ณัฐวุฒิ ลั่น 5 เมษารู้แน่ เติมกี่พันเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล เตือน โรคหัวใจระวังตื่นเต้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_3900352
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่ลานอเนกประสงค์ ข้างโลตัสรังสิต จ.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดยนพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นาย
พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค นาย
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคพท. นาย
สมศักดิ์ เทพสุทิน นาย
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ปทุมธานี ทั้ง 7 เขต ร่วมเวที โดยพี่น้องสวมเสื้อแดงร่วมรับฟังการปราศรัยจนแน่นพื้นที่ (อ่านข่าว
เสื้อแดงแห่ฟัง ‘เพื่อไทย’ แน่นปทุมฯ ‘อิ๊ง’ อุ้มเบบี้บอยอ้อนแลนด์สไลด์ปิดสวิตช์ 3 ป.)
นาย
ณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า บ้านเมืองมีความขัดแย้ง มีการเลือกปฏิบัติ จนคนทนกันไม่ได้ต้องใส่เสื้อสีแดงมาเรียกร้อง จึงไม่ใช่เรื่องที่ใครจะก้าวข้าม แต่ต้องแก้ไข ตอนนี้ความขัดแย้งมีพัฒนาการที่ร้ายแรงขึ้นทุกวัน พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบอกจะแก้ความขัดแย้ง 8 ปี เกิดอะไรขึ้น ที่คนชูตีนตบนั่นสะท้อนความเป็นจริง ตอนนี้ลุกลามเด็กชู 3 นิ้ว ถ้าปล่อยไปอาจเหลือนิ้วเดียว ดังนั้น ผู้เข้ามาแก้ไขความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ใช่เข้ามาทำคำขวัญ แต่ต้องเข้ามาโดยมีจิตวิญญาณประชาธิปไตยเป็นสารตั้งต้น ต้องเข้ามาโดยเชื่อว่าคนมีความเท่าเทียมกัน ไม่เช่นนั้นจะเข้ามาด้วยการพูดจาดูดีแล้วเอาคะแนนไปไม่ได้ เพราะความขัดแย้งบาดลึก
นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ถ้า พท.เป็นรัฐบาลจะเริ่มจากการแก้รัฐธรรมนูญให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากการเลือกตั้งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน ต้องปฏิรูประบบราชการให้ตอบสนองประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินภาษี กระบวนการยุติธรรมต้องยุติธรรมอย่างแท้จริง พรรค พท.มาเป็นทีมทำงานเป็นทีมเพื่อประเทศไทย และขอให้ ส.ว. 250 คนฟังไว้ พรรค พท.ไม่ได้มาเพื่อต่อยตีกับท่าน แต่กติกาที่เขียนไว้ไม่เป็นธรรม ดังนั้น การที่ท่านยกมือเลือกพล.อ.
ประยุทธ์ ไว้แล้ว ตนไม่อโหสิ แต่รอบนี้อยากให้ท่านคิดกลับตัวกลับใจเสียใหม่ ไถ่โทษประชาชน พรรคไหนได้ที่หนึ่งยกมือสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคนั้นทำหน้าที่
“
นายสมศักดิ์ เรียนจบเอกด้านเป็นรัฐมนตรี เป็นแล้วรักษาไม่หาย เพราะเป็นมาแล้ว 14 หน มาวันนี้ตนก็ขอเอาโชคเอาลางก็ต้องเป็นรัฐบาล” นาย
ณัฐวุฒิ กล่าว
นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า พี่น้องที่อายุ 16 ปีขึ้นไปเตรียมตัวให้ดี โดยเฉพาะใครที่เป็นโรคหัวใจให้ระวังความตื่นเต้นเอาไว้ เพราะวันที่ 5 เมษายนนี้ นพ.
ชลน่าน หัวหน้าพรรค จะเป็นคนประกาศตัวเลขที่จะเติมเข้าไปในกระเป๋าเงินดิจิทัล เขาบอกว่าบัตรประชารัฐ 7 ร้อยบาทและเงินสวัสดิการของพล.อ.
