การศึกษาธรรมนั้นต้องควบคู่กันทั้ง ปริยัติและปฏิบัติ
แต่การเกิด ภาวนามยปัญญา กล่าวถึง มรรคผล นิพพาน นั้นเกิดจากการฝึกปฏิบัติเป็นส่วนมากในโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ
เพียงแค่ยกธรรมส่วนแรกคือ สติปัฏฐาน 4 (1.พิจารณากายในกาย 2.พิจารณาเวทนาในเวทนา 3.พิจารณาจิตในจิต 4.พิจารณาธรรมในธรรม) ล้วนเน้นย้ำไปที่การฝึกปฏิบัติธรรม เป็นส่วนมาก เพราะสติปฏิฐาน 4 เจริญขึ้นได้ต้องอาศัยธรรมส่วนนี้
1.อิทธิบาท 4 (1.ฉันทะ 2.วิริยะ 3.จิตตะ 4.วิมังสา) ก็คือ ธรรม ที่ต้องฝึกฝนปฏิบัติในสติปฏฐาน 4 นั้นเอง ซึ่ง วิริยะ จิตตะ นั้นเป็นธรรมที่ ฝึกฝนปฏิบัติ
2.สัมมัปปทาน 4 (1.ดับ(ระงับ)อกุศลธรรมที่ปรากฏ 2.เจริญกุศลธรรมให้เกิดขึ้น 3.ไม่ให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น 4.ทำให้กุศลกรรมเจริญขึ้น) ก็คือธรรมที่ต้องอาศัย สุตมยปัญญากับจินตมยปัญญา และ การฝึกฝนปฏิบัติควบคู่กัน ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4
เมื่อ อาศัยอิธิบาท 4 และ สัมมัปปทาน 4 ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 พละ 5 ย่อมเจริญขึ้น
3.พละ 5 (1.ศรัทธา 2.ความเพียร 3.สติ 4.สมาธิ 5.ปัญญา)
ในกระทู้นี้จะเน้นในเรืองของ พละ 5 (1.ศรัทธา 2.ความเพียร 3.สติ 4.สมาธิ 5.ปัญญา) ส่วนใดที่เกิดจากการฝึกฝนปฏิบัติ ส่วนใดที่ต้องอาศัยสุตะและจินตมยปัญญาดังนี้.
ศรัทธาและปัญญา(สุตและจินตมยปัญญา) นั้นเกิดจากการฟัง การอ่าน การคิดวิเคราะห์ คือต้องอาศัยปริยัติธรรมนั้นเอง
ความเพียร สติ สมาธิ(ขณิกะจนถึงอุปจาร) นั้นต้องฝึกปฏิบัติล้วนๆ ด้วยตนเอง
ปัญญา(ระดับฌาน และ/หรือ อุทยัพพยญาณ ยังไม่กล่าวถึง มรรคผลนิพพาน) นั้นเป็น ภาวนามยปัญญา เป็นผลมากจากการฝึกฝนปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ด้วยธรรมเหล่านี้ อิทธิบาท 4, สัมมัปปทาน 4, พละ 5
หมายเหตุ ยังไม่ได้กล่าวถึง อินทรีย์ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8
ชี้แนะ ธรรมใดที่เกิดจากการฝึกฝนปฏิบัติ ธรรมใดที่เกิดจากการอ่าน,ฟัง,คิดวิเคราะห์ ในโพธิปักขิยธรรม
แต่การเกิด ภาวนามยปัญญา กล่าวถึง มรรคผล นิพพาน นั้นเกิดจากการฝึกปฏิบัติเป็นส่วนมากในโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ
เพียงแค่ยกธรรมส่วนแรกคือ สติปัฏฐาน 4 (1.พิจารณากายในกาย 2.พิจารณาเวทนาในเวทนา 3.พิจารณาจิตในจิต 4.พิจารณาธรรมในธรรม) ล้วนเน้นย้ำไปที่การฝึกปฏิบัติธรรม เป็นส่วนมาก เพราะสติปฏิฐาน 4 เจริญขึ้นได้ต้องอาศัยธรรมส่วนนี้
1.อิทธิบาท 4 (1.ฉันทะ 2.วิริยะ 3.จิตตะ 4.วิมังสา) ก็คือ ธรรม ที่ต้องฝึกฝนปฏิบัติในสติปฏฐาน 4 นั้นเอง ซึ่ง วิริยะ จิตตะ นั้นเป็นธรรมที่ ฝึกฝนปฏิบัติ
2.สัมมัปปทาน 4 (1.ดับ(ระงับ)อกุศลธรรมที่ปรากฏ 2.เจริญกุศลธรรมให้เกิดขึ้น 3.ไม่ให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น 4.ทำให้กุศลกรรมเจริญขึ้น) ก็คือธรรมที่ต้องอาศัย สุตมยปัญญากับจินตมยปัญญา และ การฝึกฝนปฏิบัติควบคู่กัน ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4
เมื่อ อาศัยอิธิบาท 4 และ สัมมัปปทาน 4 ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 พละ 5 ย่อมเจริญขึ้น
3.พละ 5 (1.ศรัทธา 2.ความเพียร 3.สติ 4.สมาธิ 5.ปัญญา)
ในกระทู้นี้จะเน้นในเรืองของ พละ 5 (1.ศรัทธา 2.ความเพียร 3.สติ 4.สมาธิ 5.ปัญญา) ส่วนใดที่เกิดจากการฝึกฝนปฏิบัติ ส่วนใดที่ต้องอาศัยสุตะและจินตมยปัญญาดังนี้.
ศรัทธาและปัญญา(สุตและจินตมยปัญญา) นั้นเกิดจากการฟัง การอ่าน การคิดวิเคราะห์ คือต้องอาศัยปริยัติธรรมนั้นเอง
ความเพียร สติ สมาธิ(ขณิกะจนถึงอุปจาร) นั้นต้องฝึกปฏิบัติล้วนๆ ด้วยตนเอง
ปัญญา(ระดับฌาน และ/หรือ อุทยัพพยญาณ ยังไม่กล่าวถึง มรรคผลนิพพาน) นั้นเป็น ภาวนามยปัญญา เป็นผลมากจากการฝึกฝนปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ด้วยธรรมเหล่านี้ อิทธิบาท 4, สัมมัปปทาน 4, พละ 5
หมายเหตุ ยังไม่ได้กล่าวถึง อินทรีย์ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8