JJNY : 5in1 ‘2475’ฟ้องประชาไท│‘ศิริกัญญา’ชี้แค่ประวิงเวลา│จิรัฏฐ์สู้คดีปลอมใบสด.43│หวั่นความลับรั่วไหล│ภูเขาไฟอินโดประทุ

บ.ผู้ผลิต ‘2475 Dawn of Revolution’ ฟ้องประชาไท-คนแชร์ข่าว หมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอม
https://prachatai.com/journal/2024/11/111285

บริษัทผู้สร้างแอนิเมชัน '2475 Dawn of Revolution' ฟ้องประชาไทและคนแชร์ข่าวข้อหาหมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอม อ้างนำเสนอข่าวให้คนอ่านเชื่อว่า “รับเงินจากกองทัพบก”
 
สำนักข่าวประชาไท ภายใต้มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน ได้รับหมายศาลตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า บริษัท นาคราพิวัฒน์ จำกัด ซึ่งมี วิวัธน์ จิโรจน์กุล กรรมการผู้มีอำนาจ และผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนประวัติศาสตร์ “2475 Dawn of Revolution” เป็นโจทก์ฟ้อง มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน จำเลยที่ 1, เกษม ศิริสัมพันธ์ จำเลยที่ 2 และ เทวฤทธิ์ มณีฉาย อดีตบรรณาธิการบริหารประชาไท จำเลยที่ 3 และฟ้องบุคคลทั่วไปที่แชร์ข่าวอีก 3 รายเป็นจำเลยที่ 4,5 และ 6
 
ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14(1) และ (5) จากการนำเสนอข่าว “พบเจ้าของแอนิเมชัน '2475 Dawn of Revolution' รับโครงการทำสื่อแบบวิธีเฉพาะเจาะจง 'กองทัพบก' 11 สัญญา” เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567
 
ทั้งนี้ หมายเรียกไต่สวนมูลฟ้องดังกล่าวลงวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยศาลอาญาได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 9 ธ.ค. 2567 เพื่อพิจารณาว่าจะรับคดีไว้พิจารณาหรือไม่
 
คำฟ้องระบุว่า จำเลยได้ร่วมนำเสนอข่าวความว่า
 
“ผ่านไป 1 วัน ยอดวิวแอนิเมชัน “2475 Dawn of Revolution” ทะลุ 3 แสน ขณะที่เช็คผ่าน ACT AI พบเจ้าของแอนิเมชันรับโครงการทำสื่อแบบวิธีเฉพาะเจาะจง ‘กองทัพบก’ 11 สัญญา ระหว่าง 2563 ถึง 2565”
 
นอกจากนี้แล้วเพจประชาไท ยังได้เน้นข้อความใต้รูปภาพในเพจ โดยมีข้อความว่า “พบเจ้าของแอนิเมชัน '2475 Dawn of Revolution' รับโครงการทำสื่อแบบวิธีเฉพาะเจาะจง 'กองทัพบก' 11 สัญญา”
 
ฝ่ายโจทก์เห็นว่าข้อความดังกล่าวสื่อความหมายว่าโจทก์รับเงินจากกองทัพบกมาใช้ในการผลิตภาพยนตร์ แอนิเมชัน 2475 Dawn of Revolution ข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนโดยทั่วไปที่เข้ามาอ่านข่าวเชื่อว่าโจทก์รับเงินจากกองทัพบกมาสร้างจริง อันเป็นข้อความเท็จ บริษัทระบุในคำฟ้องว่า การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นกิจการของโจทก์ และเป็นงานของเอกชนทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐ หรือกองทัพบก  



‘ศิริกัญญา’ ชี้เลื่อนเคาะปธ.บอร์ดธปท. แค่ประวิงเวลา ระบุแม้ประธานไม่มีอำนาจมาก แต่ ตั้งกนง.-เปลี่ยนตัวผู้ว่าฯได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4881282

‘ศิริกัญญา’ ชี้เลื่อนเคาะปธ.บอร์ดธปท. แค่ประวิงเวลา เชื่อ สุดท้ายเจรจาได้ ลั่นแม้ประธานไม่เกี่ยวข้องนโยบาย แต่มีสิทธิตั้งกนง.และอาจรวมถึงผู้ว่าด้วย ระบุสังคมวิจารณ์กิตติรัตน์เพราะพฤติกรรมในอดีตทำคนกังวล

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่อาคารอนาคตใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จากวันที่ 4 พ.ย.เป็นวันที่ 11 พ.ย.ว่า ผู้ที่มีสิทธิเสนอชื่อคนที่จะเข้าไปทำหน้าที่คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังนั้น จะบอกว่าการเมืองห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยว คงเป็นไปไม่ได้ ขออย่าเพิ่งตั้งแง่

