JJNY : 5in1 Conforall ร้องสภาล่ม│ส.ว.พันธุ์ใหม่ซัดพรรคร่วม│ชัยธวัชชี้รายจ่ายพท.│หุ้นไทยปิดร่วง│รัสเซียถล่มเชอร์โนบิล

Conforall ร้องผู้นำฝ่ายค้าน สภาล่ม 2 วันติด ถ่วงรั้งปชต. หวังเห็นความจริงใจมากกว่าเกมการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5048998
 
 
‘เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ’ ร้องผู้นำฝ่ายค้าน ซัดคนทำสภาล่ม ถ่วงรั้งกระบวนการประชาธิปไตย ยันไม่เห็นด้วยยื่นศาล รธน.รอบ 3 ด้าน ‘ปชน.’ รับลูก ย้ำ ‘นายกฯ’ ต้องต้องเจรจากับพรรคร่วม
 
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่อาคารรัฐสภา เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ (Conforall) นำโดย นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ เข้าเรียกร้องต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน โดยนายยิ่งชีพกล่าวว่า พวกเราได้ทำกิจกรรมเพื่อเรียกร้องให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% มาตลอดหลายปี 2 วันนี้รัฐสภาพิจารณานัดสำคัญ เราก็เริ่มกิจกรรมตั้งแต่เมื่อวาน แต่ปรากฏว่าพอมาถึงสภาก็ล่มเลย วันนี้เราก็มาอีก สภาก็ล่มอีก พวกเรายังยืนยันว่าประเทศนี้จำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่วางอำนาจสูงสุดมีที่มาอันชอบธรรมจากประชาชนตั้งแต่ต้นกระบวนการจนจบ ถ้ายังไม่ได้มาในวันนี้ก็จะยังไม่หยุดรณรงค์ เรียกร้อง เคลื่อนไหว จนกว่าจะได้สิ่งนี้มา
 
นายยิ่งชีพกล่าว เราต้องขอขอบคุณ ส.ส.และ ส.ว. 175 คน ที่ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องไปต่อ และเราขอมองทุกท่านที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นคนที่วอล์กเอาต์ หรือคนที่มานั่ง แต่ไม่แสดงตน หรือคนที่ประกาศจะโหวตคว่ำ ถือว่าเป็นการกระทำที่ถ่วงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่อย่างไรก็จะต้องเกิดขึ้น และพวกเขาทำได้แต่ถ่วงเวลา วันนี้การประชุมสภาล่มไป แต่ญัตติการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังคงอยู่และเป็นญัตติแรก ครั้งหน้าที่เปิดการประชุมขึ้นมาก็ต้องพิจารณาเรื่องนี้ อาจจะต้องรอ 3 เดือน หรือ 4 เดือนก็ไม่แน่ใจ
 
จริงๆ หากวันนี้โหวตตามกระบวนการที่ควรจะเป็น แล้วไม่ผ่าน ก็รอ 3-4 เดือนแล้วเสนอใหม่ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย หรือช้าออกไป วันนี้การจัดทำรัฐธรรมนูญไม่ได้ไปต่อ ท่ามกลางเกมการเมืองที่ถกเถียงกันมากมาย ว่าตกลงจะไปทางไหน สิ่งเดียวที่เรายืนยันว่าไม่เห็นด้วยคือการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในเรื่องนี้อีก เป็นรอบที่ 3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นข้อชัดเจนที่สุดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา เพราะมีข้อวินิจฉัยหลายเรื่องที่ทำให้เห็นว่าประชาธิปไตยไปต่อไม่ได้มามากแล้ว ซึ่งก็ได้วินิจฉัยเรื่องนี้มาแล้ว แม้ไม่เห็นด้วยมาก แต่ก็ปฏิบัตตามนั้นก็ได้ คือให้รัฐสภาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยจัดทำประชามติ 2 รอบ คือก่อนและหลังการจัดทำ ดังนั้น จึงไม่มีเหตุส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก
 
ขอร้องว่าอย่าหยิบเรื่องศาลรัฐธรรมนูญมาส่งอีกเป็นครั้งที่ 3 วันนี้เลื่อนออกไปแล้ว เราก็หวังว่าเมื่อกลับมาพิจารณากันใหม่จะได้เห็นความจริงใจที่มากกว่านี้ มากกว่าการเล่นเกมทางการเมือง” นายยิ่งชีพกล่าว
 
