JJNY : บริษัทดังประกาศเลิกจ้างพนักงาน│สมศักดิ์ติวเข้มผู้สมัครใต้│สมชัยโว เสรีรวมไทยกวาด 3 ล.│เปิดใจจนท.รัสเซียแปรพักตร์

1 พันชีวิตเคว้ง! บริษัท ดังประกาศเลิกจ้างพนักงาน ลดสายการผลิต ผลกระทบวิกฤตโควิด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7597407
  
 
1 พันชีวิตเคว้ง! บริษัท ดังประกาศเลิกจ้างพนักงาน ลดสายการผลิต ผลกระทบวิกฤตโควิด จ่ายค่าชดเชย-สิทธิประโยชน์ ตามกฎหมาย ดูแลคนงานเท่าเทียม
 
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ทางบริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประกาศเลิกจ้างพนักงาน จำนวน 1,060 คน ในที่ผ่านมา (มีผลตั้งแต่ 1 เมษายน 2566
 
ล่าสุดทางบริษัทชี้แจงว่า การดำเนินการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาสถานการณ์การโควิด-19 (COVID-19) แพร่ระบาด ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อภาคการผลิตสินค้า และภาคขนส่ง เป็นเหตุทำให้ต้นทุนในการประกอบกิจการสูงขึ้น รวมถึงวิกฤตการขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรม หรืออิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
 
ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจล่าสุด ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลงมาตามลำดับจนปี 2566 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับลดแก้ไขปัญหาด้านกำลังการผลิต ทำให้มีจำนวนพนักงานเกินความต้องการ (ในสายการผลิต) จึงมีความพยายามที่จะปรับสภาพการทำงานลง และลดจำนวนเวลาทำงานของพนักงานลง ในแบบที่ 2 รวมถึงกะทำงานต่อวัน (12 ชั่วโมง), เป็นแบบ 3 กะทำงาน (ทำงาน 8 ชั่วโมง) ซึ่งการปรับสภาพการทำงานครั้งนี้ จะไม่กระทบกับค่าจ้างรายวันของพนักงาน รวมทั้งบริษัทได้เพิ่มเงินพิเศษที่จ่ายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน
 
และที่ผ่านมาทางบริษัทฯ พยายามชี้แจงให้พนักงานทุกคนรับทราบถึงความจำเป็น และสภาพการณ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้น เหตุผลการปรับเปลี่ยนเวลาการทำงาน จากทำงานแบบ 2 กะ เป็นทำงานแบบ 3 กะ แต่เนื่องด้วยยังมีพนักงานบางส่วนที่ไม่เข้าใจในการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงาน ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. บริษัทฯ จึงจัดให้มีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่ายระหว่างบริษัทฯ หน่วยงานภาครัฐ คือ สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน หน่วยงานอื่นๆในสังกัดกระทรวงแรงงาน ฝ่ายปกครอง และตัวแทนจากฝ่ายลูกจ้าง เพื่อหาทางออกร่วมกัน
 
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเชิญผู้แทนจากสถานทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน โดยเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนลงคะแนนเสียงเลือกประเภทกะการทำงานที่ต้องการ ผลการลงคะแนนปรากฏว่า พนักงานส่วนใหญ่ยอมรับและต้องการปรับสภาพทำงานเป็นแบบ 2 กะ คิดเป็นจำนวนถึงร้อยละ 85, พนักงานบางส่วน ยังคงต้องการทำงานแบบ 3 กะ คิดเป็นจำนวนร้อยละ15
 
จากผลการลงคะแนนสำรวจความคิดเห็นของพนักงานนั้น แสดงให้เห็นว่า พนักงานส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ และยอมรับการปรับสภาพการทำงานเป็น 2 กะ อย่างไรก็ดี ภายใต้สภาวการณ์และความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ทางบริษัทฯจึงจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วนที่เกินความต้องการในสายการผลิต เพื่อให้บริษัท ฯ ยังดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างมั่นคง
 
ทั้งนี้ บริษัทก็ได้ชี้แจงให้ทราบถึงผลการเลือก 2 กะ อย่างชัดเจนแล้ว และได้ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเรื่องการทำงาน อีกทั้งยังทำงานร่วมกับสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และผู้แทนสถานทูตของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยในการดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริง และกระบวนการเลิกจ้างตามสิทธิที่มีอยู่ในสัญญาจ้างแรงงาน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็ได้จ่ายค่าชดเชย และสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับตามกฎหมาย
 
แคล-คอมพ์ฯ บริษัทดังระบุด้วยว่า โดยหากพนักงานที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศต้นทาง (เมียนมา) จะดำเนินการส่งพนักงานกลับประเทศ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเดินทางทั้งฝั่งไทย (ด่านแม่สอด) และฝั่งเมียนมา กลับภูมิลำเนาเดิมของคนงาน
 
นอกจากนั้น ยังตั้งศูนย์ประสานงานบริการ เพื่อให้การช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลฯ คอยให้บริการฯ ทั้งให้คำปรึกษาอยู่ตลอด ก็เพื่อประสานงานต่างๆและดูแลเหลือคนงานอย่างเท่าเทียมกันทุกคน


