JJNY : เครดิตบูโร​ เปิดหนี้เสีย│กังวล! กมธ.ความมั่นคงฯ เรียก “ทวี”│ลุ้นพรุ่งนี้! "ศาลรธน." รับ-ไม่รับ│สภาดูมาตัดรายได้

เครดิตบูโร​ เปิดหนี้เสียอยู่ที่ประมาณ​ 1.2 ล้านล้านบาท
https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/237103


เครดิตบูโร​ เปิดตัวเลขหนี้ครัวเรือน 30 ล้านคน ก้อนหนี้ 13.6 ล้านล้านบาท หนี้เสียอยู่ที่ประมาณ​ 1.2 ล้านล้านบาท

นายสุรพล โอภาสเสถียร  เครดิตบูโร​ โพสต์ เฟซบุ๊ก Surapol Opasatien ถึง รายงานภาระหนี้สินภาคครัวเรือนจากสถาบันการเงิน​ 157 แห่งที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโร​ ครอบคลุมประชาชนคนไทยและผู้มีถิ่นฐานในประเทศไทยที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงินสมาชิก​ ซึ่งปัจจุบัน​ครอบคลุมประมาณกว่า​ 30 ล้านคนจากฐานข้อมูล​สถิติที่ไม่มีตัวตนในไตรมาสที่​ 3 ปี​ 2567​ มีรายละเอียดดังนี้

หนี้ครัวเรือนในระบบเครดิตบูโร​อยู่ที่​ 13.6 ล้านล้านบาท (หนี้ครัวเรือนไทยทั้งหมด​ 16.3ล้านล้านบาท) อัตราการเติบโต​ 0.5% yoy​ ถ้าเป็น​ QoQ จะ​ -​0.2% สรุปคือสินเชื่อไม่โต เศรษฐกิจ​ในไตรมาส​ 3 เติบโต​ 3% ในช่วง​ 9 เดือนโต​ 2.3% สินเชื่อธุรกิจคนตัวเล็ก​ -​4.6% yoy สินเชื่อเบิกเกินบัญชี​ -​4.5% yoy  
 
ต่อมาคือระดับของ​ NPLs​ (หนี้เสีย) เป็นไปตามคาดอยู่ที่ประมาณ​ 1.2 ล้านล้านบาท​ คิดเป็นสัดส่วน​ 8.8% ของ​หนี้รวม 13.6 ล้านล้านบาท​  พุ่งขึ้นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสที่​ 1 ปี​ 2566​ หลังพักฐานไตรมาสที่​ 4 ปี 2566​ แล้วไปต่อตั้งแต่ปี​ 2567​ พร้อมๆกับมาตรการกลับไปสู่ความเป็นปกติ (normalize) เศรษฐกิจ​ค่อยๆ โตกลับมาอย่างเชื่องช้า มีเรื่องการให้กู้อย่างรับผิดชอบ การแก้หนี้เรื้อรัง​ แก้หนี้ครบวงจร​ ภาพของเส้นหนี้เสียวิ่งจาก​ 7.7% สู่​ 8.8%  
 
โดยเลขหนี้​ NPL​s ประมาณ​ 1.2 ล้านล้านบาทโดยประมาณ​ เติบโต​ 14.1% yoy 3.4% QoQ  โดย NPLs สินเชื่อบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลยังโตไม่มากจากไตรมาสก่อน​ นายสุรพลบอกว่าที่กังวลมากคือสินเชื่อธุรกิจคนตัวเล็กหรือ​ SMEs เติบโต​ 20% yoy​ 5.2% QoQ อันนี้คือประเด็นสำคัญ​มาก  
 
ส่วน SM​ ยอดคงค้าง​ Q3​ ปี​ 2567 มาหยุดที่​ 4.8 แสนล้านบาทโดยประมาณ​ ลดลงมาทั้ง​ yoy และ QoQ​ น่าจะเบาใจขึ้นได้บ้าง
สำหรับปรับปรุงโครงสร้างหนี้หลังเป็นหนี้เสียที่เรียกว่าทำ​ TDR ซึ่งตัวเลขสะสมมาอยู่ที่​ 1.03 ล้านล้านบาท​ คิดเป็น​สัดส่วน​ 7.6% ของ​ 13.6  ล้านล้านบาท​ ที่ไม่ค่อยดีคือมันอืด​ มันเติบโต​ QoQ ติดลบประมาณ​ 3%
 
ในส่วนของ​ DR หรือปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันก่อนเป็นหนี้เสียยอดสะสมตั้งแต่เมษายน​ 2567​ มาหยุดที่​ 1.2 ล้านบัญชี​ 6.45 แสนล้านบาท​



กังวล! กมธ.ความมั่นคงฯ เรียก “ทวี” แจ้งปม “ทักษิณ” นอนรพ.ตร.
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_805466
 
