้ว ซึ่งดูได้จากระเบียบเก่า ในอดีตมีการหักเงินฝากตามตารางที่ปรากฏ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ส่วนการเรียกเก็บค่า Wi-Fi ต่อเดือนนั้นไม่เคยมีปรากฏในระเบียบของกองทัพใดๆ
ด้านฝ่ายค้านไม่พลาดจะขย้ำซ้ำ โดย “
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุในเรื่องการหักเงินทหารว่า”ทางที่ดีที่สุดคือทำระเบียบในการหักค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน โปร่งใสและเปิดเผย เงินจะต้องเหลือเท่ากันทั้งประเทศไม่ว่าจะอยู่ค่ายใดก็ตาม ทั้งนี้ ตนเคยเสนอเรื่องการแก้ปัญหาเงินเดือนและสวัสดิการของทหารไปแล้ว
โดยการส่งเบาะแสให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่วนในประเด็นร้อนระดับบิ๊กเบิ้มอีกครั้งของวงการสีกากี นั้นคือเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำ บรรจุน้ำมันเถื่อน 330,000 ลิตร ของกลางในคดีจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี คดีอยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ แต่ได้สูญหาย ขณะนี้ยังจับตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังไม่ได้ โดยตำรวจเชื่อว่า งานนี้เป็นฝีมือของ”
โจ้ ปัตตานี’ พ่อค้าน้ำมันเถื่อนชื่อดังภาคใต้ ที่เป็นเจ้าของเรือ บรรทุกน้ำมัน 3 ลำที่สูญหายไป ขณนี้เขาหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่คาดซุกประเทศเพื่อนบ้าน
ผลพวงจากคดีนี้ บิ๊กก้องพล.ต.ท.
จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เซ็นคำสั่งเด้ง “
5 ตำรวจน้ำ” เซ่นปมเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ หาย พร้อมกับส่ง”
บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.
จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มือปราบคนดังคู่ปรับบิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่ไปสางคดีนี้ด้วยตนเอง โดย”
บิ๊กเต่า” ลั่น “จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ และเตรียมออกหมายจับผู้อยู่ในเรือทั้งหมด”
และในวันที่ 15 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา มีรายงานจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าตำรวจชุดคลี่คลายคดีนี้ ได้เบาะแสของเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว อยู่ระหว่างกดดันให้ผู้ต้องหาทั้งหมด รีบเข้ามอบตัวภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งต้องตามว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถคลี่คลายคดีนี้ และสาวไปถึงตัวบงการที่ชักใยเบื้องหลังได้หรือไม่ เพราะระดับทำให้ เรือขนน้ำมันที่เป็นของกลางในคดีหายไปได้นี้ย่อมไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง น่าจะรู้ช่องทางเคลื่อนย้ายเรือหลบหนีได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เคยมีเรื่องพูดแซวกันว่า “
ทหาร ตำรวจ พระ ทำไมเวลาเกิดเรื่องอะไร ต้องเป็นพวกเธอ 3 คนทุกที” โดบ “
ใบตองแห้ง” คอลัมนิตย์ชื่อดัง เคยเขียนบทความ ว่า “
ทหาร ตำรวจ พระ เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ที่อ้างเสียสละกล้าหาญแล้วเบ่งกล้ามได้ ที่กำลังเสื่อมทั้งกระบวนการ”
“ชัยธวัช” เผย สส. “ก้าวไกล” ไม่กลัวถูกยุบพรรค ยัน เพลง “ก้าวใหม่” โผล่ยูทูบ ไม่ใช่ชื่อพรรคสำรอง แจงแฟนคลับจัดทำให้
https://ch3plus.com/news/political/morning/404363
16 มิ.ย. 2567 นาย
