JJNY : ก้าวไกลโวยพ.ร.บ.อากาศสะอาดถูกตัดตอน│"เวิลด์แบงก์" เตือนเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำ│รุมประณามโสมเหนือ│เมียนมาระส่ำหนัก?

ก้าวไกล โวย พ.ร.บ.อากาศสะอาด ถูกตัดตอนหลังนายกฯไม่เซ็นรับรอง วันนอร์จ่อตั้งวิปร่วม แก้ปัญหาวาระประชุม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4367925
 
 
ก้าวไกล โวย พ.ร.บ.อากาศสะอาด ถูกตัดตอน หลังนายกฯไม่เซ็นรับรอง ทั้งที่มีเนื้อหาคล้ายกับที่ส่งเข้าสภาฯ วันนอร์ จ่อตั้ง วิปร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้าน แก้ปัญหาวาระประชุม
 
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10 มกราคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์​ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่การพิจารณาตามระเบียบวาระ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือต่อระเบียบวาระการประชุมสภาฯ ในวันที่ 11 ม.ค. ที่จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ. ) อากาศสะอาด โดยตามระเบียบวาระทราบว่า มี 4 ฉบับ ที่รอการพิจารณา แต่พบว่าร่างกฎหมายที่มีลักษณะเดียวกัน ซึ่งเป็นของพรรคก้าวไกลเสนอ และส่งให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ลงนามก่อน เข้าสู่ระเบียบวาระเพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน แต่ร่างของพรรคก้าวไกล นายกฯไม่ลงนาม แต่คณะรัฐมนตรี(ครม.)กลับบอกว่า ร่างของพรรคก้าวไกลฟังไม่ทันวันที่ 5 ม.ค.แต่ของรัฐบาลผ่าน ครม.เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ฝ่ายเลขาฯประธานฯยังอ่านทัน แล้วบรรจุวาระตอน 21.00 น.ของวันที่ 9 ม.ค. เพื่อพิจารณาในวันที่ 11 ม.ค.

ทำไมร่างของพรรคก้าวไกลไม่ทัน ไม่เซ็น​ มีปัญหาอะไรกันแน่ ต้องขอความชัดเจนจากประธานฯว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างนี้ต้องการตัดตอนพรรคก้าวไกลอีกหรือไม่ ทั้งที่หลักการณ์คล้ายกัน สมัยที่แล้ว พ.ร.บ.คู่ชีวิต กับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สมรสเท่าเทียม คิดว่าประกบกันไม่ได้ ยังประกบกันได้เลย จึงอยากถามว่า พ.ร.บ.อากาศสะอาด เกิดอะไรขึ้น อากาศมันเริ่มไ ม่สะอาดมาตั้งแต่ต้นแล้วหรือ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
  
ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะรับไปประสานงานและติดตามในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ร่างกฎหมายตามที่สอบถามรัฐบาลยังไม่ได้ส่งมา อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ตนจะตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ต่อไป
 
ทั้งนี้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นถามว่า กรณีที่นายกฯ ไม่ลงนามดังกล่าว เพราะเลือกปฏิบัติหรือไม่ ขอเรียกร้องให้ตัวแทนของรัฐบาลชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน หารือย้ำให้รัฐบาลพิจารณาอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้ยังมีเวลา เพราะสภาฯ จะพิจารณาในวันที่ 11 ม.ค.ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
 
ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ถูกส่งไปยังรัฐบาลเพิ่มเติม 3 ฉบับ แต่ไม่สามารถลงนามรับรองได้ทันที เพราะต้องอ่านและศึกษาให้รอบคอบก่อน ซึ่งตนไม่อยากเอ่ยว่า เป็นฉบับของใครบ้าง ซึ่งวิปรัฐบาลได้ประสานไปไม่ใช่ไม่ร้อนใจ เพราะต้องการให้ร่างกฎหมายที่สำคัญผ่านการพิจารณาและตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แต่อยากให้กระบวนการสมบูรณ์ ซึ่งตนจะรีบประสานไปยังรัฐบาล
 
ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เชื่อว่าเรื่องนี้จะเรียบร้อย ผ่านการประสานงานร่วมกัน และเห็นว่าร่างกฎหมายใดที่มีหลักการเดียวกัน ควรพิจารณารวมกันทีเดียวจะได้จบไม่ค้างอยู่ หากรายละเอียดไม่ตรงต้องการแก้ไข ก็สามารถใช้กรรมาธิการพิจารณาได้



"เวิลด์แบงก์" เตือนเศรษฐกิจโลกช่วงปี 2020-2024 ขยายตัวต่ำสุดรอบ 30 ปี
https://ch3plus.com/news/economy/morning/381977

