ฝ่ายค้านฟิตศึกซักฟอก เพื่อไทย ลั่นงานนี้มี รมต.โดนยื่นร้องปปช.เอาผิดแน่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7505589
ฝ่ายค้านฟิตพร้อมสับ รบ.ศึกซักฟอกแล้ว “ประเสริฐ” ลั่นงานนี้มี รมต.โดนยื่นร้องปปช.เอาผิดแน่ ดักคอสภาล่มเพราะรบ.หนี เย้ยของซุกใต้พรมเยอะ
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมแล้วสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เหลือแค่รอเวลาเท่านั้น ขณะนี้มีผู้แสดงเจตจำนงขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมากถึง 35 คน เฉพาะพรรคพท.ก็มีมากถึง 25 คน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านสัปดาห์หน้า คงจะได้มีการหารือกันอีกครั้งเพื่อปรับจำนวนผู้อภิปราย เนื่องจากรัฐบาลให้เวลาฝ่ายค้านเพียงแค่สองวัน สำหรับหัวข้อในการอภิปรายหลักๆ เราจะอภิปรายถึงความไม่ชอบมาพากล และปัญหาการทุจริตในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้ รวมไปถึงเรื่องที่รัฐบาลต้องทำ แต่ปล่อยปละละเลยไม่ยอมดำเนินการจนก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งแม้มีความพยายามมาดำเนินการในช่วงนี้ แต่เวลาสภาที่เหลืออีกเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน ถือว่าสายเกินไปแล้ว
“
แม้ว่าจะเป็นการอภิปรายแบบไม่ลงมติ แต่เราจะอภิปรายเพื่อส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาล หากข้อมูลที่เราอภิปรายรัฐมนตรีนั้นมีมูล พบว่ามีการกระทำผิดจริง ฝ่ายค้านก็จะยื่นร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่างานนี้มีรัฐมนตรีถูกยื่นร้องเพื่อเอาผิดอย่างแน่นอน” นาย
ประเสริฐ กล่าว
นาย
ประเสริฐ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นาย
วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่าหากองค์ประชุมไม่ครบหรือสภาฯล่มตั้งแต่การอภิปรายวันแรก ก็ต้องถือว่าจบการอภิปรายและสิ้นสุดญัตติทันทีนั้น นายวิษณุเข้าใจผิด เรื่องนี้นาย
สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง พูดชัดเจนว่าการที่องค์ประชุมไม่ครบ ไม่ได้หมายความว่าญัตติจะตกไป โดยญัตติการอภิปรายดังกล่าวก็ยังค้างอยู่ ดังนั้นอยากให้รัฐบาลมารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทางพรรคร่วมฝ่ายค้าน และอยากให้รัฐบาลเปิดใจรับฟัง อย่ามองว่าฝ่ายค้านจ้องจะอภิปรายนอกข้อบังคับอย่างเดียว หากเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาในสภาไม่ได้ จะให้ไปพูดนอกสภาหรืออย่างไร
“
หากเกิดปัญหาสภาล่มจริง เท่ากับรัฐบาลกำลังหนีเพราะมีของซุกอยู่ใต้พรมเยอะ และเมื่อการเลือกตั้งมาถึง ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะลงโทษรัฐบาลอย่างไร” นาย
ประเสริฐ กล่าว
‘ประเสริฐ’ ซัด ‘วันชัย’ ดูถูกปชช. ได้ 250 เสียงถือเป็นฉันทามติแล้ว ปัดตอบจับมือพรรคอื่นให้ถึง 376 เสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3818973
‘ประเสริฐ’ ซัด ‘วันชัย’ ดูถูกปชช. ได้ 250 เสียงเป็นฉันทามติแล้ว ปัดตอบจับมือพรรคอื่นให้ถึง 376 เสียง
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนาย
วันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์ข้อความระบุว่า หากพรรค พท.เลือก น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องรวบรวมเสียงให้ได้ถึง 376 เสียง หากได้ไม่ถึง ส.ว. 250 เสียงก็อาจไม่โหวตให้ ว่า ตอนที่มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นาย
วันชัยเป็นผู้เสนอคำถามพ่วง ซึ่งเป็นการทำให้ระบอบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว
ฉะนั้นการที่ออกมาพูดเช่นนี้ เป็นการดูถูกพี่น้องประชาชน ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสพรรค พท.ตอนนี้ สามารถแลนด์สไลด์และรวมเสียงในสภาให้ถึง 376 เสียงหรือไม่ นาย