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมสส.พรรคก้าวไกลครั้งล่าสุด ว่าจริง ๆ สส.ในพรรคก็เพิ่งจะได้ฟังข้อต่อสู้ของเราแบบฉบับเต็ม ๆ ครั้งแรก พร้อม ๆ กับสื่อมวลชน และประชาชนตอนที่นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลแถลงข่าว เรื่องคดียุบพรรค ตนฉายภาพให้สส.ได้เข้าใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง สส.ก็เข้าใจ และไม่ได้มีอาการกลัวหรือว่าอะไรเลย ส่วนใหญ่สส.ก็พร้อมทำหน้าที่
เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อม แถว 3 ของพรรค นาย
ชัยธวัช ตอบว่า เราไม่ได้แบ่งแถว 2 แถว 3 แถว 10 แต่ให้ความสำคัญกับการทำงาน เป็นทีม เป็นพรรค ใช้ระบบความรู้ความสามารถ ไม่ได้ไปยึดว่าคนไหนอาวุโสกว่าใคร คนไหนเป็นหัวหน้ามุ้ง ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพร้อมเดินหน้า เวลาอยู่ข้างเรา ไม่สำคัญเท่าประชาชนอยู่ข้างเราหรือไม่ ซึ่งเวลาอยู่ข้างเรา แต่ประชาชนไม่อยู่ข้างเรา ไม่มีความหมาย
เมื่อถามถึงกรณี มีผู้อัปโหลดเพลง “
พรรคก้าวใหม่” ลงบนยูทูบ คำร้อง / ทำนอง / ขับร้อง โดย
อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ และพรรคก้าวใหม่ เป็นชื่อสำรองของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า เรามีแฟนคลับเยอะ ก็เหมือนหัวคะแนนธรรมชาติ ช่วยแต่งเพลงหาเสียง โดยที่เราไม่ได้ทำ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล ไม่ได้เกี่ยวกับชื่อพรรคใหม่อะไรด้วย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะพิจารณาเรื่องนั้น ยังอยู่ในขั้นที่เราสู้คดีอย่างเต็มที่ ถ้าผลออกมาเลวร้าย คิดว่าเรื่องที่ยากจริง ๆ คือ สส. และทีมงานที่เหลืออยู่จะจะต้องแบกรับความคาดหวังประชาชนให้ได้ อันนี้ยากที่สุด ยากกว่าการหาพรรคใหม่
เมื่อถามถึงเรื่อง รูปแบบคณะกรรมการนิรโทษกรรม สุดท้ายแล้วเรื่องนิรโทษกรรมคดี 112 ที่พ่วงอะไรก็แล้วแต่ ก้าวไกลจะได้อานิสงค์ หรือไม่ นาย
ชัยธวัช ตอบว่า เวลามาพูดว่าจะได้อานิสงค์ถึงก้าวไกลไหม ตนคิดว่า ไม่ได้เป็นเป้าหมายของเรา แต่ถ้าเราเว้น คดี 112 ไว้ เราเอาออกไปเลยจากการนิรโทษกรรมรอบนี้ มันไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ถ้าเราไปคิดว่ายิ่งนิรโทษกรรมยิ่งเป็นการให้ท้าย ถ้างั้นก็ไม่ต้องมีการนิรโทษกรรมอะไรเลยในประเทศนี้ ไม่ต้องมีการอภัยโทษด้วยแต่ละปีในวันสำคัญ เพราะถ้างั้นคนที่ค้ายาเสพติดทุกวันเขาก็รอวันอภัยโทษเท่านั้น วันที่พระราชทานอภัยโทษ เพื่อเขาจะได้กลับไปมีมีชีวิตปกติถูกไหม ใครเป็นอาชญากรอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ทุกวันนี้เขารอ ถ้าบอกว่าการไปนิรโทษจะเป็นการไปให้ท้าย ถ้างั้นการอภัยโทษในวันสำคัญ ๆ แต่ละปีเป็นการให้ท้ายคนไปค้ายาเสพติดหรือก่ออาชญากรรมเพิ่ม ไม่ใช่ มันเป็นการให้ความเมตตา เป็นการคืนชีวิตให้กับคน เพื่อให้ไปปรับตัวใหม่
ก้าวไกลสัมมนา สส.ปทุมธานี สนับสนุนการกระจายอำนาจ-จัดการระบบขนส่งท้องถิ่น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_777777778055
ปทุมธานี สส.สนับสนุนการกระจายอำนาจ จัดการระบบขนส่งสาธารณะ ตอบโจทย์คนในพื้นที่ เตรียมประสานผู้นำท้องถิ่น นายกเทศมนตรีนครรังสิต เห็นด้วย-ขานรับ แนวทาง
16 มิ.ย. 67 – ที่โรงแรมธาราแกรนด์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกลได้จัดการสัมมานา & Workshop ออกแบบขนส่งสาธารณะปทุมธานีในฝัน
โดยมี นาย
สกล สุนทรวาณิชย์กิจ สส.จังหวัดปทุมธานี เขต 4, น.ส.
