ก้าวไกล แจงล่มองค์ประชุม รายงานกาสิโน ดักคอรัฐบาล อย่าเบี้ยว เปิดซักฟอก152
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8162730
ก้าวไกล แจงล่มองค์ประชุมรายงาน กาสิโน หลังฝ่ายรัฐบาลขู่ขอคืนเวลาอภิปราย ม.152 ดักคออย่าเจ้าคิดเจ้าแค้น ประธานวิปค้าน ยันตกลงเวลาแล้ว หวังประธานไม่บ้าจี้ตาม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา วิปฝ่ายค้านในสัดส่วนพรรคก้าวไกล นำโดยนาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชรรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) นาย
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และนาย
ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง แถลงประเด็นการขอนับองค์ประชุมพิจารณารายงานผลการศึกษา เรื่องศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 มี.ค.) จนเกิดการถกเถียงกันระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล
นาย
ชุติพงศ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ตั้งใจให้รายงานฉบับนี้ผ่านไปโดยสมบูรณ์แบบที่สุด และเนื้อหาการอภิปรายของ สส. ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไปในทิศทางหลากหลาย และไม่สมบูรณ์หลายจุดมาก รวมถึงการแถลงของประธานกมธ. ก็มีข้อติดขัดหลายเรื่อง เหมือนยอมรับว่ามีความไม่สมบูรณ์ จึงอยากให้มีการถอนออกไปก่อน
แต่เมื่อประธานกมธ.ยืนยันจะให้เดินหน้าต่อ โดยไม่สนใจข้อทักท้วงของฝ่ายค้านที่ตั้งใจจะให้ผ่านอยู่แล้ว หากย้อนดูการอภิปรายของตนในขณะที่ขอนับองค์ประชุม ก็ไม่ได้ขอให้เพื่อนยกมือรับรองญัตติในฐานะองค์ประชุมแต่แรก เพราะตนอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้จนถึงที่สุดจริงๆ
เนื่องจากเป็นฝ่ายค้าน การนับองค์ประชุมคือสิ่งเดียวที่เรามี จึงขอให้ตรวจสอบองค์ประชุม เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลว่าจะผ่านให้แน่ๆ ในวันที่ 28 มี.ค. ซึ่งประชุมครั้งสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯในวันที่ 9 เม.ย. และสัปดาห์หน้าจะอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152
นายชุติพงศ์กล่าวต่อว่า ขอชื่นชมรัฐบาลที่มีองค์ประชุมครบถึง 250 เสียงในเวลานั้น จริงๆควรเป็นหน้าที่ปกติที่ สส.รัฐบาลควรทำให้ได้
“
ขออย่าเป็นเกมเจ้าคิดเจ้าแค้น เราไม่ได้นับองค์ประชุมบ่อย และทุกครั้งที่ทำ เรามีเหตุผล เพื่อความเป็นธรรม และประโยชน์อันสูงสุดของประชาชน” นาย
ชุติพงศ์ กล่าว
ด้านนาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการไม่ให้รายงานฉบับนี้ผ่าน แต่หลังจากอภิปรายแล้วพรรคก้าวไกลอยากให้ถอนรายงานไปทบทวน เมื่อฝ่ายรัฐบาลยืนยันไม่ถอนร่าง พรรคก้าวไกลจึงยืนยันไม่แสดงตนและไม่ร่วมโหวตกับร่างรายงานฉบับนี้ เพราะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน จึงจำเป็นต้องทำออกมาอย่างดีที่สุด
ในรายงาน ที่กมธ.บอกว่าจะศึกษาการแก้พนันผิดกฎหมาย ก็ไม่มีเลย บอกว่าจะทำด้านธุรกิจ ก็ต้องตอบมาเรื่องการฟอกเงินจะทำอย่างไร บัญชีม้าทำอย่างไร สิ่งเหล่านี้เราเป็นห่วง ยังไม่นับว่า สุดท้ายผู้ที่ลงทุนทำในส่วนที่เป็นกาสิโน จะเป็นทุนสีเทาหรือไม่ นี่คือความกังวล
ขณะที่นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงฝ่ายรัฐบาลจะขอเวลาคืนในการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-4 เม.ย.ว่า ถ้าพูดคุยเรื่องมติอย่างเป็นทางการของทั้งสองฝ่าย ตนยังเก็บไฟล์เป็นหลักฐานไว้ จะได้รู้ว่าเราเคยตกลงกันว่าอย่างไร
การที่เอาเรื่องไม่เป็นทางการ แล้วมาหักเรื่องที่เป็นทางการ ตนว่าไม่สมเหตุสมผล การขอลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างรายงานกมธ.เมื่อวันที่28 มี.ค.เป็นเหตุผลในด้านเนื้อหา
“
ผมถามหน่อยว่าการที่เราไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับใดฉบับหนึ่ง จะต้องนำไปสู่การขอเวลาคืนอภิปรายมาตรา 152 หรือ ผมเข้าใจดีว่าเมื่อวานก็มีอารมณ์ขุ่นมัว ขุ่นเคืองกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโกรธอะไรขนาดนั้น” นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าว
นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่า ทุกคนมีวุฒิภาวะมากพอ เมื่ออารมณ์เย็นลง ก็คงไม่เอามาแก้แค้นกัน และใช้เวทีของฝ่ายค้าน ตรวจสอบที่ใหญ่ที่สุดรองจากอภิปรายไม่ไว้วางใจ เอามาเป็นประเด็นในเรื่องนี้ และอาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ฝั่งรัฐบาลขอเวลาอภิปรายครึ่งหนึ่งของญัตติที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล เอามาอภิปรายเอง แม้กระทั่งรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจาก คสช. ยังไม่ทำเลย เราหวังว่าประธานจะไม่บ้าจี้ไปเล่นด้วย เพราะเรามีข้อตกลงกันไปเรียบร้อยแล้ว
“
ผมแปลกใจมาก เพราะการขอนับองค์ประชุม เป็นเรื่องปกติมาก ถือเป็นอาวุธไม่กี่อย่างที่ฝ่ายค้านมีในฐานะเสียงข้างน้อย เชื่อว่าพรรคก้าวไกลใช้อาวุธนับองค์ประชุมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมไม่เข้าใจว่าเป็นอะไรกันนักหนา หรือเรื่องที่ตั้งข้อสังเกตมีมูลจริงๆ ดังนั้น อย่าทำแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วมันจะสื่อได้ว่ารัฐบาลนี้มีการตรวจสอบรัฐบาลที่แล้วเสียอีก” นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลทำจริงจะทำอย่างไร นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคงทำอะไรไม่ได้ ถ้าเป็นจริง แสดงว่าไม่ใช่เฉพาะวิปรัฐบาลเท่านั้น แต่ฝ่ายครม.ก็เห็นด้วย จึงขอฝากถึงครม.ว่าจะหนีกันง่ายๆแบบนี้ใช่หรือไม่
ยุบก้าวไกลแค่เกมซื้อเวลาผู้มีอำนาจ ฟันธงสีส้มไปต่อ คะแนนสงสารท่วม เพื่อไทยทรุดหนัก
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4498537
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ บ.ก.ลายจุด
สมบัติ บุญงามอนงค์ วิเคราะห์ทิศทางและอนาคตของพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับบ้าน และพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มันคุ้มค่าแล้ว ถ้าครั้งหน้าได้เป็นรัฐบาลอีก จะถือเป็นกำไร และเพื่อไทยก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลอีก แต่ว่าจะไม่ได้เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะได้แค่ 50 เสียง หากยุบก้าวไกล ก็จะไม่สามารถล้มล้างความรู้สึกที่มีต่อพรรคได้ จะได้คะแนนสงสารเพิ่ม ผู้มีอำนาจไม่มีเครื่องมืออื่น เป็นแค่เกมซื้อเวลา เพราะไม่รู้ว่าจะหาวิธีเรียกศรัทธาคืนกลับมาได้อย่างไร มองว่า พรรคนี้เป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครอง
กบน.เลิกอุ้มดีเซล ราคาจ่อขยับขึ้น 1 เม.ย.นี้
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/393473
กบน. เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซล เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาท/ลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาท/ลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป หลังมาตรการตรึงดีเซลลดค่าครองชีพจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคมนี้
โดยการดำเนินการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ในกลุ่มน้ำมันดีเซล กบน. จะพิจารณาถึงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมของช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและการบริหารจัดการของผู้ค้าน้ำมันมากจนเกินไป ทั้งนี้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2567 ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกยังคงตัวอยู่ระดับสูง 104.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เฉลี่ยวันที่ 1 – 20 มี.ค.67) กบน. จึงเห็นควรมีการพิจารณาปรับอัตราเงินกองทุนฯ ประเภทน้ำมันดีเซล เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลภายในประเทศสอดคล้องกับราคาตลาดโลกมากขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
โดยจะนำข้อมูลต่างๆ ที่มีผลต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมาพิจารณาร่วมกับแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2563 – 2567 ทุกครั้งที่มีการปรับอัตราเงินกองทุนฯ ในประเภทน้ำมันดีเซล ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นการช่วยให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวดีขึ้น เพื่อสามารถใช้กองทุนฯ เป็นเครื่องมือรองรับกับสถานการณ์วิกฤตราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะดำเนินการประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อหารือในเรื่องอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไป
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2567 ติดลบ 98,220 ล้านบาทแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 51,136 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,084 ล้านบาท