ธนาคารโลกออกรายงาน "แนวโน้มเศรษฐกิจโลก" ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัวเพียง 2.4% ในปีนี้ โดยชะลอตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ก่อนที่จะขยายตัว 2.7% ในปีหน้า

หากไม่นับการที่เศรษฐกิจโลกหดตัวในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเป็นการเติบโตต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2009

ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัว 2.6% ในปี 2023 และ 3.0% ในปี 2022 หลังจากขยายตัว 6.2% ในปี 2021 ซึ่งเป็นการฟื้นตัวขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ยุติลง

ธนาคารโลกเตือนว่าช่วงครึ่งแรกของทศวรรษ 2020 ซึ่งหมายถึงปี 2020-2024 จะเป็นช่วงครึ่งทศวรรษที่มีการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 30 ปี โดยการขยายตัวในช่วง 5 ปีดังกล่าวจะต่ำกว่าช่วงเกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2008-2009 และช่วงวิกฤตการเงินในเอเชียในปลายทศวรรษ 1990 รวมทั้งช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวในต้นทศวรรษ 2000 ขณะที่คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วง 5 ปีดังกล่าวจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงทศวรรษ 2010 เกือบ 0.75%

ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเพียง 1.6% ในปีนี้ จากระดับ 2.5% ในปีที่แล้ว ส่วนยูโรโซนจะมีการขยายตัว 0.7% ในปีนี้ จากระดับ 0.4% ในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวสู่ระดับ 4.5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 30 ปี หากไม่นับปี 2020 และปี 2022 ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ขณะเดียวกัน คาดว่าเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาจะมีการขยายตัว 3.9% ในปีนี้ ลดลงจาก 4.0% ในปีที่แล้ว

รายงานระบุว่า แม้ว่าเศรษฐกิจโลกสามารถปรับตัวอย่างยืดหยุ่นในปีที่แล้ว ท่ามกลางความเสี่ยงในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยท้าทายในระยะใกล้ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ชะลอตัวในปีนี้และปีหน้าเมื่อเทียบกับในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ธนาคารโลกเตือนว่า หากไม่มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทศวรรษ 2020 จะกลายเป็นทศวรรษของโอกาสที่สูญเปล่า ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยคาดว่าจะมีการขยายตัวเพียง 3.9% ในปีนี้ โดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามากกว่า 1%

นอกจากนี้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ ประชากรราว 1 ใน 4 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และราว 40% ของประเทศที่มีรายได้ต่ำจะมีความยากจนมากกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2019
 


นานาชาติประสานเสียง รุมประณามโสมเหนือ ส่งขีปนาวุธช่วยรัสเซียรบยูเครน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4368044

นานาชาติประสานเสียง รุมประณามโสมเหนือ ส่งขีปนาวุธช่วยรัสเซียรบยูเครน
 
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม สหรัฐอเมริกาพร้อมด้วยอีกเกือบ 50 ประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อประณามการที่เกาหลีเหนือส่งขีปนาวุธให้รัสเซียใช้ในการทำสงครามกับยูเครน รวมถึงเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศยุติความร่วมมือดังกล่าวทันที

สหรัฐได้เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ารัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือโจมตีใส่ยูเครน โดยในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว นายแอนโทนี บลิงเกน  รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นายโจเซฟ บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป รวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศอีก 47 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิสราเอล ได้ประณามการส่งขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือถูกกล่าวหาอย่างถึงที่สุด
 
แถลงการณ์ดังกล่าวซึ่งออกโดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า “การส่งอาวุธเหล่านี้ได้เพิ่มความทุกข์ทรมาณให้แก่ชาวยูเครน สนับสนุนการทำสงครามที่ก้าวร้าวของรัสเซีย และทำลายสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์” อีกทั้งยังเป็นการละเมิดการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ต่อเกาหลีเหนืออย่างชัดเจน
 
นอกจากนั้นแล้ว แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่าจะจับตาอย่างใกล้ชิดว่า รัสเซียมอบอะไรให้แก่เกาหลีเหนือเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนสำหรับการส่งอาวุธดังกล่าว
 
ด้านนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้เดินทางเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธและได้กล่าวว่าเกาหลีใต้เป็น “ศัตรูตัวฉกาจ” ของเกาหลีเหนือ โดยผู้นำคิมได้เรียกร้องให้พนักงานโรงงานดังกล่าวเพิ่มความทันสมัยและกำลังการผลิตอาวุธ พร้อมบอกด้วยว่า เขาไม่ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงสงคราม และจะไม่ลังเลที่จะทำลายล้างเกาหลีใต้ ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลีเมื่อวันที่ 10 มกราคม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่