พิธา เปิดใจพิเศษบีบีซีไทย เผยนโยบายพัฒนาประเทศ ขอเป็นผู้นำแบบผู้รับใช้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4006604
พิธา เปิดใจพิเศษบีบีซีไทย เผยนโยบายพัฒนาประเทศ ขอเป็นผู้นำแบบผู้รับใช้
โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี ไทย สัมภาษณ์พิเศษ สัมภาษณ์พิเศษ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถึงความสำเร็จจากการเลือกตั้ง และความมั่นใจว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยนายพิธาระบุว่า ก่อนการเลือกตั้งได้ตั้งเป้าได้ ส.ส.จำนวน 16 คน ซึ่งเราก็มีคะแนนโพลที่ดี ผู้สมัครแข็งแกร่ง และคู่แข่งอ่อนแอลง จนในที่สุดหลังการเลือกตั้งเราได้จำนวน 151 ส.ส. ซึ่งก็ถือว่าตรงตามเป้า 90 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากโอกาสที่เราหวังไว้ที่ 50-75 เปอร์เซ็นต์
นาย
พิธากล่าวถึงนโยบายที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องการเปลี่ยนความคิดในระบบราชการไทยที่ฝังลึก รวมทั้งนโยบายสุราเสรี, พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยตนเองจะสร้างความมั่นใว่าเป็นนักการเมืองที่โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งเรื่องกองทัพ และการเงิน ที่จะต้องถูกนำกลับมาสู่ศูนย์ภายในระบบของรัฐบาล และเราจะพูดคุยกับกองทัพในสิ่งที่เราจะทำ รวมทั้งเรื่องการเกณฑ์ทหาร
ต่อข้อคำถามนโยบายรวดเร็วที่จะทำนั้น นาย
พิธา กล่าวว่า ได้วางแผนไทม์ไลน์ และแผนแม่บทไว้แล้ว โดยภายใน 100 วันแรกที่ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐบาล เรื่องแรกจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประชาชน เพื่อประชาชน ผ่านการทำประชามติ โดยใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร เป็นสิ่งที่เราทำได้เลย เพื่อแก้ไขสถานการณ์ทางการเมือง
ขณะที่ในเรื่องเศรษฐกิจจะมีเรื่องสุราเสรี รวมทั้งการยุติการผูกขาดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั้งหมด ทั้งข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และผลไม้ แก้การผูกขาดของกลุ่มนายทุน และช่วยเหลือ SME ด้านนโยบายต่างประเทศเราจะเข้าหาประชาคมโลกมากขึ้น กล้าพูด กล้าแบกรับภาระ ปรับสมดุลทางการทูตของโลก ตื่นตัวในต่างประเทศ เพื่อสร้างตัวตน
ส่วนประเทศไทยภายใต้การนำของ นาย
พิธา คาดหวังว่าเป็นประเทศที่มีการกระจายอำนาจ ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ รวมทั้งความเท่าเทียมด้านการให้บริการด้านสาธารณสุข และการศึกษา ส่วนตนเองนั้นต้องการจะเป็นผู้นำแบบผู้รับใช้ เป็นสไตล์ของตัวเอง จะเป็นผู้นำที่สร้างผู้นำคนอื่นขึ้นมาอีก และไม่ต้องเป็นผู้ใหญ่
กลุ่มลูกจ้าง สธ. ร้อง พท.ดันบรรจุพนักงานประจำ ทวงค่าเสี่ยงภัยโควิด รัฐค้างจ่าย
กลุ่มลูกจ้าง และพนักงาน กระทรวงสาธารณสุข ร้องพท.ดันบรรจุเป็นพนักงานประจำ-ขึ้นเงินเดือน พร้อมทวงค่าเสี่ยงภัยโควิดหลัง รบ.ค้างจ่าย 7 เดือน
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และ น.ส.
ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคพท. รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากกลุ่มลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4 ภาค กระทรวงสาธารณสุข โดยขอให้พรรคพท.ช่วยผลักดันบรรจุให้ลูกจ้างรายวัน รายคาบ รายเดือนสายสนับสนุน 56 สายงาน กว่า 1.4 แสนคนปรับสถานะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และขอให้ช่วยผลักดันปรับค่าจ้างและค่าตอบแทน และให้ได้รับการบรรจุเป็นลูกจ้างประจำในกรณีพิเศษหรือพนักงานราชการ รวมถึงการดูแลชีวิตในวัยเกษียณ และให้จ่ายค่าเสี่ยงภัยที่ค้างอยู่ 7 เดือน
นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า พรรคพท. ขอรับข้อเรียกร้องโดยเฉพาะข้อเสนอเร่งด่วน เช่น ค่าจ้าง ค่าเสี่ยงภัยโควิด จะนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านกลไกราชการ ส่วนข้อเสนอที่เหลือขอรับไว้พิจารณา เพราะขณะนี้สถานภาพของว่าที่ ส.ส.พรรคยังไม่ได้รับการรับรองเป็น ส.ส. การแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบปัญหาจะทำได้ทันทีในขั้นตอนต่อไป
พิธา ปลื้ม คุยหอการค้าไทย เห็นตรงกัน เร่งจับเข่าคุยค่าแรง 450 ให้ได้ในร้อยวัน
พิธา ปลื้มคุย หอการค้าไทยเห็นตรงกัน ต้องจับเข่าคุยค่าแรง 450 บาท ให้อยู่ใน 100 วัน ด้านประธานหอการค้า สบายใจหลังแลกเปลี่ยน หวังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 ที่สภาหอการค้าไทย นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนาย
สนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย ร่วมกันแถลงภายหลังคณะผู้บริหารพรรคก้าวไกล ได้ประชุมหารือกับผู้แทนสภาหอการค้าไทย และหอการค้าไทย
นาย
พิธา กล่าวว่า ได้หารือกันใน 13 ประเด็น ตั้งแต่เรื่องของการทุจริต ระเบียงเศรษฐกิจ (EEC) การบริหารเศรษฐกิจ BCG และเศรษฐกิจชายแดน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา พร้อมทั้งเผยความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาล และหน้าที่ของคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยครั้งหน้า จะมีคณะทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจและ SME กลับมาพูดคุยกันอีก ในหลายประเด็น ครั้งนี้กระชั้นชิด จึงมีเพียงพรรคก้าวไกลพรรคเดียว
สำหรับความเร็วในการจัดตั้งรัฐบาล ขึ้นอยู่กับการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่าจะรับรองส.สได้เมื่อใด เมื่อนับหนึ่งได้แล้ว จะมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ในการเปิดประชุมสภา และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ส่วนการบริหารงบประมาณแผ่นดินปี 2567 ต้องคำนึงถึงเวลาและความคุ้มค่า งบประมาณ 250,000 ล้านบาท จะต้องรื้องบประมาณหรือไม่นั้น กรณีนี้จะมอบให้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจหารือ เพื่อให้ได้ข้อสรุป ว่าจะตัดสินใจอย่างไร จึงจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อทำงานต่อไปได้ทันทีหลังจัดตั้งรัฐบาลแล้ว
การผ่าให้เป็นงบประมาณฐานศูนย์ มองว่า บางส่วนทำได้เลยในปี 2567 โดยเฉพาะในมูลค่า 250,000 ล้านบาทที่มีอยู่ เพราะยังมีงบบางส่วนที่ไม่สามารถแตะต้องได้ แล้วจึงสร้างระบบที่ชัดเจนในงบประมาณปีต่อๆ ไป
เมื่อถามถึงแนวนโยบายปรับขึ้นค่าแรง 450 บาทภายใน 100 วันแรกหลังได้เป็นรัฐบาล นาย
พิธา เผยว่า ได้ชี้แจงให้สภาหอการค้าไทย ได้มองภาพครบทุกมิติ ทั้งเรื่องอัตราค่าเงินเฟ้อ และผลิตภาพของแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าแรง 450 บาทมีความเหมาะสม ไม่ได้ประสงค์จะขึ้นค่าแรงอย่างเดียว แต่คิดว่าจะทำให้แรงงาน พัฒนาทักษะและดำรงชีวิตต่อไปได้ด้วย แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในอัตราการขึ้นค่าแรงในระยะเวลา 100 วันหรือไม่ เน้นย้ำว่าต้องพูดคุยให้ครบทั้งไตรภาคี
นาย
พิธา กล่าวว่า ค่าแรงที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้เชื่อมโยงกับราคาสินค้าที่จะแพงขึ้นเสมอไป มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ โดยจะทำให้อยู่ในกรอบเวลา 100 วันแรก
ด้าน นาย
