[เที่ยวไทย] ม่อนจอง เชียงใหม่ เดินป่าแบบงูๆปลาๆ : 21-22 ธันวาคม 2019

รีวิวนี้ขอพูดจากมุมมองและประสบการณ์ที่เราไปมา มีข้อแนะนำสำหรับมือใหม่ในการเดินป่า ผิดถูกยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ


เกริ่น :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
                     
                      ไปม่อนจองครั้งนี้ เราไปกับเพจเที่ยว เพื่อนกับพี่ที่จัดชอบไปเดินป่า ไปมาหลายที่ จนจัดทริปนี้ขึ้นมา รีวิวนี้เลยอาจจะไม่ค่อยละเอียดมาก เพราะเป็นมุมของลูกทริปอย่างเรา ว่าแล้วก็เริ่มเลย

การเตรียมตัวสำหรับมือใหม่ (เป็นมุมของเรานะ ถ้าผิดก็ขอโทษด้วยนะคะ) :

ร่างกาย - จริงๆก็อยากจะให้ออกกำลังกายมาก่อน เช่น วิ่ง กระโดดเชือก ว่ายน้ำ เดินขึ้น-ลงบันได อะไรก็ได้ที่เป็นคาร์ดิโอ เพราะว่าเราต้องเดินระยะไกล ขึ้น-ลงเนิน ถ้าออกกำลังมาก่อนเราจะได้ไม่เหนื่อยง่าย แต่ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายเลย พยายามฝืนตัวเอง ก่อนไปม่อนจอง 2 เดือน เราไปวิ่งอยู่สามอาทิตย์ แล้วก็หยุดยาวๆจนถึงวันไป คิดว่าไหวแหละ แล้วก็อย่าโหมออกกำลังกายเกินไป ก่อนวิ่งสักอาทิตย์พักร่างกายสักหน่อยก็ดีนะ

เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์เสริม – ถ้าใครเป็นสายเดินป่า หรือมีงบประมาณที่มากหน่อย ก็ลงทุนซื้ออุปกรณ์ต่างๆได้เลยตามกำลังของตัวเอง แต่สำหรับเราๆยังคิดว่ายังไม่ได้จะมาสายนี้ เลยค่อยๆซื้อทีละอย่าง เริ่มจากของที่จำเป็น

                      เสื้อผ้า เราใส่เสื้อยืด, กางเกงยีนที่ยืดได้(ใส่สบายสำหรับเรา), เสื้อคลุมกันฝุ่น(แต่สุดท้ายก็ถอดออก เพราะร้อน) ก็คือใส่อะไรก็ได้ที่สบาย ทะมัดทะแมงในการเดินป่า เตรียมปลอกแขนไปด้วยถ้าแขนสั้น (ไว้กันแดด + กิ่งไม้เกี่ยว), หมวก, ผ้าปิดจมูก หรือผ้าบัฟ (ฝุ่นเยอะมาก ทั้งตอนนั่งรถ 4วิล และตอนเดิน)

                      รองเท้า เราไปหน้าหนาว พื้นไม่ลื่นมาก เท่าที่ดูเห็นคนใส่รองเท้าเกือบทุกแบบ ตั้งแต่ แตะ รัดส้น(เปิดนิ้ว) ผ้าใบธรรมดา จีนแดง รองเท้าเดินป่าจริงจัง มีทุกแบบ ลูกหาบยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ใส่รองเท้าเลย ส่วนตัวเราซื้อรองเท้าเดินป่าของดี_ลอน ราคาไม่แรง เลือกตามงบของเรา ไปเดินมาก็คือใช้ได้  จริงๆถ้ามีงบ แล้วคิดว่าจะเดินป่าเรื่อยๆ อยากให้ซื้อรองเท้าที่มีดอกจะได้เกาะพื้นหน่อย ตัดเล็บเท้าก่อนด้วยนะ

                      อุปกรณ์เสริม ไม้ค้ำ ไม่มีไม่เป็นไร แต่มีก็จะดีมาก เราซื้อมาแต่ไม่เอาไป เห็นในไอจีเขาถือไม้ไผ่ เราก็เออ ไปเอาที่นู้นดีกว่า สรุปวันที่เราไปคนเยอะ ไม้หมดจ้า ก็เลยเดินตัวเปล่า ถามว่าเดินได้มั้ย ก็เดินได้นะ แต่ถ้ามีไม้จะมั่นใจกว่าว่าไม่ล้มแน่ๆ มีไม้ประคอง ยิ่งถ้าใครแบกกระเป๋าไปเองมีไม้จะช่วยได้มาก, น้ำดื่ม ควรพกติดตัวไปด้วย จำเป็นมาก เดินแล้วจะกระหาย ควรจิบน้ำเป็นพักๆ

ประมาณนี้สำหรับการเดินป่า นอกจากนี้จะเป็นของที่พกไปใส่ ไปใช้ข้างบน เราไปหน้าหนาวของก็จะเยอะหน่อย เพราะกลัวหนาว

                      เสื้อผ้ากางเกงไว้เปลี่ยนตอนขึ้นไปถึง, เสื้อกันหนาว กันลม, ถุงมือกันหนาว ใครขี้หนาวก็ใส่เถอะ ใครว่าเว่อร์ก็ว่าไป เราอุ่นก็พอ, หมวกไหมพรม กันหนาวได้ เป็นพร็อพก็ดี นอกนั้นก็แล้วแต่ความขี้หนาวของแต่ละคน

