JJNY : 4in1 ป่วน!สต๊อกขาด│พ.ค.นี้ ผู้ประกอบการขึ้นค่าขนส่ง│‘12 เมษา’ปักธง‘ครอบครัวพท.’│“ชัชชาติ”หาเสียง-พบปชช.ตลาดเตาปูน

ป่วน! สต๊อกขาด ห้างจำกัดซื้อ “น้ำมันพืช” ลาม ”น้ำปลา” ยี่ห้อดัง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3284698
 
ป่วน! สต๊อกขาด ห้างจำกัดซื้อ “น้ำมันพืช” ลาม ”น้ำปลา” ยี่ห้อดัง
 
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงปริมาณสินค้าอุปโภคบริโภคภายในห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง พบว่าหลายสินค้าเริ่มไม่มีสินค้าวางบนชั้นวางสินค้าเพื่อจำหน่ายและสต็อกขาด
 
น้ำมันถั่วเหลืองขวดเริ่มขาด
 
พร้อมกันนี้ จากการสำรวจห้างค้าปลีกสมัยใหม่ย่านบางเขน พบว่า น้ำมันพืชบรรจุขวด(1ลิตร)ทุกชนิด ทั้งน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว เริ่มไม่มีสินค้าวางบนชั้นวางสินค้า และบางห้างมีการนำสินค้าอื่นมาวางจำหน่ายแทน ขณะที่บางห้างจำกัดจำนวนซื้อต่อครอบครัวไม่เกิน 6 ขวด

ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงานในห้างบางแห่ง ได้รับการยืนยันว่า น้ำมันถั่วเหลืองที่สต๊อกหมดทุกยี่ห้อ โดยราคาสูงขึ้น เฉลี่ยขวด(ลิตร)ละ 61.00-65.00 บาท ส่วนน้ำมันปาล์มเฉลี่ย 64.00 -69.75 บาท น้ำมันรำข้าวอยู่ที่ 66.00-69.00 บาท น้ำมันดอกทานตะวันอยู่ที่ 85 บาท
เริ่มจำกัดซื้อน้ำปลาไม่เกิน 6 ขวด

นอกจากนี้ยังได้รับการบอกเล่าจากประชาชน ว่าหลายสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เริ่มลดน้อยและหาซื้อยาก โดยเฉพะน้ำปลายี่ห้อยอดนิยม ขวด 700 ซีซี ปิดป้ายจำกัดจำนวนการซื้อครอบครัวละไม่เกิน 6 ขวด/1ใบเสร็จ หลังจัดโปรโมชั่นลดราคาจาก 28 บาท เหลือ 26 บาท และ มีบางสินค้าปิดป้ายแจ้งว่าสต๊อกขาดชั่วคราว เช่น ผงซักฟอกบางยี่ห้อ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง มีบางรสชาติทั้งแบบซองและถ้วยคัพแจ้งว่าสินค้าหมดสต๊อก ขณะเดียวกันมีบะหมี่สำเร็จรูปบางยี่ห้อที่ได้ปรับขึ้นราคาเป็นแพ็ค 60 บาท( 10 ซอง) ไปก่อนหน้านี้ ได้กลับมาลดราคาเหลือ 55 บาท

จับตาหลังสงกรานต์ราคาเพิ่มอีก

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า เริ่มมีสัญญาณจากผู้ผลิตและจัดส่งสินค้าบางราย แจ้งล่วงหน้าว่าหลังสงกรานต์ราคาสินค้า จะมีการปรับขึ้นราคาอีกครั้ง โดยครั้งนี้ อ้างว่าผลกระทบจากจากการขาดวัตถุดิบเพื่อการผลิตหายากและราคาสูงขึ้น รวมถึงปัญหาต้นทุนค่าขนส่ง ที่ประกาศจะปรับราคาหลังจากรัฐอาจลอยตัวราคาน้ำมัน โดยเฉพาะการเลิกอุ้มราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท /ลิตร จะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อราคาสินค้า
คน.ยันน้ำมันพืชไม่เกินเพดาน
 
