JJNY : ‘โทนี่’ แซวแรง ชาติไทยพังเมื่อไร?|‘ศิริกัญญา’จี้กสทช.|‘เสรีพิศุทธ์’มั่นใจ‘ตู่-ป้อม’ แยกกันเดิน|ค้านมาตรการไฟแพง

‘โทนี่’ แซวแรง ชาติไทยพังเมื่อไร? พรรค “สร้าง” ถึงเกลื่อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3662922
 
‘โทนี่’ แซวแรง ชาติไทยพังเมื่อไร? พรรค “สร้าง” ถึงเกลื่อน
 
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 พฤศจิกายน เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ ทำนโยบายสาธารณะไม่เป็น หรือเห็นแก่เงินของใคร
 
โดยช่วงหนึ่ง นายทักษิณ ได้พูดถึงความเคลื่อนไหวของการเมืองไทย ว่า การเมืองบ้านเรา จากที่สังเกตดูจนต้องตั้งคำถามว่า วันนี้ชาติเราพังไปแล้วหรือ ถึงจะสร้างกันแหลกเลย ทั้งรวมไทยสร้างชาติ ไทยสร้างไทย สร้างอนาคตไทย สรุปแล้วประเทศเราไม่มีแล้วหรือ ถึงต้องสร้างกันใหม่ ส่วนตัวคิดว่ามอยู่ และสร้างกันมานานแล้ว ตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่เสีย ดังนั้น จึงต้องซ่อม ไม่ใช่สร้าง เพราะทหารปฏิวัติมาแล้วถึง 2 ครั้ง ประเทศเจ๊ง ประเทศยังอยู่ แต่ต้องซ่อม
 
นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ดู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คุยกัน ในเมื่อเกาเหลา 2 ชามคุยกัน อย่างไรก็ไม่มีเส้น ดังนั้น เกาเหลา 2 ชามนี้จึงไปเปิดร้านคนละร้าน โดยคนหนึ่งยึดร้านเก่าไว้ ส่วนอีกคนเปิดสาขาใหม่ แล้ววันนี้เจ้าของร้านใหม่มาเจอกับหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งเห็นภาพอย่างชัดเจน
 
“สรุปก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และถ้าเดาไม่ผิด นายสุชาติ ชมกลิ่น จะไปเป็นเลขา ส่วน พล.อ.ประวิตร ซึ่งรักษาพรรคเดิมไว้ ตอนนี้เริ่มเรียกคนกลับมาก็สนุกดี แต่จะบอกให้อย่าง ประชาชนเจ็บมานาน ฉะนั้น เที่ยวนี้ ประชาชนกำลังจะสอน เรื่องมันนี่ โพลิติก คือ ท่านมานั่งทำประเทศ-ิบหาย เฮงซวย แ-กเงินกัน-ิบหาย และนำมาซื้อเสียง สุดท้ายประชาชนจะเอาเงิน แต่ไม่เลือก คอยดู นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นคราวหน้า” นายทักษิณ กล่าว
 
นายทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้ บางพรรคจะซื้อ ส.ส. ให้เข้าร่วมพรรค หัวละ 80 ล้านบาทส่วนตัวมองว่า เหมาะมากสำหรับผู้ที่กำลังจะรีไทร์การเมือง แต่ซื้อไปก็เจ๊ง แพ้ ดังนั้น เลือกตั้งครั้งต่อไป สนุก เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนจะกำหนดโชคชะตาของตัวเอง แม้สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จะหันมาร่วมมือกับ พล.อ.ประวิตร แต่จะเป็นการจับมือข้างหนึ่ง แล้วถือมีดข้างหนึ่งอยู่ดี
 
“ในฐานะคนที่ผ่านการเมืองมาเยอะ วิเคราะห์ตามกติกาที่ระบุว่า ถ้าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ได้ 25 เสียง ชื่อนั้นตกกระป๋อง ไม่มีความหมาย ผมดูแล้ว พรรคที่จะได้ 25 เสียงขึ้นไปนั้น มีอยู่ 5 พรรค ไม่มากกว่านั้น ดังนั้น ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ มี 2 ทางเลือก คือ จะเอาเท่ หรือไม่เท่ ซึ่งถ้าเอาเท่ คือ อยู่ครบเทอม เหลืออีก 2 ปี อย่าคิดอะไร พักผ่อน เท่ๆ ล้างมือ จบ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ คอยดูวันที่ 23 ธันวาคมนี้ จะมี ส.ส. มีรัฐมนตรี ลาออกเพื่อย้ายพรรคให้ทัน ไม่งั้นจะตกขบวน นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศยุบสภา
 