ที่ปรึกษา รมว.ยธ. เผย กังวล หลัง กมธ.ความมั่นคงฯ ส่งหนังสือเชิญ ทวี – อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 10 คน เข้าชี้แจงกรณี “ทักษิณ” รักษาตัว รพ.ตำรวจ
 
วันนี้ (21 พ.ย. 67) นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีที่คณะกรรมาธิการ หรือ กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ส่งหนังสือมาถึงกระทรวงยุติธรรม ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าชี้แจงกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ มีความถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
 
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่14 พ.ย.ที่ผ่านมา กมธ.ความมั่นคง ฯ มีหนังสือมาถึงกระทรวงยุติธรรม ให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน กว่า 10 คน เข้าไปชี้แจงในประเด็นการดำเนินงานและเประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต่อ กมธ.ความมั่นคงฯ เกี่ยวกับการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันพรุ่งนี้
  
โดยเมื่อวานที่ผ่านมา อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้มีหนังสือไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร และ คณะกรรมการ กรธ.ความมั่นคงฯ ทุกคน เพื่อแสดงข้อกังวลว่า การจะสอบหรือสืบหาข้อเท็จจริงในกรณีนี้ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายอำนาจหน้าที่ ของกมธ.ชุดนี้ ตามที่กฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่ ตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงแห่งรัฐ ด้านกิจการชายแดนและด้านยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันกรณีดังกล่าว กมธ.ตำรวจ ทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว จึงมองว่าเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน รวมถึงยังมีองค์กรอิสระอื่นๆที่กำลังตรวจสอบกรณีนี้อยู่แล้วเช่นกัน
  
นายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะเข้าไปชี้แจงตามนัดหมายพรุ่งนี้หรือไม่ แต่ถ้าหากประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความเห็นว่าอยู่ใน อำนาจหน้าที่ของ กมธ. ความมั่นคงฯ ก็ยินดีจะเข้าไปชี้แจง ซึ่งยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรม พร้อมจะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย


 
ลุ้นพรุ่งนี้! "ศาลรธน." รับ-ไม่รับ "ทักษิณ-พท." ล้มล้างการปกครอง สะพัดเสียงยังไม่นิ่ง ส่อสูสี
https://siamrath.co.th/n/582070

วันที่ 21 พ.ย.67 จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 เมื่อวันที่ 10 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ระบุพฤติกรรม 6 ข้อ ตามคำร้องอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 
 
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด เพื่อขอทราบว่า ได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้อง คือนายธีรยุทธ ไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ลงนามตอบถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว 

มีรายงานว่า ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุม เพื่อพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ คำร้องของนายธีรยุทธ  ซึ่งเป็นการเลื่อนประชุมจากเมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 ที่ผ่านมา เนื่องจากตุลาการติดภารกิจ 
 
ทั้งนี้มีรายงานความเคลื่อนไหวในส่วนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะพิจารณาทั้งสิ้น 9 คน ประกอบด้วย 1.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 2.นายปัญญา อุดชาชน 3.นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม 4.นายวิรุฬห์ แสงเทียน 5.นายจิรนิติ หะวานนท์ 6.นายนภดล เทพพิทักษ์ 7.นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ 8.นายอุดม รัฐอมฤต 9.นายสุเมธ รอยกุลเจริญ
 
มีรายงานว่า มติที่จะออกมาว่ารับหรือไม่รับคำร้อง ของนายธีรยุทธ ที่จะพิจารณาในวันพรุ่งนี้นั้น ยังไม่นิ่ง เนื่องจากมีตัวแปร และเงื่อนไขเรื่องเสียงของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้มีรายงานจากฝ่ายการเมือง ประเมินว่า อาจมีมติ 7 ต่อ 2 เสียงให้รับคำร้องดังกล่าวเอาไว้พิจารณา แต่ขณะเดียวกันล่าสุด มีรายงานว่ามติที่ออกมามีแนวโน้มว่าเสียงจะสูสี ระหว่างรับหรือไม่รับคำร้อง โดยมีการประเมินจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ เคยมีมติคดีถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน ให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมติออกมา 5 ต่อ 4 เสียงให้นายเศรษฐา ต้องพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมาก 5 เสียงได้แก่ นายปัญญา อุดชาชน ,นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ,นายวิรุฬห์ แสงเทียน, นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ 
 
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในจำนวน 5 เสียงข้างมากกลุ่มนี้ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม อาจติดภารกิจ เนื่องจากจะต้องเดินทางไปดูงานที่ประเทศฟิลิปปินส์  ตามคำสั่งของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้เสียงในที่ประชุมพรุ่งนี้ เหลือ 8 เสียง โดยทำให้มีการจับตาไปที่การเกาะกลุ่มในกลุ่มนี้ที่จะเหลือ 4 เสียง นอกจากนี้มีมองไปที่ นายจิรนิติ หะวานนท์ ที่ จะสามารถเป็นตัวหลักของกลุ่มนี้แทนนายอุดม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่