JJNY : ไม่อยู่บ้าน ทำไมค่าไฟพุ่ง│'ณัฐวุฒิ'แซะ 2 ลุง│“ธนาธร”บุกภาคตอ.ต่อเนื่อง│“ยูเครน”ปลื้มปริ่ม! “แพทริออต”ถึงมือแล้ว

‘บัว สโรชา’ซัด!ไม่อยู่บ้านแถมติดโซลาร์เซลล์ ทำไมค่าไฟพุ่ง2.2หมื่น
https://www.dailynews.co.th/news/2236262/

สรุปมันยังไง? นักแสดงสาว "บัว-สโรชา วิริยะเมตตากุล" โพสต์ถกถามเจ้าหน้าที่ ไม่อยู่บ้านไปต่างประเทศเป็นสัปดาห์ แถมติดโซลาร์เซลล์ทำไมค่าไฟพุ่งทะลุ 20,000 บาท
 
 
เรียกได้ว่าช่วงนี้ประชาชนทั่วประเทศไทย กำลังวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ที่บิลค่าไฟของเดือนเมษายนราคาปรับขึ้นมหาโหดทุกหลัง ที่พบว่า ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว แม้จะใช้ไฟเท่าเดิม แต่ทว่าดราม่านี้ยังไม่จบ เมื่อนักแสดง “บัว-สโรชา วิริยะเมตตากุล” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเล่าถึงบิลค่าไฟตนเองที่ทำเอาอึ้งเลย

โดยเขียนข้อความระบุว่า “จากอากาศร้อน ๆ เจอค่าไฟเดือนนี้ไปคือหนาวเข้ากระดูกเลยนะ ขึ้นมาแบบบ้าไปแล้ว งงว่าทำไมขึ้น เพราะที่บ้านไปต่างประเทศมาเกือบสัปดาห์ คนไม่ได้ใช้ไฟตั้ง 5 คน แถมที่บ้านก็ติดโซลาร์เซลล์ด้วย เธอจะขึ้นทั้งค่าน้ำค่าไฟไม่ได้ วอนผู้ใหญ่ใครสักคนช่วยดูแลค่ะ กราบ
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป งานนี้ทำเอาชาวเน็ตเข้ามาถล่มคอมเมนต์สนั่น อาทิ
“จริงค่ะคุณบัว ไม่อยู่บ้านทั้งวีก ไม่มีใครอยู่เลย ค่าไฟมายังไง 2 เท่าก่อน นี่เริ่มเคือง จดมิเตอร์ทุกวัน”
“นี่ขนาดไม่เปิดแอร์ที่บัานยังขึ้นพรวดเลยค่ะ แทบไม่ค่อยใช้ไฟ”
“ที่บ้านก็ขึ้นเยอะเลย ผิดปกติ น่าจะลดภาษีค่าไฟนะคะ”
“ที่บ้านก็ขึ้นเยอะมาก ขนาดกลับต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์”
“ติดโซลาร์เซลล์ยังขนาดนี้เลยเหรอคะ”

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @buablink.
 



'ณัฐวุฒิ'ลั่นไม่จับมือ 'รทสช.-พปชร.' แซะ 2 ลุงจะได้แค่เบี้ยผู้สูงอายุ-เงินดิจิทัล
https://www.dailynews.co.th/news/2235793/

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่เวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทยเขต 4 ตลาดนัดน้ำพอง ถนนมิตรภาพ ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์, นายพงศกร อรรณนพพร, นายอดิศร เพียงเกษ, นายสุรชัย เบ้าจรรยา และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชย์ นำคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ร่วมเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นางมุกดา พงษ์สมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการต้อนรับของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในหลายจังหวัดภาคอีสาน และประชาชนชาวขอนแก่น ที่มาร่วมให้การต้อนรับและรับฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน
 
โดยชาว อ.น้ำพอง ได้มอบข้าวเหนียว แจ่วบอง หมูทอด เนื้อแดดเดียว ถั่วฝักยาว รวมทั้งกล้วยน้ำว้า ให้กับนายเศรษฐาและคณะทำงานของพรรคเพื่อไทยทุกคน เพื่อให้การต้อนรับและนำกลับไปรับประทานเป็นมื้อกลางวัน เนื่องจากคณะฯ ต้องเดินทางไปหาเสียงต่อที่ จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย
 
นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทยประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างชัดเจน เพราะยาบ้าวันนนี้ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาเม็ดละ 20 บาท 8 ปีที่ผ่านมา บางคนไม่เห็นทำอะไรในเรื่องนี้ให้ชัดเจน ดังนั้น จึงเป็นปัญหาใหญ่และสำคัญซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเข้ามาสะสาง แก้ไข ให้หมดไปและบังคับใช้กฎหมายเรื่องยึดทรัพย์ให้เข้มข้นมากขึ้น อีกทั้งจากการลงพื้นที่ภาคอีสานในช่วงที่ผ่านมาเราต้อวเร่งกระตุ้นด้านเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น ทั้งเรื่องการลดทันทีค่าปุ๋ย ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม รวมทั้งปัจจัยด้านการผลิตภาคการเกษตรต่างๆ รวมทั้งการเร่งสร้างรายได้ให้กับประชาชนทุกคน ซึ่งหากได้เป็นรัฐบาล และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 4 ปีต่อจากนี้รายได้ของทุกคนจะโตขึ้น 3 เท่าตัว
 
