ค้าภายใน ชี้ฝนตก กำลังซื้อฝืด กดราคาสินค้า-อาหารสด ข่าวดีปาล์มขวดเริ่มถูกลง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3999592
ค้าภายใน ชี้ฝนตก กำลังซื้อฝืด กดราคาสินค้า-อาหารสด ข่าวดีปาล์มขวดเริ่มถูกลง
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นาย
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยถึงการดูแลราคาสินค้าและปัญหาปากท้องของประชาชนในช่วงรอยต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่า กรมได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาวัตถุดิบและต้นทุนต่างๆ ที่มีผลต่อโครงสร้างผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด รวมถึงนโยบายขึ้นค่าแรง พร้อมกับหารือกับผู้ประกอบการและเพิ่มความถี่การลงพื้นที่ตรวจสอบภาวะตลาด โดยยังขอความร่วมมือผู้ผลิตและผู้จำหน่ายตรึงราคาสินค้าต่อไปเรื่อยๆ อีกทั้งให้ผู้ผลิตมีการแจ้งรายละเอียดทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนราคา
อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบมีทั้งเพิ่มและลดตามกลไกตลาด ซึ่งหากสินค้าใดที่ไม่แบกรับภาระและมีผลต่อการทำธุรกิจ สามารถส่งให้กรมพิจารณาได้ ซึ่งยึดหลัก WIN WIN ที่เป็นธรรมทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และทำไปควบคู่กับจัดเตรียมมาตรการป้องกันก่อนเกิดปัญหา
“
ความกังวลของสินค้าคือมีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งใน 3 เดือนนี้ คงติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก หรือสัตว์เลี้ยง ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ค่าเงิน ความต้องการบริโภคในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสภาพการแข่งขัน ซึ่งต้องยอมรับว่ากำลังซื้อตอนนี้ยังน่าห่วง ไม่ได้ขยายตัวมากนัก ซึ่งโดยภาพรวมภาวะราคาสินค้าส่วนใหญ่ทรงตัวและเริ่มเห็นการปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งมาจากหลายพื้นที่มีฝน เริ่มเข้าหน้าฝน ส่งผลต่ออากาศร้อนมากลดลง การเติบโตของสัตว์เลี้ยงและพืชผักเพิ่มขึ้น” อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว
อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวด้วยว่า พืชหลักยังมีราคาดี เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคายังดีและสูงกว่าราคาประกันอ้างอิง ส่วนผลปาล์มราคาอ่อนลง อยู่ช่วง 3.35-5.70 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลต่อปาล์มขวดเฉลี่ยเหลือ 46 บาทต่อขวด (1 ลิตร) ราคาจัดโปรโมชั่นอยู่ที่ 44 บาท ซึ่งแนวโน้มราคาปาล์มน่าจะลงอีก ด้วยผลผลิตปาล์มโลกเพิ่มส่งผลราคาน้ำมันดิบลดลง
นาย
กรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ราคาอาหารสดเริ่มลดลง หลังจากหลายพื้นที่ฝนตก มีผลต่อผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้นและราคาลดลง เช่น มะนาว เฉลี่ย 5.00-5.50 บาท/ผล เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ 6.50-8.50 บาท/ผล จากก่อนหน้านี้ 8-10 บาท/ผล เนื่องจากผลผลิตเคยออกตลาด 20-30 ตันต่อวัน เพิ่มเป็น 70-80 ตันต่อวันแล้ว ผักชี มีหลายเกรด แต่เฉลี่ย 111 บาท/กิโลกรัม (กก.) ต้นหอม เฉลี่ย 105 บาท/กก. ถั่วฝักยาว 60 บาท/กก.
