ได้เห็นข่าวหนึ่งเกี่ยวกับอัตราการเกิดและอัตราการตายประจำปี 2567 ว่าด้วยเป็นปีที่ 4 แล้วนะครับที่อัตราการเกิดน้อยกว่าอัตราการตายจนทำให้ประชากรไทยลดลงครับ

 
https://www.facebook.com/photo?fbid=1064792735687069&set=a.360119619487721

    หากเป็นในสมัยก่อน อัตราการเกิดสูงอยู่พอสมควรเนื่องจากค่าครองชีพค่อนข้างถูก หาอาหารตามธรรมชาติ เงินเดือนเท่าไรก็พอกิน ความคาดหวังทางวุฒิการศึกษาน้อย ผู้คนในสมัยอดีตจึงนิยมมีบุตรกัน 5 - 12 คนโดยเฉลี่ย และมีบุตรกันตั้งแต่อายุยังน้อย

ต่อมาจึงมีการรณรงค์ว่า "มีลูกมากจะยากจน"

    ยุคนี้ การจะมีบุตรแต่ละคนจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่แล้วนะครับ โดยเฉพาะค่าเทอมตั้งแต่อนุบาล - ปริญญาตรีก็รวม ๆ แทบเป็นหลักล้านบาทแล้วครับ
ซึ่งค่าเล่าเรียนล้วน ๆ ก็นับว่าแพงมากแล้วนะครับ
แต่สำหรับข้าราชการจะมีสวัสดิการเบิกค่าเทอมให้บุตรได้ 3 คน ก็จะได้เบาใจเรื่องค่าใช้จ่ายหน่อยนะครับ
แต่นอกจากค่าเล่าเรียนบุตรแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่านม ค่าผ้าอ้อม ค่าอาหาร และค่าจิปสถะอื่น ๆ
สำหรับภายในสถาบันการศึกษา ยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าชีทงาน ค่างานกลุ่ม ค่าหนังสือเรียน ค่าโครงงาน ค่าโปรเจคจบ เป็นต้น
ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ทำให้ตลาดแรงงานมีจำกัดลงเรื่อย ๆ และความคาดหวังทางวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น (อย่างรุ่นผมนี่ จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้คือต้องจบขั้นต่ำปริญญาตรีใบแรกก่อนครับ แล้วก็รอต่อปริญญาโท ----> ปริญญาเอกครับ 55555555+)
และรัฐสวัสดิการไทยปัจจุบันนี้ถือว่ายังไม่พอต่อการดำรงชีพของประชาชนนะครับ
ดังนั้นประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเหมือนประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลีใต้

สำหรับทุกคน มีเหตุใดบ้างที่เป็นปัจจัยให้ประชากรไทยลดลงครับ แบบนี้คนไทยจะมีโอกาสสูญพันธุ์มั้ยครับ?
ร่วมกันแสดงความคิดเห็นกันตรงนี้ได้เลยครับ