สนั่น กล่าวว่า เป็นการพบปะที่สร้างสรรค์ มีความสบายใจเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน แต่หลายเรื่องก็น่าเห็นใจ พรรคก้าวไกลต้องทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต้องประชุม และมอบหมายบุคคลติดต่อประสานงานหลัก คือ น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล
นาย
สนั่น กล่าวว่า เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ความเห็นของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทางหอการค้าเองเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง แต่ต้องมาจับเข่าคุยกันในเรื่องของจังหวะเวลา และอัตราการปรับขึ้น ในเรื่องนี้หากเราสื่อสารกับสาธารณะไม่เข้าใจ จะเกิดการโต้แย้ง สำคัญสุดคือต้องลงรายละเอียดในเชิงลึก เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว เชื่อว่าพรรคก้าวไกลได้ฟังเสียงจากประชาชน เป็นเรื่องดีที่ตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อจะได้หารือ ให้เกิดทางออกที่เหมาะสม อีกประเด็นคือเราต้องการเห็นการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเร็วที่สุด คาดว่าภายในเดือน ก.ย. จะแล้วเสร็จ
นาย
สนั่น กล่าวอีกว่า ไม่มีความกังวลเป็นพิเศษ เสียงประชาชนสะท้อนชัดอยู่แล้วผ่านการเลือกตั้ง พรรคการเมืองล้วนสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลซึ่งมีคะแนนเสียงมากที่สุดจัดตั้งรัฐบาล แต่ภาคเอกชนต้องการรับฟังความเห็นจากว่าที่รัฐบาล ซึ่งจากการหารือกัน พบว่ามีแนวทางเดียวกับหอการค้าไทยคือ การเชื่อมต่อจุด (Connect The Dots) เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพอใจ หากรัฐบาลมีเสถียรภาพก็จะสร้างความสบายใจให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
หากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ย่อมเกิดความเสียหายและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งไทยและต่างประเทศแน่นอน เราทุกคนต้องตั้งความหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งชาติ
เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ของหอการค้าไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของพรรคก้าวไกลที่จะทำงานได้ตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ นายสนั่น กล่าวว่า แนวทางด้านเศรษฐกิจและการแก้ปัญหา สอดคล้องกับนโยบายของหอการค้าที่มีอยู่ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ มองว่าตรงกันหมด และมาถูกทาง
เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งภาคใต้รวมตัวที่ อ.ปากพนัง ร้องรัฐ ยื่น 4 ข้อ แก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ขู่ภายใน 15 วัน หากไม่เป็นผล จะยกระดับการเรียกร้องทันที ด้านรองผู้ว่าฯ เมืองคอน รับเรื่องเสนอผู้ว่าฯ และหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป
วานนี้ (29 พ.ค. 2566) ที่บริเวณสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง หมู่ 9 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และจากชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสงขลา-นครศรีธรรมราช จำนวนกว่า 100 คน ได้นัดมารวมตัวกัน เพื่อปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำ แต่ราคาอาหารกุ้งแพงขึ้น โดยมี นายศรัทธา ทองคำ รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช, ตัวแทนจากประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช, ตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงาน และตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ได้มาร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบปัญหาของเกษตรกรชาวนากุ้งที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้
ซึ่งหลังมีการปรึกษาหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำแล้ว กลุ่มเกษตรกรชาวกุ้งทั้งหมดได้รวมตัวถือป้ายที่เขียนใส่กระสอบปุ๋ยอาหารกุ้ง มีข้อความต่างๆ เพื่อเรียกร้องไปยังรัฐบาลช่วยเหลือด่วน เช่น กุ้งไทยถึงจุดจบแล้วจริงหรือ, กุ้งถูกอาหารแพง ไฟแพง อยู่ได้หรือ, รัฐช่วยชาวนากุ้งด้วย ฯลฯ
จากนั้น นาย
รักษ์ชาติ ช่วยเกลี้ยง ประธานกรรมการสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง นาย
