JJNY : 5in1 พบโรคปริศนาใน“บุรุนดี”│‘เพื่อไทย’ลั่น ถ้าเป็นรบ.│‘โรม’กระทุ้งปปง.│PM 2.5 เชียงรายยังหนัก│เซเลนสกีย้ำต้องชนะ

ผวาพบโรคปริศนาระบาดใน “บุรุนดี” กำเดาไหลไม่หยุด-คร่าแล้ว 3 รายใน 24 ช.ม.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7588231   
 
ประชากรในแอฟริกาผวาอีก เมื่อศูนย์ข้อมูลจีโนม เผยข้อมูล โรคลึกลับในบุรุนดีเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 รายภายใน 24 ชั่วโมง จากอาการกำเดาไหลไม่หยุด แม้อาการคล้ายอีโบลาและไวรัสมาร์บวร์กแต่ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสดังกล่าว
 
เว็บไซต์ต่างประเทศ และศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ศูนย์จีโนมและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วแอฟริกากลางเตรียมความพร้อมสูงสุด หลังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตหลายรายที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไข้เลือดออกลึกลับใน “บุรุนดี” โดยก่อนหน้านี้พบการระบาดของไวรัสมาร์บวร์กในอิเควทอเรียลกินีและแทนซาเนีย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดเดาว่าโรคติดเชื้อไข้เลือดออกลึกลับในบุรุนดีอาจมีสาเหตุมาจากการระบาดของไวรัสมาร์บวร์ก แต่สาธารณสุขของบุรุนดีออกมายืนยันว่าผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบทั้งไวรัสมาร์บวร์กและอีโบลาในสารคัดหลั่งจากผู้เสียชีวิต
 
ทางประเทศบุรุนดีซึ่งอยู่ทางด้านแอฟริกาตะวันตกได้พบการระบาดของโรคติดเชื้อลึกลับที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตแล้ว 3 รายภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดมาจากชุมชนเดียวกัน ซึ่งตั้งแต่ปรากฏอาการและเสียชีวิตรวดเร็วกว่าไวรัสอีโบลาและมาร์บวร์กที่ผู้ติดเชื้ออาจเสียชีวิตได้ช่วง 2 วัน- 3 สัปดาห์
 
สำหรับอาการของผู้ป่วยติดเชื้อโรคลึกลับจะมีอาการไข้นำ ตามมาด้วยการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อาเจียน อุจจาระเป็นเลือด และ มีเลือดกำเดาไหล (nosebleed disease)
 
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบุรุนดีและองค์การอนามัยโลกพยายามเข้าควบคุมโรคที่คาดว่าเกิดจากไวรัสในพื้นที่จังหวัด Baziro โดยยังไม่สามารถระบุชนิดของไวรัสหรือจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุได้ มีการกักตัวผู้ที่ได้อยู่ใกล้ชิดสัมผัสกับผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบคน
 
ขณะเดียวกัน รัฐบาลและสาธารณสุขบุรุนดีขอความร่วมมือจากประชาชนให้ป้องกันตนเองด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยครั้งและหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อหรือผู้เสียชีวิตจากโรคลึกลับ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
 
ทั้งนี้ แม้อาการของโรคลึกลับในบุรุนดีจะคล้ายกับการติดเชื้อไวรัสอีโบลาและไวรัสมาร์บวร์กที่มีอันตรายสูง แต่กระทรวงสาธารณสุขของบุรุนดีได้แถลงยืนยันต่อมาว่าจากการตรวจวินิจฉัยตัวอย่างส่งตรวจจากผู้เสียชีวิตจากโรคลึกลับกลับไม่พบทั้งไวรัสอีโบลาและไวรัสมาร์บวร์ก ทางการจึงเร่งดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกว่าเป็นการติดเชื้อจากไวรัสหรือจุลชีพประเภทใดที่ทำให้เกิดไข้เลือดออกในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการป้องกันและรักษาได้ตรงจุด และโรคลึกลับดังกล่าวมีความสุ่มเสี่ยงที่จะระบาดในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ หรือระดับโลกหรือไม่


 
‘เพื่อไทย’ ลั่น ถ้าเป็น รบ.ชงทำประชามติแก้ รธน.ยกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปัดตอบรับมือ ‘ทักษิณ’ กลับไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3901420