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) เปิดเผยว่า จากการสอบถามไปยังสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง ยังมีการผลิตและส่งสินค้าตามปกติ ยังไม่มีขาด มีการเติมเป็นรอบๆ แต่เนื่องจากน้ำมันปาล์มราคาสูงขึ้น คนหันไปบริโภคน้ำมันถั่วเหลือง ทำให้มีความต้องการสูง จึงมีการปรับราคาขึ้น โดยราคา ณ วันที่ 10 เมษายน 2565 น้ำมันปาล์มเฉลี่ยอยู่ที่ 63.78 บาท/ขวด น้ำมันถั่วเหลืองอยู่ที่ 61.88 บาท/ขวด ยังไม่เกินโครงสร้างราคาต้นทุน ส่วนราคาสินค้าอื่นๆ เช่น หมูเนื้อแดงอยู่ที่ 159 บาท/กิโลกรัม ปรับขึ้นเล็กน้อยจากต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้น มะนาวราคาเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 5 บาท/ลูก ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ ซึ่งที่กรุงเทพฯราคาอยู่ที่ 8-9 บาท/ลูก ไข่ไก่เบอร์3 อยู่ที่ 3.75 บาท/ฟอง เป็นต้น

“ช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรมขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าปลีกให้ดูแลราคาสินค้า และสต๊อกสินค้าไม่ให้ขาด ขณะเดียวกันขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้า 18 กลุ่มสินค้าจำเป็นอย่างไม่มีกำหนด” ร.ต.จักรา กล่าว
 
ผู้ผลิตปุ๋ยแห่ยื่นขึ้นราคา
 
ร.ต.จักรากล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาอนุมัติการปรับขึ้นราคาปุ๋ยนั้น ล่าสุดมีผู้ประกอบการขอยื่นปรับราคามามากกว่า 2 ราย กรมอยู่ระหว่างพิจารณาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงของแต่ละราย เพราะมีต้นทุนและสูตรไม่เหมือนกัน คาดว่าจะมีข้อสรุปในเร็วๆนี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 12 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น.นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบรักษาความเป็นธรรมทางการค้า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2)
 


ดีเดย์ พ.ค.นี้ ผู้ประกอบการ ประกาศขึ้นค่าขนส่งทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3284458

ดีเดย์ พ.ค.นี้ ผู้ประกอบการ ประกาศขึ้นค่าขนส่งทั่วประเทศ
 
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากรัฐบาลประกาศลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลจากปัจจุบันตรึงราคาอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ทางผู้ประกอบการรับจ้างขนส่งสินค้าจะปรับขึ้นค่าขนส่งทั่วประเทศเช่นกัน เพื่อให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยทุก 1 บาท จะปรับค่าขนส่งขึ้น 3% เนื่องจากปัจจุบันต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6 บาท/กิโลเมตร ขณะที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัว ลดจำนวนเที่ยววิ่งลง

“เราจะไม่หารือรัฐแล้ว เพราะที่ผ่านมาได้ออกมาเรียกร้องไปหมดแล้ว โดยขอลดราคาน้ำมันดีเซลตรึง 25 บาท/ลิตร เพราะเป็นต้นทุนที่เราอยู่ได้ แต่รัฐก็ไม่อนุมัติ พอมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น เราก็ไม่ได้ปรับค่าขนส่งเพิ่ม ทั้งที่เราอยากจะปรับมาตลอด เมื่อรัฐจะปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล เราก็ต้องขึ้นค่าขนส่ง เพราะเราก็อยู่ไม่ไหว ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประชาชน ราคาสินค้าจะปรับราคาขึ้นตามค่าขนส่ง” นายอภิชาติกล่าว
 

 
ดีเดย์ ‘12 เมษา’ ปักธง ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ทั่วประเทศ เดินหน้าคืนอนาคตมั่งคั่ง
https://voicetv.co.th/read/U2hk3Zu0t

'เพื่อไทย' เดินหน้าคืนอนาคตที่มั่งคั่งให้ประชาชน สร้าง ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ปักธงทั่วประเทศ ดีเดย์ ‘12 เมษา’ ที่โคราช ‘Welcome Home’ ต้อนรับพี่น้องกลับบ้าน พร้อมปักหมุดเดินสายระดมความร่วมมือประชาชน สร้างความเปลี่ยนแปลง คืนความหวังและชีวิตที่ดีกว่า
 