ประเสริฐ กล่าวว่า เป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรค พท. คือการได้ 250 เสียงขึ้นไป เกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ฉะนั้นมั่นใจว่าการได้เป็นเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทน ถือเป็นฉันทามติของประชาชนที่จะให้พรรค พท.เป็นรัฐบาลแล้ว ควรจะเคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่ควรดูถูก
เมื่อถามว่า หากได้เกิน 250 เสียง แต่หากไม่ถึง 376 เสียง ส.ว.ก็ไม่ยอม นาย
ประเสริฐ กล่าวว่า หากเป็นแบบนั้น ใครก็ตั้งรัฐบาลยาก เพราะเสียงในสภาผู้แทนราษฎรสำคัญต่อรัฐบาล เพราะ ส.ส.เป็นผู้พิจารณากฎหมายสำคัญต่างๆ ฉะนั้นถ้าเอาเสียงข้างน้อยมาเป็นรัฐบาล ถือว่าผิดหลักการ และรัฐบาลนั้นก็จะอยู่ไม่นาน
เมื่อถามว่า หากพรรค พท.ต้องรวมเสียงให้ถึง 376 จริงๆ ก็ไม่ปิดประตูในการจับมือกับพรรคอื่น ใช่หรือไม่ นาย
ประเสริฐ กล่าวว่า เรายังไม่พูดเรื่องนั้น พรรค พท.เคารพการตัดสินใจของประชาชนก่อน
‘ก้าวไกล’ ปราศรัย ‘บึงกาฬ-หนองคาย’ ขายนโยบายแก้ปัญหาที่ดินทั้งระบบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3818958
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคก.ก. ร่วมจัดเวทีพบปะประชาชนที่ประสบปัญหาประเด็นที่ดินรัฐรุกล้ำทับซ้อนที่ทำกินประชาชน และปัญหาจากกรรมสิทธิ์ ส.ป.ก. ที่จ.บึงกาฬและจ.หนองคาย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก.ก. ทั้งสองจังหวัดและจังหวัดข้างเคียงในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน
ในช่วงเช้า ได้เปิดเวทีพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณีป่าสงวนดงสีชมพู ประกาศทับที่ทำกินประชาชนที่ตั้งรกรากมากว่า 60 ปีก่อนการประกาศพื้นที่ป่าสงวน ที่บ้านเหล่าทองหลาง ต.เหล่าทอง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ก่อนที่ช่วงบ่ายจะเดินตลาด อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการจัดการที่ดิน ส.ป.ก. ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และเข้าเยี่ยมพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีถูกสั่งให้รื้อถอนออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน จากนั้นจึงเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่วัดเฝ้าไร่วนาราม มีประชาชนเข้าร่วมรับฟังนโยบาย และการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรค ก.ก. เป็นจำนวนมาก
นาย
พิธา กล่าวว่า หนองคายเป็นจังหวัดที่มีปัญหาที่ดินมากที่สุดในประเทศ มีระบบชลประทานครอบคลุมพื้นที่น้อยที่สุด และครัวเรือนมีการออมน้อยที่สุด หากจะถามว่าทำไมคนหนองคายถึงออมไม่ได้เลย คำตอบอยู่ที่ “
กระดุมเม็ดแรก” ก็คือเรื่องที่ดิน จ.หนองคายมีพื้นที่อยู่ 2 ล้านไร่ แต่เป็นพื้นที่ที่มีโฉนดแค่ 1 ล้านไร่ ที่เหลือเป็นที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะเป็น ส.ป.ก. ถึง 5 แสนไร่ ปัญหาที่ผ่านมาคือการเปลี่ยนรูปแบบที่ดินไปมาจากป่าเสื่อมโทรมมาเป็น ส.ป.ก. มาบัดนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงจาก ส.ป.ก. มาเป็นที่ราชพัสดุอีก บริหารที่ดินกันเป็นเก้าอี้ดนตรีจนประชาชนไม่มีที่ดินทำกิน แต่พรรคก.ก.มีเป้าหมายเอาที่ดินออกจากมือรัฐให้เป็นของประชาชนให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านไร่
“
สิ่งแรกที่เราจะทำ คือการเอา ส.ป.ก. ออกจากมือนายทุนมาคืนให้ประชาชน ผ่านกลไกธนาคารที่ดิน ที่รัฐบาลพรรคก้าวไกลจะจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นกลไกการกระจายที่ดินสู่มือประชาชน ซึ่งธนาคารที่ดินนี้เอง ที่จะเป็นกลไกเปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม เปลี่ยนจากสิทธิที่เป็นแค่สิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ในที่สุด” นาย
พิธากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สำหรับนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดของพรรคก้าวไกลนั้น มีกลไกในการเปลี่ยนรูปผ่านธนาคารที่ดิน โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้ :
(1) หากชื่อผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นชื่อตรงกัน สามารถออกโฉนดที่ดินได้ทันที โดยภายใน 5 ปีแรก สามารถโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนองต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดินเท่านั้น
(2) หากชื่อผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับชื่อผู้ใช้ประโยชน์ที่ดิน ไม่ตรงกัน จะออกโฉนดที่ดินได้ก็ต่อเมื่อ (ก) เป็นผู้ที่มีหลักฐานใช้ประโยชน์ที่ดินมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี (ข) เป็นผู้ที่มีหลักฐานข้อตกลงระหว่างผู้ได้รับสิทธิเดิมกับผู้ใช้ประโยชน์ และ (ค) เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินทั้งหมดไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยไม่นับรวมมูลค่าของที่ดิน ส.ป.ก. ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นโฉนด
(3) กรณีที่ใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อการเกษตร จะรับการเปลี่ยนเป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่
(4) กรณีที่ใช้ที่ดินที่ผ่านมาเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร จะรับการเปลี่ยนเป็นโฉนดได้เฉพาะผู้ที่ครอบครองที่ดินทุกประเภทรวมกัน รวมทั้ง ส.ป.ก. ด้วยไม่เกิน 50 ไร่ โดยภายใน 10 ปีแรกสามารถโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนองต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดินเท่านั้น
(5) ที่ดินส่วนที่เกิน 50 ไร่ ตามเงื่อนไขข้างบน หรือที่ดิน ส.ป.ก. ที่ได้มาแบบผิดกฎหมาย จะถูกยึดคืนเข้าสู่ธนาคารที่ดิน เพื่อนำมากระจายให้กับประชาชน ตามวัตถุประสงค์ต่อไป
JJNY : 5in1 ฟิตศึกซักฟอก│‘ประเสริฐ’ซัดวันชัย│‘ก.ก.’ปราศรัย‘บึงกาฬ-หนองคาย’│ชูวิทย์ปูดหั่นอุทยานฯ│ไบเดนเตรียมเยือนโปแลนด์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7505589
ฝ่ายค้านฟิตพร้อมสับ รบ.ศึกซักฟอกแล้ว “ประเสริฐ” ลั่นงานนี้มี รมต.โดนยื่นร้องปปช.เอาผิดแน่ ดักคอสภาล่มเพราะรบ.หนี เย้ยของซุกใต้พรมเยอะ
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมแล้วสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เหลือแค่รอเวลาเท่านั้น ขณะนี้มีผู้แสดงเจตจำนงขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมากถึง 35 คน เฉพาะพรรคพท.ก็มีมากถึง 25 คน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านสัปดาห์หน้า คงจะได้มีการหารือกันอีกครั้งเพื่อปรับจำนวนผู้อภิปราย เนื่องจากรัฐบาลให้เวลาฝ่ายค้านเพียงแค่สองวัน สำหรับหัวข้อในการอภิปรายหลักๆ เราจะอภิปรายถึงความไม่ชอบมาพากล และปัญหาการทุจริตในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้ รวมไปถึงเรื่องที่รัฐบาลต้องทำ แต่ปล่อยปละละเลยไม่ยอมดำเนินการจนก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งแม้มีความพยายามมาดำเนินการในช่วงนี้ แต่เวลาสภาที่เหลืออีกเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน ถือว่าสายเกินไปแล้ว