‘เพื่อไทย’ ลั่น หากเป็น รบ.ชงทำประชามติแก้ รธน.ยกระดับ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปัดตอบรับมือ ‘ทักษิณ’ กลับไทย
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียมเป็นครั้งแรก นำโดยนายชัยเกษม นิติสิริ ในฐานะประธานคณะกรรมการ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายนพดล ปัทมะ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
 
จากนั้นเวลา 14.30 น. นายชัยเกษมกล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนรู้สึกว่ามีการใช้กฎหมายรังแกประชาชนค่อนข้างมาก ดังนั้นต้องฟื้นฟูกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อปกป้องประชาชน เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เกิดความเสมอภาค ให้ความเหลื่อมล้ำหมดไป ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ยึดประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพประชาชน การจับกุมคุมขัง
 
นายชูศักดิ์แถลงผลการประชุมว่า วันนี้คณะกรรมการมีความเห็นร่วมกันใน 4 ข้อคือ 1.พรรค พท.มีนโยบายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ผ่านกระบวนการของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แต่ที่ผ่านมา ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ ซึ่งขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ทำประชามติก่อน ดังนั้น หากพรรค พท.เป็นรัฐบาล คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการทำประชามติสอบถามประชาชน
 
นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า 2.ในเรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 40 แต่เมื่อเกิดการรัฐประหาร ก็ไม่มีเรื่องนี้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอีก ดังนั้นต้องมีการรื้อฟื้น ฟื้นฟูเพื่อเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพ การใช้ชีวิตของประชาชน โดยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ วิธีปฏิบัติใดที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องได้รับการแก้ไข 3.ในเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ความเสมอภาค เท่าเทียมซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของสังคม ทั้งทางกฎหมายและการปฏิบัติ ต้องได้รับการแก้ไขโดยพลัน
 
นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า และ 4.ที่ผ่านมาประชาชนถูกคุมขังโดยไม่ได้รับการประกัน ด้วยเหตุผลที่ใช้ดุลยพินิจกว้างขวาง ดังนั้นต้องแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือ ป.วิอาญา เพื่อให้หลักประกันต่อประชาชนในสิทธิของการประกันตัว ซึ่งพรรคเห็นว่าการให้ประกันตัวต้องเป็นหลัก การไม่ให้ประกันต้องเป็นข้อยกเว้น และเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ให้ประกันเรื่องอะไร เหล่านี้พรรค พท.จะใช้เป็นนโยบายหาเสียง ต้องไม่ให้ตีความอย่างกว้างขวาง
 
เมื่อถามถึง กรณีที่ภาคสังคมออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมกฎหมายต่างๆ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราต้องเริ่มที่การแก้โครงสร้างรัฐธรรมนูญ อะไรที่ขัดกับหลักการ เราจะดำเนินการ ส่วนรายละเอียดจะศึกษาและประกาศต่อไป ขอให้คำมั่นว่าจะดำเนินการในเรื่องความเท่าเทียมทันทีเมื่อเราเป็นรัฐบาล
 
เมื่อถามถึง กรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัฐ ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ (พช.) ระบุว่าหากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมารับโทษ จะมีคนไปนอนเฝ้าหน้าเรือนจำและเกิดความวุ่นวาย คณะกรรมการได้พิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้หารือเรื่องนี้ การตัดสินใจของนายทักษิณเป็นความคิดของท่าน พรรค พท.เห็นว่าสถานการณ์ปัจุบันต้องการเปลี่ยนแปลงโดยประชาชน เราจะเป็นเครื่องมือเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงร่วมกับประชาชน ดังนั้นปัญหาสำคัญทั้งเศรษฐกิจ กฎหมาย ระเบียบที่ทำลายสิทธิขั้นพื้นฐาน เราจะทำควบคู่กันไป และหากเราเป็นแกนนำรัฐบาล นโยบายเหล่านี้จะเป็นหลักในการขับเคลื่อนของรัฐบาล



‘โรม’ กระทุ้งปปง. ทำไมไม่เร่ง อายัดทรัพย์ ‘ส.ว.อุปกิต’ ทั้งๆที่ เจอแจ้งข้อหาฟอกเงินแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3901858

