[เที่ยวไทย] เปรโต๊ะลอซู เดินป่าหน้าฝนครั้งแรก (และขอเป็นครั้งสุดท้าย) ของฉัน : 28-30 กรกฎาคม 2023

กระทู้สนทนา

เดินป่า เที่ยวภูเขา ภาพถ่ายทิวทัศน์ บันทึกนักเดินทาง

สวัสดีค่ะทุกคนนน ทริปเดินป่าประจำปีกลับมาอีกครั้ง
รอบนี้เราจะพาทุกคนไปเดินป่ากันที่ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
เป็นทริปที่เรารอคอยมานานมาก อยากไปตั้งแต่สองสามปีที่แล้ว แต่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนในที่สุดก็ได้มา
เราเคยเล่นโซเชี่ยลแล้วเห็นโพส ประมาณว่าเที่ยวป่าประจำเดือนเกิด
แล้วเดือนเกิดเราเป็นรูปน้ำตก ที่ไหลมาบรรจบกันเป็นรูปหัวใจ ก็แบบ.. เห้ย สวยอะ อยากไป ต้องไปให้ได้ นี่แหละเป้าหมายของฉัน
“เปรโต๊ะลอซู”

รอบนี้รูปที่ได้มาน้อยมากๆ ไม่ถึง 10 รูป เพราะโทรศัพท์พังตั้งแต่วันแรก..
กระทู้นี้รูปที่ลงเลยเป็นรูปที่แคปมาจากวิดีโออีกที เลยไม่ค่อยชัดนะคะ
เราไปกับเพจเที่ยวกันเองนะ เช่นเคย
ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเลย

ขอสรุปก่อน

1.การจะมาที่นี่ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เพราะมี 2 จุดหมายให้เราได้ไป นั่นคือ น้ำตกรูปหัวใจ กับยอดดอยมะม่วงสามหมื่น เวลาเท่านี้เราจะเดินได้แบบชิลๆ มีเวลาให้พักผ่อนเยอะหน่อย

2.เราไปกับเพจเที่ยว เขาเตรียมและติดต่อไว้ให้เกือบครบทุกอย่างแล้ว เราเลยไม่รู้เรื่องรายละเอียดการติดต่อเลย

3.ควรดูพยากรณ์อากาศไว้ก่อนมา ว่าฝนจะตกมั้ย หรือให้คิดไว้ก่อนว่าฝนตกแน่ๆ เราจะได้เตรียมพร้อมเปียก

4.สิ่งที่ควรมีเมื่อมาเดินป่าหน้าฝน (ที่เราสัมผัสมา) คือ

-เสื้อกันฝน ถ้าเป็นไปได้อยากให้ซื้อแบบเนื้อหนาหน่อย เพราะตอนที่เราไป 3 วัน ฝนตกแทบจะตลอดเวลา แทบไม่หยุดเลย
แบบที่เป็นเสื้อ ก็ดีตรงที่ตัวเราไม่เปียกแน่ๆ แต่ก็จะมีอีกแบบคือแบบค้างคาว แบบนี้จะใช้คลุมกระเป๋าได้ด้วย กระเป๋าก็จะไม่เปียก แต่เราแอบเห็นว่ามันก็จะมีช่องกว้างๆที่แขนเสื้อด้วย ไม่แน่ใจว่าตัวจะเปียกมั้ย

-ควรเอาของทุกอย่างใส่ถุงซิปล็อค หรือถุงพลาสติก ก่อนเอาของใส่กระเป๋า เพื่อความชัวร์ ด้วยความสะเพร่าของเรา เราใส่เสื้อกันฝนแบบปกติ+ใส่เรนโคฟเวอร์ให้กระเป๋า ลืมว่าสายกับด้านหลังกระเป๋ามันไม่มีอะไรบังน้ำ.. ของในกระเป๋าเลยเปียกหมดเลย

-ซองกันน้ำมือถือ เราเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อกันฝน คิดว่ามันกันน้ำ สรุปโทรศัพท์เปียก พังตั้งแต่วันแรกเลยจ้า..

