หลังจากที่ผ่านมานายกเศรษฐา ทวีสินได้ประกาศขอรับตำแหน่ง นายกเซลล์แมน เพราะพี่แกเล่นเดินทางประชุมกับต่างชาติกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็มีกระแสว่า ท่านนายกเศรษฐา ใช้งบประมาณมากเกินไปมั้ยกับการประชุมทุกๆครั้ง
ล่าสุด กับการเยือนการประชุม ณ ประเทศฝรั่งเศส กรุงปารีส นครแห่งแฟชั่น เมืองในฝันของใครหลายๆคน แต่เหมือนว่าคราวนี้ประเทศไทยจะโดดเด่นมาก เพราะผลการตอบรับจากบริษัทชั้นนำดูเหมือนจะมองเห็นรูปธรรมมากขึ้น แต่จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
- Accor Group กลุ่มธุรกิจโรงแรมดังระดับโลกดึงการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมให้ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันนี้เราว่าดีนะ แต่สถานการณ์ต้องสงบจริงๆเพราะหากนักท่องเที่ยวเกิดอะไรขึ้นมาที่ลงทุนมานั้นจะดันไม่ขึ้น 3 จังหวัดภาคใต้เรามีดี หากใครเคยไปทานอาหารที่เบตงจะบอกเลยว่า นี่มัน “เมืองคนอ้วนนี่นา”
- Michelin แน่นอนไม่มีใครไม่รู้จัก งานนี้ก็ผลักดันยางไทยแน่นอนไม่พลิกโผ
- Michelin Guide ออกปากสนับสนุนการมอบรางวัลประชาสัมพันธ์ และจัดอีเว้นท์เทศกาลอาหารในประเทศไทย ข้อนี้เกิดขึ้นกระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอน
- Valeo ขยายการลงทุนเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าEV
- Formula E จัดการแข่งขันรถยนต์ระบบไฟฟ้า EVเล็งที่การจัดแข่งในประเทศไทย
- Airbus ส่งเสริมให้ไทยเป็น Hub การขนส่ง
ส่วนเรื่องหลักอื่นๆเห็นจะเป็นเรื่องการพัฒนา Soft Power ของไทยที่ดูเหมือนนานาชาติสนใจเรื่องนี้เพราะประเทศไทยเรานั้น เลิศที่สุดในเรื่องอาหาร วัฒนธรรมและพ่วงด้วยแฟชั่นไปด้วย งานนี้ก็ไม่แปลกที่นายกเศรษฐาจะพันผ้าพันคอผ้าขาวม้าไปในเวทีการประชุมนี้ หากสินค้าไทย Sme หรือผู้ออกแบบแบรนด์ไทยได้มีโอกาสวางสินค้าในแถบยุโรปมากขึ้นเราว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศก็จะดีขึ้นตามๆกันไป แต่ก็เป็นงานสำคัญที่ คณะรัฐมนตรีนี้ก็ต้องไปเจรจาเรื่อง FTA ต่างๆไม่งั้นทำไปอาจไม่คุ้มค่าเสียเท่าไหร่ เพราะภาษีต่างๆอาจทำให้กลุ่มธุรกิจ Sme ถอดใจก็เป็นได้
ความเห็นส่วนตัวเลยนะ เราว่านายกเศรษฐา ทำงานได้มากอาจจะเป็นแพราะมาจากภาคเอกชน การไปเจรจุรกิจ น่าจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า เพราะจากที่สังเกตทุกครั้งที่ไปเหมือนกับการตีหัวเข้าบ้าน เอาหัวหน้าไปเปิดแล้วให้ทีมงานจิกและตามเรื่องต่อ หากดูจากปฏิทินแล้วทีมรัฐบาลนี้ทำงานเยอะจริง จนมีกระแสข่าวว่านายกนอนทำเนียบ เอิ่ม..อันนี้ครอบครัวนายกว่าไงบ้างอันนี้มีข่าวมั้ย o(><;)○
เราจะไม่พาดพิงนายกท่านอื่นแต่ ตั้งแต่รับตำแหน่งงานมานี่ ประชุมๆๆๆๆ เห็นได้ตามปฏิทินข่าว ทำงานเยอะ ทำงานไม่หยุด เจจรากับบริษัทต่างชาติและเข้าพบคนดังฉ่ำๆ และที่สำคัญ ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดีมากๆ เป็นที่น่าภูมิใจ คุยอะไรงานนี้คงเข้าใจกันง่ายมากขึ้นแหละ
เราต้องติดตามผลงานของนายกเศรษฐา ว่าไปแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง แต่ส่วนตัวพอใจนะ เพราะไปแล้วมีการเซนต์สัญญาลงนามอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น การลงนามบริษัทในญี่ปุ่น สร้างฐานการผลิตในไทย FTA ไทย ศรีลังกา ลงนามกับบริษัท AWS หากทีมรัฐบาลเข็มแข็งมากๆ