JJNY : ก้าวไกลดักคอรบ.อย่าเบี้ยว│ยุบก้าวไกลแค่ซื้อเวลาผู้มีอำนาจ│กบน.เลิกอุ้มดีเซล ราคาจ่อขยับ│รัสเซียเชื่อมโยงกับยูเครน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8162730
ก้าวไกล แจงล่มองค์ประชุมรายงาน กาสิโน หลังฝ่ายรัฐบาลขู่ขอคืนเวลาอภิปราย ม.152 ดักคออย่าเจ้าคิดเจ้าแค้น ประธานวิปค้าน ยันตกลงเวลาแล้ว หวังประธานไม่บ้าจี้ตาม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา วิปฝ่ายค้านในสัดส่วนพรรคก้าวไกล นำโดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชรรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง แถลงประเด็นการขอนับองค์ประชุมพิจารณารายงานผลการศึกษา เรื่องศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 มี.ค.) จนเกิดการถกเถียงกันระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล
นายชุติพงศ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ตั้งใจให้รายงานฉบับนี้ผ่านไปโดยสมบูรณ์แบบที่สุด และเนื้อหาการอภิปรายของ สส. ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไปในทิศทางหลากหลาย และไม่สมบูรณ์หลายจุดมาก รวมถึงการแถลงของประธานกมธ. ก็มีข้อติดขัดหลายเรื่อง เหมือนยอมรับว่ามีความไม่สมบูรณ์ จึงอยากให้มีการถอนออกไปก่อน
แต่เมื่อประธานกมธ.ยืนยันจะให้เดินหน้าต่อ โดยไม่สนใจข้อทักท้วงของฝ่ายค้านที่ตั้งใจจะให้ผ่านอยู่แล้ว หากย้อนดูการอภิปรายของตนในขณะที่ขอนับองค์ประชุม ก็ไม่ได้ขอให้เพื่อนยกมือรับรองญัตติในฐานะองค์ประชุมแต่แรก เพราะตนอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้จนถึงที่สุดจริงๆ
เนื่องจากเป็นฝ่ายค้าน การนับองค์ประชุมคือสิ่งเดียวที่เรามี จึงขอให้ตรวจสอบองค์ประชุม เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลว่าจะผ่านให้แน่ๆ ในวันที่ 28 มี.ค. ซึ่งประชุมครั้งสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯในวันที่ 9 เม.ย. และสัปดาห์หน้าจะอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152
นายชุติพงศ์กล่าวต่อว่า ขอชื่นชมรัฐบาลที่มีองค์ประชุมครบถึง 250 เสียงในเวลานั้น จริงๆควรเป็นหน้าที่ปกติที่ สส.รัฐบาลควรทำให้ได้
“ขออย่าเป็นเกมเจ้าคิดเจ้าแค้น เราไม่ได้นับองค์ประชุมบ่อย และทุกครั้งที่ทำ เรามีเหตุผล เพื่อความเป็นธรรม และประโยชน์อันสูงสุดของประชาชน” นายชุติพงศ์ กล่าว
ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการไม่ให้รายงานฉบับนี้ผ่าน แต่หลังจากอภิปรายแล้วพรรคก้าวไกลอยากให้ถอนรายงานไปทบทวน เมื่อฝ่ายรัฐบาลยืนยันไม่ถอนร่าง พรรคก้าวไกลจึงยืนยันไม่แสดงตนและไม่ร่วมโหวตกับร่างรายงานฉบับนี้ เพราะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน จึงจำเป็นต้องทำออกมาอย่างดีที่สุด
ในรายงาน ที่กมธ.บอกว่าจะศึกษาการแก้พนันผิดกฎหมาย ก็ไม่มีเลย บอกว่าจะทำด้านธุรกิจ ก็ต้องตอบมาเรื่องการฟอกเงินจะทำอย่างไร บัญชีม้าทำอย่างไร สิ่งเหล่านี้เราเป็นห่วง ยังไม่นับว่า สุดท้ายผู้ที่ลงทุนทำในส่วนที่เป็นกาสิโน จะเป็นทุนสีเทาหรือไม่ นี่คือความกังวล
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงฝ่ายรัฐบาลจะขอเวลาคืนในการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-4 เม.ย.ว่า ถ้าพูดคุยเรื่องมติอย่างเป็นทางการของทั้งสองฝ่าย ตนยังเก็บไฟล์เป็นหลักฐานไว้ จะได้รู้ว่าเราเคยตกลงกันว่าอย่างไร
การที่เอาเรื่องไม่เป็นทางการ แล้วมาหักเรื่องที่เป็นทางการ ตนว่าไม่สมเหตุสมผล การขอลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างรายงานกมธ.เมื่อวันที่28 มี.ค.เป็นเหตุผลในด้านเนื้อหา
“ผมถามหน่อยว่าการที่เราไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับใดฉบับหนึ่ง จะต้องนำไปสู่การขอเวลาคืนอภิปรายมาตรา 152 หรือ ผมเข้าใจดีว่าเมื่อวานก็มีอารมณ์ขุ่นมัว ขุ่นเคืองกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโกรธอะไรขนาดนั้น” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่า ทุกคนมีวุฒิภาวะมากพอ เมื่ออารมณ์เย็นลง ก็คงไม่เอามาแก้แค้นกัน และใช้เวทีของฝ่ายค้าน ตรวจสอบที่ใหญ่ที่สุดรองจากอภิปรายไม่ไว้วางใจ เอามาเป็นประเด็นในเรื่องนี้ และอาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ฝั่งรัฐบาลขอเวลาอภิปรายครึ่งหนึ่งของญัตติที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล เอามาอภิปรายเอง แม้กระทั่งรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจาก คสช. ยังไม่ทำเลย เราหวังว่าประธานจะไม่บ้าจี้ไปเล่นด้วย เพราะเรามีข้อตกลงกันไปเรียบร้อยแล้ว