ประสงค์ จันทร์ทอง ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสงขลา-นครศรีฯ ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องของเกษตรกรชาวนากุ้งจำนวน 4 ข้อ ไปยังรัฐบาล เพื่อให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาด่วน ประกอบด้วย
1. ให้ภาครัฐจัดทำโครงการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเหมือนปี 2564 เพื่อชดเชยราคากุ้ง โดยมีราคานำตลาดให้สูงกว่าต้นทุนการผลิต จำนวน 1 พันตันต่อเดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ
2. ให้กรมชลประทานและกรมเจ้าท่าแก้ปัญหาแหล่งน้ำตื้นเขิน ลำคลองเชื่อมต่อกับทะเล มีทรายปิดลำคลองสาธารณะ และให้กรมทางหลวงก่อสร้างสะพานหรือท่อขนาดใหญ่ที่ถนนพาดผ่านลำคลองสาธารณะ ตามถนนสาย 4013 เชื่อมต่อระหว่าง อ.ปากพนัง กับ อ.หัวไทร ซึ่งเป็นเขตที่เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล
3. ให้กระทรวงพาณิชย์จัดหาปัจจัยการผลิตราคาถูก เช่น อาหารกุ้ง เคมีการเกษตร กระจายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง โดยผ่านองค์กรเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิต
4. ให้กรมประมงหยุดอนุญาตนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศในช่วงราคากุ้งตกต่ำ เพื่อให้ภาคส่งออกรับซื้อกุ้งจากเกษตรกร และให้คณะ กก.บริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ ซึ่งอธิบดีกรมประมงเป็นประธาน ทบทวนประกันราคากุ้งขั้นต่ำให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลที่ปรับตัวสูงขึ้น
JJNY : 5in1 พิธาเปิดใจบีบีซีไทย│ลูกจ้างสธ.ร้องพท.│พิธาคุยหอการค้า│ผู้เลี้ยงกุ้งใต้ร้องรัฐ│จีนโทษสหรัฐเหตุบินตัดหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4006604
พิธา เปิดใจพิเศษบีบีซีไทย เผยนโยบายพัฒนาประเทศ ขอเป็นผู้นำแบบผู้รับใช้
โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี ไทย สัมภาษณ์พิเศษ สัมภาษณ์พิเศษ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถึงความสำเร็จจากการเลือกตั้ง และความมั่นใจว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยนายพิธาระบุว่า ก่อนการเลือกตั้งได้ตั้งเป้าได้ ส.ส.จำนวน 16 คน ซึ่งเราก็มีคะแนนโพลที่ดี ผู้สมัครแข็งแกร่ง และคู่แข่งอ่อนแอลง จนในที่สุดหลังการเลือกตั้งเราได้จำนวน 151 ส.ส. ซึ่งก็ถือว่าตรงตามเป้า 90 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากโอกาสที่เราหวังไว้ที่ 50-75 เปอร์เซ็นต์
นายพิธากล่าวถึงนโยบายที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องการเปลี่ยนความคิดในระบบราชการไทยที่ฝังลึก รวมทั้งนโยบายสุราเสรี, พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยตนเองจะสร้างความมั่นใว่าเป็นนักการเมืองที่โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งเรื่องกองทัพ และการเงิน ที่จะต้องถูกนำกลับมาสู่ศูนย์ภายในระบบของรัฐบาล และเราจะพูดคุยกับกองทัพในสิ่งที่เราจะทำ รวมทั้งเรื่องการเกณฑ์ทหาร
ต่อข้อคำถามนโยบายรวดเร็วที่จะทำนั้น นายพิธา กล่าวว่า ได้วางแผนไทม์ไลน์ และแผนแม่บทไว้แล้ว โดยภายใน 100 วันแรกที่ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐบาล เรื่องแรกจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประชาชน เพื่อประชาชน ผ่านการทำประชามติ โดยใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร เป็นสิ่งที่เราทำได้เลย เพื่อแก้ไขสถานการณ์ทางการเมือง
ขณะที่ในเรื่องเศรษฐกิจจะมีเรื่องสุราเสรี รวมทั้งการยุติการผูกขาดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั้งหมด ทั้งข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และผลไม้ แก้การผูกขาดของกลุ่มนายทุน และช่วยเหลือ SME ด้านนโยบายต่างประเทศเราจะเข้าหาประชาคมโลกมากขึ้น กล้าพูด กล้าแบกรับภาระ ปรับสมดุลทางการทูตของโลก ตื่นตัวในต่างประเทศ เพื่อสร้างตัวตน
ส่วนประเทศไทยภายใต้การนำของ นายพิธา คาดหวังว่าเป็นประเทศที่มีการกระจายอำนาจ ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ รวมทั้งความเท่าเทียมด้านการให้บริการด้านสาธารณสุข และการศึกษา ส่วนตนเองนั้นต้องการจะเป็นผู้นำแบบผู้รับใช้ เป็นสไตล์ของตัวเอง จะเป็นผู้นำที่สร้างผู้นำคนอื่นขึ้นมาอีก และไม่ต้องเป็นผู้ใหญ่