ชลธิชา แจ้งเร็ว สส. จังหวัดปทุมธานี เขต 3 และ น.ส.
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม เขต 11
โดยมีร้อยตำรวจเอก ดร.
ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิตและประชาชนจำนวน 100 คนร่วมสัมมานาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อต่อยอดทำนโยบายแก้ปัญหาระบบขนส่งในจังหวัดปทุมธานี
นาย
สกล กล่าวว่า มีความตั้งใจแก้ปัญหาระบบสาธารณะขนส่งจังหวัดปทุมธานี ประชาชนในแต่ละพื้นที่มีความยากลำบาก วันนี้จึงเป็นการพูดถึงทางวิชาการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้สะท้อนปัญหาในชีวิตประจำวัน ปัญหาการเดินทาง มีข้อเสนอแนะอย่างไร เสียงทุกเสียงของผู้มาร่วมงานคือเสียงของประชาชน เพราะว่าถ้าจะมีนโยบายเชิงสาธารณะอย่างไรต้องรับฟังจากผู้ใช้งานเป็นหลัก
ตอนนี้พรรคก้าวไกลได้เสนอ พรบ.ขนส่งทางบก ซึ่งจะเข้ารอบประชุมในรอบนี้เกี่ยวกับการให้อำนาจในการดำเนินการขนส่งสาธารณะแก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้มากขึ้น จากผู้ที่สามารถดำเนินการขนส่งสาธารณะได้มีแค่ ขสมก. กรุงเทพฯ และ อบจ.
ซึ่งเราจะขยายให้กว้างขึ้นคือ ผู้ว่า กทม. หรือเทศบาลเมืองพัทยา และเทศบาลที่เล็กกว่า อบจ. จะสามารถดำเนินการจัดการให้มีระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่ได้จะได้ตอบโจทย์คนในพื้นที่ พวกเรามีความเชื่อว่าท้องถิ่นมีความใกล้ชิดกับประชาชน เส้นทางต่างๆให้คนในท้องถิ่นตัดสินใจยอมดีกว่าเส้นทางที่ถูกตัดสินใจมาจากคมนาคมส่วนกลาง
JJNY : 5in1 เปิด 3 กลุ่มอุตฯเสี่ยงปิดตัว│กองทัพ-ตร.ร้อนฉ่า│“ก้าวไกล”ไม่กลัวถูกยุบพรรค│ก้าวไกลสัมมนา│ผู้นำโลกร่วมประชุม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4631059
เปิด 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหืดจับ เสี่ยงปิดตัว นักเศรษฐศาสตร์ชี้ไม่ง่ายปั๊มจีดีพีโต3%
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า สถานการณ์การปิดกิจการโรงงานในปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง เนื่องจากอัตราการปิดเร่งตัวมากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากข้อมูลที่ออกมา พบว่าตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงไตรมาสแรกปี 2567 ที่ผ่านมา มีโรงงานปิดตัวกว่า 1,700 แห่ง โดยอุตสาหกรรมที่น่าห่วง 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่ใช้แรงงานจำนวนมากและได้รับผลกระทบจากค่าแรง เช่น รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ทอผ้า เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้มีปิดไปบ้างแล้วและจะเหนื่อยมากขึ้น
2. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีและดีมานด์ที่หายไป เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น
และ 3. กลุ่มที่มีการแข่งขันโดยตรงจากสินค้าจีน เช่น เหล็ก รถยนต์ เป็นต้
นายพิพัฒน์กล่าวว่า จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่อาจจะยังไม่ฟื้นตัวดี ดังนั้นจึงยากที่รัฐบาลจะดันจีดีพีปี 2567 เติบโตถึง 3% เนื่องจากไตรมาสแรกจีดีพีโตแค่ 1.5% เท่านั้น ซึ่งถ้าจะให้ทั้งปีโตได้ 3% ในแต่ละไตรมาสจีดีพีต้องโต 3.5% อย่างไรก็ตามมองว่าถ้าดูรายไตรมาสก็มีโอกาสจะเห็นจีดีพีแตะ 3% โดยไตรมาส 2 ของปีนี้มีปัจจัยหนุนจากงบประมาณปี 2567 ที่มีการเบิกจ่ายแล้ว น่าจะเห็นจีดีพีโตใกล้ 3%