ประยุทธ์ 1 พันบาท รับรองว่าของเราอื้อหือ ไม่ใช่ 7 ร้อย หรือ 1 พันบาท ก็เราจะให้ใช้ 6 เดือน จะให้ 1 พันได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวทีปราศรัยที่จ.ปทุมธานี จะเป็นเวทีสุดท้ายที่น.ส.แพทองธาร จะมาร่วมสำหร้บเวทีต่างจังหวัด เนื่องจากอายุครรภ์ใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว
พิธา ลุยตลาดโชคชัย 4 ลั่นผลงานก้าวไกลเด่น พิสูจน์แล้ว
https://www.matichon.co.th/election66/news_3900428
พิธา ลุยตลาดโชคชัย 4 ลั่นผลงานก้าวไกลเด่น พิสูจน์แล้วทำงานซื่อตรงต่อ ปชช. แบบไม่เกรงใจใคร
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายพิ
ธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ร่วมกิจกรรมหาเสียง พบปะประชาชนและแนะนำนโยบายพรรค ก.ก. ที่ตลาดโชคชัย 4 พร้อมกับนาย
เฉลิมชัย กุลาเลิศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 5 ห้วยขวาง-วังทองหลาง (ยกเว้นแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) โดยได้รับการตอบรับจากพ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายใช้สอยอย่างอบอุ่น ระหว่างการเดินหาเสียงมีประชาชนจำนวนมากที่เข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมพูดคุยกับนายพิธาและผู้สมัคร โดยบางคนได้ชูสามนิ้วเป็นกำลังใจให้ด้วย
นาย
พิธากล่าวว่า พรรค ก.ก.มีนโยบายที่ตอบโจทย์และพร้อมเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ทั้งเรื่องของรัฐสวัสดิการที่ครอบคลุมตั้งแต่เกิดจนตาย ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตและปากท้องของประชาชนไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงประเทศทั้งระบบ นั่นคือการกระจายอำนาจ การเอาทหารออกจากการเมือง และการคืนประเทศกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย
ทั้งนี้ แม้จะมีความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งที่บอกว่าพรรค ก.ก.ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ แต่ตนต้องขอให้ทุกคนคิดย้อนไปตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ เข้าสู่สนามการเมืองเป็นครั้งแรก ผ่านมา 4 ปีเราได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่ในสภาได้อย่างโดดเด่น เทียบเท่าหรือดีกว่าคนที่มีประสบการณ์เสียอีก ประชาชนมั่นใจได้ว่าเราทำงานคุ้มค่าเงินภาษี ซื่อตรงต่อประชาชน ไม่เกรงใจใคร เกรงใจคนเดียวคือเกรงใจพี่น้องประชาชน เรื่องของประสบการณ์จึงเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ตัวชี้ขาดว่าจะบริหารประเทศได้หรือไม่
นาย
พิธากล่าวว่า ดังนั้นตนจึงยืนยันได้ว่าพรรค ก.ก.วันนี้ มีความพร้อมอย่างมากที่จะเข้าไปบริหารประเทศ ด้วยนโยบายที่ครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และประเทศที่กำลังเผชิญความท้าทาย เราพร้อมแก้ปัญหาที่ต้นตอ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยกลับไปสู่วังวนแบบเดิมอีก
ส.อ.ท.จ่อยื่น ‘บิ๊กตู่’ ลดค่าไฟ ชี้ 4.77 บาทแพง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3900572
ส.อ.ท.จ่อยื่น ‘บิ๊กตู่’ ลดค่าไฟ ชี้ 4.77 บาทแพง โวยทัวร์จีนถือธง ตุ๋นเช่าพระแพง-หลอกช้อปสินค้าคุณภาพต่ำ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นาย
อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องการทบทวนค่าไฟงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 หลังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเรียกเก็บค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) อัตรา 98.27 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวม 4.77 บาทต่อหน่วย ว่า ในเร็วๆ นี้ จะยื่นหนังสือถึง พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้ทบทวนมติดังกล่าว เพราะปัจจุบันต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของไทยลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะฐานราคาเดือนมีนาคม 2566 ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ตลาดจรเพียง 13 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู บวกต้นทุนอื่นที่ลดทำให้ค่าไฟเหลือเพียง 4.40 บาทต่อหน่วย ขณะที่ กกพ.กลับใช้ฐานเดือนมกราคม 2566 ซึ่งสูงอยู่ที่ 20 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู
“
ส.อ.ท.เห็นว่ามติ กกพ.ดังกล่าวยังไม่ตอบโจทย์ในภาพรวม และหวังว่าภาครัฐจะเร่งดำเนินการก่อนอัตราค่าไฟใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยจะยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีเป็นรัฐบาลรักษาการและใกล้ช่วงเลือกตั้งนั้น เรามองเป็นการแก้ปัญหาติดพันให้ประชาชนไม่ใช่หาเสียง” นาย
อิศเรศกล่าว
ด้าน นาง
ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร กำลังจับตาการฟื้นตัวของทัวร์ถือธง หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาแบบกรุ๊ป อาจสร้างปัญหาต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยในอนาคต เนื่องจากเป็นการบริหารจัดการโดยนักธุรกิจชาวจีนจัดแพคเกจราคาประหยัด ตั้งแต่ที่พัก ร้านอาหาร กำหนดราคาต่ำกว่าปกติมาก ที่กังวลคือการดูแลความปลอดภัยและคุมด้านคุณภาพได้แค่ไหน อาทิ การท่องเที่ยวทางน้ำไม่มีการควบคุมจำนวน อาจเกิดปัญหาเรือล่มอย่างที่เคยเกิด นักธุรกิจจีนหาเรือที่มีคนจีนเป็นเจ้าของมากกว่าเลือกคนไทย หรือการพาไปซื้อของที่ระลึกในร้านไม่มีคุณภาพ บ่อยครั้งนักท่องเที่ยวถูกหลอก อ้างว่าดูของในไทยแต่ไม่ต้องถือ จัดส่งให้ทีหลัง ใช้สินค้าในจีนส่งไปยังนักท่องเที่ยวจีนที่ตกลงซื้อในไทย เมื่อพบว่าคุณภาพไม่ดีก็จะอ้างว่าซื้อระหว่างการเที่ยวในไทย หรือการหลอกขายสินค้าคุณภาพต่ำแต่กำหนดราคาสูงเกินจริง เช่น การเช่าพระ 400-500 บาท แต่มีต้นทุนเพียง 99 บาท เป็นต้น
“
ทัวร์ถือธงจะเป็นกลุ่มชาวจีนตกลงกันเอง แพคเกจราคาประหยัด ไม่ได้เอื้ออะไรกับร้านอาหารหรือร้านค้าทั่วไปเท่าที่ควร” นาง
ฐนิวรรณกล่าว
JJNY : ณัฐวุฒิลั่น 5 เมษารู้แน่│พิธาลุยตลาดโชคชัย 4 │ส.อ.ท.จ่อยื่น ‘ตู่’ ลดค่าไฟ│รัสเซีย ถล่ม “เมืองอัฟดีฟกา” แนวรบใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3900352
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่ลานอเนกประสงค์ ข้างโลตัสรังสิต จ.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคพท. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ปทุมธานี ทั้ง 7 เขต ร่วมเวที โดยพี่น้องสวมเสื้อแดงร่วมรับฟังการปราศรัยจนแน่นพื้นที่ (อ่านข่าว เสื้อแดงแห่ฟัง ‘เพื่อไทย’ แน่นปทุมฯ ‘อิ๊ง’ อุ้มเบบี้บอยอ้อนแลนด์สไลด์ปิดสวิตช์ 3 ป.)
นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า บ้านเมืองมีความขัดแย้ง มีการเลือกปฏิบัติ จนคนทนกันไม่ได้ต้องใส่เสื้อสีแดงมาเรียกร้อง จึงไม่ใช่เรื่องที่ใครจะก้าวข้าม แต่ต้องแก้ไข ตอนนี้ความขัดแย้งมีพัฒนาการที่ร้ายแรงขึ้นทุกวัน พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบอกจะแก้ความขัดแย้ง 8 ปี เกิดอะไรขึ้น ที่คนชูตีนตบนั่นสะท้อนความเป็นจริง ตอนนี้ลุกลามเด็กชู 3 นิ้ว ถ้าปล่อยไปอาจเหลือนิ้วเดียว ดังนั้น ผู้เข้ามาแก้ไขความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ใช่เข้ามาทำคำขวัญ แต่ต้องเข้ามาโดยมีจิตวิญญาณประชาธิปไตยเป็นสารตั้งต้น ต้องเข้ามาโดยเชื่อว่าคนมีความเท่าเทียมกัน ไม่เช่นนั้นจะเข้ามาด้วยการพูดจาดูดีแล้วเอาคะแนนไปไม่ได้ เพราะความขัดแย้งบาดลึก
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ถ้า พท.เป็นรัฐบาลจะเริ่มจากการแก้รัฐธรรมนูญให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากการเลือกตั้งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน ต้องปฏิรูประบบราชการให้ตอบสนองประชาชนผู้เป็นเจ้าของเงินภาษี กระบวนการยุติธรรมต้องยุติธรรมอย่างแท้จริง พรรค พท.มาเป็นทีมทำงานเป็นทีมเพื่อประเทศไทย และขอให้ ส.ว. 250 คนฟังไว้ พรรค พท.ไม่ได้มาเพื่อต่อยตีกับท่าน แต่กติกาที่เขียนไว้ไม่เป็นธรรม ดังนั้น การที่ท่านยกมือเลือกพล.อ.ประยุทธ์ ไว้แล้ว ตนไม่อโหสิ แต่รอบนี้อยากให้ท่านคิดกลับตัวกลับใจเสียใหม่ ไถ่โทษประชาชน พรรคไหนได้ที่หนึ่งยกมือสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคนั้นทำหน้าที่
“นายสมศักดิ์ เรียนจบเอกด้านเป็นรัฐมนตรี เป็นแล้วรักษาไม่หาย เพราะเป็นมาแล้ว 14 หน มาวันนี้ตนก็ขอเอาโชคเอาลางก็ต้องเป็นรัฐบาล” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า พี่น้องที่อายุ 16 ปีขึ้นไปเตรียมตัวให้ดี โดยเฉพาะใครที่เป็นโรคหัวใจให้ระวังความตื่นเต้นเอาไว้ เพราะวันที่ 5 เมษายนนี้ นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรค จะเป็นคนประกาศตัวเลขที่จะเติมเข้าไปในกระเป๋าเงินดิจิทัล เขาบอกว่าบัตรประชารัฐ 7 ร้อยบาทและเงินสวัสดิการของพล.อ.ประยุทธ์ 1 พันบาท รับรองว่าของเราอื้อหือ ไม่ใช่ 7 ร้อย หรือ 1 พันบาท ก็เราจะให้ใช้ 6 เดือน จะให้ 1 พันได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวทีปราศรัยที่จ.ปทุมธานี จะเป็นเวทีสุดท้ายที่น.ส.แพทองธาร จะมาร่วมสำหร้บเวทีต่างจังหวัด เนื่องจากอายุครรภ์ใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว
พิธา ลุยตลาดโชคชัย 4 ลั่นผลงานก้าวไกลเด่น พิสูจน์แล้ว
https://www.matichon.co.th/election66/news_3900428
พิธา ลุยตลาดโชคชัย 4 ลั่นผลงานก้าวไกลเด่น พิสูจน์แล้วทำงานซื่อตรงต่อ ปชช. แบบไม่เกรงใจใคร
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ร่วมกิจกรรมหาเสียง พบปะประชาชนและแนะนำนโยบายพรรค ก.ก. ที่ตลาดโชคชัย 4 พร้อมกับนายเฉลิมชัย กุลาเลิศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 5 ห้วยขวาง-วังทองหลาง (ยกเว้นแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) โดยได้รับการตอบรับจากพ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายใช้สอยอย่างอบอุ่น ระหว่างการเดินหาเสียงมีประชาชนจำนวนมากที่เข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมพูดคุยกับนายพิธาและผู้สมัคร โดยบางคนได้ชูสามนิ้วเป็นกำลังใจให้ด้วย
นายพิธากล่าวว่า พรรค ก.ก.มีนโยบายที่ตอบโจทย์และพร้อมเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ทั้งเรื่องของรัฐสวัสดิการที่ครอบคลุมตั้งแต่เกิดจนตาย ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตและปากท้องของประชาชนไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงประเทศทั้งระบบ นั่นคือการกระจายอำนาจ การเอาทหารออกจากการเมือง และการคืนประเทศกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย
ทั้งนี้ แม้จะมีความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งที่บอกว่าพรรค ก.ก.ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ แต่ตนต้องขอให้ทุกคนคิดย้อนไปตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ เข้าสู่สนามการเมืองเป็นครั้งแรก ผ่านมา 4 ปีเราได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่ในสภาได้อย่างโดดเด่น เทียบเท่าหรือดีกว่าคนที่มีประสบการณ์เสียอีก ประชาชนมั่นใจได้ว่าเราทำงานคุ้มค่าเงินภาษี ซื่อตรงต่อประชาชน ไม่เกรงใจใคร เกรงใจคนเดียวคือเกรงใจพี่น้องประชาชน เรื่องของประสบการณ์จึงเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ตัวชี้ขาดว่าจะบริหารประเทศได้หรือไม่
นายพิธากล่าวว่า ดังนั้นตนจึงยืนยันได้ว่าพรรค ก.ก.วันนี้ มีความพร้อมอย่างมากที่จะเข้าไปบริหารประเทศ ด้วยนโยบายที่ครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และประเทศที่กำลังเผชิญความท้าทาย เราพร้อมแก้ปัญหาที่ต้นตอ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยกลับไปสู่วังวนแบบเดิมอีก
ส.อ.ท.จ่อยื่น ‘บิ๊กตู่’ ลดค่าไฟ ชี้ 4.77 บาทแพง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3900572
ส.อ.ท.จ่อยื่น ‘บิ๊กตู่’ ลดค่าไฟ ชี้ 4.77 บาทแพง โวยทัวร์จีนถือธง ตุ๋นเช่าพระแพง-หลอกช้อปสินค้าคุณภาพต่ำ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องการทบทวนค่าไฟงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 หลังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเรียกเก็บค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) อัตรา 98.27 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวม 4.77 บาทต่อหน่วย ว่า ในเร็วๆ นี้ จะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้ทบทวนมติดังกล่าว เพราะปัจจุบันต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของไทยลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะฐานราคาเดือนมีนาคม 2566 ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ตลาดจรเพียง 13 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู บวกต้นทุนอื่นที่ลดทำให้ค่าไฟเหลือเพียง 4.40 บาทต่อหน่วย ขณะที่ กกพ.กลับใช้ฐานเดือนมกราคม 2566 ซึ่งสูงอยู่ที่ 20 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู
“ส.อ.ท.เห็นว่ามติ กกพ.ดังกล่าวยังไม่ตอบโจทย์ในภาพรวม และหวังว่าภาครัฐจะเร่งดำเนินการก่อนอัตราค่าไฟใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยจะยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีเป็นรัฐบาลรักษาการและใกล้ช่วงเลือกตั้งนั้น เรามองเป็นการแก้ปัญหาติดพันให้ประชาชนไม่ใช่หาเสียง” นายอิศเรศกล่าว
ด้าน นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร กำลังจับตาการฟื้นตัวของทัวร์ถือธง หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาแบบกรุ๊ป อาจสร้างปัญหาต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยในอนาคต เนื่องจากเป็นการบริหารจัดการโดยนักธุรกิจชาวจีนจัดแพคเกจราคาประหยัด ตั้งแต่ที่พัก ร้านอาหาร กำหนดราคาต่ำกว่าปกติมาก ที่กังวลคือการดูแลความปลอดภัยและคุมด้านคุณภาพได้แค่ไหน อาทิ การท่องเที่ยวทางน้ำไม่มีการควบคุมจำนวน อาจเกิดปัญหาเรือล่มอย่างที่เคยเกิด นักธุรกิจจีนหาเรือที่มีคนจีนเป็นเจ้าของมากกว่าเลือกคนไทย หรือการพาไปซื้อของที่ระลึกในร้านไม่มีคุณภาพ บ่อยครั้งนักท่องเที่ยวถูกหลอก อ้างว่าดูของในไทยแต่ไม่ต้องถือ จัดส่งให้ทีหลัง ใช้สินค้าในจีนส่งไปยังนักท่องเที่ยวจีนที่ตกลงซื้อในไทย เมื่อพบว่าคุณภาพไม่ดีก็จะอ้างว่าซื้อระหว่างการเที่ยวในไทย หรือการหลอกขายสินค้าคุณภาพต่ำแต่กำหนดราคาสูงเกินจริง เช่น การเช่าพระ 400-500 บาท แต่มีต้นทุนเพียง 99 บาท เป็นต้น
“ทัวร์ถือธงจะเป็นกลุ่มชาวจีนตกลงกันเอง แพคเกจราคาประหยัด ไม่ได้เอื้ออะไรกับร้านอาหารหรือร้านค้าทั่วไปเท่าที่ควร” นางฐนิวรรณกล่าว