                      รองเท้าแตะ จะได้ถอดง่ายเวลาอยู่บนนั้น แต่เราใส่รองเท้าเดินป่าตลอด เพราะเดินมั่นใจกว่า

                      ของต่างๆ เช่น ทิชชู่เปียก ไว้เช็ดตัว ข้างบนไม่มีห้องอาบน้ำ จริงๆเมื่อก่อนคิดว่าตายแน่ไม่ได้อาบน้ำ เดินป่าตั้งหลายชั่วโมง ตัวเปียก เหงื่อออกขนาดนี้ เราทนไม่ได้แน่ๆ แต่จากที่ไปภูบักไดช่วงกุมภามา เลยรู้ว่าพอไปถึงข้างบน เจอลม+ความเย็น ตัวมันก็หายเหนียว หายเปียกไปเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรมีทิชชู่เปียกไว้เช็ดตัวสักหน่อย เพราะว่าเราเช็ดส่วนที่อยู่นอกเสื้อ เช็ดออกมาเป็นสีน้ำตาลเลย (โดนฝุ่นดินเยอะตอนนั่งรถ+เดิน), ถุงนอน เต็นท์ มีส่วนตัวก็พกไป ถ้าใครไม่มี เขามีให้ยืม

                      อาหาร ข้างบนไม่มีขาย เราต้องพกขึ้นไปเอง ถ้าสำเร็จรูปพร้อมทานก็ง่ายหน่อย หรือใครอยากได้บรรยากาศ ก็ขนอุปกรณ์ขึ้นมาทำข้างบนนี้เลยก็ได้

                      จิตใจ สิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าใจเราพร้อม ทุกอย่างก็พร้อม

เพิ่มเติม :

                        -ไปม่อนจอง ต้องโทรจองก่อนนะ แล้วก็จะมีช่วงเปิด-ปิด ส่วนนี้เราไม่ได้จัดการเลยไม่มีข้อมูล 

                        -ข้างบนมีห้องน้ำให้ขับถ่าย ตอนแรกตีจินตนาการไว้ว่าแย่แน่ๆ เข้าไม่ไหวชัวร์ กะจะไปเข้าป่าเอา แต่เอาเข้าจริงไม่ได้แย่ขนาดนั้น ห้องน้ำจะเป็นผ้าใบขึงสี่เหลี่ยม แล้วมีส้วมซึมโป๊ะไว้ มีน้ำให้ราด ถ้าน้ำหมดก็ยกถังออกมาเติมน้ำข้างนอก มีถังขยะให้ คือทำธุระได้ แต่อาจจะแฉะหน่อยๆ ระวังลื่น เท่าที่สำรวจมา ห้องน้ำมีอยู่สองจุด คือจุดกางเต็นท์บน และล่าง ที่ละสองห้อง ถ้าใครอยู่จุดกางเต็นท์ไหนก็เข้าตรงนั้นเลย อยากบอกว่าจริงๆตัวห้องน้ำจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นกับตัวผู้ใช้นี่แหละ ถ้าทุกคนใช้ดีๆมันก็สะอาด น่าใช้ ถ้าราดหมด ทิ้งขยะลงที่ ต่อแถวใจเย็น มันก็ไม่มีอะไรแย่เลย

                        -สัมภาระแบกขึ้นไม่ไหวก็จ้างลูกหาบได้นะ ไป-กลับ กิโลละ 30 บาท จากประสบการณ์ที่ไปภูบักไดมา เราแบกกระเป๋า 8 กิโลเอง คือเหนื่อยมากๆ เราไม่ไหว แค่เดินเฉยๆเราก็เหนื่อยแล้ว ครั้งนี้ขอจ้างลูกหาบเถอะ ลูกหาบทุกคนเก่งมาก อึดมาก เขาแบกคนละ 30-50 กิโล โดยเอาสัมภาระใส่กระบุงใหญ่ๆ แล้วมีเชือกพาดหัวขนขึ้นไป มีทั้งผู้หญิงและชาย อายุเยอะๆก็มี ซึ่งนี่เป็นอาชีพของเขา ถ้าเราเจอเขาระหว่างทาง เรามีน้ำมากพอแบ่งให้เขาหน่อยก็ได้นะ แล้วก็พกอาหารไปเผื่อลูกหาบของเราด้วย ไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วลูกหาบต้องพกอาหารไปเองมั้ย แต่ลูกหาบกลุ่มเราไม่ได้พกไป เราก็แบ่งให้เขา นอกจากนี้ลูกหาบยังช่วยหาน้ำ เอาจานไปล้าง จุดไฟให้ คือให้เขาช่วยเราได้

                        -ที่ศูนย์มีที่อาบน้ำให้ฟรี หรือเสียเงินก็มี (10 บาท) มีร้านข้าวด้วย

                        -ต้องนั่งรถ 4วิลขึ้นไปก่อน รู้สึกต้องติดต่อไปก่อน จริงๆต้องเรียกว่ายืนมากกว่า เพราะว่ารถเหวี่ยงแรงมาก มือจับแน่นสุด แขนเกร็ง ยืนแล้วก็มองข้างหน้าด้วย บางทีมีกิ่งไม้โผล่มาก็หลบนะ 

ต่อในความคิดเห็นนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่