-รองเท้า ก่อนมาอ่านรีวิวไว้เยอะ มีแต่คนแนะนำสตั๊ดดอย เราก็เลยสั่งออนไลน์มา ราคาดีมาก ไม่ถึงร้อย แต่หลวมมาก เราใส่แล้วหลวมกว่าเบอร์ปกติ 1-2 เบอร์ได้เลย จากที่ใส่เดินมาพบว่า

ข้อดี คือ เกาะพื้นดีมาก แทบไม่ลื่นเลย, ทน, ลุยน้ำลุยโคลนได้สบาย, เลอะก็ล้างได้ และที่สำคัญคือ ไม่รู้สึกเสียดายเลย เพราะถ้าใส่รองเท้าปกติมา คงเสียดายรองเท้ามากๆ
ข้อเสีย คือ ด้วยความที่มันเป็นยาง มันเลยแอบกัดเท้า แก้ได้ด้วยการใส่ถุงเท้าหนาๆ เราใส่ 2 ชั้นเลย และมันทำเราเจ็บเล็บมากกก 2 วันแรกเราเดินไป ร้องเจ็บเล็บไป ไม่แน่ใจว่าเพราะมันหลวมหรือมันลื่น พอวันสุดท้ายเอาถุงเท้าแบบที่มีกันลื่นของชายหนุ่มมาใส่ทับถุงเท้าแบบปกติ เราก็ไม่เจ็บเล็บเลย
แล้วตอนที่อยู่ที่แค้มป์ เราก็ใส่สตั๊ดเดินไปมาเนี่ยแหละ ดีมากๆ เพราะพื้นแค้มป์บางจุดเป็นดินเละๆแฉะๆ ถ้าใส่รองเท้าแตะมาคงได้ลื่นแน่ๆ

อีกอย่างที่เขาใส่กันก็คือรองเท้าบูทยางแบบยาว อันนี้ก็ดีนะ ขาเราจะได้ไม่เลอะ

-ไม้ค้ำ/ไม้โพล ใช้ได้เสมอในทุกทริป ยิ่งเป็นที่นี่ยิ่งดีเลย ช่วยกันลื่น และเป็นหลักให้เรายึดเวลาเดินข้ามลำธาร (น้ำไหลแรง)

5.ระหว่างทางไปแค้มป์มีร้านขายน้ำ/ขนมด้วยนะ ประมาณ 2 หรือ 3 ร้าน

6.เนื่องจากตอนที่เราไปอากาศไม่ร้อนเลย น้ำที่เราพกไปเกือบๆ 3 ลิตร เหลือเยอะมากๆ

7.เราใส่ขาสั้นวันไปกับวันกลับ เพราะทางส่วนใหญ่เป็นทางโล่ง มีการลุยน้ำ/โคลน เป็นระยะ ส่วนวันที่สองเราเลือกใส่ขายาว เพราะว่าลุยเข้าป่า จะได้กันโดนอะไรบาด

8.กลับมาจากทริปแล้วซักผ้า พบว่ากางเกงและถุงเท้าที่ใส่ไปสกปรกมากกกก ซักจะ10รอบ ดินกับทรายก็ออกไม่หมดสักที เลยคิดว่าต้องเตรียมใจสละถุงเท้า 55555

9.ควรกินข้าว/คาร์โบไฮเดรตเยอะๆเวลาเดินป่า ไม่งั้นไม่มีแรงเดิน หรืออาจจะเป็นลมได้

10.ทางเดินไปแค้มป์ เดินไม่ยากมาก ไม่ค่อยชันเท่าไหร่ ไม่เหนื่อยมาก แต่เลอะมากๆ ตอนดูคลิปเวลาเขาเดินเลอะๆ ก็จะไปล้างเท้ากันที่ลำธารใสๆ แต่ตอนเราไปน้ำเป็นสีขุ่นหมดเลย แถมเวลาเดินลุยน้ำ หินก้อนเล็กๆก็ชอบเข้าไปในรองเท้า ต้องคอยเอาออก ระดับน้ำสูงสุดก็ประมาณต้นขาได้ น้ำแรงประมาณนึงเลย ต้องระวังเวลาเหยียบ อาจตกหลุมได้