 
สมศักดิ์ ติวเข้มผู้สมัครใต้ โวเพื่อไทยปักธงได้แน่ หลังโพลมาแรง จี้ตีปี๊บนโยบาย
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7597696

สมศักดิ์ ถกผู้สมัครภาคใต้ โว เพื่อไทยปักธงได้แน่นอน หลังโพลมาแรงต่อเนื่อง ย้ำผู้สมัครนำเสนอนโยบายให้เข้าใจตรงจุด เชื่อชาวบ้านรับนโยบาย-แคนดิเดตนายกฯ
 
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรคและรองผอ.ศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้ง ได้เชิญผู้สมัคร ส.ส.ในจังหวัดภาคใต้ อาทิ น.ส.บุญฑริกา ยอดสุรางค์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 เบอร์ 2 นายถาวรรัตน์ คงแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 เบอร์ 1 พล.ต.ต.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 เบอร์ 8 น.ส.ปรมาภรณ์ บริบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 10 เบอร์ 10 นายฮานาฟี หมีนเส็น ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 8 เบอร์ 8 น.ส.ชานิสรา ภูวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 9 เบอร์ 10 และ นายกฤษ ศรีฟ้า ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 เบอร์ 4 เพื่อมาหารือถึงแนวทางการนำเสนอนโยบายของพรรค ที่จะใช้สื่อสารกับประชาชน โดยเฉพาะแนวนโยบายของตนที่ได้พัฒนาส่งเสริมพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด ทั้งการปลดล็อกพืชกระท่อมและกีฬาชนวัว
 
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ใหม่ที่พรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถปักธงได้ ตนจึงเข้ามาช่วยผู้สมัคร ส.ส.เพราะตลอดการเป็น รมว.ยุติธรรม ตนได้ลงพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง จนรับทราบปัญหาและแนวทางการพัฒนา รวมถึงมีหลายนโยบายที่ขับเคลื่อนจนสำเร็จไปแล้ว เช่น การปลดล็อกพืชกระท่อม ที่ทำให้ใบไม้กลายเป็นเงินสด เกิดการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับประชาชนจำนวนมาก
 
รวมถึงการผลักดันส่งเสริมกีฬาชนวัว ด้วยการร่างกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ เพื่อยกระดับให้มีมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ ช่วยเปิดประตูให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมกีฬาชนวัวได้ง่ายขึ้น เป็นอีกซอฟท์พาวเวอร์ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับประเทศ
 
ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี หลายคนทราบถึงปัญหาและแนวทางถึงแก่น รวมถึงเข้าใจแนวทางการพูดคุยกับประชาชน ถ้าเรานำเสนอนโยบายให้ประชาชนเข้าใจได้ จะมีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจ ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้มั่นใจว่าครั้งนี้จะสามารถปักธงได้อย่างแน่นอน เพราะโพลต่างๆ พรรคเพื่อไทยมาแรงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าพี่น้องชาวภาคใต้ยอมรับนโยบาย และแคนดิเดตนายกฯของพรรค 



สมชัย โว เสรีรวมไทย กวาด3ล้านเสียง ซิวปาร์ตี้ลิสต์ 9-10 ที่นั่ง คาด ส.ส.เขต 3 เก้าอี้
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7597773

“สมชัย” ประเมินกระแส “เสรีรวมไทย” กวาดเกิน 3 ล้านเสียง ได้ปาร์ตี้ลิสต์ 9-10 ที่นั่ง ให้ “มังกร” ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ดูแลภาคอีสาน คาด ส.ส.แบบเขต ได้ 3 เก้าอี้
 
5 เม.ย. 66 – นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรค สร. ทั้งระบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ว่า
 
ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ คาดว่า จะได้รับคะแนนเลือกตั้ง ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคะแนน คิดเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ 9-10 คน ขณะที่ส.ส.เขตนั้น พรรคประเมินว่า หลายเขตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค มีโอกาสที่จะได้รับเลือกจากประชาชน เช่น ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่ง นายมังกร ยนต์ตระกูล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 2 ในฐานะดูแลการเลือกตั้งภาคอีสาน คาดว่ามีโอกาสจะได้รับเลือกตั้ง ประมาณ 3 เขตเลือกตั้ง
 
ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในหลายพื้นที่ เป็นนักเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง อบต. เทศบาล ดังนั้น ภาพรวมดูดีกว่าการเลือกตั้ง ปี’62 ที่เป็นพรรคใหม่ และจาก 4 ปีที่ผ่านมา พรรคมีผลงาน ส่วนพื้นที่ที่ประเมินว่าจะได้ ส.ส. เป็นพื้นที่อีสาน นั้น ยอมรับว่า พรรคได้วางยุทธศาสตร์ในการหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงนโยบายที่ตรงกับความต้องการของประชาชน” นายสมชัย กล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีที่พรรคเสรีรวมไทย ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นหัวหน้าพรรค ได้ยื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา รวม 57 รายชื่อ
 
โดยส่วนใหญ่พบว่า เป็นอดีต ส.ส. คนทำงานให้กับพรรค และอดีตผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้งปี 2562 อย่างไรก็ตาม มีชื่อที่น่าสนใจ ซึ่งเบียดแทรกคนทำงานของพรรค คือ นายมังกร ยนต์ตระกูล อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ที่อยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่