วันที่ 11 เม.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย คือบ้านหลังใหญ่ที่มีหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง จากพรรคไทยรักไทย สู่พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ที่พี่น้องประชาชนต้องทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสจากความบกพร่องผิดพลาดและไร้ศักยภาพของรัฐบาลนี้
 
"พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน เป็นบ้านหลังใหญ่ ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้กลับมาอยู่ดีกินดีอีกครั้งหนึ่ง พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อคืนประชาธิปไตย คืนความหวัง ความฝัน โอกาสและคืนอนาคตให้พี่น้องประชาชน จึงได้กำหนดให้ตัวแทนของพรรคทั่วประเทศลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนและความคิดความเห็นของพี่น้องประชาชน ภายใต้กิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม’ เพื่อเป็นการระดมพลังความร่วมมือ ในการนำไปสู่การสร้างความเปลี่ยนแปลง คืนชีวิตที่ดีกว่าและอนาคตของพี่น้องประชาชน" นายแพทย์ชลน่านกล่าว
 
นายแพทย์ชลน่านกล่าวอีกว่า กิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม’ ในครั้งนี้ จะเป็นการลงพื้นที่ทั่วประเทศตลอดเดือนเมษายนและพฤษภาคม ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เข้าถึงตัว เข้าถึงใจ ห่วงใยกัน’ เริ่มจากจังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 12 เมษายน เป็นแห่งแรก จากนั้นก็จะเดินสายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมกันกับตัวแทนของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดต่างๆ ก็จะจัดกิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ คู่ขนาน เปิดรับฟังปัญหา ความเดือดร้อน สะท้อนความคิดความเห็นและเปิดรับสมัครสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยไปพร้อมกันด้วย 
 
“ครอบครัวเพื่อไทยเป็นบ้านหลังใหญ่ ที่เราและพี่น้องประชาชนเคยอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด เคยร่วมกันสร้างความอบอุ่น ความมั่นคง ความมั่งคั่ง กินดีอยู่ดี มีชีวิตและอนาคตที่สดใส มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน วันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเดินเคียงข้างพี่น้องประชาชน เพื่อทวงคืนอนาคตและชีวิตที่ดีกว่าอีกครั้ง จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย มีส่วนร่วมในบ้านหลังใหญ่ในการสร้างความเปลี่ยนแปลง คืนประชาธิปไตย คืนความหวัง ความฝัน คืนชีวิตและอนาคตที่ดีกว่าให้พี่น้องประชาชนด้วยกัน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว  
 
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงพื้นที่ ‘ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม’ แบบเข้าถึงตัว เข้าถึงใจ ห่วงใยกัน ในครั้งนี้จะดำเนินการพร้อมกันในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยแกนนำพรรค ส.ส. สมาชิกพรรคเพื่อไทยและสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยจะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน รับฟังปัญหาพร้อมระดมความคิดเห็นในการเสนอแนะแนวทางแก้ไข พร้อมเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและเปิดรับสมัครสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย
 
"เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลง กำหนดอนาคตและชีวิตที่ดีกว่าของตัวเอง โดยเริ่มจาก ‘ครอบครัวเพื่อไทยจังหวัดนครราชสีมา’ ที่จะจัดกิจกรรม ‘Welcome Home ครอบครัวเพื่อไทย ห่วงใยกัน’ ในวันที่ 12 เม.ย. 2565 เพื่อต้อนรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์" ประเสริฐกล่าว
 
ประเสริฐกล่าวว่า จากนั้นเราได้กำหนดจัดกิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม’ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการพบปะพี่น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั้งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ หรือกลุ่มพี่น้องแรงงาน ในสถานการณ์ที่ค่าแรงต่ำแต่ค่าครองชีพสูงและรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถแก้ไขได้
 
"รวมไปถึงการพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อพูดคุยในมิติของปัญหาสุขภาพ คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่รัฐบาลบริหารจัดการโรคระบาดผิดพลาดจนต้องเผชิญกับวิกฤตโรคระบาดและวิกฤตสุขภาพมาตลอดเวลาที่ผ่านมา" ประเสริฐกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่