วันนี้มาขอคะแนน มาอ้อนคนขอนแก่นให้สร้างประวัติศาสตร์กลับมาอีกครั้งด้วยการเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคทั้งจังหวัดเพื่อประกาศให้โลกได้รู้ว่าคนขอนแก่นเลือกเพื่อไทยในใจคนเดียว และหากเป็นนายกรัฐมนตรีขอ เวลา 6 เดือนจะกลับมาขอบคุณคนขอนแก่นถึงบ้าน มาดูสีหน้าและใบหน้าที่ยิ้มแย้มจากทุกนโยบายที่พรรคเพื่อไทยทำได้จริง โดยเฉพาะเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่ทุกคนจะได้รับ
 
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เคยติดป้ายและประกาศว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้เป็น 420 บาทต่อวัน แต่ก็ทำกันไม่ได้ แล้วก็ว่ามาว่ามายุ่ง กับนโยบายเงินดิจิทัล ที่พรรคประกาศมอบให้คนละ 10,000 บาท เพื่อให้ใช้เป็นเงินใช้จ่ายแบบดิจิทัลตามรูปแบบและนโยบายที่พรรคเพื่อไทยกำหนด
 
ทุกนโยบายที่พรรคเพื่อไทยประกาศออกมา เราพูดเอง ทำเอง รับผิดชอบเองและทำได้ ประยุทธ์อย่ามาตู่ เพราะทุกอย่างเราทำได้จริง และที่สำคัญอย่าไปเชื่อว่าใครนะว่าอย่างไรเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรีจะไม่ขอจับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร อย่างแน่นอน โดยทั้ง 2 ลุงจะได้แค่เบี้ยคนสูงอายุและเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท ในฐานะที่เป็นคนไทยเท่านั้น
 
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ในปี 2562 ขอนแก่นพลาดไป 2 เขต ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ ขอคนขอนแก่นเลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัดทั้ง 11 เขต 11 คน ดังนั้น อย่าไปเชื่อว่าใครเป็นพรรคพี่พรรคน้องหรือคำอ้างต่างๆ ขอให้คนขอนแก่นเลือกเพื่อไทยในใจคนเดียวเท่านั้น



“ธนาธร” บุกภาคตะวันออกหาเสียงต่อเนื่อง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_536246/
 
“ธนาธร” บุกภาคตะวันออกต่อเนื่องช่วยผู้สมัคร ชลบุรี-ระยองหาเสียง ชูแก้ปัญหาประมง

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครหลายคน ทั้ง ชวาล พลเมืองดี ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 3 (เบอร์ 3), นภัสวรรณ มณีรัตน์โรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 4 (เบอร์ 8), กฤช ศิลปชัย ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 (เบอร์ 5) และ ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 4 (เบอร์ 2)
 
โดยเปิดวงพบปะพูดคุยกับประชาชน ที่ท่าเทียบเรือสหกรณ์กลุ่มประมงบ้านเพ ต.บ้านเพ อ.เมือง จ.ระยอง ร่วมกับ กฤช ศิลปชัย ผู้สมัคร  ส.ส.ระยอง เขต 2 เพื่ออัปเดตความคืบหน้าร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง 2558 และสิ่งที่พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทำต่อในสภาฯ สมัยหน้า เพื่อแก้ปัญหาชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก. ดังกล่าว ซึ่ง ของนายธนาธร ได้สรุปความเป็นไปล่าสุดของการแก้ไข พ.ร.ก.ประมง โดยระบุว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกล ตนและเพื่อนร่วมงานได้พูดคุยและรับฟังปัญหาจากชาวประมงทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง จนได้ประเด็นในการแก้ไข พ.ร.ก.การประมง และทำการยื่นร่างกฎหมายไปฉบับหนึ่งในเดือนตุลาคม 2564 และอีกฉบับในเดือนกันยายน 2565
  
แต่เสียดายที่อำนาจในการดึงร่างกฎหมายที่มีการยื่นเข้าสภาฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือหลัง อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ประธานสภาฯ และเสียงข้างมากในสภาฯ พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมีเสียงไม่มากพอ ร่างกฎหมายประมงจึงไม่ได้รับการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาเสียที จนใกล้เลือกตั้งทุกพรรคต่างยื่นร่างเข้ามาประกบรวมกันเป็น 7 ร่าง แต่ก็ยังต้องผ่านอุปสรรคปัญหาสภาล่มบ่อยครั้ง แม้จะผ่านวาระ 1 ไปได้พอดี แต่ก็ยังจบไม่ได้ในสภาฯ ชุด 2562 ต้องยกยอดไปสู่การพิจารณาต่อในสภาฯ ชุด 2566 ต่อไป
  
นายธนาธรยังกล่าวต่อไป ว่าหลังจากการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมสิ้นสุดลง หากสภาฯ นำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาต่อเลย ร่างแก้ไขกฎหมายประมงก็น่าจะผ่านสภาฯ ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประธานสภาฯจะเป็นใคร ทิศทางของฝ่ายบริหาร และเสียงข้างมาก เป็นอย่างไร แต่จากที่ตนติดตามพรรคก้าวไกล ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน เมื่อไรก็ตามที่ พ.ร.บ.ประมงเข้าสู่วาระ 2 และ 3 เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นหนึ่งในพรรคที่ผ่านให้แน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่