“ปัญหาของเศรษฐกิจไทย คือ เรื่องโครงสร้างและขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ดังนั้นรัฐบาลต้องดูเรื่องการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระยะยาวมากกว่าออกมาตรการกระตุ้นในระยะสั้น และปัจจุบันยังมีปัญหาการเมืองที่ยังไม่นิ่งมาเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นด้วย” นายพิพัฒน์กล่าว
ไม่แผ่ว!กองทัพ-ตร. ร้อนฉ่า หักเงินทหาร-เรือน้ำมันหาย
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_733422/
ห้วงนี้แม้หมุดหมายความสนใจจะโฟกัสไปยัง 18 มิถุนายน 2567 ในความเคลื่อนไหวหลายคดีการเมือง แต่ทว่า บรรดาคนมีสี ทั้งกองทัพและตำรวจ ยังคงต้องเผชิญกับปมดราม่าร้อน พิสูจน์วิฤกตศรัทธากันไม่หยุดหย่อน เริ่มจากขุนทหาร ที่ เพิ่งซาเรื่องพลโทกร่างกับแม่ค้าสาวไปได้ไม่ทันข้ามสัปดาห์ ก็ปรากฏมือมืดจงใจปล่อยเอกสารหลุดหลายประเด็น หวังโจมตี กองทัพ ในยุคที่มี บิ๊กทิน สุทิน คลังแสง พลเรือนจากมหาสารคามเป็นนายใหญ่ของท๊อปบู้ท
เริ่มจาก ปมมีการหักค่าดูดส้วมทหารใหม่ ทางด้านกองทัพบก แจงทันควัน ว่าได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของหน่วยฝึกทหารใหม่ หน่วยหนึ่ง โดยยังไม่ได้มีการอนุมัติหรือดำเนินการหักเงินของทหารใหม่ตามรายการในเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะบิ๊กทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำนโยบาย ห้ามหักค่าใช้จ่ายทหารเกณฑ์ ในรายการที่ไม่อนุมัติ ฝ่าฝืนต้องลงโทษ มีมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก
หรือจะเป็นประเด็นรายรับของทหารใหม่ ถูกหักค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยทหารบางรายมีรายได้ 7,120 บาท แต่โดนหักค่าต่างๆ แล้วเหลือ 5,318 บาท งานนี้
“จิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกกระทรวงกลาโหมแจงยิบว่า เอกสารชุดดังกล่าวมีเจตนาพิเศษในเชิงลบต่อกองทัพ เพราะเป็นเอกสารเก่าหลายปีมาแล้ว ซึ่งดูได้จากระเบียบเก่า ในอดีตมีการหักเงินฝากตามตารางที่ปรากฏ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ส่วนการเรียกเก็บค่า Wi-Fi ต่อเดือนนั้นไม่เคยมีปรากฏในระเบียบของกองทัพใดๆ
ด้านฝ่ายค้านไม่พลาดจะขย้ำซ้ำ โดย “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุในเรื่องการหักเงินทหารว่า”ทางที่ดีที่สุดคือทำระเบียบในการหักค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน โปร่งใสและเปิดเผย เงินจะต้องเหลือเท่ากันทั้งประเทศไม่ว่าจะอยู่ค่ายใดก็ตาม ทั้งนี้ ตนเคยเสนอเรื่องการแก้ปัญหาเงินเดือนและสวัสดิการของทหารไปแล้ว
โดยการส่งเบาะแสให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่วนในประเด็นร้อนระดับบิ๊กเบิ้มอีกครั้งของวงการสีกากี นั้นคือเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำ บรรจุน้ำมันเถื่อน 330,000 ลิตร ของกลางในคดีจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี คดีอยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ แต่ได้สูญหาย ขณะนี้ยังจับตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังไม่ได้ โดยตำรวจเชื่อว่า งานนี้เป็นฝีมือของ”โจ้ ปัตตานี’ พ่อค้าน้ำมันเถื่อนชื่อดังภาคใต้ ที่เป็นเจ้าของเรือ บรรทุกน้ำมัน 3 ลำที่สูญหายไป ขณนี้เขาหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่คาดซุกประเทศเพื่อนบ้าน