ด้าน นาย
อุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงสถิติการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 25 พฤษภาคม 2566 พบว่า มียอดร้องเรียนสะสม 1,748 เรื่อง เพิ่มขึ้น 389 เรื่อง หรือเพิ่ม 29% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แยกเป็น ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 848 เรื่อง เพิ่มขึ้น 8% จำหน่ายเกินราคาสูงเกินจริง 451 เรื่อง เพิ่มขึ้น 139% จำหน่ายไม่ตรงราคาป้าย 111 เรื่อง ติดลบ 10% และที่เหลือเป็นเรื่องอื่นๆ ในส่วนนี้ได้มีการดำเนินคดีแล้ว 214 เรื่อง
นาย
อุดมกล่าวว่า ยอดร้องเรียนจำหน่ายราคาสูงเกินจริง ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ (เนื้อหมู ไข่) ขณะนี้เพิ่มการตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักเพื่อให้ได้มาตรฐานและน้ำหนักตรง พบว่ามีการตรวจพบต่อเนื่อง โดยปีนี้พบผู้ค้าบรรจุแก๊สหุงต้มน้ำหนักไม่ตรงแล้ว 14 ราย
พิธา หย่าศึก ก้าวไกล-เพื่อไทย ชิงประธานสภา ย้ำจับมือกันให้มั่น ตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7684282
พิธา หย่าศึก ก้าวไกล-เพื่อไทย ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ขอให้กลับไปคุยกัน ย้ำต้องจับมือกันให้มั่น เดินหน้าตั้งรัฐบาลให้สำเร็จตามความหวังของประชาชน
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังเกิดความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย ระบุข้อความว่า
เรื่องประธานสภาที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่องความเห็นไม่ตรงกันของพรรคร่วมรัฐบาลที่เล็กมาก ถ้าหากเทียบกับภารกิจที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้พวกเรามา
นาย
พิธา ระบุต่อว่า ดังนั้น พรรคร่วมรัฐบาลต้องจับมือเกี่ยวแขนกันไว้ให้มั่นคง ทำภารกิจยุติสืบทอดอำนาจรัฐประหาร พาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยให้สำเร็จจงได้ พวกเราต่างก็รับทราบวิธีคิด หลักการ เหตุผล ของทุกฝ่ายชัดเจนแจ่มแจ้งในประเด็นนี้กันแล้ว
“
ดังนั้น ผมขอให้เรื่องตำแหน่งประธานสภานี้ ให้พรรคร่วมรัฐบาลกลับไปพูดคุยกันผ่านตัวแทนแต่ละพรรคในวงเจรจาจะดีที่สุด ตอนนี้ ขอให้ทุกพรรคเดินหน้าทำงานปรับจูนนโยบายร่วมกัน ตั้งรัฐบาลให้สำเร็จตามความคาดหวังของประชาชนครับ” นาย
พิธา ระบุ
https://www.facebook.com/timpitaofficial/posts/810588790426898
“จาตุรนต์” เผยความจริงนักลงทุนกังวล คือตั้งรัฐบาลไม่ได้ ชี้นักการเมืองถูก ประชาชนสั่งสอน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3998749
นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เผยว่า สิ่งที่นักลงทุนกังวลมากเป็นอันดับหนึ่งขณะนี้คือการตั้งรัฐบาลไม่ได้ หรือการตั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างมาก หรือรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพคือการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย รวมทั้งประสบการณ์ร้ายของประชาชนที่ถูกนักการเมืองหักหลังในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วการเลือกตั้งครั้งนี้จึงได้เห็นการสั่งสอนของประชาชน ติดตามรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้
‘ทวี สอดส่อง’ ชี้ ‘ประยุทธ์-ครม. เลื่อนบังคับใช้พ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหาย ‘ขัดรัฐธรรมนูญ’
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7684667
‘ทวี สอดส่อง’ ชี้ ‘ประยุทธ์-ครม.’ เลื่อนบังคับใช้พ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหาย ‘ขัดรัฐธรรมนูญ’ มีมูลน่าเชื่อปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วันที่ 26 พ.ค.66 พ.ต.อ.
ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ประเด็นความคืบหน้าของพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือกฎหมายซ้อมทรมานและอุ้มหาย ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2566 พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรีได้ออก พ.ร.ก.เพื่อเลื่อนบังคับใช้ ในมาตรา 22-25
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 1 ให้ พ.ร.ก.ฉบับนั้น “
ขัดรัฐธรรมนูญ” เห็นว่าการกระทำของ พล.อ.
ประยุทธ์และรัฐบาลไม่ยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 บัญญัติว่า “
รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”
พ.ต.อ.
