ชูศักดิ์ ยัน เพื่อไทยคิดรอบคอบ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ‘ชัยธวัช’ แซะ คิดไม่เสร็จ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8158832
  
  
ชูศักดิ์ ยัน นโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อไทยคิดรอบคอบแล้ว ‘ชัยธวัช’ แซะ คิดไม่เสร็จ คิดไปทำไป ด้าน ‘ภราดร’ ย้ำ ภูมิใจไทย เดินหน้าผลักดันให้สำเร็จ
 
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 มี.ค. 2567 ที่อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดเสวนาวิชาการเรื่องพรรคการเมืองสร้างชาติ และการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการพรรคการเมือง
 
โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายวุฒิสาร ตันไชย นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมการเสวนา โดยมีสมาชิกพรรคการเมืองเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
 
โดยนายชูศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า ตอนนำเสนอนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต่อ กกต. เราบอกว่าจะมีการใช้งบประมาณแผ่นดินแบบไหน แต่เนื่องจากรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลผสมมาจากหลายพรรคการเมือง งบประมาณที่มีอยู่จึงต้องนำไปใช้กับนโยบายอื่นๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
 
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า แต่ข้อสำคัญขณะเป็นรัฐบาลงบปี 67 ยังไม่ออก แปลว่างบที่ตั้งความหวังที่จะนำมาใช้จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ รัฐบาลจึงคิดจะกู้เงิน ก็มีการบอกว่าอาจฝ่าฝืนวินัยการเงิน การคลัง ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางรัฐบาลประกาศแล้วว่ามีแนวทางจะดำเนินการตามนโยบายที่ประกาศไว้ และขอยืนยันว่าเป็นนโยบายที่คิดมารอบคอบแล้ว
 
ด้านนายชัยธวัช กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตด้วยว่า มองได้หลายแง่มุม หากเชื่ออย่างที่นายชูศักดิ์พูดว่าเป็นเพราะรัฐบาลผสมจึงผลักดันไม่ได้ โจทย์ใหญ่ของการเมืองไทยจะต้องมาดูที่การออกแบบกฎกติกา
 
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ตนไม่ได้มองว่าเป็นเพราะรัฐบาลผสมหรือไม่ แต่คิดว่าตอนออกแบบนโยบายอาจจะคิดไม่เสร็จตั้งแต่แรก อาจจะใช้เป็นดิจิทัลมันนี่ แต่อาจจะติดข้อกฎหมายทำไม่ได้ ต่อมาอาจจะคิดใช้เงินนอกงบประมาณ แต่ก็ติดเรื่องกฎหมายอีก เหมือนคิดไปทำไป ไม่ได้คิดตลอดสายตั้งแต่แรก
 
ขณะที่นายภราดร กล่าวกรณีเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายของรัฐบาลไปแล้ว ฉะนั้น คนที่อยู่ในองคาพยพก็ต้องเดินหน้าไปตามนโยบายของรัฐบาล แน่นอนว่าพรรคภูมิใจไทยก็ต้องเดินหน้าไปตามนโยบายของรัฐบาล
 
แต่ในปี 67 ยังติดขัดเรื่องของงบประมาณที่ยังไม่สามารถเอาไปใช้ได้ ก็อาจจะต้องหาช่องทางอื่น เชื่อว่าขณะนี้ทางรัฐบาล กระทรวงการคลัง กำลังหาช่องทาง เพื่อจะนำเงินมาดำเนินนโยบายนี้ แน่นอนว่าก็มีทางออกในการออกเป็นพ.ร.ก.เงินกู้ได้หรือไม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือออกเป็นพ.ร.บ. ซึ่งต้องผ่านสภาฯ ก็ต้องมาถกเถียงในสภาต่อไป
 
“ดังนั้น ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ หากไม่มีอะไรที่หนักหนาสาหัสหรือผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ผิดกฎหมายอะไรก็สามารถที่จะผลักดันไปได้ ส่วนความเห็นพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง” นายภราดร กล่าว

---

สส.ถกปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำจี้รัฐแก้ไข
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_695637/

สส.นำปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเข้าหารือต่อที่ประชุมสภาฯ ก่อนพิจารณาร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียม วาระ2,3 พร้อมจับตากฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านวาระแรกหรือไม่

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (27 มี.ค.67) ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระประธานเปิดโอกาสให้สมาชิกนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าปรึกษาหารือ ซึ่งวันนี้ สส. ทั้งฝ่ายค้าน และ สส. ฝ่ายรัฐบาล ต่างนำความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยแล้งเข้าหารืออย่างต่อเนื่อง เช่น
 
ในพื้นที่จังหวัดแพร่ ศรีสะเกษ ภูเก็ต กระบี่ ยะลา และชลบุรี ที่ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากประสบปัญหาไม่มีน้ำกินน้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งบางพื้นที่น้ำดิบไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา ปัญหาน้ำประปาไม่ได้คุณภาพ บางพื้นที่แหล่งกักเก็บน้ำตื้นเขิน ชำรุดเสียหาย ไม่มีงบประมาณซ่อมแซม จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว และบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างยั่งยืน
 