ส่วนแบบไม่เท่ คือ ไม่ต้องเข้าพรรคไหนไปตกลงกับพรรคภูมิใจไทย และให้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคู่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล แบ่งกันคนละ 2 ปี เพราะถ้าไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่แน่ใจ เพราะเป็นพรรคใหม่ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาของนายวราวุธ ศิลปอาชา เงินมี ชื่อพรรคเก่า แต่ไม่ได้ 25 เสียง ส่วนพรรคประชาชาติ อยู่มาแล้ว 1 สมัย ฐานเสียงภาคใต้ก็มี แต่ทำให้ได้ 25 เสียงยาก อันนี้ไม่ได้พูดเพราะรักใคร ชอบใคร เกลียดใคร หรือดูถูกใคร คิดซะว่าเป็นนักวิจารย์การเมืองคนหนึ่งก็แล้วกัน ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย” นายทักษิณ กล่าว
  


‘ศิริกัญญา’ จี้ กสทช. อย่าทำตามใบสั่งคนในรัฐบาล ควักเงินกองทุน กทปส. ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก 1.6 พันล้าน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3663471

‘ศิริกัญญา’ จี้ กสทช.อย่าทำตามใบสั่งคนในรัฐบาล ควักเงินกองทุน กทปส.ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก 1.6 พันล้าน แนะแก้กฎให้เอกชนทำกำไรจากการถ่ายทอดสด
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฝ่ายนโยบาย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมใช้เงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเป็นเงินกว่า 1,600 ล้านบาท ว่า ในวันนี้ กสทช.จะมีการลงมติว่าจะใช้เงิน กทปส. หรือไม่ สาเหตุที่เราต้องคัดค้านไม่ใช่เราต้องการขัดลาภแฟนบอล แต่เราเห็นว่า กสทช.ไม่ควรทำผิดกฎหมาย เพียงเพื่อทำตามใบสั่งของใครบางคน เพราะวัตถุประสงค์ของ กทปส.ไม่ได้อนุญาตให้นำเงินไปใช้ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และเงินจำนวน 1,600 ล้านบาท แทบจะแพงที่สุดในโลก ทั้งที่เวียดนามและมาเลเซียจ่ายเงินไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ดังนั้น ถ้าวันนี้ กสทช.มีมติให้ใช้เงินของ กทปส.ก็จะเป็นการบิดเบือนเพื่อทำในสิ่งที่กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำ และก่อนหน้านี้ทาง กสทช.ที่มีอำนาจเต็ม ก็ยังไม่ทำตามกฎหมายกรณีการควบรวมทรู-ดีแทค จึงเป็นการย้อนแย้งกัน
  
น.ส.ศิริกัญญากล่าวต่อว่า หากบอกว่าการถ่ายทอดฟุตบอลเป็นประโยชน์กับเยาวชน ก็ควรใช้เงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ส่วนการที่บอกว่า การถ่ายทอดสดเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 40,000 ล้านบาท ก็อยากจะให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็อนุมัติงบกลางกันไปเลย และไม่ควรจะไปล้วงเอาเงินที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายมาใช้ จึงคิดว่าการอนุมัติเป็นเรื่องของใบสั่งจากคนในรัฐบาลอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ถึงกับกล่าวเองว่าไม่อยากรบกวนเงินของเอกชน
 
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยัง กสทช. ให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และไม่ทำตามใบสั่งของใคร เพื่อหาเสียงในช่วงการเลือกตั้ง หรือทำในสิ่งที่ตัวเองไม่มีอำนาจ โดยในวันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 09.09 น. จะไปยื่นฟ้องที่ศาลปกครองให้เพิกถอนมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในวันที่ 11 พฤศจิกายน จะไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
 
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า โดยอยากเสนอให้ กสทช.ทบทวนกฎ เพื่อให้เอกชนสามารถทำกำไรจากการการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้ เพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองเงินภาษีประชาชน ซึ่งการแก้กฎอาจจะไม่ทันการเริ่มการถ่ายทอดสดตั้งแต่เริ่มต้น เพราะการแข่งขันคู่สำคัญ ที่ประชาชนเฝ้าจับตาดูจะอยู่รอบลึกๆ หรือรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ดังนั้น ถ้าพลาดในช่วงต้นอาจจะยังพอทำเนาได้
 