ด้าน น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ง่ายที่สุดคือการแก้ไขมาตรา 256 และในช่วงเวลาที่ผ่านมามีเพียง 2 พรรคการเมืองที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนให้จัดรัฐธรรมนูญใหม่ แต่เราเห็นได้ว่า จากการถ่วงเวลาต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งการเรื่องการยื้อ พ.ร.บ.ประชามติ เราเห็นอยู่ว่าใครทำอะไร และใครเป็นผู้ถ่วงรั้งกระบวนการประชาธิปไตย
 
น.ส.จีรนุชกล่าวว่า แม้จะมีข้ออ้างว่าช้าแต่ชัวร์ แต่จะชัวร์ได้อย่างไร ถ้าหากไม่ชัวร์แบบที่รับปากไว้ ขอถามว่าจะทำอย่างไรกับเพื่อนร่วม ครม. ขอฝากไปยังหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เคยสัญญาว่าช้าแต่ชัวร์ แต่เราไม่เห็นอะไรนอกจากเกมถ่วงรั้ง ถ้าผ่านไปแล้ว 1 เดือนไม่เกิดอะไรขึ้นถือว่านโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ล้มเหลว ซึ่งเราจะติดตามต่อไปในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ถ้ายังไม่เกิดอะไร แล้วเอาคนที่ถ่วงรั้งมานั่งใน ครม.คิดว่าจะเป็นที่สะอิดสะเอียนแก่ประชาชนที่ต้องดูละครฉากใหญ่
 
ด้านนายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในนามพรรคประชาชนเรายืนยันเดินหน้าเขียนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ที่การประชุมร่วมรัฐสภาในครั้งต่อไป แต่ตราบใดที่รัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรียังไม่ใช้วิธีการเจรจากับพรรคร่วม ยังไม่ไปควบคุมเสียงฝั่งภูมิใจไทยได้ อุปสรรคหรือเดดล็อกจะยังคงอยู่แบบนี้ต่อ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดหนทางเดียวคือให้นายกรัฐมนตรีไปเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลและเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ
 
ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรื่องนี้เหมือนจะเป็นฉันทามติ ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ก็มาพบว่าเป็นเรื่องทางเทคนิคและกระบวนมากกว่า จึงมองว่าควรไปให้ความสนใจเนื้อหาสาระมากกว่า ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีข้อมูลอย่างไร เพราะยิ่งประชาชนนอกรัฐสภาเห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากเท่าไหร่ เชื่อว่าเสียงนั้นก็จะดังเข้ามาสู่ในที่ประชุมรัฐสภาได้มากขึ้น
 


ส.ว.พันธุ์ใหม่ ซัด พรรคร่วมทำสภา ล่ม 2 วัน สูญ 19 ล. ‘พรชัย’ ฝาก 5 ข้อ ถามจริงใจแก้รธน.แค่ไหน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5049067

“นันทนา” ขน “ส.ว.พันธุ์ใหม่” ซัด พรรคร่วมความรู้สึกช้า ทำสภาฯล่ม อัปยศที่สุด โวย 2 วันเสียงบ 19 ล้าน มานั่งกินโจ๊กแล้วกลับ ด้าน “พรชัย” ฝาก 5 ข้อถึงส.ส. จริงใจแก้รธน.แค่ไหน ขณะที่ นรเศรษฐ์ จี้ “นายกฯ” พยายามกว่านี้ 
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา​ นันทวโรภาส​ ส.ว.​ พร้อมด้วย​ ส.ว.พันธุ์ใหม่ แถลงเกี่ยวกับการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย น.ส.นันทนา​กล่าวว่า​ ภาพสภาล่ม 2​ วันที่​ผ่านมาเป็นภาพที่อัปยศ​ที่สุด มันเป็นกระบวนการเล่นเกมหักเหลี่ยมกันทางการเมือง​ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ได้ริเริ่มเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567​ แปลว่าทางพรรคการเมืองทุกพรรคทราบอยู่แล้วว่าจะมีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่จะตอบรับหรือปฏิเสธ จนกระทั่งมีการกำหนดวาระในวันที่ 13​-14 กุมภาพันธ์ จากนั้น​พรรคการเมืองพรรคแรก​ ที่ออกมาแสดงท่าทีคือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งออกมา 17.00 น.ของวันที่​ 12 กุมภาพันธ์ หรือ 15 ชั่วโมง​ ก่อนการประชุมว่า​จะไม่เข้าร่วมการพิจารณา แล้วก่อนหน้านี้ 2 เดือน​ ไม่ได้คิด​ ไม่ได้พิจารณา​ ไม่ได้ตัดสินใจกันเลยหรือ ทำอะไรอยู่​ ทำไมความรู้สึกช้า
 