ทวี กล่าวอีกว่า “
การเลื่อนการบังคับใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวส่อเจตนาเพื่อมุ่งที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงมีมูลน่าเชื่อว่าเข้าข่าย ‘ความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต’ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีย่อมรู้ดีว่า การอ้างเหตุความไม่พร้อมด้านงบประมาณและบุคลากร ไม่เข้าเงื่อนไขในการออก พ.ร.ก. …”
“
โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีกฎหมายพิเศษใช้ เมื่อมีการจับกุมคุมขังผู้ต้องสงสัยจะใช้ทั้งกฎอัยการศึก ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้ 7 วัน ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมตัวได้อีก 30 วัน ที่ทหารจะนำไปควบคุมที่ศูนย์ซักถามในค่ายอิงคยุทธ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และตำรวจจะนำไปที่ศูนย์พิทักษ์สันติศูนย์ซักถามของตำรวจยะลา”
พ.ต.อ.
ทวี เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า ในช่วงวันที่ 22 ก.พ. 66 ถึงวันที่ 18 พ.ค.66 ทหารมีจำนวนผู้ต้องสงสัยประมาณ 30 ราย และตำรวจมีจำนวนผู้ต้องสงสัยประมาณ 7 ราย รวม 37 ราย ออกจากศูนย์ซักถาม ซึ่งจะสามารถการดำเนินการ 2 กรณี คือ
1. เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.แล้ว ปรากฏไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับตาม ป.วิอาญา พนักงานสอบสวนจะรับตัวแล้วปล่อยตัวไป
2. เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.แล้ว พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเพียงพอขอออกหมายจับ ป.วิอาญา ต่อศาลและศาลอนุญาต พนักงานสอบสวนจะรับตัวและแจ้งข้อกล่าวหา ควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องหาตาม ป.วิอาญา
พ.ต.อ.
ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า “
การใช้อำนาจออก พ.ร.ก.ขัดรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ถือว่ามีเจตนาไม่มุ่งคุ้มครองบุคคลจากการทรมานของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการใช้อำนาจไปตามอำเภอใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และทำลายระบบกฎหมาย ต้องขอบคุณศูนย์ข่าวภาคใต้ ที่เสนอข่าวนักวิชาการจี้ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องร่วมกันรับผิดชอบ”
JJNY : 5in1 ชี้ฝนตก กำลังซื้อฝืด│พิธาหย่าศึก│“จาตุรนต์”เผยนักลงทุนกังวล│‘ทวี’ชี้ประยุทธ์-ครม.ขัดรธน.│พันธมิตรหารือยูเครน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3999592
ค้าภายใน ชี้ฝนตก กำลังซื้อฝืด กดราคาสินค้า-อาหารสด ข่าวดีปาล์มขวดเริ่มถูกลง
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยถึงการดูแลราคาสินค้าและปัญหาปากท้องของประชาชนในช่วงรอยต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่า กรมได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาวัตถุดิบและต้นทุนต่างๆ ที่มีผลต่อโครงสร้างผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด รวมถึงนโยบายขึ้นค่าแรง พร้อมกับหารือกับผู้ประกอบการและเพิ่มความถี่การลงพื้นที่ตรวจสอบภาวะตลาด โดยยังขอความร่วมมือผู้ผลิตและผู้จำหน่ายตรึงราคาสินค้าต่อไปเรื่อยๆ อีกทั้งให้ผู้ผลิตมีการแจ้งรายละเอียดทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนราคา
อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบมีทั้งเพิ่มและลดตามกลไกตลาด ซึ่งหากสินค้าใดที่ไม่แบกรับภาระและมีผลต่อการทำธุรกิจ สามารถส่งให้กรมพิจารณาได้ ซึ่งยึดหลัก WIN WIN ที่เป็นธรรมทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และทำไปควบคู่กับจัดเตรียมมาตรการป้องกันก่อนเกิดปัญหา
