สามวันสองคืน...เดินป่าแบบไม่ต้องคิด พิชิตเปรโต๊ะลอซู และยอดมะม่วงสามหมื่น
:::การเดินทาง:::เริ่มต้นจากชลบุรีด้วยรถตู้ จอดเปลี่ยนเป็นรถกระบะที่ดอกเสี้ยวรีสอร์ต อ.อุ้มผาง จ.ตาก จากนั้นนั่งรถกระบะไปที่จุดเริ่มเดินเท้าบ้านกุยเลอตอ อ.อุ้มผาง
:::ระยะทางเดิน&ระดับความชัน::: 19 กิโลเมตร ที่ระดับความชัน 1,495 เมตร
:::ฤดูการท่องเที่ยว::: หน้าฝน มิถุนายน ถึง ตุลาคม
:::ระยะเวลา::: 3 วัน 2 คืน
:::สิ่งที่ต้องเตรียม:::
Packing: 1.18 Kg.
Shelter&Sleep: 1.75 Kg.
Clothing: 2.12 Kg.
Water&Cooking: 0.62 Kg.
Hygiene&Repair: 0.13 Kg.
Electronics: 0.67 Kg.
Photo&Video: 4.37 Kg.
Total: 10.84 Kg. 
ส่วนรายละเอียดก็คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเลยครับ
https://www.lighterpack.com/r/qkf0h4
:::สรุปค่าใช้จ่าย:::
    3,700 บาท (ค่ารถตู้จากชลบุรี., ค่าจัดการทุกอย่าง, อาหาร 7 มื้อ) 
:::ผู้จัด::: “ซังกุงสูงสุดแห่งขุนเขา” https://www.facebook.com/thanaphubadin.thongpae
:::Youtube::: https://youtu.be/BKpa3hPVGz8

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆของพนักงานประจำ ผู้ที่รักกิจกรรมกลางแจ้ง การท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เดินป่า ช่วงที่ผ่านมาโควิดทำให้เราห่างป่า ทั้งๆที่ป่าก็ไม่ได้เคลื่อนที่หนีไปไหน สิริรวมระยะเวลาก็ปาเข้าไปเกือบจะสองปี แต่ถามว่าช่วงนี้ว่างมั้ย ก็คงไม่ แต่ก็เพราะคิดถึงป่ามาก ทำให้เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง
หมายของเราทริปนี้ คือ น้ำตกรูปหัวใจ(ปิตุ๊โกร หรือเปรโต๊ะลอซู) และยอดดอยมะม่วงสามหมื่น แห่งผืนป่าอุ้มผาง จ.ตาก และจากการยืนยันของกรมอุตุเรื่องพยากรณ์อากาศว่า ฝนจะตก 80-90% ในช่วงระหว่าง 24-26 มิถุนายน ประจวบเหมาะกับ ไถเฟสไปเจอของ”หาทริปเดินป่า” ทริปนี้พอดี และอีกอย่างที่สำคัญในการเลือกทริปนี้ ก็เพราะว่ามีรถตู้รับส่งที่ชลบุรี เป็นเรื่องที่ดีของเด็กยองอย่างเรา หลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลจาก Youtube เพื่อจะได้มุมถ่ายภาพใหม่สวยๆ และเพื่อเตรียมอุปกรณ์การเดินป่า และนี่ก็คือการสเก๊ารูปแบบนึงที่ผมจะทำเป็นประจำ
แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เพราะหลังจากทักและเข้ากลุ่มรวมกับสมาชิกคนอื่นได้ไปเพียงสองวัน คุณบอยผู้จัดทริปก็ทักกลับมาว่า “ถ้าย้ายมาเดือนกรกฎาคมสะดวกช่วงไหนครับ” เอาละสิ อาภัพจริงๆเลยเรา ความเศร้าเข้าครอบงำชั่วขณะ เดือนหน้าไม่สะดวกแน่ๆ ได้แต่ตอบไปว่าไม่สะดวก แล้วก็ได้แต่รอและลุ้น ใช้เวลารอสองวันคุณบอยคนเก่า แต่เพิ่มเติมคือคำบอกเล่าใหม่ และสรุปว่าพวกเราได้ “ไป” เย้เย้เย้ ขอบคุณมากเลยครับคุณบอย

