23 มีนาคม 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้จัดงานใหญ่แถลงเปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติครั้งแรก โดยมีแกนนำของพรรคร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค พร้อมผู้บริหารพรรคมาร่วมพิธีคับคั่งท่ามกลางสื่อมวลชนมาร่วมทำข่าวจำนวนมาก
โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมเสื้อพรรคให้ทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน 2.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 3. ม.ล.ชโยทิต กฤดากรผู้แทนการค้าไทย เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 4.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครทสช. 5.นายจักร บุญหลง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) อดีตเอกอัครราชฑูตหลายประเทศ 6.นายชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด 7.นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 8.นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรครทสช. และอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกันนี้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับทีมที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจทำหน้าที่ทำหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำ ด้านนโยบายเศรษฐกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนทุกด้านนำโดย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง, นายสุพัฒนพงษ์ ดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน, นายจุติ ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย,นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลนโยบายภาคเกษตร และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ดูแลนโยบายด้านแรงงาน อีกทั้งมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะที่จะมาดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคนไทย ซึ่งได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและได้สวมเสื้อพักในวันเดียวกันนี้ด้วย
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาในวันนี้มาร่วมงานการแถลงข่าวทีมเศรษฐกิจ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีอีกเยอะที่จะมาร่วมงาน วันนี้เรื่องแรกขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ให้เกียรติพรรครทสช.ในการเดินหน้าประเทศของเราในระยะต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งคนรุ่นเก่า คนรุ่นแก่รุ่นกลางและรุ่นเด็ก ซึ่งมีหลายช่วงวัยในการพัฒนาประเทศ เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของคนไทยคนหนึ่ง ประเทศไทยไม่ใช่สถานประกอบการธุรกิจ ประเทศไทยประชาชนมีส่วนร่วม ถือเป็นหุ้นส่วน สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข พึงพอใจพร้อมกันกับการพัฒนาประเทศและจัดหารายได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีคุณภาพหลายส่วน วันนี้ก็เห็นแล้วว่าหลายคนมีประสบการณ์ยอดเยี่ยมในการทำงานที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ตนไว้วางใจกับทุกท่านในวันนี้ คือทุกท่านได้ทำงานกับตนมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐบาลที่ผ่านมา ยิ่งช่วงรักษาการก็ได้ทำงานกับตน ยืนยันว่าพรรคของเราจะเป็นพรรคที่ต้องการทำให้ประเทศชาติดีที่สุด หลายคนต้องคำนึงว่าที่ผ่านมาในช่วงก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามาดูแลในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินในรอบ 8 ปีที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเกิดอะไร กรุณาทบทวนดู อย่าลืมว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วอย่าให้เกิดขึ้นอีก
ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเราพยายามทำงานต่อเนื่อง โดยแก้ปัญหาดูแลประชาชนทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าในเชิงธุรกิจประชาชนคือหุ้นส่วนของประเทศ เสียงของประชาชนคือหุ้นของประเทศ ทำอย่างไรจะให้เดินไปข้างหน้า และไม่ทอดทิ้งทั้งระดับบน ระดับกลาง และระดับล่าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งทั้งหมดที่พูดมาเราได้ทำมาหมดแล้ว เราจะสานต่อในวันข้างหน้า เราจะต้องสืบสานต่อให้ได้สิ่งสำคัญ คือความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน รักชาติ บ้านเมืองต้องมาช่วยกัน ตนไม่สามารถทำคนเดียวได้ หรือแต่ละท่านก็ทำคนเดียวไม่ได้ ฉะนั้นสำหรับประเทศชาติไม่มีพระเอก มีแต่คณะพระเอกเข้าใจหรือไม่ คำว่าคณะพระเอกคือทุกคนเป็นพระเอกหมด ซึ่งตนมีหน้าที่บริหารพระเอกเหล่านี้