“ผมแปลกใจมาก เพราะการขอนับองค์ประชุม เป็นเรื่องปกติมาก ถือเป็นอาวุธไม่กี่อย่างที่ฝ่ายค้านมีในฐานะเสียงข้างน้อย เชื่อว่าพรรคก้าวไกลใช้อาวุธนับองค์ประชุมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมไม่เข้าใจว่าเป็นอะไรกันนักหนา หรือเรื่องที่ตั้งข้อสังเกตมีมูลจริงๆ ดังนั้น อย่าทำแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วมันจะสื่อได้ว่ารัฐบาลนี้มีการตรวจสอบรัฐบาลที่แล้วเสียอีก” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลทำจริงจะทำอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคงทำอะไรไม่ได้ ถ้าเป็นจริง แสดงว่าไม่ใช่เฉพาะวิปรัฐบาลเท่านั้น แต่ฝ่ายครม.ก็เห็นด้วย จึงขอฝากถึงครม.ว่าจะหนีกันง่ายๆแบบนี้ใช่หรือไม่
ยุบก้าวไกลแค่เกมซื้อเวลาผู้มีอำนาจ ฟันธงสีส้มไปต่อ คะแนนสงสารท่วม เพื่อไทยทรุดหนัก
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4498537
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ บ.ก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ วิเคราะห์ทิศทางและอนาคตของพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับบ้าน และพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มันคุ้มค่าแล้ว ถ้าครั้งหน้าได้เป็นรัฐบาลอีก จะถือเป็นกำไร และเพื่อไทยก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลอีก แต่ว่าจะไม่ได้เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะได้แค่ 50 เสียง หากยุบก้าวไกล ก็จะไม่สามารถล้มล้างความรู้สึกที่มีต่อพรรคได้ จะได้คะแนนสงสารเพิ่ม ผู้มีอำนาจไม่มีเครื่องมืออื่น เป็นแค่เกมซื้อเวลา เพราะไม่รู้ว่าจะหาวิธีเรียกศรัทธาคืนกลับมาได้อย่างไร มองว่า พรรคนี้เป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครอง
กบน.เลิกอุ้มดีเซล ราคาจ่อขยับขึ้น 1 เม.ย.นี้
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/393473
กบน. เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซล เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาท/ลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาท/ลิตรได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป หลังมาตรการตรึงดีเซลลดค่าครองชีพจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคมนี้
โดยการดำเนินการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ในกลุ่มน้ำมันดีเซล กบน. จะพิจารณาถึงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมของช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและการบริหารจัดการของผู้ค้าน้ำมันมากจนเกินไป ทั้งนี้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2567 ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกยังคงตัวอยู่ระดับสูง 104.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เฉลี่ยวันที่ 1 – 20 มี.ค.67) กบน. จึงเห็นควรมีการพิจารณาปรับอัตราเงินกองทุนฯ ประเภทน้ำมันดีเซล เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลภายในประเทศสอดคล้องกับราคาตลาดโลกมากขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
โดยจะนำข้อมูลต่างๆ ที่มีผลต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมาพิจารณาร่วมกับแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2563 – 2567 ทุกครั้งที่มีการปรับอัตราเงินกองทุนฯ ในประเภทน้ำมันดีเซล ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นการช่วยให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวดีขึ้น เพื่อสามารถใช้กองทุนฯ เป็นเครื่องมือรองรับกับสถานการณ์วิกฤตราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะดำเนินการประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อหารือในเรื่องอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไป
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2567 ติดลบ 98,220 ล้านบาทแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 51,136 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,084 ล้านบาท