‘โรม’ กระทุ้ง ปปง.อายัดทรัพย์ด่วน! หลัง ‘อุปกิต’ โดนแจ้งข้อหาฟอกเงิน
 
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ภายหลัง นายอุปกิต ปาจารียางกูร ส.ว. ที่ถูกกล่าวหาว่ามีสายสัมพันธ์กับ “ตุน มิน ลัต” เข้าพบผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และถูกแจ้งข้อกล่าวหาสมคบฟอกเงิน เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา
 
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ผ่านมาแล้วหลายวัน ตนยังคงรอคอยคำตอบจาก ปปง.ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร เพราะเรื่องนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน แต่ทำไม ปปง.ยังเงียบ ทั้งที่นายอุปกิตถูกแจ้งข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 สุดท้ายหาก ปปง.ไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างที่ควรจะเป็น แล้วปรากฏว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของนายอุปกิต ปปง.ต้องรับผิดชอบ จึงขอฝากสื่อมวลชนและประชาชนช่วยกันติดตาม เรียกร้องให้ ปปง.ทำหน้าที่ของตัวเอง
 
หวังว่า ปปง.จะทำหน้าที่ของตัวเองให้มีประสิทธิภาพ ให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม อย่าให้ประชาชนสงสัยเลยว่า ปปง.ต้องการช่วยเหลือใครเป็นพิเศษหรือไม่” นายรังสิมันต์กล่าว



ฝุ่น PM 2.5 เชียงรายยังหนัก ด่านแม่สายการค้าขายเริ่มชะลอตัว-ร้านค้าทยอยปิด
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1248463

ฝุ่น PM 2.5 เชียงรายยังหนัก การค้าขายด่านแม่สายเริ่มชะลอตัว ร้านค้าทยอยปิดร้านหนีฝุ่น 
 
วันที่ 30 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝุ่นควันภาคเหนือยังหนัก โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่ามีปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงถึง 258 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบปริมาณฝุ่น PM10 มีค่า 348 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพเช่นกัน

โดยเฉพาะพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ 1. อำเภอแม่สาย มีปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงถึง 258 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ และมีปริมาณฝุ่น PM10 มีค่า 348 มคก./ลบ.ม. เมตร (มคก./ลบ.ม.)  2. อำเภอเชียงของ มีปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงถึง 254 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ และมีปริมาณฝุ่น PM10 มีค่า 311 มคก./ลบ.ม. เมตร (มคก./ลบ.ม.) 3.อำเภอเมือง มีปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงถึง 234 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ และมีปริมาณฝุ่น PM10 มีค่า 257 มคก./ลบ.ม. เมตร (มคก./ลบ.ม.)
 
นางสาวผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า แม้จะมีสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แต่การค้าชายแดนด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ค่อนข้างคึกคักมีชาวเมียนมาข้ามฝั่งเข้ามาซื้อของเยอะมีรถตู่วิ่งเข้า-ออกด่าน วันละ 100กว่าคัน โดยส่วนใหญ่จะเข้ามาซื้อสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สินค้าอุปโภค บริโภค อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาวเลาถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมียนมาจะข้ามเยอะมากเผื่อซื้อสินค้าไปใช้ในช่วงเทศกาล
แต่ปีนี้มีความกังวลถ้าหากสภาพอากาศฝุ่น PM 2.5 ยังไม่ดีขึ้น จำนวนคนที่ข้ามมาก็น่าจะลดลงเรื่อย ๆ เช่นเดียวกันกับนักท่องเที่ยวคนไทยตอนนี้ก็เริ่มเงียบ คนในพื้นที่แทบไม่ออกจากบ้าน ส่วนร้านก็เริ่มทยอยปิดให้บริการเพราะทนสภาพอากาศไม่ไหว

ตอนนี้การค้าขายน่าจะเริ่มชะลอตัวลงก็ต้องรอให้ทางหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเพราะตอนนี้ฟ้าปิดฝุ่นควันปกคลุมทั่วจังหวัด โดดยเฉพาะพื้นที่อำเภอแม่สายเนื่องจากมีภูเขาสูงล้อมรอบ ถ้ายังแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็คิดว่าสถานการณ์ก็น่าจะแย่ลงเรื่อยๆ 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่