“ความกังวลของสินค้าคือมีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งใน 3 เดือนนี้ คงติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก หรือสัตว์เลี้ยง ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ค่าเงิน ความต้องการบริโภคในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสภาพการแข่งขัน ซึ่งต้องยอมรับว่ากำลังซื้อตอนนี้ยังน่าห่วง ไม่ได้ขยายตัวมากนัก ซึ่งโดยภาพรวมภาวะราคาสินค้าส่วนใหญ่ทรงตัวและเริ่มเห็นการปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งมาจากหลายพื้นที่มีฝน เริ่มเข้าหน้าฝน ส่งผลต่ออากาศร้อนมากลดลง การเติบโตของสัตว์เลี้ยงและพืชผักเพิ่มขึ้น” อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว
อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวด้วยว่า พืชหลักยังมีราคาดี เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคายังดีและสูงกว่าราคาประกันอ้างอิง ส่วนผลปาล์มราคาอ่อนลง อยู่ช่วง 3.35-5.70 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลต่อปาล์มขวดเฉลี่ยเหลือ 46 บาทต่อขวด (1 ลิตร) ราคาจัดโปรโมชั่นอยู่ที่ 44 บาท ซึ่งแนวโน้มราคาปาล์มน่าจะลงอีก ด้วยผลผลิตปาล์มโลกเพิ่มส่งผลราคาน้ำมันดิบลดลง
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ราคาอาหารสดเริ่มลดลง หลังจากหลายพื้นที่ฝนตก มีผลต่อผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้นและราคาลดลง เช่น มะนาว เฉลี่ย 5.00-5.50 บาท/ผล เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ 6.50-8.50 บาท/ผล จากก่อนหน้านี้ 8-10 บาท/ผล เนื่องจากผลผลิตเคยออกตลาด 20-30 ตันต่อวัน เพิ่มเป็น 70-80 ตันต่อวันแล้ว ผักชี มีหลายเกรด แต่เฉลี่ย 111 บาท/กิโลกรัม (กก.) ต้นหอม เฉลี่ย 105 บาท/กก. ถั่วฝักยาว 60 บาท/กก.
ด้าน นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงสถิติการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 25 พฤษภาคม 2566 พบว่า มียอดร้องเรียนสะสม 1,748 เรื่อง เพิ่มขึ้น 389 เรื่อง หรือเพิ่ม 29% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แยกเป็น ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 848 เรื่อง เพิ่มขึ้น 8% จำหน่ายเกินราคาสูงเกินจริง 451 เรื่อง เพิ่มขึ้น 139% จำหน่ายไม่ตรงราคาป้าย 111 เรื่อง ติดลบ 10% และที่เหลือเป็นเรื่องอื่นๆ ในส่วนนี้ได้มีการดำเนินคดีแล้ว 214 เรื่อง
นายอุดมกล่าวว่า ยอดร้องเรียนจำหน่ายราคาสูงเกินจริง ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ (เนื้อหมู ไข่) ขณะนี้เพิ่มการตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักเพื่อให้ได้มาตรฐานและน้ำหนักตรง พบว่ามีการตรวจพบต่อเนื่อง โดยปีนี้พบผู้ค้าบรรจุแก๊สหุงต้มน้ำหนักไม่ตรงแล้ว 14 ราย
พิธา หย่าศึก ก้าวไกล-เพื่อไทย ชิงประธานสภา ย้ำจับมือกันให้มั่น ตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7684282
พิธา หย่าศึก ก้าวไกล-เพื่อไทย ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ขอให้กลับไปคุยกัน ย้ำต้องจับมือกันให้มั่น เดินหน้าตั้งรัฐบาลให้สำเร็จตามความหวังของประชาชน
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังเกิดความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย ระบุข้อความว่า
เรื่องประธานสภาที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่องความเห็นไม่ตรงกันของพรรคร่วมรัฐบาลที่เล็กมาก ถ้าหากเทียบกับภารกิจที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้พวกเรามา
นายพิธา ระบุต่อว่า ดังนั้น พรรคร่วมรัฐบาลต้องจับมือเกี่ยวแขนกันไว้ให้มั่นคง ทำภารกิจยุติสืบทอดอำนาจรัฐประหาร พาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยให้สำเร็จจงได้ พวกเราต่างก็รับทราบวิธีคิด หลักการ เหตุผล ของทุกฝ่ายชัดเจนแจ่มแจ้งในประเด็นนี้กันแล้ว
“ดังนั้น ผมขอให้เรื่องตำแหน่งประธานสภานี้ ให้พรรคร่วมรัฐบาลกลับไปพูดคุยกันผ่านตัวแทนแต่ละพรรคในวงเจรจาจะดีที่สุด ตอนนี้ ขอให้ทุกพรรคเดินหน้าทำงานปรับจูนนโยบายร่วมกัน ตั้งรัฐบาลให้สำเร็จตามความคาดหวังของประชาชนครับ” นายพิธา ระบุ
https://www.facebook.com/timpitaofficial/posts/810588790426898
“จาตุรนต์” เผยความจริงนักลงทุนกังวล คือตั้งรัฐบาลไม่ได้ ชี้นักการเมืองถูก ประชาชนสั่งสอน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3998749