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคพท. รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากกลุ่มลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4 ภาค กระทรวงสาธารณสุข โดยขอให้พรรคพท.ช่วยผลักดันบรรจุให้ลูกจ้างรายวัน รายคาบ รายเดือนสายสนับสนุน 56 สายงาน กว่า 1.4 แสนคนปรับสถานะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และขอให้ช่วยผลักดันปรับค่าจ้างและค่าตอบแทน และให้ได้รับการบรรจุเป็นลูกจ้างประจำในกรณีพิเศษหรือพนักงานราชการ รวมถึงการดูแลชีวิตในวัยเกษียณ และให้จ่ายค่าเสี่ยงภัยที่ค้างอยู่ 7 เดือน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคพท. ขอรับข้อเรียกร้องโดยเฉพาะข้อเสนอเร่งด่วน เช่น ค่าจ้าง ค่าเสี่ยงภัยโควิด จะนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านกลไกราชการ ส่วนข้อเสนอที่เหลือขอรับไว้พิจารณา เพราะขณะนี้สถานภาพของว่าที่ ส.ส.พรรคยังไม่ได้รับการรับรองเป็น ส.ส. การแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบปัญหาจะทำได้ทันทีในขั้นตอนต่อไป
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 ที่สภาหอการค้าไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย ร่วมกันแถลงภายหลังคณะผู้บริหารพรรคก้าวไกล ได้ประชุมหารือกับผู้แทนสภาหอการค้าไทย และหอการค้าไทย
นายพิธา กล่าวว่า ได้หารือกันใน 13 ประเด็น ตั้งแต่เรื่องของการทุจริต ระเบียงเศรษฐกิจ (EEC) การบริหารเศรษฐกิจ BCG และเศรษฐกิจชายแดน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา พร้อมทั้งเผยความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาล และหน้าที่ของคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยครั้งหน้า จะมีคณะทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจและ SME กลับมาพูดคุยกันอีก ในหลายประเด็น ครั้งนี้กระชั้นชิด จึงมีเพียงพรรคก้าวไกลพรรคเดียว
สำหรับความเร็วในการจัดตั้งรัฐบาล ขึ้นอยู่กับการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่าจะรับรองส.สได้เมื่อใด เมื่อนับหนึ่งได้แล้ว จะมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ในการเปิดประชุมสภา และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ส่วนการบริหารงบประมาณแผ่นดินปี 2567 ต้องคำนึงถึงเวลาและความคุ้มค่า งบประมาณ 250,000 ล้านบาท จะต้องรื้องบประมาณหรือไม่นั้น กรณีนี้จะมอบให้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจหารือ เพื่อให้ได้ข้อสรุป ว่าจะตัดสินใจอย่างไร จึงจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อทำงานต่อไปได้ทันทีหลังจัดตั้งรัฐบาลแล้ว
การผ่าให้เป็นงบประมาณฐานศูนย์ มองว่า บางส่วนทำได้เลยในปี 2567 โดยเฉพาะในมูลค่า 250,000 ล้านบาทที่มีอยู่ เพราะยังมีงบบางส่วนที่ไม่สามารถแตะต้องได้ แล้วจึงสร้างระบบที่ชัดเจนในงบประมาณปีต่อๆ ไป
เมื่อถามถึงแนวนโยบายปรับขึ้นค่าแรง 450 บาทภายใน 100 วันแรกหลังได้เป็นรัฐบาล นายพิธา เผยว่า ได้ชี้แจงให้สภาหอการค้าไทย ได้มองภาพครบทุกมิติ ทั้งเรื่องอัตราค่าเงินเฟ้อ และผลิตภาพของแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าแรง 450 บาทมีความเหมาะสม ไม่ได้ประสงค์จะขึ้นค่าแรงอย่างเดียว แต่คิดว่าจะทำให้แรงงาน พัฒนาทักษะและดำรงชีวิตต่อไปได้ด้วย แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในอัตราการขึ้นค่าแรงในระยะเวลา 100 วันหรือไม่ เน้นย้ำว่าต้องพูดคุยให้ครบทั้งไตรภาคี
นายพิธา กล่าวว่า ค่าแรงที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้เชื่อมโยงกับราคาสินค้าที่จะแพงขึ้นเสมอไป มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ โดยจะทำให้อยู่ในกรอบเวลา 100 วันแรก
ด้าน นายสนั่น กล่าวว่า เป็นการพบปะที่สร้างสรรค์ มีความสบายใจเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน แต่หลายเรื่องก็น่าเห็นใจ พรรคก้าวไกลต้องทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต้องประชุม และมอบหมายบุคคลติดต่อประสานงานหลัก คือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล
นายสนั่น กล่าวว่า เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ความเห็นของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทางหอการค้าเองเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง แต่ต้องมาจับเข่าคุยกันในเรื่องของจังหวะเวลา และอัตราการปรับขึ้น ในเรื่องนี้หากเราสื่อสารกับสาธารณะไม่เข้าใจ จะเกิดการโต้แย้ง สำคัญสุดคือต้องลงรายละเอียดในเชิงลึก เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว เชื่อว่าพรรคก้าวไกลได้ฟังเสียงจากประชาชน เป็นเรื่องดีที่ตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อจะได้หารือ ให้เกิดทางออกที่เหมาะสม อีกประเด็นคือเราต้องการเห็นการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเร็วที่สุด คาดว่าภายในเดือน ก.ย. จะแล้วเสร็จ
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ไม่มีความกังวลเป็นพิเศษ เสียงประชาชนสะท้อนชัดอยู่แล้วผ่านการเลือกตั้ง พรรคการเมืองล้วนสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลซึ่งมีคะแนนเสียงมากที่สุดจัดตั้งรัฐบาล แต่ภาคเอกชนต้องการรับฟังความเห็นจากว่าที่รัฐบาล ซึ่งจากการหารือกัน พบว่ามีแนวทางเดียวกับหอการค้าไทยคือ การเชื่อมต่อจุด (Connect The Dots) เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพอใจ หากรัฐบาลมีเสถียรภาพก็จะสร้างความสบายใจให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
หากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ย่อมเกิดความเสียหายและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งไทยและต่างประเทศแน่นอน เราทุกคนต้องตั้งความหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งชาติ
เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ของหอการค้าไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของพรรคก้าวไกลที่จะทำงานได้ตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ นายสนั่น กล่าวว่า แนวทางด้านเศรษฐกิจและการแก้ปัญหา สอดคล้องกับนโยบายของหอการค้าที่มีอยู่ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ มองว่าตรงกันหมด และมาถูกทาง
https://www.thairath.co.th/news/local/south/2698016
เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งภาคใต้รวมตัวที่ อ.ปากพนัง ร้องรัฐ ยื่น 4 ข้อ แก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ขู่ภายใน 15 วัน หากไม่เป็นผล จะยกระดับการเรียกร้องทันที ด้านรองผู้ว่าฯ เมืองคอน รับเรื่องเสนอผู้ว่าฯ และหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป
ซึ่งหลังมีการปรึกษาหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำแล้ว กลุ่มเกษตรกรชาวกุ้งทั้งหมดได้รวมตัวถือป้ายที่เขียนใส่กระสอบปุ๋ยอาหารกุ้ง มีข้อความต่างๆ เพื่อเรียกร้องไปยังรัฐบาลช่วยเหลือด่วน เช่น กุ้งไทยถึงจุดจบแล้วจริงหรือ, กุ้งถูกอาหารแพง ไฟแพง อยู่ได้หรือ, รัฐช่วยชาวนากุ้งด้วย ฯลฯ
1. ให้ภาครัฐจัดทำโครงการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเหมือนปี 2564 เพื่อชดเชยราคากุ้ง โดยมีราคานำตลาดให้สูงกว่าต้นทุนการผลิต จำนวน 1 พันตันต่อเดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ
2. ให้กรมชลประทานและกรมเจ้าท่าแก้ปัญหาแหล่งน้ำตื้นเขิน ลำคลองเชื่อมต่อกับทะเล มีทรายปิดลำคลองสาธารณะ และให้กรมทางหลวงก่อสร้างสะพานหรือท่อขนาดใหญ่ที่ถนนพาดผ่านลำคลองสาธารณะ ตามถนนสาย 4013 เชื่อมต่อระหว่าง อ.ปากพนัง กับ อ.หัวไทร ซึ่งเป็นเขตที่เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล
3. ให้กระทรวงพาณิชย์จัดหาปัจจัยการผลิตราคาถูก เช่น อาหารกุ้ง เคมีการเกษตร กระจายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง โดยผ่านองค์กรเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิต
4. ให้กรมประมงหยุดอนุญาตนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศในช่วงราคากุ้งตกต่ำ เพื่อให้ภาคส่งออกรับซื้อกุ้งจากเกษตรกร และให้คณะ กก.บริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ ซึ่งอธิบดีกรมประมงเป็นประธาน ทบทวนประกันราคากุ้งขั้นต่ำให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลที่ปรับตัวสูงขึ้น