สิ่งแรกสำคัญที่สุดขอความไว้วางใจ ขอแค่นี้ถ้าเราไว้วางใจซึ่งกันและกันว่าจะเดินหน้าร่วมกันอย่างไรนั่นคืออนาคต และนี่คือสิ่งที่ทุกท่านจะได้แสดงศักยภาพของท่านในการขับเคลื่อนประเทศ ตนไม่อยากหาเสียงแบบที่เขาหากันมากนัก เพราะตนเป็นคนแบบนี้อยู่ในการบริหารราชการทั้งในส่วนของกองทัพ ส่วนตรงนี้อย่าระแวงตน
ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องคำนึงถึงความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ทุกอย่างอยู่ในก้อนเดียวกันในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูว่าประเทศไทยมีคนจำนวนเท่าใด รายได้และการประกอบอาชีพจะแก้ปัญหาอย่างไรประเทศเรามี 77 จังหวัด 30 จังหวัดที่อยู่ท้ายๆ จีดีพีต่ำ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่เหล่านั้นมีรายได้สูงขึ้นอย่างน้อยที่ตั้งไว้ 30,000 บาท และอยากให้ขึ้นอย่างน้อย 1 แสนบาทให้ได้โดยเร็วที่สุด และก้าวต่อไป 2-3 แสนบาท ในวันข้างหน้าจังหวัดที่ดีอยู่แล้ว ก็ขึ้นไป ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คืออนาคตของพวกเรา ไม่อยากให้มองในแง่ของฮีโร่อย่างเดียว แต่ทั้งหมดต้องขับเครื่องด้วยทีมเศรษฐกิจแบบนี้ที่มีประสบการณ์มีความรอบรู้ และมีความระมัดระวังอย่างที่สุด แต่ต้องปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยที่มีผลกระทบต่อประชาชน
“ผมไม่สามารถจะหาเสียงแบบที่เขาพูด เพราะวันนี้สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นคือประเทศไทยอยู่ตรงนี้ ได้ตามที่เราทำมา สถานะทางการเงินการคลังเราทำได้ดีการต่างประเทศเราทำได้ดี ทุกประเทศยอมรับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คืออนาคตของพวกเราทุกคน ไม่อยากให้มองในแง่รายบุคคล และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวข้ามไปให้ได้ พร้อมกับรับประโยชน์กับสิ่งใหม่
วันนี้ดีใจที่สื่อมากันเยอะและได้ยิ้มออกหน่อย เพราะเราไม่ใช่ศัตรูกัน อยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้วก็รู้ว่าท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน ผมก็ทำหน้าที่ของผม บางเวลาผมก็เครียดหงุดหงิดหน่อย ก็ต้องให้อภัยกัน ผมไม่เคยติดค้างกับใคร ไม่เคยโกรธหรือเกลียดใคร แต่ความเป็นมนุษย์สัญชาตญาณของผมมีสูง ถ้าเรารักกัน ท่านไม่รังเกียจผมอยู่แล้วจะเอาภาพโมโหผมออกไป เวลาผมโมโห ผมก็หายผมไม่เคยโกรธ เกลียดใคร เพราะท่านคือสื่อ คือเสียงของประชาชน ฉะนั้นเราต้องรับฟังและถ่ายทอดในสิ่งดีงามต่อไป วันนี้ก้าวมาค่อนทางแล้ว เราจะเดินเส้นทางนี้ไปถึงจุดที่ประเทศไทยต้องการ ประชาชนต้องการ ฉะนั้นเราต้องเดินอย่างมียุทธศาสตร์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.
***********
สำหรับ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยม สาขาประวัติศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากมหาวิทยาลัยลอนดอน เคยเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเจพี มอร์แกน(ประเทศไทย) ระหว่างปี 2552-2563 ปัจจุบันยังได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และเป็นผู้แทนการค้าไทย รับผิดชอบการดึงดูดการลงทุนการค้าจากต่างประเทศ
นายชวิน อรรถกระวีสุนทร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากLondon School of Economics เป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การเงิน ด้านวาณิชธนกิจ และการลงทุนด้านการท่องเที่ยว และโรงแรม ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จระดับแถวหน้าของประเทศไทย
นายวิท วรรณไกรโรจน์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 จาก University of Washington ระดับปริญญาโทและกำลังจะจบการศึกษาปริญญาเอกด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การบริหารและกลุ่มงานวิจัยธุรกิจ โดยก่อนหน้านี้ยังเคยเป็น นักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกน ประเทศไทยอีกด้วย
นายวินท์ สุธีรชัย นักธุรกิจรุ่นใหม่ จบการศึกษา ด้านการจัดการระบบสารสนเทศ( MIS) จาก มหาวิทยาลัยWorcestor Polytech Institue of Technology สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นซีอีโอ บริษัทอินเท็กส์ สตีล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย
สำหรับ ภูมิหลัง ประสบการณ์ตรงของทีมเศรษฐกิจทั้ง 5 คน สะท้อนถึงทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติที่เน้นการ” ทำต่อ” คือ การสร้างรายได้จากต่างประเทศทั้ง การลงทุน การค้า การดึงต่างชาติเข้ามาทำงาน พำนักระยาว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สานต่อนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ “ทำแล้ว ทำอยู่ “เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เขตเศรษฐกิจอีอีซี การออกวีซ่าระยะยาว 10 ปีแก่คนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงให้มาทำงาน พักอาศัยในประเทศไทย การขจัดอุปสรรคในการทำธุรกิจ เป็นต้น.