ทางช่วงโคลนดูด ตรงจุดนึงที่เราไปดูดีๆมีทางหลบนะ ให้เดินขึ้นเขาไป ตอนเราเดินช่วงแรกเราเดินตรงโคลน เหยียบพลาดก็ลึกถึงเข่าได้เลย

11.ห้องน้ำที่แค้มป์มีหลายห้อง จริงๆเป็นส้วม แต่คนก็อาบน้ำกัน (ไม่มีไฟ ควรพกไฟฉายคาดหัวไป) หรือจะไปอาบน้ำที่ลำธารก็ได้ ซึ่งเราติดปัญหานิดหน่อยที่เวลาเราปวดฉี่ เราต้องรอเข้าห้องน้ำนานมาก เกือบครึ่งชั่วโมงได้ รอจนท้อ อยากแนะนำให้เขาแบ่งแยกห้องน้ำกับห้องส้วม (อาจเป็นเพราะเราไปช่วงหยุดยาว คนเลยเยอะมากๆ ถ้าช่วงปกติคงไม่เป็นแบบนี้)

12.แค้มป์กว้างขวางมาก ซึ่งถ้าอยู่ไกลหน่อยก็ต้องเดินไปห้องน้ำไกลหน่อย แล้วดินก็แฉะมาก คือพอไปเข้าห้องน้ำกว่าจะเดินถึงเต็นท์ขาก็เลอะ 555555 แต่รอบๆแค้มป์จะมีท่อน้ำ(น้ำจากน้ำตก) ไว้ให้ล้างของ เราก็กรอกใส่ขวดเก็บไว้ล้างเท้าก่อนเข้าเต้นท์

13.ทางเดินขึ้นยอดดอยมะม่วงชันประมาณนึงเลย ชันเกือบตลอด (เราเดินไปก็นึงถึงเขาหลวงสุโขทัยเลย) ช่วงแรกสองข้างทางจะเป็นป่า เดินจนถึงยอดหมื่นสองจะเจอวิวน้ำตกไกลๆ จะเห็นน้ำตกสองสายใหญ่ๆไหลบรรจบกัน ตรงนี้เป็นลานกว้างๆ พักถ่ายรูปกันได้เลย จากนั้นเดินไปยอดหมื่นห้า (ไกลมากกว่าจะถึงในความรู้สึก 55555) ทางชันเหมือนเดิม แต่จะเป็นทางเดินริมผา ตอนเราไปฟ้าปิดเลยแทบจะไม่เห็นวิวเลย มีบางจุดต้องไต่เชือก ปีนหินด้วย เดินขึ้นไปถึงข้างบนจะเจอเสาสัญญาณ กับแผงโซล่าเซลล์ เขาบอกเป็นจุดเดียวในป่านี้ที่มีสัญญาณ เราพักกินข้าวกันที่นี่ แล้วฝนตก+ลมแรง หนาวมาก มองก็ไม่เห็นวิวอะไรเลย พอกินเสร็จเลยตัดสินใจเดินลง ไม่ไปต่อ ขาลงมีแว๊ปนึง (แว๊ปจริงๆ)ที่หมอกหาย เห็นวิวข้างล่าง สวยอะ สวยเลย