น.ส.นันทนา​กล่าวต่อว่า เมื่อเข้าสู่การประชุมแล้ว​ เราได้เห็นพรรคร่วมรัฐบาล​ มีท่าทีเหมือนกับไม่ตอบรับ ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผลคือเราได้เห็นว่า​ ส.ว.เสียงข้างมากวอล์กเอาต์หลังจากที่ผลออกมาว่าจะต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญกัน และเมื่อเข้าสู่การประชุมจริงๆ​ พรรคเพื่อไทยก็ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ทำให้สภาล่ม​ พรรคร่วมรัฐบาลก็หายตัวไป​ ไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมเช่นเดียวกัน จนมาถึงวันนี้​ มีเวลาแก้ตัว แต่สุดท้ายก็ล่มเป็นวันที่​ 2
 
“ทั้งที่การประชุมรัฐสภาครั้งหนึ่งใช้งบประมาณวันละ 8.9 ล้าน 2 วันเราเสียเงินไป 18-19 ล้านบาท โดยที่​ส.ส.​ ส.ว.ไม่ได้ทำหน้าที่กันเลย​ มาถึงตอนเช้ากินโจ๊ก​ แต่ไม่ทำหน้าที่พิจารณากฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรครัฐบาล ถ้าจะปฏิเสธไม่เข้าร่วม ทำไมไม่แจ้งก่อน ทำไมไม่คุยกับนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่ดำเนินการในการประสานพรรคร่วม เพื่อที่จะให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคการเมืองแทบทุกพรรคหาเสียงเอาไว้ เพราะถึงเวลาแก้จริงก็ล่มสภากันหมด นี่คือกลเกมทางการเมือง ที่สะท้อนชัดเจนว่าไม่มีเจตจำนงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พวกเราในฐานะ ส.ว.พันธ์ุใหม่ อยากเห็นรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง​ แต่เราเสียใจที่ต้องมาเจอกับกลเกมทางการเมืองของนักการเมืองทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ที่ไม่มีเจตจำนงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ​” น.ส.นันทนากล่าว
 
ด้านนายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ ส.ว. กล่าวว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่มีใครได้อภิปรายในการแก้ไขรัฐรรมนูญ เพราะสภาโดนตัดตอน ล่มไปก่อน ซึ่งตนได้เตรียมคำถามเพื่อถามไปยังพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน รวมถึงพรรคอื่นๆ ที่ควรจะร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อตนไม่ได้อภิปรายก็ขอฝากคำถาม ไปยังพรรคทั้งหลาย 5 ข้อ คือ 
1.สมเหตุสมผลหรือไม่ ที่ขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ กลับไปให้อำนาจกับองค์กรอิสระคือศาลรัฐธรรมนูญตัดสินทำได้หรือไม่ บางพรรคบอกว่าอยากจะเดินทางอ้อม แต่จริงๆ แล้วเรากำลังเดินทางที่ผิดหรือไม่ มั่นใจได้อย่างไรว่าหากยื่นศาลฯไปแล้ว ศาลฯจะให้คำตอบไม่เหมือนเดิมเหมือนปี 2564 และจะเป็นคุณต่อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

2.การที่พรรคท่านสนับสนุนให้มีการยื่นเรื่องไปที่ศาลฯ​ให้มีคำวินิจฉัย เท่ากับว่าท่านไม่แน่ใจว่าต้องทำประชามติก่อนที่จะยื่นร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากท่านยังไม่แน่ใจตั้งแต่ต้นแล้วยื่นร่างมาประกบกับพรรคประชาชนตั้งแต่ต้นทำไม ทำไมไม่ทักท้วงตั้งแต่ตอนประชุมวิป 3 ฝ่าย แล้วขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลฯ ก่อนที่จะยื่นร่าง ทำไมเพิ่งมาคิดได้ในตอนที่เขากำลังจะพิจารณากัน
 