#roundtablethailand
roundtablethailand.com
@@@ ทีมเศรษฐกิจรวมไทยสร้างชาติ @@@
โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมเสื้อพรรคให้ทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน 2.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 3. ม.ล.ชโยทิต กฤดากรผู้แทนการค้าไทย เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 4.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครทสช. 5.นายจักร บุญหลง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) อดีตเอกอัครราชฑูตหลายประเทศ 6.นายชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด 7.นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 8.นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรครทสช. และอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกันนี้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับทีมที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจทำหน้าที่ทำหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำ ด้านนโยบายเศรษฐกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนทุกด้านนำโดย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง, นายสุพัฒนพงษ์ ดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน, นายจุติ ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย,นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลนโยบายภาคเกษตร และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ดูแลนโยบายด้านแรงงาน อีกทั้งมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะที่จะมาดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคนไทย ซึ่งได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและได้สวมเสื้อพักในวันเดียวกันนี้ด้วย
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาในวันนี้มาร่วมงานการแถลงข่าวทีมเศรษฐกิจ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีอีกเยอะที่จะมาร่วมงาน วันนี้เรื่องแรกขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ให้เกียรติพรรครทสช.ในการเดินหน้าประเทศของเราในระยะต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งคนรุ่นเก่า คนรุ่นแก่รุ่นกลางและรุ่นเด็ก ซึ่งมีหลายช่วงวัยในการพัฒนาประเทศ เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของคนไทยคนหนึ่ง ประเทศไทยไม่ใช่สถานประกอบการธุรกิจ ประเทศไทยประชาชนมีส่วนร่วม ถือเป็นหุ้นส่วน สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข พึงพอใจพร้อมกันกับการพัฒนาประเทศและจัดหารายได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีคุณภาพหลายส่วน วันนี้ก็เห็นแล้วว่าหลายคนมีประสบการณ์ยอดเยี่ยมในการทำงานที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ตนไว้วางใจกับทุกท่านในวันนี้ คือทุกท่านได้ทำงานกับตนมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐบาลที่ผ่านมา ยิ่งช่วงรักษาการก็ได้ทำงานกับตน ยืนยันว่าพรรคของเราจะเป็นพรรคที่ต้องการทำให้ประเทศชาติดีที่สุด หลายคนต้องคำนึงว่าที่ผ่านมาในช่วงก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามาดูแลในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินในรอบ 8 ปีที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเกิดอะไร กรุณาทบทวนดู อย่าลืมว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วอย่าให้เกิดขึ้นอีก
ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเราพยายามทำงานต่อเนื่อง โดยแก้ปัญหาดูแลประชาชนทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าในเชิงธุรกิจประชาชนคือหุ้นส่วนของประเทศ เสียงของประชาชนคือหุ้นของประเทศ ทำอย่างไรจะให้เดินไปข้างหน้า และไม่ทอดทิ้งทั้งระดับบน ระดับกลาง และระดับล่าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งทั้งหมดที่พูดมาเราได้ทำมาหมดแล้ว เราจะสานต่อในวันข้างหน้า เราจะต้องสืบสานต่อให้ได้สิ่งสำคัญ คือความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน รักชาติ บ้านเมืองต้องมาช่วยกัน ตนไม่สามารถทำคนเดียวได้ หรือแต่ละท่านก็ทำคนเดียวไม่ได้ ฉะนั้นสำหรับประเทศชาติไม่มีพระเอก มีแต่คณะพระเอกเข้าใจหรือไม่ คำว่าคณะพระเอกคือทุกคนเป็นพระเอกหมด ซึ่งตนมีหน้าที่บริหารพระเอกเหล่านี้
สิ่งแรกสำคัญที่สุดขอความไว้วางใจ ขอแค่นี้ถ้าเราไว้วางใจซึ่งกันและกันว่าจะเดินหน้าร่วมกันอย่างไรนั่นคืออนาคต และนี่คือสิ่งที่ทุกท่านจะได้แสดงศักยภาพของท่านในการขับเคลื่อนประเทศ ตนไม่อยากหาเสียงแบบที่เขาหากันมากนัก เพราะตนเป็นคนแบบนี้อยู่ในการบริหารราชการทั้งในส่วนของกองทัพ ส่วนตรงนี้อย่าระแวงตน
ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องคำนึงถึงความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ทุกอย่างอยู่ในก้อนเดียวกันในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูว่าประเทศไทยมีคนจำนวนเท่าใด รายได้และการประกอบอาชีพจะแก้ปัญหาอย่างไรประเทศเรามี 77 จังหวัด 30 จังหวัดที่อยู่ท้ายๆ จีดีพีต่ำ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่เหล่านั้นมีรายได้สูงขึ้นอย่างน้อยที่ตั้งไว้ 30,000 บาท และอยากให้ขึ้นอย่างน้อย 1 แสนบาทให้ได้โดยเร็วที่สุด และก้าวต่อไป 2-3 แสนบาท ในวันข้างหน้าจังหวัดที่ดีอยู่แล้ว ก็ขึ้นไป ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คืออนาคตของพวกเรา ไม่อยากให้มองในแง่ของฮีโร่อย่างเดียว แต่ทั้งหมดต้องขับเครื่องด้วยทีมเศรษฐกิจแบบนี้ที่มีประสบการณ์มีความรอบรู้ และมีความระมัดระวังอย่างที่สุด แต่ต้องปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยที่มีผลกระทบต่อประชาชน
“ผมไม่สามารถจะหาเสียงแบบที่เขาพูด เพราะวันนี้สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นคือประเทศไทยอยู่ตรงนี้ ได้ตามที่เราทำมา สถานะทางการเงินการคลังเราทำได้ดีการต่างประเทศเราทำได้ดี ทุกประเทศยอมรับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คืออนาคตของพวกเราทุกคน ไม่อยากให้มองในแง่รายบุคคล และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวข้ามไปให้ได้ พร้อมกับรับประโยชน์กับสิ่งใหม่
วันนี้ดีใจที่สื่อมากันเยอะและได้ยิ้มออกหน่อย เพราะเราไม่ใช่ศัตรูกัน อยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้วก็รู้ว่าท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน ผมก็ทำหน้าที่ของผม บางเวลาผมก็เครียดหงุดหงิดหน่อย ก็ต้องให้อภัยกัน ผมไม่เคยติดค้างกับใคร ไม่เคยโกรธหรือเกลียดใคร แต่ความเป็นมนุษย์สัญชาตญาณของผมมีสูง ถ้าเรารักกัน ท่านไม่รังเกียจผมอยู่แล้วจะเอาภาพโมโหผมออกไป เวลาผมโมโห ผมก็หายผมไม่เคยโกรธ เกลียดใคร เพราะท่านคือสื่อ คือเสียงของประชาชน ฉะนั้นเราต้องรับฟังและถ่ายทอดในสิ่งดีงามต่อไป วันนี้ก้าวมาค่อนทางแล้ว เราจะเดินเส้นทางนี้ไปถึงจุดที่ประเทศไทยต้องการ ประชาชนต้องการ ฉะนั้นเราต้องเดินอย่างมียุทธศาสตร์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.
***********
สำหรับ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยม สาขาประวัติศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากมหาวิทยาลัยลอนดอน เคยเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเจพี มอร์แกน(ประเทศไทย) ระหว่างปี 2552-2563 ปัจจุบันยังได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และเป็นผู้แทนการค้าไทย รับผิดชอบการดึงดูดการลงทุนการค้าจากต่างประเทศ
นายชวิน อรรถกระวีสุนทร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากLondon School of Economics เป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การเงิน ด้านวาณิชธนกิจ และการลงทุนด้านการท่องเที่ยว และโรงแรม ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จระดับแถวหน้าของประเทศไทย
นายวิท วรรณไกรโรจน์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 จาก University of Washington ระดับปริญญาโทและกำลังจะจบการศึกษาปริญญาเอกด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การบริหารและกลุ่มงานวิจัยธุรกิจ โดยก่อนหน้านี้ยังเคยเป็น นักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกน ประเทศไทยอีกด้วย
นายวินท์ สุธีรชัย นักธุรกิจรุ่นใหม่ จบการศึกษา ด้านการจัดการระบบสารสนเทศ( MIS) จาก มหาวิทยาลัยWorcestor Polytech Institue of Technology สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นซีอีโอ บริษัทอินเท็กส์ สตีล ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย
สำหรับ ภูมิหลัง ประสบการณ์ตรงของทีมเศรษฐกิจทั้ง 5 คน สะท้อนถึงทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติที่เน้นการ” ทำต่อ” คือ การสร้างรายได้จากต่างประเทศทั้ง การลงทุน การค้า การดึงต่างชาติเข้ามาทำงาน พำนักระยาว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สานต่อนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ “ทำแล้ว ทำอยู่ “เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เขตเศรษฐกิจอีอีซี การออกวีซ่าระยะยาว 10 ปีแก่คนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงให้มาทำงาน พักอาศัยในประเทศไทย การขจัดอุปสรรคในการทำธุรกิจ เป็นต้น.
#roundtablethailand
roundtablethailand.com