อีกช่องทางยื่น ศาลรัฐธรรมนูญ กรณี หุ้นสื่อ พิธา (ถ้า กกต ยังไม่ส่งให้ศาลพิจารณา)

กระทู้คำถาม
จากเฟสบุ๊คท่าน ชูชาติ ศรีแสง
--------------—------------------
.....กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ๔๒,๐๐๐ หุ้นจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๘(๓) หรือไม่ และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธาสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๑ (๖) หรือไม่ 
.....มีผู้ยื่นหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการถือหุ้นของนายพิธาให้ กกต. ตลอดมาจนถึงบัดนี้เป็นเวลาเกือบ ๒ เดือนแล้ว แต่ กกต. ก็ยังไม่ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ 
.....ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลย กกต.เพียงขอหลักฐานหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) กับหลักฐานการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของพิธาคือแบบ บมจ. ๐๐๖ อันเป็นเอกสารราชการและเป็นเอกสารมหาชนที่ได้รับการสันนิษฐานว่าถูกต้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๒๗ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งใช้เวลาอย่างมากที่สุดน่าจะไม่เกิน ๕ วัน เมื่อได้มาแล้วก็สามารถส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ 
.....โดยไม่ต้องคำนึงถึงข้ออ้างต่างๆ ที่นายพิธาแถลงต่อสื่อมวลชน เพราะเป็นเรื่องที่นายพิธาต้องไปให้การสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาวินิจฉัย
.
.....เมื่อ กกต. ยังไม่ส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ส.ส.ก็ควรต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา มีสิทธิยื่นคำร้องต่อประธานสภาว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๖) เมื่อประธานสภาได้รับคำร้องให้ส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของนายพิธาสิ้นสุดลงหรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่