 
‘เสรีพิศุทธ์’ มั่นใจ ‘ตู่-ป้อม’ แยกกันเดิน ซบพรรคพีระพันธุ์ ย้ำสมัยหน้าฝั่ง ปชต.กวาดที่นั่งเกินครึ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3663399
 
‘เสรีพิศุทธ์’ มั่นใจ ‘ตู่-ป้อม’ แยกกันเดินแน่ พร้อมซบ ‘รทสช.’ ย้ำสมัยหน้าฝั่งประชาธิปไตยกวาดที่นั่งเกินครึ่ง
 
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่าเรื่องนี้ได้ยินมานานแลัว จากการติดตามพฤติกรรมในอดีตก็พอจะชี้ได้ว่าในปัจจุบันจะเป็นอย่างไร ซึ่งในอดีต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บังคับบัญชา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ตอนยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปเชิญ พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.อนุพงษ์มาร่วมรัฐบาลด้วย ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาจากการตั้งพรรค พปชร. ฉะนั้น การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์คือการทำงานในหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เขามายุ่งกับพรรค พปชร. ส่วนพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ดูแล ซึ่งการดูแลพรรคไม่ได้ดูเฉยๆ หรือแลไปเท่านั้น แต่ต้องใช้เงินมากในการที่จะดูแล ส.ส. 
 
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวต่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ ส.ส.ก็ห่างกันไปเรื่อยๆ และเมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามา พล.อ.ประยุทธ์ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าพรรค พปชร.จะเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จึงต้องหาทางสำรองไว้ก่อนคือการให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ไปตั้งพรรค รทสช.ขึ้นมา และหากคุยกับ พล.อ.ประวิตรได้ก็คงจะยอมอยู่ในพรรค พปชร.ต่อไป แต่ถ้าคุยไม่ได้ก็ต้องไปอยู่พรรค รทสช. ซึ่งในส่วนตัวของตน มองว่าคงจะแน่นอนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตรจะต้องแตกหักและแยกทางกัน และทั้ง 2 พรรคก็คงไปไม่ได้ทั้งคู่

เมื่อถามว่า หากแยกกันเดินแล้ว พล.อ.ประยุทธ์หรือ พล.อ.ประวิตรจะมีอำนาจมากกว่ากัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า อย่าไปสนเลย แยกกันเดิน ไม่มีอำนาจทั้งคู่ เพราะพรรคอื่นเขามี ส.ส.มากกว่าก็ต้องเสนอชื่อคนที่เขาชูขึ้นเป็นนายกฯ เลือกตั้งครั้งนี้คิดว่า ส.ว.จะเหมือนเดิมหรือ คิดว่าไม่เหมือนเดิม เลือกนายกฯครั้งที่แล้ว ส.ว.ไม่ขาดสักคนที่เลือก พล.อ.ประยุทธ์ แต่เลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะมีจำนวน ส.ส.เพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นตอนนี้ที่มีข่าวว่าจะมีการยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) ยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อให้ ส.ส.วิ่งเข้าไปอยู่ในพรรคของตัวเองมากขึ้น

เชื่อว่าสองพรรคนี้ไม่ได้เป็นที่หนึ่งหรอกให้คนอื่นเขาจัด ถามว่า ส.ว. 250 คน จะเลือกหมดหรือ ต่อให้เลือกหมดก็บริหารต่อไม่ได้ เพราะจำนวน ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยเกินครึ่ง ผมเชื่อว่าอย่างไรฝ่ายประชาธิปไตยก็ได้ ส.ส.เกินครึ่ง เมื่อเกินครึ่งแล้วต่อให้ ส.ว.เลือก พล.อ.ประยุทธ์หรือ พล.อ.ประวิตรเข้าไปก็บริหารไม่ได้ เพราะอยู่ในสภาเสียงไม่ถึงครึ่ง ทำอะไรไม่ได้ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ล้มแล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
 
เมื่อถามว่า พรรค พปชร.จะถึงขั้นสูญพันธุ์เลยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า คำว่าสูญพันธุ์หมายถึงเป็นศูนย์เลยเหรอ ผมบอกยาเสพติดเป็นศูนย์ นโยบายของผมก็ไม่มี ถ้า ส.ส.พลังประชารัฐเป็นศูนย์ก็ไม่ได้ ส.ส.สักคนสิ คงไม่ถึงขนาดนั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่