“ ก็คงถึงเวลาที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทยแล้วหละ “
ใครไม่ไหว นายกเศรษฐาไหว ประชุมต่างประเทศฉ่ำ ล่าสุดนครปารีสหวังดึงนักลงทุนเข้าไทย
ล่าสุด กับการเยือนการประชุม ณ ประเทศฝรั่งเศส กรุงปารีส นครแห่งแฟชั่น เมืองในฝันของใครหลายๆคน แต่เหมือนว่าคราวนี้ประเทศไทยจะโดดเด่นมาก เพราะผลการตอบรับจากบริษัทชั้นนำดูเหมือนจะมองเห็นรูปธรรมมากขึ้น แต่จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
- Accor Group กลุ่มธุรกิจโรงแรมดังระดับโลกดึงการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมให้ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันนี้เราว่าดีนะ แต่สถานการณ์ต้องสงบจริงๆเพราะหากนักท่องเที่ยวเกิดอะไรขึ้นมาที่ลงทุนมานั้นจะดันไม่ขึ้น 3 จังหวัดภาคใต้เรามีดี หากใครเคยไปทานอาหารที่เบตงจะบอกเลยว่า นี่มัน “เมืองคนอ้วนนี่นา”
- Michelin แน่นอนไม่มีใครไม่รู้จัก งานนี้ก็ผลักดันยางไทยแน่นอนไม่พลิกโผ
- Michelin Guide ออกปากสนับสนุนการมอบรางวัลประชาสัมพันธ์ และจัดอีเว้นท์เทศกาลอาหารในประเทศไทย ข้อนี้เกิดขึ้นกระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอน
- Valeo ขยายการลงทุนเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าEV
- Formula E จัดการแข่งขันรถยนต์ระบบไฟฟ้า EVเล็งที่การจัดแข่งในประเทศไทย
- Airbus ส่งเสริมให้ไทยเป็น Hub การขนส่ง
ส่วนเรื่องหลักอื่นๆเห็นจะเป็นเรื่องการพัฒนา Soft Power ของไทยที่ดูเหมือนนานาชาติสนใจเรื่องนี้เพราะประเทศไทยเรานั้น เลิศที่สุดในเรื่องอาหาร วัฒนธรรมและพ่วงด้วยแฟชั่นไปด้วย งานนี้ก็ไม่แปลกที่นายกเศรษฐาจะพันผ้าพันคอผ้าขาวม้าไปในเวทีการประชุมนี้ หากสินค้าไทย Sme หรือผู้ออกแบบแบรนด์ไทยได้มีโอกาสวางสินค้าในแถบยุโรปมากขึ้นเราว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศก็จะดีขึ้นตามๆกันไป แต่ก็เป็นงานสำคัญที่ คณะรัฐมนตรีนี้ก็ต้องไปเจรจาเรื่อง FTA ต่างๆไม่งั้นทำไปอาจไม่คุ้มค่าเสียเท่าไหร่ เพราะภาษีต่างๆอาจทำให้กลุ่มธุรกิจ Sme ถอดใจก็เป็นได้
ความเห็นส่วนตัวเลยนะ เราว่านายกเศรษฐา ทำงานได้มากอาจจะเป็นแพราะมาจากภาคเอกชน การไปเจรจุรกิจ น่าจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า เพราะจากที่สังเกตทุกครั้งที่ไปเหมือนกับการตีหัวเข้าบ้าน เอาหัวหน้าไปเปิดแล้วให้ทีมงานจิกและตามเรื่องต่อ หากดูจากปฏิทินแล้วทีมรัฐบาลนี้ทำงานเยอะจริง จนมีกระแสข่าวว่านายกนอนทำเนียบ เอิ่ม..อันนี้ครอบครัวนายกว่าไงบ้างอันนี้มีข่าวมั้ย o(><;)○
เราจะไม่พาดพิงนายกท่านอื่นแต่ ตั้งแต่รับตำแหน่งงานมานี่ ประชุมๆๆๆๆ เห็นได้ตามปฏิทินข่าว ทำงานเยอะ ทำงานไม่หยุด เจจรากับบริษัทต่างชาติและเข้าพบคนดังฉ่ำๆ และที่สำคัญ ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดีมากๆ เป็นที่น่าภูมิใจ คุยอะไรงานนี้คงเข้าใจกันง่ายมากขึ้นแหละ
“ ก็คงถึงเวลาที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทยแล้วหละ “