;)23 มิถุนายน 2022
รถตู้มารับเวลา 17:30 ตามที่ได้นัดหมาย ผมเลือกนั่งหลังสุด โดยที่ไม่ได้ฟังคำทัดทานจากคุณบอย ว่าโค้งที่ตากมันเยอะ ไม่เมารถเหรอ นั่งไปได้ซักพักผมก็หลับ และรถตู้ก็ไปจอดรวมตัวอีกทีที่บิ๊กซีสะพานควาย ที่นี่เปรียบเหมือนชุมทางคนเดินป่าเลยก็ว่าได้ เราจะเห็นคนแบกเป้เดินไปเดินมาเยอะมาก และที่นี่ก็มาเจอสหายเกมส์ เกมส์คือเด็กเดินป่า เดินป่าบ่อยมากจนต้องขอไฟล์ภาพมาแต่งภาพเล่น และได้อ่านรีวิวของเกมส์เป็นประจำ เราพบกันเพียงครั้งดียวถ้วนในทริปล่าสุดของผม ทักทายกันเสร็จ ก็แยกย้ายขึ้นรถ และหลังจากนี้ นั่งรถหลับตาปี๋ยาวไป
;)24 มิถุนายน 2022
รู้สึกตัวตื่นเกือบตลอดทาง เพราะโค้งเยอะจริง และแล้วเราก็มาถึงจุดเปลี่ยนรถ ที่ “ดอกเสี้ยวรีสอร์ท” ล้างหน้าล้างตา หาอะไรใส่ท้องก็เริ่มเดินทางด้วยรถกระบะ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ก็มาถึงจุดเริ่มเดินที่บ้านกุยเลอตอ แต่พวกเราส่วนใหญ่ก็ถูกตัดกำลังด้วยอาการเมื่อย เนื่องจากนั่งนานไปหน่อย หลังจากจัดการกับสัมภาระและเป้ขึ้นหลังแล้ว เราก็พร้อมจะออกเดิน เวลาประมาณสิบโมง ซึ่งขณะนี้แดดดี ไม่เหมือนกับที่คุยกันไว้ว่า ฝนจะตก 80-90% เลย ดีที่เส้นทางไปจุดกางเต็นท์ เดินง่าย ช่วงแรกปิ้งย่างนิดหน่อย 

:::แดดใสๆ หาได้มีเค้าฝนเลยแม้แต่น้อย:::

:::น้องหมาเดินไปถึงแคมป์กับเราเลย:::
หลังจากนั้นก็จะเข้าป่า ทางเดินมีน้ำไหลตลอดทาง ความร้อนจึงได้ลดระดับลงใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ถึงจุดกางเต็นท์ แต่ยังปักเสากางไม่ได้ ต้องรอคุณบอยมาแจ้งจุด ระหว่างรอก็กินข้าวกันก่อน กินเสร็จ กางเต็นท์ต่อ แล้วก็เตรียมตัวรอไปดูน้ำตก 
เราออกเดินทางไปดูน้ำตกกันตอนบ่ายสอง แดดหมดไม่มีแล้ว แต่ฝนก็ยังไม่มา นั่นหมายความว่าน้ำที่น้ำตกน่าจะน้อย และจากคำบอกเล่าของลูกหาบ ก็ยืนยันว่าฝนไม่ได้ตกมาสองสามวันแล้ว เส้นทางเดินช่วงแรกเปิดตัวกันอย่างชัน โดยมีการขุดดินเป็นขั้นบันไดไว้ เพื่อช่วยให้เดินง่ายขึ้น หมดช่วงนี้ก็ยังคงชันกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างทางจะตัดลำน้ำเป็นระยะๆ ต้องระมัดระวังมาก ถึงแม้จะระวังแต่ผมก็ลื่นไปหลายรอบเหมือนกัน เดินวนลงซ้ายข้ามลำธาร หลังจากนั้น เดินตัดขึ้นไปยอดเขาอีกครั้ง ได้ยินเสียงน้ำตกแรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น และแล้วก็มาถึงน้ำตกรูปหัวใจ หุ่นอาจจะไม่เฟิร์มมากนัก แต่ก็รู้ได้ว่าทรงดี หากมีน้ำมาเพิ่มเติมเสริมแต่งให้หนาจนเห็นเส้นสายลายน้ำ รับรองได้เลยว่า ถ่ายกันมัน ลั่นชัตเตอร์ไม่หยุดแน่เลย วางกล้องกับขาตั้งกล้องไว้ก่อน แล้วเดินถ่ายหาจุดสวยๆด้วยมือถือ เก็บมาหลายจุด แต่มาหยุดที่ใบไม้ใหญ่หน้าน้ำตก ชอบใบนี้ที่สุด กลับไปเอากล้องกับขาตั้งมา สรุปว่าไม่มีพื้นที่สำหรับกางขาตั้ง เลยต้องถ่ายแบบถือถ่าย ก็พอใจกับภาพที่ได้นะ 