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เผยว่า สิ่งที่นักลงทุนกังวลมากเป็นอันดับหนึ่งขณะนี้คือการตั้งรัฐบาลไม่ได้ หรือการตั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นที่ยอมรับอย่างมาก หรือรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพคือการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย รวมทั้งประสบการณ์ร้ายของประชาชนที่ถูกนักการเมืองหักหลังในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วการเลือกตั้งครั้งนี้จึงได้เห็นการสั่งสอนของประชาชน ติดตามรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้
‘ทวี สอดส่อง’ ชี้ ‘ประยุทธ์-ครม. เลื่อนบังคับใช้พ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหาย ‘ขัดรัฐธรรมนูญ’
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7684667
‘ทวี สอดส่อง’ ชี้ ‘ประยุทธ์-ครม.’ เลื่อนบังคับใช้พ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหาย ‘ขัดรัฐธรรมนูญ’ มีมูลน่าเชื่อปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วันที่ 26 พ.ค.66 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ประเด็นความคืบหน้าของพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือกฎหมายซ้อมทรมานและอุ้มหาย ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรีได้ออก พ.ร.ก.เพื่อเลื่อนบังคับใช้ ในมาตรา 22-25
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 1 ให้ พ.ร.ก.ฉบับนั้น “ขัดรัฐธรรมนูญ” เห็นว่าการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลไม่ยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 บัญญัติว่า “รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า “การเลื่อนการบังคับใช้พ.ร.บ.ดังกล่าวส่อเจตนาเพื่อมุ่งที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงมีมูลน่าเชื่อว่าเข้าข่าย ‘ความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต’ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีย่อมรู้ดีว่า การอ้างเหตุความไม่พร้อมด้านงบประมาณและบุคลากร ไม่เข้าเงื่อนไขในการออก พ.ร.ก. …”
“โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีกฎหมายพิเศษใช้ เมื่อมีการจับกุมคุมขังผู้ต้องสงสัยจะใช้ทั้งกฎอัยการศึก ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้ 7 วัน ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมตัวได้อีก 30 วัน ที่ทหารจะนำไปควบคุมที่ศูนย์ซักถามในค่ายอิงคยุทธ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และตำรวจจะนำไปที่ศูนย์พิทักษ์สันติศูนย์ซักถามของตำรวจยะลา”
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า ในช่วงวันที่ 22 ก.พ. 66 ถึงวันที่ 18 พ.ค.66 ทหารมีจำนวนผู้ต้องสงสัยประมาณ 30 ราย และตำรวจมีจำนวนผู้ต้องสงสัยประมาณ 7 ราย รวม 37 ราย ออกจากศูนย์ซักถาม ซึ่งจะสามารถการดำเนินการ 2 กรณี คือ
1. เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.แล้ว ปรากฏไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับตาม ป.วิอาญา พนักงานสอบสวนจะรับตัวแล้วปล่อยตัวไป
2. เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.แล้ว พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเพียงพอขอออกหมายจับ ป.วิอาญา ต่อศาลและศาลอนุญาต พนักงานสอบสวนจะรับตัวและแจ้งข้อกล่าวหา ควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องหาตาม ป.วิอาญา
พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า “การใช้อำนาจออก พ.ร.ก.ขัดรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ถือว่ามีเจตนาไม่มุ่งคุ้มครองบุคคลจากการทรมานของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการใช้อำนาจไปตามอำเภอใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และทำลายระบบกฎหมาย ต้องขอบคุณศูนย์ข่าวภาคใต้ ที่เสนอข่าวนักวิชาการจี้ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องร่วมกันรับผิดชอบ”