14.เดินลงมาทางเดิมจะเจอจุดทางแยกไปน้ำตก ทางระหว่างนี้จะชันลง มีจุดที่เป็นดินสไลด์ด้วย ต้องระวัง เดินลงไปเรื่อยๆก็จะเห็นน้ำตกเป็นระยะๆ ตื่นเต้นน ลงไปจะเจอธารน้ำตก น้ำใสมากและแรงมาก สามารถนั่งแช่ได้ แล้วก็เดินต่อไปยังน้ำตก ก่อนจะถึงตัวน้ำตกจะเป็นก้อนหิน ปีนขึ้นไปก็เจอน้ำตกแล้ว บริเวณนี้พื้นที่ไม่ได้กว้างมาก

15.ได้เจอแล้วนะ “น้ำตกเปรโต๊ะลอซู” สวยมาก อลังการมากกกก อ่านรีวิว ดูคลิปมาเยอะ แต่พอเห็นของจริงตรงหน้าแล้วมันเทียบไม่ได้เลย ของจริงคือที่สุด ถ่ายรูป/วีดีโอแล้ว มันก็สู้ของจริงที่เห็นด้วยตาไม่ได้ ด้วยความที่ฝนตกตลอด น้ำที่ไหลมาจากบนเขาเลยเยอะมาก เราเลยได้เห็นน้ำตกแบบเต็มๆ น้ำเยอะๆ เห็นน้ำที่ไหลมาบรรจบกันเป็นรูปหัวใจเต็มๆ สวยยย ประทับใจ

16.อยู่ได้ไม่นาน เพราะคนเยอะมาก เราก็เดินกลับแค้มป์กัน ขากลับๆอีกทาง เป็นทางเลียบลำธาร ทางเดินไม่ยาก และไม่ชันมาก เดินไปเรื่อยๆ จะไปบรรจบกับลำธารที่คนมาอาบน้ำกัน

17.ระหว่างอยู่ในเต้นท์เราสังเกตเห็นขาตัวเองเป็นจุดแดงๆประมาณห้าจุด ก็คิดอยู่ว่ายุ่งกัดรึเปล่า พอกลับถึงบ้านพบว่าที่โคนขา (ขอบกางเกงในลงมา) เป็นจุดๆสีแดงเป็นปื้นเต็มไปหมด แล้วก็ค่อยๆบวม เจ็บช้ำๆ ไปหาหมอๆบอกว่าน่าจะเกิดจากตอนเดินข้ามลำธารแล้วแมลงไปติดในกางเกง.. หมอให้ยามาทาอาทิตย์กว่าหาย แต่ว่าทิ้งรอยดำไว้อยู่

18.สุดท้ายนี้ทริปนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าขาด ทีมสต๊าฟ พี่วุฒิ ตู่ อีฟ และเพื่อนร่วมทริปทุกคน ดูแลกันดีมาก คอยช่วยเหลือกัน ไปผจญภัยด้วยกัน สนุกมาก ขอบคุณนะคะ

แล้วก็ที่ขาดไม่ได้เลยคือพี่ลูกหาบ พี่เค้อ และทีม ดูแลพวกเราดีมากๆ เขาช่วยเหลือเกือบทุกอย่างเลย ตั้งแค้มป์ให้ ทำอาหาร นำทาง พอเจอทางที่ลื่นๆ เขาก็ตัดไม้มาถือเป็นราวไว้ให้ ต้องขอบคุณพี่มากๆเลย (ลืมบอกว่าถ้าไม่อยากแบกของเองก็จ้างลูกหาบได้นะ)

และที่ลืมไม่ได้ ขอบคุณคุณเขามาก ที่ไปด้วยกัน ปีที่แล้วไปดอยหลวงเชียงดาวที่ๆคุณเขาอยากไป มารอบนี้ตาเราบ้าง 55555 ขอบคุณเด้อ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ;')

ทริปหน้าจะไปที่ไหน จะเดินป่าอีกมั้ย จะมาเล่าให้ฟังนะคะ

(แต่ปีนี้ขอพักเดินป่าก่อน ทริปนี้หลักพัน เสียหายหลักหมื่น 555555)

ต่อไปจะเป็นรูปที่แคปจากวิดีโอมาอีกที อาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ดูเอาบรรยากาศได้นะคะ