:::ภาพนี้ได้มาจากมือถือ เพราะ SD Card ใบแรกเสีย ภาพล๊อตแรกเลยอัตรธานหายไปด้วย:::
เดินกลับแคมป์อย่างไว พอเห็นอาหารเย็น เท่านั้นแหละรีบอาบน้ำอย่างไว เพราะเป็นอะไรที่ “อะเมซซิ่งมาก” สำหรับอาหารกลางป่า นอนหลับพุงกาง ท่ามกลางเสียงเสวนาของเต็นท์ข้างเคียง

;)25 มิถุนายน 2022
ตื่นมาเช้านี้ ยังสดชื่นอยู่ มีปวดไหล่นิดหน่อยจากการสะพายกระเป๋าเมื่อวาน หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน เช้านี้จัดอาหารเบาๆ เพราะเราจะเดินกันไปเรื่อยๆที่ “ยอดดอยมะม่วงสามหมื่น” จัดเตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพ เครื่องกรองน้ำ และอาหารมื้อเที่ยงลงเป้กระเป๋า พวกเราก็เริ่มเดินออกจากแคมป์เวลา 09:00 น. ทางเดินช่วงแรกจะเป็นป่าปิด ดันเนินขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นถึงแม้จะมีแดด แต่ก็ยังเดินสบายอยู่ บางช่วงของป่าก็สามารถเห็นน้ำตกรูปหัวใจด้วย ลูกหาบนามส่าจอลูคือ สะกิดบอกว่าเราต้องเติมน้ำแล้ว เพราะจุดนี้คือจุดสุดท้ายแล้วที่มีแหล่งเติมน้ำ พอหลุดออกจากป่าทึบ ก็จะเดินเลาะตามไหล่เขา คือซ้ายมือเป็นเขา ส่วนทางขวาจะมีลักษณะเหมือหน้าผา แนะนำควรเซถลาทางด้านซ้ายมือนะ ต่อจากนั้นก็เริ่มปีนขึ้น บรรยากาศช่วงนี้สวยมาก เริ่มมีหมอกมาบ้างแล้ว เดินต่ออีกหน่อยก็ถึง แดดเริ่มลง หมอกเริ่มจาง เราก็มาถึงจุดพัก 15000 นั่งชม จุดนี้เป็นอีกจุดที่เห็นน้ำตกปิตุโกร ก็ชักภาพกันสนุกสนานเลย แถมมีหมอกกลับมาอีกครั้ง 

:::จะเห็นน้ำตกรูปหัวใจอยู่ด้านซ้ายมือ:::
ต่อจากนี้ก็ดันเนินกันต่อไปยังจุดเช็คอิน เพราะมีสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือข่าย ซึ่งเป็นจุดที่เราพักกินข้าว ถึงที่นี่แดดเริ่มดุขึ้นเรื่อยๆ เลยจำเป็นต้องลดน้ำหนักของที่แบกขึ้นไป น้ำที่พกมาเหลือประมาณครึ่งลิตร ซึ่งคิดตอนนั้นว่าน่าจะพอกับระยะที่เหลือ ระหว่างนั่งกินข้าว ก็มีแดดแรง สลับกับหมอกบาง แต่รู้สึกเลยว่าแดดร้อนมาก อีกอย่างคือ ต่อจากจุดนี้จะไม่มีต้นไม้ใหญ่ จนกว่าเราจะเดินถึงหมายสามหมื่น 

:::แผงโซล่าเซลที่ใช้กับเสากระจายสัณญาณโทรศัพย์:::
เริ่มดันยอดกันอีกครั้ง แดดก็เริ่มทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ กล้องกับเลนส์ที่ติดมา เริ่มรู้สึกว่านั่นคือภาระ คงจะดีหากในนาทีนั้นมีร่มติดไปด้วย 

