JJNY : สหรัฐจับตาพัฒนาการหลังเลือกตั้งไทย│ทีมทนายเมียหลวงช่วยปชช.│‘บก.ลายจุด’แนะปธ.สภาส่งศาล│จับตาเอลนีโญเขย่าตลาดหุ้น

สหรัฐจับตาพัฒนาการหลังเลือกตั้งไทยใกล้ชิด ชี้น่าเป็นห่วง หนุนเจตจำนงคนไทย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4085413

สหรัฐจับตาพัฒนาการหลังเลือกตั้งไทยใกล้ชิด ชี้น่าเป็นห่วง หนุนเจตจำนงคนไทย
 
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการในระบบกฎหมายไทย โดยนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ หลังมีการร้องเรียนต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้ที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ต่อศาลรัฐธรรมนูญถึง 2 คดี
 
รัฐสภาของไทยเตรียมที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ซึ่งยังคงต้องจับตาดูว่า พิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หลังจากที่เขาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอในโหวตเมื่อสัปดาห์ก่อน
 
มิลเลอร์ถูกถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในไทยระหว่างการแถลงข่าวที่มีการจัดขึ้นเป็นประจำ โดยเขากล่าวว่า วอชิงตันไม่ได้มีผลเลือกตั้งเราต้องการจะเห็นในไทย แต่เราสนับสนุนกระบวนการที่สะท้อนถึงเจตจำนงของคนไทย
 
เรากำลังจับตาดูพัฒนาการหลังการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงพัฒนาการล่าสุดในระบบกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง” มิลเลอร์กล่าว
 
กรณีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญทำให้เกิดความเป็นกังวลว่า ศาลอาจตัดสิทธิ์พิธาหรือยุบพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ในปี 2563
 
เมื่อถูกถามถึงความเห็นของความเป็นไปได้ดังกล่าว มิเลอร์กล่าวว่า เขาจะไม่คาดเดาเกี่ยวกับวิธีที่สหรัฐจะตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ย้ำว่า พัฒนาการล่าสุดเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ได้พูดถึงพัฒนาการหลังการเลือกตั้งของไทยมากนัก โดยไทยถือเป็นพันธมิตรทางทหารที่ยาวนานในภูมิภาคเอเชีย ท่ามกลางสถานการณ์ที่สหรัฐกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของจีน




ทีมทนายเมียหลวงช่วยประชาชน ใครถูก ส.ว.ฟ้องคดีปมวิจารณ์การเมือง ยินดีให้สอบถามฟรี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4085315

ทีมทนายเมียหลวงพร้อมช่วยประชาชน ใครถูก ส.ว.ฟ้องคดีปมวิจารณ์ทางการเมือง ยินดีให้สอบถามฟรี
 
จากกรณีที่โลกโซเชียลโพสต์ภาพและข้อความโจมตีและแบนธุรกิจของบรรดา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รวมถึงคนในครอบครัวของ ส.ว.ที่ลงคะแนนไม่เห็นชอบและงดออกเสียงให้กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เบื้องต้นศาลอาญารับฟ้องคดีที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ เถื่อนวิไล และ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ไว้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำเรียบร้อยแล้ว นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 11 และ 25 กันยายนนั้น

ประเด็นนี้ นอกจาก นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ จะแสดงเจตจำนงพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่จะถูก ส.ว.ฟ้องคดีแล้ว ยังมี นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือ ทนายพัฒน์ ซึ่งเป็นทนายความที่ดูแลคดีของ จูน เพ็ญชุลี ภรรยา หนุ่ม กะลา นักร้องดัง ได้ประกาศพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยเช่นกัน
 
ทนายพัฒน์ระบุว่า ถ้าประชาชนไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ ส.ว.อันทรงเกียรติได้ ประเทศนี้จะอยู่อย่างไร ถ้าพวกท่านรับไม่ได้ งั้นต้องลาออกครับ
 
ประชาชนท่านใดที่ถูก ส.ว.ผู้ทรงเกียรติฟ้องร้อง ที่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง ติดต่อสอบถามได้ฟรีนะครับ ยินดีให้บริการช่วยเหลือ โดยทีมทนายเมียหลวง

https://www.facebook.com/Tanaichaipat/posts/636971321894057
 

 
‘บก.ลายจุด’ แนะประธานสภา ส่งศาล รธน.ตีความ ปม ส.ว.ไม่โหวตพิธา ขัด ม.3 หรือไม่-นัดม็อบ 23 ก.ค.นี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4085405