ผลพวงจากคดีนี้ บิ๊กก้องพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เซ็นคำสั่งเด้ง “5 ตำรวจน้ำ” เซ่นปมเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ หาย พร้อมกับส่ง”บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มือปราบคนดังคู่ปรับบิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่ไปสางคดีนี้ด้วยตนเอง โดย”บิ๊กเต่า” ลั่น “จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ และเตรียมออกหมายจับผู้อยู่ในเรือทั้งหมด”
และในวันที่ 15 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา มีรายงานจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าตำรวจชุดคลี่คลายคดีนี้ ได้เบาะแสของเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว อยู่ระหว่างกดดันให้ผู้ต้องหาทั้งหมด รีบเข้ามอบตัวภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งต้องตามว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถคลี่คลายคดีนี้ และสาวไปถึงตัวบงการที่ชักใยเบื้องหลังได้หรือไม่ เพราะระดับทำให้ เรือขนน้ำมันที่เป็นของกลางในคดีหายไปได้นี้ย่อมไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง น่าจะรู้ช่องทางเคลื่อนย้ายเรือหลบหนีได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เคยมีเรื่องพูดแซวกันว่า “ทหาร ตำรวจ พระ ทำไมเวลาเกิดเรื่องอะไร ต้องเป็นพวกเธอ 3 คนทุกที” โดบ “ใบตองแห้ง” คอลัมนิตย์ชื่อดัง เคยเขียนบทความ ว่า “ทหาร ตำรวจ พระ เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ที่อ้างเสียสละกล้าหาญแล้วเบ่งกล้ามได้ ที่กำลังเสื่อมทั้งกระบวนการ”
“ชัยธวัช” เผย สส. “ก้าวไกล” ไม่กลัวถูกยุบพรรค ยัน เพลง “ก้าวใหม่” โผล่ยูทูบ ไม่ใช่ชื่อพรรคสำรอง แจงแฟนคลับจัดทำให้
https://ch3plus.com/news/political/morning/404363
16 มิ.ย. 2567 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมสส.พรรคก้าวไกลครั้งล่าสุด ว่าจริง ๆ สส.ในพรรคก็เพิ่งจะได้ฟังข้อต่อสู้ของเราแบบฉบับเต็ม ๆ ครั้งแรก พร้อม ๆ กับสื่อมวลชน และประชาชนตอนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลแถลงข่าว เรื่องคดียุบพรรค ตนฉายภาพให้สส.ได้เข้าใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง สส.ก็เข้าใจ และไม่ได้มีอาการกลัวหรือว่าอะไรเลย ส่วนใหญ่สส.ก็พร้อมทำหน้าที่
เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อม แถว 3 ของพรรค นายชัยธวัช ตอบว่า เราไม่ได้แบ่งแถว 2 แถว 3 แถว 10 แต่ให้ความสำคัญกับการทำงาน เป็นทีม เป็นพรรค ใช้ระบบความรู้ความสามารถ ไม่ได้ไปยึดว่าคนไหนอาวุโสกว่าใคร คนไหนเป็นหัวหน้ามุ้ง ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพร้อมเดินหน้า เวลาอยู่ข้างเรา ไม่สำคัญเท่าประชาชนอยู่ข้างเราหรือไม่ ซึ่งเวลาอยู่ข้างเรา แต่ประชาชนไม่อยู่ข้างเรา ไม่มีความหมาย
เมื่อถามถึงกรณี มีผู้อัปโหลดเพลง “พรรคก้าวใหม่” ลงบนยูทูบ คำร้อง / ทำนอง / ขับร้อง โดย อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ และพรรคก้าวใหม่ เป็นชื่อสำรองของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรามีแฟนคลับเยอะ ก็เหมือนหัวคะแนนธรรมชาติ ช่วยแต่งเพลงหาเสียง โดยที่เราไม่ได้ทำ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล ไม่ได้เกี่ยวกับชื่อพรรคใหม่อะไรด้วย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะพิจารณาเรื่องนั้น ยังอยู่ในขั้นที่เราสู้คดีอย่างเต็มที่ ถ้าผลออกมาเลวร้าย คิดว่าเรื่องที่ยากจริง ๆ คือ สส. และทีมงานที่เหลืออยู่จะจะต้องแบกรับความคาดหวังประชาชนให้ได้ อันนี้ยากที่สุด ยากกว่าการหาพรรคใหม่