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้ เป็นตัวบุคคลที่สืบเนื่องมาจากการกระทำในอดีตที่ผ่านมา ที่มีพฤติกรรมส่อเค้าว่าจะกระทำการแทรกแซงแบงก์ชาติ เนื่องจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยพูดว่าจะปลดผู้ว่าแบงก์ชาติในช่วง 2554-2555 จึงกลายเป็นข้อกังวล แต่ตามกฎหมาย ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติมีอำนาจที่จะแต่งตั้งกรรมการนโยบายการเงินฝั่งผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน ซึ่งตามกระบวนการก็จะมีการเปลี่ยนหมุนเวียนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ส่วนจะมีจุดร่วมของแต่ละฝ่ายจะเลือกประธานสำเร็จหรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ท้ายที่สุดก็คงมีการตกลงกัน เมื่อเช้ามีข่าวว่าเลื่อน และจะเสนอชื่อคนอื่นขึ้นมาแทนด้วย ตนคิดว่า ท้ายที่สุดคงจะมีการทำความเข้าใจกัน และได้ตัวเลือกที่เหมาะสม

ทั้งนี้ หากคนที่อยู่ในการเมืองเข้าไปมีตำแหน่ง จะสามารถทำให้การขับเคลื่อนแบงก์ชาติเดินหน้าสอดรับกับรัฐบาลได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ถ้าเป็นคนที่มีวาระเข้าไปเพื่อนโยบายให้สอดคล้องกับรัฐบาล ก็น่าจะมีส่วนสำคัญ แต่ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่ได้มีอำนาจเข้าไปกำหนดดอกเบี้ยนโยบาย หน้าที่ตรงนี้ยังเป็นของกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อยู่ดี แต่ในฐานะประธานบอร์ดแบงก์ชาติ มีสิทธิจะกำหนดว่าใครจะเข้ามาเป็น กนง.ในรุ่นต่อๆ ไปด้วย รวมไปถึงการเสนอชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนต่อไป ต้องดูว่ายังสามารถดำเนินการได้อย่างอิสระ และคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาวหรือไม่ และฝ่ายการเมืองเอง ก็มีแรงกดดันที่จะทำงานตอบสนองกับเป้าหมายในระยะสั้นมากกว่า ซึ่งตนคิดว่ามีส่วนสำคัญมาก ตามกฎหมายดูเหมือนจะไม่มีอำนาจอะไร แต่ถ้ากำหนด กนง.อีก 2 คนได้ ก็อาจจะเปลี่ยนเสียงข้างมากใน กนง.ได้ หรือเปลี่ยนตัวผู้ว่าแบงก์ชาติ ตรงนี้เป็นส่วนที่เราต้องจับตา

ส่วนหากคนของฝ่ายการเมืองเข้าไปจะเป็นการควบรวมและลดการตรวจสอบลงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า แบงก์ชาติไม่ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่มีเป้าหมายการดำเนินนโยบายที่ต่างกันกับรัฐบาล อย่างไรรัฐบาลก็ต้องดูที่ระยะสั้นอยู่แล้ว เพราะอยู่ได้เพียง 4 ปี และยังมีปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขให้กับประชาชน เขาก็มีสิทธิมองในระยะสั้นอยู่แล้ว แต่โดยกลไกเราออกแบบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมองยาวกว่า ซึ่งตรงนี้ไม่มีใครมอง นักการเมืองหรือรัฐบาลไม่สามารถที่จะมองยาวได้ เพราะก็ต้องมีการเลือกตั้งอีก ดังนั้นการที่มีหน่วยงานหรือองค์กรหนึ่งที่รักษาความอิสระ และมองไปในระยะยาวมากกว่า น่าจะทำให้เกิดสมดุลให้กับประเทศมากกว่า

ส่วนการเลื่อนการเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาตินาทีสุดท้าย จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นการซื้อเวลามากกว่าคงจะมีการพูดคุยตกลงกันให้เสร็จเรียบร้อย ว่าจะทำหน้าที่สบายใจกันทุกฝ่าย ไม่มีการเข้ามาแทรกแซง ในการกำหนด กนง.หรือแคนดิเดตผู้ว่าแบงก์ชาติ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีผลกระทบอะไรเพราะตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดให้รักษาการทำหน้าที่ได้ต่อจนกว่าจะมีการเลือกประธานบอร์ดคนใหม่



จิรัฏฐ์ สส.พรรคประชาชน สู้คดีปลอมใบ สด.43 ใช้พยาน 4 ปาก ศาลนัดสืบพยาน ต.ค.68
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9490035

จิรัฏฐ์ สส.แปดริ้ว พรรคประชาชน สู้คดีปลอมใบสด.43 ใช้พยานสืบหักล้าง 4 ปาก ขณะที่อัยการนำพยานเอกสารมัดตัว ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก 17 ตุลาปีหน้า

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 พ.ย.2567 ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีปลอมแปลงใบ สด.43 หมายเลขดำ อทย.155/2567 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อายุ 36 ปี สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 พรรคประชาชน (ปชน.) อดีตสส.พรรคก้าวไกล เป็นจำเลย ในความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม

โดยอัยการโจทก์ ระบุฟ้องความผิดสรุปความว่า เมื่อระหว่างต้นเดือนม.ค.2567 ถึงวันที่ 25 ม.ค.2567 เวลากลางวัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้บังอาจทำปลอมใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (แบบ สด.43) อันเป็นเอกสารราชการของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายขึ้นทั้งฉบับ

โดยจำเลยเขียนข้อความลงในแผ่นกระดาษ ซึ่งมีลักษณะเหมือนแบบฟอร์มสด. 43 ให้ปรากฏข้อความเท็จ ในช่อง ฉบับที่ว่า “352” ในช่อง พ.ศ.ว่า “2555” ในช่อง 1.1 ชื่อว่า “จิรัฏฐ์” ในช่องชื่อสกุลว่า “ทองสุวรรณ์” และในช่อง 2.4 ผลการจับสลากว่า “ดำ

เพื่อให้เอกสารดังกล่าวปรากฏความหมายว่า จำเลย เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการในปี พ.ศ.2555 และได้รับผลการจับสลากเป็นใบดำ โดยจำเลยได้กระทำเพื่อให้บุคคลอื่นที่พบเห็นเอกสารราชการที่ทำปลอมขึ้นดังกล่าว หลงเชื่อว่าเป็นใบ สด. 43 ที่แท้จริงที่กองทัพบกได้ทำขึ้น

ความจริงแล้วในปี 2555 จำเลยไม่ได้ไปเข้ารับตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการทหารกองประจำการในปีดังกล่าวและไม่ได้รับผลการจับสลากเป็นใบดำ ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่กองทัพบก ผู้อื่น หรือประชาชน

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2567 หลังจากจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องแล้ว จำเลย ได้นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยนำใบสด. 43 ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่จำเลยทำปลอมขึ้น ไปใช้อ้างแสดงเป็นหลักฐานทางช่องมติชน tv ในรายการ The Politics ที่เผยแพร่โดยการถ่ายทอดสด และบันทึกภาพและเสียงย้อนหลังเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูป ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงและพบเห็นได้

เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า จำเลยเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการในปี พ.ศ. 2555 และได้รับผลการจับสลากเป็นใบดำ ทำให้เกิดความเสียหายแก่กองทัพบก ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่กองทัพบก ผู้อื่น หรือประชาชน

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยและทำการสอบสวนแล้ว ซึ่งชั้นสอบสวน และชั้นพิจารณาของศาล จำเลยให้การปฏิเสธโดยตลอด

การกระทำของจำเลย เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268, 91 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 4 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) มาตรา 8 โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย

คดีนี้ ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถาม ปรากฏว่า จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

ในการนัดตรวจพยานหลักฐานวันนี้ ทั้งสองฝ่าย อัยการโจทก์และจำเลยเดินทางมาศาล

โดยอัยการโจทก์พยานเอกสารเป็นพยานต่อศาล 14 ฉบับ และอ้างส่งวัตถุพยานคือสื่อบันทึกข้อมูล (แฟลชไดรฟ์) 1 อัน เข้าสืบพยาน ใช้เวลา 1 นัดครึ่ง ขณะที่นายจิรัฏฐ์ จำเลย ทนายจำเลย นำพยานเข้าสืบหักล้าง จำนวน 4 ปาก ใช้เวลา 1 นัด

ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก วันที่ 17 ต.ค.2568 เวาลา 09.00 น. สืบพยานจำเลย 24 ต.ค.68 เวลา 09.00น.



หวั่นความลับรั่วไหล 'เสรีพิศุทธ์' ยันไม่ไปให้ข้อมูลชั้น 14 'ทักษิณ' กับ กมธ. เหตุมี 'สส.เพื่อไทย' อยู่ด้วย
https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/423385

'เสรีพิศุทธ์' การันตี 7 พ.ย. นี้ ไม่ไปแน่นอน หลัง กมธ.มั่นคงเชิญคลี่ปม ชั้น 14 'ทักษิณ' เหตุมี สส. 'เพื่อไทย' นั่ง กมธ.ด้วย อัดพรรคส้มชอบหาเสียง ไปยืนเรียงหน้าแถลง ทำความลับรั่ว รับโทรศัพท์ถาม 'บิ๊กโจ๊ก' เอง ไปชั้น 14 มาแล้วเหมือนกัน โบ้ยถามรายละเอียดจากเจ้าตัวเอง เชื่อ เรื่องอยู่ในชั้น ป.ป.ช. แล้ว ลั่น พี่เห็นมากับตา จะมาเป่าคดีกันได้ไง

4 พ.ย. 2567 พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการถูกเชิญไปให้ข้อมูลในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เรื่องการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ตนบอกไปแล้ว เรื่องนี้มันอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปปาล์มการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เขากำลังสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าเราไปพูด ไปเปิดเผย ความลับก็จะรั่วไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน กมธ.มี สส.จากหลายพรรค มีพรรคเพื่อไทยด้วย เราไปเปิดให้เขาแบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่