‘บก.ลายจุด’ แนะประธานสภาส่งศาล รธน.ตีความปม ส.ว.ไม่โหวตพิธาขัดมาตรา 3 หรือไม่ พร้อมนัดม็อบรวมพล 23 ก.ค.นี้
 
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กใจความว่า 
 
ถึงพี่น้องประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย และตัวแทนพรรคการเมืองในสภา
 
ผมขออนุญาตชี้ประเด็นทางหลักการเพื่อให้พวกท่านเข้าใจสถานการณ์และเฝ้าระวังการกระทำของคณะบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ดำรงตำแหน่ง ส.ว.
 
– การกระทำของ ส.ว. วันที่ 13 ก.ค. ที่ไปโหวดไม่เห็นชอบกับรายชื่อที่สภาผู้แทนเสนอขึ้นมานั้น เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ว่าด้วยเรื่องอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
 
– หน้าที่ของ ส.ว.ในคำถามพ่วงท้าย มีเพียงแค่การรับรองผู้ที่ถูกเสนอชื่อมาจากสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น เพราะ ส.ส.ได้รับฉันทมติมาจากประชาชน แต่ ส.ว.ไม่ใช่ สิ่งนี้บรรดา ส.ว.หลายคนได้อธิบายไว้ตั้งแต่ต่อเลือกประยุทธ์เป็นนายกฯปี’62 ว่าตนเองไม่มีสิทธิทำอย่างอื่นได้เลย นอกจากรับรองเสียงข้างมากที่เสนอขึ้นมา ใครได้เสียงมากสุดก็เลือกคนนั้น ต่อให้เป็นใครก็ตามที เพราะ ส.ว.ไม่มีสิทธิใช้อำนาจเหนือ ส.ส.ที่ประชาชนเลือกมา
 
– การที่ ส.ว.อ้างสถานะของตนเองจากคำถามพ่วงท้ายในการลงประชามติ เมื่ออำนาจที่มาจากคำถามพ่วงท้ายเกิดขัดแย้งกับอำนาจประชาชนที่ไปเลือกตั้ง คำถามคือ ระหว่างคำถามพ่วงท้ายฯ กับ รธน.มาตรา 3 ใครมีศักดิ์ที่สูงกว่ากัน คำตอบคือ รธน. ไม่มีหรอกครับที่ รธน.จะขัดต่อคำถามพ่วงท้าย เป็นไปไม่ได้
 
– ส.ว.ชุดนี้มีที่มาจากการเลือกของ คสช. ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและได้สลายตัวไปแล้วหลังการเลือกตั้งปี’62 แต่ ส.ว.ที่ คสช.เลือกมายังมีชีวิตอยู่ ต่อคำถามที่ว่า ส.ว.ชุดนี้มีความชอบธรรมในการดำรงอยู่ในขณะที่ประเทศเข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ และหากมีความชอบธรรมอยู่บ้าง แต่จะมีความชอบธรรมถึงกับออกเสียงขัดขวางฉันทามติที่มาจากสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไร ดังนั้น ส.ว.จึงมีสถานะเพียงสิ่งตกค้างจากยุคเผด็จการ คสช. ไม่สามารถแสดงบทบาทเช่นเดียวกับ คสช.ในยุคที่เรืองอำนาจ เป็นแต่เพียงตรายางที่รับรองเสียงจากสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น

– เมื่อการกระทำดังกล่าวของคณะ ส.ว.ในวันที่ 13 ก.ค.66 ที่ผ่านมาขัดแย้งต่อเจตจำนงและสาระสำคัญในหลักประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ จึงเห็นสมควรให้ประธานรัฐสภานำเรื่องนี้ร้องต่อศาล รธน.เพื่อวินิจฉัยและสั่งให้ ส.ว.กลุ่มดังกล่าวยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยทันที
 
สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยมายืนปรากฏตัวพร้อมรองเท้าผ้าใบในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.นี้ ภายในกิจกรรม #พร้อม ส่วนสถานที่จะแจ้งภายหลัง
 
ข้างบนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ของผมต่อสื่อหลายสำนัก หากต้องการรับชมรายละเอียดสามารถดูได้จาก Link ใน Comment ด้านล่าง

https://www.facebook.com/nuling/posts/pfbid0inEQysi9qPhcDxqHUtGswSZvfGqyi8d18GR6McVyGSj4nDfWFcVrQexas5n1FQdsl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่