เมื่อถามถึงเรื่อง รูปแบบคณะกรรมการนิรโทษกรรม สุดท้ายแล้วเรื่องนิรโทษกรรมคดี 112 ที่พ่วงอะไรก็แล้วแต่ ก้าวไกลจะได้อานิสงค์ หรือไม่ นายชัยธวัช ตอบว่า เวลามาพูดว่าจะได้อานิสงค์ถึงก้าวไกลไหม ตนคิดว่า ไม่ได้เป็นเป้าหมายของเรา แต่ถ้าเราเว้น คดี 112 ไว้ เราเอาออกไปเลยจากการนิรโทษกรรมรอบนี้ มันไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ถ้าเราไปคิดว่ายิ่งนิรโทษกรรมยิ่งเป็นการให้ท้าย ถ้างั้นก็ไม่ต้องมีการนิรโทษกรรมอะไรเลยในประเทศนี้ ไม่ต้องมีการอภัยโทษด้วยแต่ละปีในวันสำคัญ เพราะถ้างั้นคนที่ค้ายาเสพติดทุกวันเขาก็รอวันอภัยโทษเท่านั้น วันที่พระราชทานอภัยโทษ เพื่อเขาจะได้กลับไปมีมีชีวิตปกติถูกไหม ใครเป็นอาชญากรอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ทุกวันนี้เขารอ ถ้าบอกว่าการไปนิรโทษจะเป็นการไปให้ท้าย ถ้างั้นการอภัยโทษในวันสำคัญ ๆ แต่ละปีเป็นการให้ท้ายคนไปค้ายาเสพติดหรือก่ออาชญากรรมเพิ่ม ไม่ใช่ มันเป็นการให้ความเมตตา เป็นการคืนชีวิตให้กับคน เพื่อให้ไปปรับตัวใหม่
ก้าวไกลสัมมนา สส.ปทุมธานี สนับสนุนการกระจายอำนาจ-จัดการระบบขนส่งท้องถิ่น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_777777778055
ปทุมธานี สส.สนับสนุนการกระจายอำนาจ จัดการระบบขนส่งสาธารณะ ตอบโจทย์คนในพื้นที่ เตรียมประสานผู้นำท้องถิ่น นายกเทศมนตรีนครรังสิต เห็นด้วย-ขานรับ แนวทาง
16 มิ.ย. 67 – ที่โรงแรมธาราแกรนด์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกลได้จัดการสัมมานา & Workshop ออกแบบขนส่งสาธารณะปทุมธานีในฝัน
โดยมี นายสกล สุนทรวาณิชย์กิจ สส.จังหวัดปทุมธานี เขต 4, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส. จังหวัดปทุมธานี เขต 3 และ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม เขต 11
โดยมีร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิตและประชาชนจำนวน 100 คนร่วมสัมมานาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อต่อยอดทำนโยบายแก้ปัญหาระบบขนส่งในจังหวัดปทุมธานี
นายสกล กล่าวว่า มีความตั้งใจแก้ปัญหาระบบสาธารณะขนส่งจังหวัดปทุมธานี ประชาชนในแต่ละพื้นที่มีความยากลำบาก วันนี้จึงเป็นการพูดถึงทางวิชาการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้สะท้อนปัญหาในชีวิตประจำวัน ปัญหาการเดินทาง มีข้อเสนอแนะอย่างไร เสียงทุกเสียงของผู้มาร่วมงานคือเสียงของประชาชน เพราะว่าถ้าจะมีนโยบายเชิงสาธารณะอย่างไรต้องรับฟังจากผู้ใช้งานเป็นหลัก
ตอนนี้พรรคก้าวไกลได้เสนอ พรบ.ขนส่งทางบก ซึ่งจะเข้ารอบประชุมในรอบนี้เกี่ยวกับการให้อำนาจในการดำเนินการขนส่งสาธารณะแก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้มากขึ้น จากผู้ที่สามารถดำเนินการขนส่งสาธารณะได้มีแค่ ขสมก. กรุงเทพฯ และ อบจ.
ซึ่งเราจะขยายให้กว้างขึ้นคือ ผู้ว่า กทม. หรือเทศบาลเมืองพัทยา และเทศบาลที่เล็กกว่า อบจ. จะสามารถดำเนินการจัดการให้มีระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่ได้จะได้ตอบโจทย์คนในพื้นที่ พวกเรามีความเชื่อว่าท้องถิ่นมีความใกล้ชิดกับประชาชน เส้นทางต่างๆให้คนในท้องถิ่นตัดสินใจยอมดีกว่าเส้นทางที่ถูกตัดสินใจมาจากคมนาคมส่วนกลาง