นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ภายใต้การจัดหารายได้ 2,920,600 ล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 860,000 ล้านบาท ขาดดุลงบประมาณลดลง 5,000 ล้านบาท กรอบงบประมาณรวมเพิ่มขึ้น 27,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.7% และจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท โดยการขาดดุลงบประมาณที่อยู่ในระดับสูงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งจำเป็นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า โดยครม.มอบหมายให้กระทรวงการคลังจะต้องดูการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย สำนักงบประมาณต้องดูในเรื่องของการใช้จ่าย
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแเงินเฟ้อให้ได้ตามกรอบเป้าหมาย 1-3 % และให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างรมว.คลังกับผู้ว่า ธปท.ที่จะทำให้เงินเฟ้อเข้าใกล้ 2% โดยเรื่องนี้ต้องให้เวลาที่ ธปท.จะทำให้เงินเฟ้อเข้ากรอบและค่ากลางที่ 2% นอกจากนั้น ข้อตกลงระหว่างกระทรวงการคลังและ ธปท.กำหนดด้วยว่า ธปท.จะต้องดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับเหมาะสมที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันระหว่างคู่ค้าและคู่แข่ง
ด้านนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า วงเงินงบประมาณปี 2569 จำนวน 3,780,600 ล้านบาท เท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (2569- 2572) โดยปรับเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 27,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.7% แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2,645,858.9 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70% ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 123,541.1 ล้านบาท คิดเป็น 3.3% รายจ่ายลงทุน 860,000 ล้านบาท คิดเป็น 22.7% และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 151,200 ล้านบาท คิดเป็น 4%
กำหนดรายได้รัฐบาลสุทธิ 2,920,600 ล้านบาท เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 860,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ภายใต้สมมติฐานทางเศรษฐกิจในปี 2569 ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 2.3-3.3% หรือค่ากลาง 2.8% เงินเฟ้อ อยู่ในช่วง 0.7 - 1.7% ค่ากลาง 1.2%
เครดิตจาก ไทยรัฐ มันนี่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ/2834917
ครม.ตั้งงบปี 69 รายจ่าย 3.78 ล้านล้าน ขาดดุล 8.6แสนล้าน ทวงธปท.เพิ่มเงินเฟ้อ-ดูแลบาท
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแเงินเฟ้อให้ได้ตามกรอบเป้าหมาย 1-3 % และให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างรมว.คลังกับผู้ว่า ธปท.ที่จะทำให้เงินเฟ้อเข้าใกล้ 2% โดยเรื่องนี้ต้องให้เวลาที่ ธปท.จะทำให้เงินเฟ้อเข้ากรอบและค่ากลางที่ 2% นอกจากนั้น ข้อตกลงระหว่างกระทรวงการคลังและ ธปท.กำหนดด้วยว่า ธปท.จะต้องดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับเหมาะสมที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันระหว่างคู่ค้าและคู่แข่ง
ด้านนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า วงเงินงบประมาณปี 2569 จำนวน 3,780,600 ล้านบาท เท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (2569- 2572) โดยปรับเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 27,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.7% แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2,645,858.9 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70% ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 123,541.1 ล้านบาท คิดเป็น 3.3% รายจ่ายลงทุน 860,000 ล้านบาท คิดเป็น 22.7% และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 151,200 ล้านบาท คิดเป็น 4%
กำหนดรายได้รัฐบาลสุทธิ 2,920,600 ล้านบาท เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 860,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ภายใต้สมมติฐานทางเศรษฐกิจในปี 2569 ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 2.3-3.3% หรือค่ากลาง 2.8% เงินเฟ้อ อยู่ในช่วง 0.7 - 1.7% ค่ากลาง 1.2%
เครดิตจาก ไทยรัฐ มันนี่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ/2834917