“แม้ว่าจะเป็นการอภิปรายแบบไม่ลงมติ แต่เราจะอภิปรายเพื่อส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาล หากข้อมูลที่เราอภิปรายรัฐมนตรีนั้นมีมูล พบว่ามีการกระทำผิดจริง ฝ่ายค้านก็จะยื่นร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่างานนี้มีรัฐมนตรีถูกยื่นร้องเพื่อเอาผิดอย่างแน่นอน” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่าหากองค์ประชุมไม่ครบหรือสภาฯล่มตั้งแต่การอภิปรายวันแรก ก็ต้องถือว่าจบการอภิปรายและสิ้นสุดญัตติทันทีนั้น นายวิษณุเข้าใจผิด เรื่องนี้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง พูดชัดเจนว่าการที่องค์ประชุมไม่ครบ ไม่ได้หมายความว่าญัตติจะตกไป โดยญัตติการอภิปรายดังกล่าวก็ยังค้างอยู่ ดังนั้นอยากให้รัฐบาลมารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทางพรรคร่วมฝ่ายค้าน และอยากให้รัฐบาลเปิดใจรับฟัง อย่ามองว่าฝ่ายค้านจ้องจะอภิปรายนอกข้อบังคับอย่างเดียว หากเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาในสภาไม่ได้ จะให้ไปพูดนอกสภาหรืออย่างไร
“หากเกิดปัญหาสภาล่มจริง เท่ากับรัฐบาลกำลังหนีเพราะมีของซุกอยู่ใต้พรมเยอะ และเมื่อการเลือกตั้งมาถึง ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะลงโทษรัฐบาลอย่างไร” นายประเสริฐ กล่าว
‘ประเสริฐ’ ซัด ‘วันชัย’ ดูถูกปชช. ได้ 250 เสียงถือเป็นฉันทามติแล้ว ปัดตอบจับมือพรรคอื่นให้ถึง 376 เสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3818973
‘ประเสริฐ’ ซัด ‘วันชัย’ ดูถูกปชช. ได้ 250 เสียงเป็นฉันทามติแล้ว ปัดตอบจับมือพรรคอื่นให้ถึง 376 เสียง
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์ข้อความระบุว่า หากพรรค พท.เลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องรวบรวมเสียงให้ได้ถึง 376 เสียง หากได้ไม่ถึง ส.ว. 250 เสียงก็อาจไม่โหวตให้ ว่า ตอนที่มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นายวันชัยเป็นผู้เสนอคำถามพ่วง ซึ่งเป็นการทำให้ระบอบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว
ฉะนั้นการที่ออกมาพูดเช่นนี้ เป็นการดูถูกพี่น้องประชาชน ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสพรรค พท.ตอนนี้ สามารถแลนด์สไลด์และรวมเสียงในสภาให้ถึง 376 เสียงหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรค พท. คือการได้ 250 เสียงขึ้นไป เกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ฉะนั้นมั่นใจว่าการได้เป็นเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทน ถือเป็นฉันทามติของประชาชนที่จะให้พรรค พท.เป็นรัฐบาลแล้ว ควรจะเคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่ควรดูถูก
เมื่อถามว่า หากได้เกิน 250 เสียง แต่หากไม่ถึง 376 เสียง ส.ว.ก็ไม่ยอม นายประเสริฐ กล่าวว่า หากเป็นแบบนั้น ใครก็ตั้งรัฐบาลยาก เพราะเสียงในสภาผู้แทนราษฎรสำคัญต่อรัฐบาล เพราะ ส.ส.เป็นผู้พิจารณากฎหมายสำคัญต่างๆ ฉะนั้นถ้าเอาเสียงข้างน้อยมาเป็นรัฐบาล ถือว่าผิดหลักการ และรัฐบาลนั้นก็จะอยู่ไม่นาน
เมื่อถามว่า หากพรรค พท.ต้องรวมเสียงให้ถึง 376 จริงๆ ก็ไม่ปิดประตูในการจับมือกับพรรคอื่น ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรายังไม่พูดเรื่องนั้น พรรค พท.เคารพการตัดสินใจของประชาชนก่อน
‘ก้าวไกล’ ปราศรัย ‘บึงกาฬ-หนองคาย’ ขายนโยบายแก้ปัญหาที่ดินทั้งระบบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3818958
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคก.ก. ร่วมจัดเวทีพบปะประชาชนที่ประสบปัญหาประเด็นที่ดินรัฐรุกล้ำทับซ้อนที่ทำกินประชาชน และปัญหาจากกรรมสิทธิ์ ส.ป.ก. ที่จ.บึงกาฬและจ.หนองคาย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก.ก. ทั้งสองจังหวัดและจังหวัดข้างเคียงในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน
ในช่วงเช้า ได้เปิดเวทีพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณีป่าสงวนดงสีชมพู ประกาศทับที่ทำกินประชาชนที่ตั้งรกรากมากว่า 60 ปีก่อนการประกาศพื้นที่ป่าสงวน ที่บ้านเหล่าทองหลาง ต.เหล่าทอง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ก่อนที่ช่วงบ่ายจะเดินตลาด อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการจัดการที่ดิน ส.ป.ก. ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และเข้าเยี่ยมพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีถูกสั่งให้รื้อถอนออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน จากนั้นจึงเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่วัดเฝ้าไร่วนาราม มีประชาชนเข้าร่วมรับฟังนโยบาย และการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรค ก.ก. เป็นจำนวนมาก
นายพิธา กล่าวว่า หนองคายเป็นจังหวัดที่มีปัญหาที่ดินมากที่สุดในประเทศ มีระบบชลประทานครอบคลุมพื้นที่น้อยที่สุด และครัวเรือนมีการออมน้อยที่สุด หากจะถามว่าทำไมคนหนองคายถึงออมไม่ได้เลย คำตอบอยู่ที่ “กระดุมเม็ดแรก” ก็คือเรื่องที่ดิน จ.หนองคายมีพื้นที่อยู่ 2 ล้านไร่ แต่เป็นพื้นที่ที่มีโฉนดแค่ 1 ล้านไร่ ที่เหลือเป็นที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะเป็น ส.ป.ก. ถึง 5 แสนไร่ ปัญหาที่ผ่านมาคือการเปลี่ยนรูปแบบที่ดินไปมาจากป่าเสื่อมโทรมมาเป็น ส.ป.ก. มาบัดนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงจาก ส.ป.ก. มาเป็นที่ราชพัสดุอีก บริหารที่ดินกันเป็นเก้าอี้ดนตรีจนประชาชนไม่มีที่ดินทำกิน แต่พรรคก.ก.มีเป้าหมายเอาที่ดินออกจากมือรัฐให้เป็นของประชาชนให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านไร่
“สิ่งแรกที่เราจะทำ คือการเอา ส.ป.ก. ออกจากมือนายทุนมาคืนให้ประชาชน ผ่านกลไกธนาคารที่ดิน ที่รัฐบาลพรรคก้าวไกลจะจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นกลไกการกระจายที่ดินสู่มือประชาชน ซึ่งธนาคารที่ดินนี้เอง ที่จะเป็นกลไกเปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม เปลี่ยนจากสิทธิที่เป็นแค่สิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ในที่สุด” นายพิธากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สำหรับนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดของพรรคก้าวไกลนั้น มีกลไกในการเปลี่ยนรูปผ่านธนาคารที่ดิน โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้ :
(1) หากชื่อผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับผู้ใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นชื่อตรงกัน สามารถออกโฉนดที่ดินได้ทันที โดยภายใน 5 ปีแรก สามารถโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนองต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดินเท่านั้น
(2) หากชื่อผู้รับสิทธิ ส.ป.ก. กับชื่อผู้ใช้ประโยชน์ที่ดิน ไม่ตรงกัน จะออกโฉนดที่ดินได้ก็ต่อเมื่อ (ก) เป็นผู้ที่มีหลักฐานใช้ประโยชน์ที่ดินมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี (ข) เป็นผู้ที่มีหลักฐานข้อตกลงระหว่างผู้ได้รับสิทธิเดิมกับผู้ใช้ประโยชน์ และ (ค) เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินทั้งหมดไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยไม่นับรวมมูลค่าของที่ดิน ส.ป.ก. ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นโฉนด
(3) กรณีที่ใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อการเกษตร จะรับการเปลี่ยนเป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่
(4) กรณีที่ใช้ที่ดินที่ผ่านมาเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร จะรับการเปลี่ยนเป็นโฉนดได้เฉพาะผู้ที่ครอบครองที่ดินทุกประเภทรวมกัน รวมทั้ง ส.ป.ก. ด้วยไม่เกิน 50 ไร่ โดยภายใน 10 ปีแรกสามารถโอนมรดกได้ แต่หากจะขายหรือจำนองต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ดินเท่านั้น
(5) ที่ดินส่วนที่เกิน 50 ไร่ ตามเงื่อนไขข้างบน หรือที่ดิน ส.ป.ก. ที่ได้มาแบบผิดกฎหมาย จะถูกยึดคืนเข้าสู่ธนาคารที่ดิน เพื่อนำมากระจายให้กับประชาชน ตามวัตถุประสงค์ต่อไป