นายพรชัยกล่าวต่อว่า 

3. ท่านอ้างว่าให้มีการอภิปรายและโหวตในวาระที่ 1 อย่างไรก็โหวตไม่ผ่าน เพราะ ส.ว.ที่จะให้เสียงสนับสนุนไม่ครบ 67 คน จึงจงใจทำให้สภาล่ม เพื่อที่จะให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้ค้างอยู่ก่อน ตนจึงอยากถามว่า ถ้าคิดเช่นนั้นตั้งแต่แรกจริงๆ ทำไมที่ผ่านมาพรรคท่านไม่เคยดำเนินการอะไรเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเสียง ส.ว. ที่จะสนับสนุนครบ 67 คน ทำไมตอนที่ท่านส่งคนของท่านขึ้นตำแหน่งนายกฯ ท่านล็อบบี้ ดีลย้ายค่ายต่างๆ เพื่อที่จะมั่นใจว่าเสียง ส.ว.เพียงพอต่อการสนับสนุนคนของท่านและการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายหลักของพรรคท่านอยู่แล้ว เพราะบอกว่าเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องทำให้ดีที่สุด ทำไมไม่เห็นว่าท่านพยายามล็อบบี้เสียง ส.ว.ให้ครบ 67 คน ทั้งที่มีเวลามากมาย และตนไม่เคยเห็นรายละเอียดในร่างของพรรคเพื่อไทยเลย ต้องไปหารายละเอียดเอาเอง และไม่เคยมีคนของพรรคเพื่อไทยมาอธิบายให้ ส.ว.ได้รู้ว่าร่างของพรรคเพื่อไทยดีอย่างไร แล้ววันนี้จะมาอ้างว่าเสียงของ ส.ว.ไม่พอกลัวจะโดนคว่ำ จึงขอถอยออกมาตั้งหลักก่อนได้อย่างไร ที่ผ่านมาท่านเคยสู้เพื่อร่างของท่านไม่ให้โดนคว่ำหรือไม่ อย่างนี้จะให้เราเชื่อในความจริงใจต่อเรื่องนี้อย่างไร
 
นายพรชัยกล่าวอีกว่า 

4.ท่านมีโรดแมปต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร ในการที่จะไปทำให้เสียง ส.ว.ครบ 67 คน นอกจากการหวังลมๆ แล้งๆ ว่าศาลจะตัดสินชัดเจนหรือคิดไปทำไป เปลี่ยนไปเหมือนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่จนถึงวันนี้ยังไม่มีความเป็นดิจิทัลอะไรเลย 
 
และ 5.เมื่อญัตติดังกล่าวที่ท่านบอกว่าอยากจะแช่ไว้นั้น ท่านจะไปเอาออกจากตู้เย็นเมื่อไหร่ แล้วมีแผนอย่างไรต่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ภายในกี่เดือน กี่วัน กี่ชั่วโมง ซึ่งคงไม่ทันเลือกตั้ง ปี 2570 และถ้าสมัยหน้าท่านกลับไปเป็นฝ่ายค้าน จะผลักดันเรื่องนี้ต่ออย่างไร หรือต้องรอไปถึงการเลือกตั้งปี 2574 หรือ 2578 ถึงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
 
ขณะที่นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร ส.ว. กล่าวว่า ขอเรียกร้องนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลดำเนินการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล พูดคุยทำความเข้าใจหาจุดร่วมในการเดินหน้าเพื่อมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งอยากให้นายกฯพยายามมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาไม่เห็นความพยายาม เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล



ชัยธวัช ชี้รายจ่ายเพื่อไทย สยบยอมตั้งรบ.ข้ามขั้ว ต้องเดินอ้อมในเขาวงกต ทำแก้รธน.ไม่ถึงจุดหมาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5049721
 
ชัยธวัช ชี้รายจ่ายเพื่อไทย สยบยอมตั้งรบ.ข้ามขั้ว ต้องเดินอ้อมในเขาวงกต ทำแก้รธน.ไม่ถึงจุดหมาย
 
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่