นอกจากนี้ สมาชิกยังนำปัญหาระบบสาธารณูปโภคทั้งถนนชำรุด ปัญหาไม่มีไฟ้าส่องสว่าง และการขอให้ขยายช่องจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าหารือจำนวนมากเช่นกัน รวมถึงปัญหาอื่นๆ ทั้งปัญหาหมูเถื่อนที่ส่งผลทำให้ราคาหมูตกต่ำ ปัญหาโรงพยาบาลจังหวัดนครนายกมีความแออัดไม่เพียงพอต่อการใช้บริการของประชาชน ปัญหาค่าครองชีพ ราคาพลังงานทั้งน้ำมันและไฟฟ้ามีราคาแพงกระทบต่อประชาชนที่มีรายได้น้อย
 
จากนั้น ที่ประชุมพิจารณาวาระที่คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ คือร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….  (ร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียม) วาระ 2 และวาระ 3 รวมทั้งหมด 68 มาตรา นอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน คือ เรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวม 3 ฉบับ ที่ภาคประชาชน และร่างของนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร กับคณะ เป็นผู้เสนอ

---

โรงแรมชี้ขึ้น ‘ค่าแรงขั้นต่ำ’ ดันต้นทุนพุ่ง ต้องอัพราคาห้องทำเสียเปรียบปท.อื่น เสนอปรับแค่ไฮซีซั่น
https://www.matichon.co.th/region/news_4494815

อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เสนอปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นอยากให้ปรับช่วงไฮซีซั่น ในขณะที่พนักงานเฮได้ปรับค่าแรง
 
จากที่คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2567 เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม เพื่อใช้สำหรับนายจ้างและลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการประเภทกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป
 
โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 400 บาท และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2567 นำร่องในเขตพื้นที่จังหวัด 10 จังหวัด ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานครเฉพาะเขตปทุมวัน และเขตวัฒนา 2.จังหวัดกระบี่เฉพาะเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง 3.จังหวัดชลบุรีเฉพาะเขตเมืองพัทยา 4.จังหวัดเชียงใหม่เฉพาะเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 5.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เฉพาะเขตเทศบาลหัวหิน 6.จังหวัดพังงาเฉพาะเขตเทศบาลตำบลคึกคัก 7.จังหวัดภูเก็ต 8.จังหวัดระยองเฉพาะเขตตำบลบ้านเพ 9.จังหวัดสงขลาเฉพาะเขตเทศบาลนคหาดใหญ่ 10.จังหวัดสุราษฎร์ธานีเฉพาะเขตอำเภอเกาะสมุย
 
เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ขณะที่ธุรกิจการให้บริการที่พักแรมมีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง และ 10 พื้นที่/จังหวัดดังกล่าว เป็นพื้นที่จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง คณะกรรมการค่าจ้างฯ จึงได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมครั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นายบุญเกิด สุขศรีการ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงผู้ประกอบการโรงแรมไม่มีปัญหา ส่วนผู้ที่ได้ประโยชน์ก็จะเป็นพนักงานของโรงแรม การปรับราคาค่าแรงขั้นต่ำหากเจาะจงปรับค่าแรงขึ้นแค่ผู้ประกอบการโรงแรมก็ไม่เหมาะสม จะทำธุรกิจอื่นๆ รวมไปถึงค่าครองชีพเมืองท่องเที่ยวยิ่งสูงขึ้น
 
ซึ่งในปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติก็จะเลือกราคาที่ถูกเพื่อมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ยิ่งมีการปรับราคาต้นทุนมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เสียเปรียบจากประเทศคู่แข่งมากเท่านั้น  ส่วนใหญ่พนักงานก็อยากมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเมืองไหนก็ตาม ถ้าเริ่มจากพัทยาก็ไม่น่ามีปัญหามากนัก เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำในเมืองพัทยาจะมีค่าแรงที่สูงอยู่แล้วจึงไม่น่าจะมีผลกระทบมาก
 
จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คิดถึงช่วงหน้าโลว์ซีซัน เพราะบางโรงแรมแทบจะไม่มีลูกค้าเลย บวกกับหน้าฝนอีก 2-3 เดือน ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมอาจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ถ้ามีการปรับค่าแรงขั้นต่ำอยากให้มีการปรับช่วงหน้าไฮซีซันมากกว่าซึ่งจะดีกับผู้ประกอบการโรงแรมมากว่า
นายชานนท์ พนักงานโรงแรมซันบีม กล่าวว่า ในมุมมองพนักงานก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ปรับค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากปัจจุบัน ของใช้ต่างๆขึ้นราคา แต่อีกหนึ่งมุมก็เห็นใจผู้ประกอบการโรงแรม หากมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ แต่ค่าห้องพักของโรงแรมไม่สามารถขึ้นได้จะทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมแบกรับภาระ ซึ่งค่าแรงพนักงานก็จะมีการปรับขึ้นทุกปี ตามความสามารถและผลประกอบ ในมุมมองของพนักงานหากมีการปรับค่าแรงขึ้นมากหรือน้อย พนักงานก็ดีใจ