อัจฉริยะ จ่อฟ้องอัยการ เอื้อประโยชน์ผู้ต้องหา ยัน นักแสดงสาว แตงโม ไม่ได้ตกท้ายเรือ

อัจฉริยะ จ่อฟ้องอัยการ เอื้อประโยชน์ผู้ต้องหา ยัน  นักแสดงสาว แตงโม ไม่ได้ตกท้ายเรือ

อัจฉริยะ ร้อง บก.ปปป. เอาผิดคณะพนักงานอัยการคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา หลังศาลอาญา พิพากษายกฟ้องคดีที่พนักงานสอบสวนฟ้องอัจฉริยะหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เผยการสืบพยานคดีนี้ ยืนยันได้ว่า แตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ และบาดแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ
วันนี้ (2 ธ.ค. 67) เวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ร้องทุกข์กล่าวโทษ อัยการจังหวัดนนทบุรี กับพวก และอัยการภาค 1 กับพวก ที่ทำคดีการเสียชีวิคของ 'แตงโม' นิดา พัชรวีระพงษ์ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 และ 200

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สืบเนื่องจากผลคำพิพากษาศาลอาญาในคดีที่ 21 พนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม ยื่นฟ้องตนเองกับพวกรวม 3 คน ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งศาลได้พิจารณายกฟ้อง และในการสืบพยานคดีนี้ ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า แตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ และบาดแผลที่ขาก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ และยังมีการแก้ไขจีพีเอส สร้างพยานหลักฐานเท็จ เช่น เส้นผม วัตถุพยานอื่น ๆ
ดังนั้น จากการที่ตนรวบรวมพยานหลักฐานมาตลอด 3 ปี ก็ได้ข้อยุติจากคำพิพากษาของศาลแล้วว่า คณะพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี และคณะพนักงานอัยการภาค 1 ไม่ได้ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานว่า พยานหลักฐานของผู้ต้องหากับผู้กล่าวหา หลักฐานใดมีน้ำหนักน่าเชื่อถือรับฟังได้มากกว่า มีการรับฟังข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดคาดเคลื่อน ไม่พิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ยุติ ทำคำฟ้องยื่นต่อศาลชี้ขาดคดีโดยไม่ยึดตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง โดยใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาบนเรือ ซึ่งเป็นความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มาตรา 164 และ มาตรา 200

ตนจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับพนักงานอัยการที่ทำคดีแตงโมทั้งหมด ทั้งอธิบดี และพนักงานอัยการทุกคน ที่อยูในสำนวน ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ามีทั้งหมดกี่คน รู้เพียงว่ามีนางเอกอยู่ 1 คน เป็นอัยการที่อยู่บนฟ้า ซึ่งชัดเจนว่า เป็นบุคคลที่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยหลักฐานที่ตนนำมาแจ้งความในวันนี้ เป็นคำฟ้องของคณะพนักงานสอบสวน และคณะพนักงานอัยการที่ฟ้องผู้ต้องหาบนเรือ โดยมีเจตนาที่จะทำให้เป็นคดีประมาทเพียงอย่างเดียว และยังระบุว่า บาดแผลที่ขาของแตงโมเกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งเป็นความเท็จ และตนได้แนบคำพิพากษาคดีที่คณะพนักงานสอบสวนฟ้องตน ซึ่งมีการยืนยันความจริงมาหมดแล้ว อีกทั้งยังอ้างถึงพยานรวม 7 ปาก ที่ตนได้ไปยื่นให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการสืบสวนสอบสวนพนักงานอัยการเรื่องนี้ด้วย
นายอัจฉริยะยังยืนยันว่าจากผลการพิสูจน์ทั้งหมด ยังคงเชื่อว่ามีบุคคลทำให้แตงโมเสียชีวิต และจับโยนน้ำไม่ใช่ตกท้ายเรือ ส่วนบาดแผลก็เกิดจากของมีคมด้วยการกรีดตามยาว ไม่ใช่ใบพัดเรือร้านเปอร์เซ็นต์ และคดีนี้ตำรวจยังมีการสร้างพยานหลักฐานโดยเอาเส้นผมของแตงโมไปไว้ที่ท้ายเรือเพื่อช่วยให้สอดคล้องกับคำให้การของแซนด์วิชสารพัดที่บอกว่าแตงโมตกจากท่าเรือ

นอกจากนี้ ตนยังได้ไปร้องต่ออัยการสูงสุดให้ดำเนินการทางวินัยกับคณะพนักงานอัยการแล้วด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ นอกจากนี้ ยังทราบมาว่า มีผู้พิพากษาในคดีนี้ ถูกหนึ่งในพยานร้องต่อประธาน ก.ต. ว่า ประพฤติตนไม่เหมาะสมในศาลจังหวัดนนทบุรี โดยมีการดูหมิ่นเหยียดหยามพยานคนดังกล่าวว่า อาชญวิทยาเกี่ยวข้องอะไรกับคดีนี้ ซึ่งถือเป็นการด้อยค่า

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าในคดีนี้ผู้ต้องหาที่เหลือบนเรือจะถูกยกฟ้องทั้งหมด จากคำฟ้องของอัยการที่ไม่ได้มีการสืบว่าแตงโมเสียชีวิตอย่างไร
นายอัจฉริยะ ยังฝากถึงทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ด้วยว่า หากไม่รู้จริงก็อย่าพูดเยอะ ทนายเดชาเป็นทนายความของโจทก์ร่วม คือคุณแม่แตงโม แต่เหตุใดจึงยกเลิกพยานสำคัญที่เป็นแพทย์ ที่จะบอกแต่ว่าบาดแผลที่ขาเกิดจากอะไร / และยังฝากถึง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ด้วยว่า ที่เคยรับปากไว้ว่าหากคำพิพากษาออกมาแล้วจะอ่านให้ทุกคนฟัง ก็ขอให้ทำด้วย

https://entertain.teenee.com/thaistar/308024.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่