ยิ่งสูง ยิ่งร้อน การเดินดันเนินยิ่งลำบาก และชันขึ้นเรื่อย เดินไปได้ซักพัก ต้องหาพงหญ้าเพื่อทอดตัวนอนหลบแดด เพราะยิ่งสูง ยิ่งไม่มีต้นไม้ใหญ่ ทุกกำลังใจที่เดินสวนลงไป ทำให้ขยับเดินได้ทุกครั้ง แต่ก็เกือบจะถอดใจหยุดเดิน เพราะน้ำได้หมดลงแล้ว ของที่แบกขึ้นมาก็ดูจะหนักมากขึ้นกว่าตอนเริ่มเดิน และแล้วก็มาถึงยอดสามหมื่นในที่สุด ใช้เวลาเดินประมาณสี่ชั่วโมง แต่เมื่อได้มาถึงยอด ที่ที่มีเพียงกองหิน แล้วป้ายไม้เก่าๆที่บอกว่า นี่คือจุดสูงสุด และวิวตรงหน้า บางคนอาจจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรเมื่อเทียบกับความลำบากที่ต้องพาตัวเองเดินขึ้นมา แต่คำว่าผู้พิชิตนั้นทำให้รู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่พิชิตยอดดอยมะม่วง30000 หากแต่เป็นการพิชิตใจตัวเองที่ไม่ยอมแพ้ ต่อแสงแดด ความสูงชัน และสังขารตัวเอง

:::หกผู้พิชิต โดยมีผมขึ้นถึงยอดเป็นคนลำดับสุดท้าย:::
ขากลับลงเนินมีฝนปนหมอก ทำให้บรรยากาศดูดี สรุปมาที่เดียวได้สามฤดู (ร้อน ฝน หนาว) ขากลับนี้แหละได้ภาพดีๆในจินตนาการมาหลายใบเลย เกาะติดนายเกมส์ไว้ เพื่อถ่ายภาพ การถ่ายภาพสายแลนด์จำเป็นต้องมีตัวแบบมาเปรียบเทียบขนาดกับความอลังการของธรรมชาติด้วย ไม่งั้นจะดูเวิ้งว้างเอามากๆ 

:::เดินไวจริงๆเลยนาย:::

:::สายหมอกเพิ่มบรรยากาศไก้ดี:::

:::มุมนี้จริงมีคนมากองรวมรอถ่ายภาพอยู่หลายคน จำเป็นต้องลบคนออกไม่ต่ำกว่าสามสี่คน:::

:::ช่วงนี้น่าจะถ่ายไปหลายใบ เพื่อจะได้แอคชั่นตามที่ต้องการ:::

:::รูปนี้ได้อารมณ์ป่าโบราณ:::
เดินตามอย่างไว ทั้งๆที่นายบอกจะเดินเรื่อยๆ เพราะกลัวจะล้ม ขาลงไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆเลย แต่ยังไงก็อย่าลืมผูกเชือกรองเท้ารัดข้อเท้าให้แน่นๆด้วย ไม่งั้นอาจจะมีเล็บดำกันได้ ถึงแคมป์ก็รวมตัวกันไปอาบน้ำที่น้ำตกไม่มีชื่อแถวแคมป์ เก็บภาพมาด้วยความยากลำบาก จำไม่ได้ว่าซ้อนภาพไปกี่ใบ แต่ไม่น่าจะต่ำกว่าสี่ใบ 

จบปิดท้ายของวันด้วย อาหารเย็นแสนหรูหราตามสไตล์ แล้วก็นอนได้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์

;)26 มิถุนายน 2022
ตื่นแต่เช้าตรู่ ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บเต็นท์ใช้เวลาไม่นาน ก็มานั่งดมชมบรรยากาศวันสุดท้ายของที่นี่ บรรยากาศดีจริงๆ หมอกลงมาให้ชื่นชมแต่เช้า ประมาณแปดโมงเช้าก็เริ่มเดินลงเขา เพื่อรอรถมารับกลับไปยังดอกเสี้ยวรีสอร์ต ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆก็มาถึง เป็นอันเสร็จสิ้นทริปนี้

การเดินทางทริปนี้ เพื่อพิชิตยอดมะม่วงสามหมื่น และดื่มด่ำความงามของน้ำตกปิตุ๊โกร ถึงแม้จะไม่สวยสมบูรณ์ แต่เธอก็คือหัวใจแห่งป่าอุ้มผาง ผมเก็บความประทับใจนี้ไว้เป็นภาพถ่าย เพื่อไว้เล่าให้เพื่อนๆ ที่ไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัส ได้รับรู้เหมือนที่ผมรู้สึก ทริปแรกในรอบปีครึ่ง ก็จะเล่าเยอะหน่อย เหมือนอั้น ก็มันสนุกอะครับ 

#ความสุขอีกอย่างของการเดินป่า คือได้พบเจอเพื่อนแนวเดียวกัน และผมมั่นใจว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะธรรมชาติได้คัดสรรพวกเรามาแล้ว
#เพราะความไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้เราได้เจอความสุขในแบบที่คิดไม่ถึง 
#แด่มิตรภาพระหว่างการเดินทางครั้งนี้