ล้างผิดสุดซอยต้องเอาผิดให้สุดซอย
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้สัมภาษณ์สื่อทำนองว่า ถ้านายทักษิณกลับมาก็เตรียมห้องพักไว้ให้ที่บ้านจะได้เลี้ยงหลาน
สะท้อนว่าไม่ได้ตระหนักถึงบทเรียนไม่สำเหนียกว่าบ้านเมืองวุ่นวายเพราะคนโกงไม่ยอมติดคุกไม่ยอมรับผิดตามกฎหมายแต่พยายามอาศัยอำนาจรัฐช่วยเหลือให้พ้นผิดไม่ต้องติดคุกเดือดร้อนกันไปทั่วเพียงเพราะผลประโยชน์ส่วนตนของคนตระกูลเดียว
1. เมื่อวันที่31 ส.ค. ที่ผ่านมานายนิวัติไชยเกษมมงคลเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงานป.ป.ช.เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานของป.ป.ช. ระบุว่าเมื่อเร็วๆนี้คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายสมศักดิ์เกียรติสุรนนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกรณีกล่าวหานายวรชัยเหมะอดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทยกับพวกรวม42 รายใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมฯ(พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย)
โฆษกป.ป.ช. กล่าวว่าพฤติการณ์ของนายสมศักดิ์กับพวกร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบทำผิดข้อบังคับในการประชุมสภาฯปี’51 หลายประการเช่นมีการเร่งรีบให้สส.ลงมติและไม่ทำหน้าที่ส่งร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่าการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินต้องส่งให้หน่วยงานอื่นของรัฐพิจารณาก่อนหรือไม่ไม่ทำหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับสภาเร่งรีบผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษสุดซอยโดยไม่ทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภาว่าการขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการขัดกับหลักการแห่งร่างหรือไม่อย่างไรมีการเสนอมาตราหนึ่งเข้ามาตามหลักการต้องส่งเข้าที่ประชุมสภาพิจารณาก่อนว่าสิ่งที่ส่งมาใหม่ขัดหลักการหรือไม่แต่นายสมศักดิ์ไม่เสนอซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเป็นการดำเนินการที่มิชอบ
คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือโดยมิชอบตามพ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี2542 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา213/1 ปัจจุบันได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อพิจารณาแล้ว
ขณะนี้นายสมศักดิ์ยังไม่ถูกพิพากษาความผิดยังมีสิทธิต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
2. สถานีข่าวท็อปนิวส์ ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมได้รับการยืนยันจากนายนิวัติไชยเลขาธิการป.ป.ช. ระบุว่ามติป.ป.ช.ดังกล่าวชี้มูลนายสมศักดิ์เพียงคนเดียว
ส่วนนายวรชัยกับพวกที่ร่วมกันเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้นป.ป.ช.ไม่ได้ชี้มูลเพราะเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติในการเสนอกฎหมาย
3. ย้อนกลับไปเมื่อปี2556 ช่วงที่ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการให้เป็นแบบล้างผิดสุดซอยรวมคดีทุจริตโกงกินเข้าไปด้วยนั้นรายชื่ออดีตสส.พรรคเพื่อไทยที่ร่วมเซ็นชื่อกับนายวรชัยเพื่อเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมีทั้งหมดรวม40 รายชื่อ
ประกอบด้วย นายก่อแก้วพิกุลทองนางสาวทัศนีย์บูรณุปกรณ์ นายสุนัยจุลพงศธรนายสงวนพงษ์มณีนางระพิพรรณพงศ์เรืองรองนางสาวสุณีย์เหลืองวิจิตรนายพายัพปั้นเกตุนายเชิดชัยตันติศิรินทร์นายโกศลปัทมะนายบุญแก้วสมวงศ์นายถาวรตรีรัตน์ณรงค์นายสมศักดิ์ใจแคล้ว นายบุญชูนิลถนอมนายมนตรีตั้งเจริญถาวรนางเอมอรสินธุไพรนายสมคิดเชื้อคงนายสัมภาษณ์อัตถาวงศ์นายพหลวรปัญญานางพัชรินทร์มั่นปานนางสมหญิงบัวบุตรนายเกียรติอุดมเมนะสวัสดิ์
นางสาวมาลินีอินฉัตร นางชมภูจันทาทองนางเปล่งมณีเร่งสมบูรณ์สุขนางอนุรักษ์บุญศลนางเทียบจุฑาขาวคำนายประเสริฐชัยกิจเด่นนภาลัยนายสมโภชสายเทพนายปวีณแซ่จึงนายอนุสรณ์ปั้นทองนายชูศักดิ์แอกทองนายไพโรจน์อิสระเสรีพงษ์ นายรสมะลิผลนายอภิชาติตีรสวัสดิชัยนายประสาทตันประเสริฐนายชินวัฒน์หาบุญพาดนายพิสิษฐ์สันตพันธุ์นายธวัชชัยสุทธิบงกชนายนิยมเวชกามา
-สิงหาคม2556 นายวรชัยเหมะและนายนิยมวรปัญญา2 สส.พรรคเพื่อไทยเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเฉพาะการกระทำที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมืองของทุกฝ่ายย้อนหลังไปถึงปี2547 ต่อมา8 สิงหาคม2556 สภาฯเห็นชอบวาระแรกและตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณา
-28 ตุลาคม2556 ก่อนที่จะเข้าสู่สภาฯในวาระ2 และ3 คณะกรรมาธิการฯเสียงข้างมากได้มีมติแก้ไขเนื้อหาสำคัญที่เสนอโดยนายประยุทธ์ศิริพานิชย์สส.เพื่อไทยเจ้าของฉายา“หัวเขียง” ที่ให้นิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร19 กันยายน2549 ทำให้ร่างนี้ถูกตั้งฉายาว่า “ฉบับเหมาเข่งสุดซอย” เพราะนายทักษิณได้ประโยชน์เต็มๆ
-29 ตุลาคม2556 นายสมศักดิ์มีหนังสือเรียกประชุมด่วนนัดพิเศษในวันที่31 ตุลาคม2556 เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในวาระที่2 ในมาตรา2 และ3
-31 ตุลาคมที่สภาฯได้ประชุมโดยมีการอภิปรายกันอย่างดุเดือดยาวนานกว่า19 ชั่วโมงและเกิดความวุ่นวายในสภาสส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ประท้วงการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์อย่างหนักถึงขั้นเดินไปหน้าบัลลังก์ชี้หน้าต่อว่านายสมศักดิ์
-สุดท้ายนายสมศักดิ์ได้สั่งให้ลงมติในวาระที่2 และ3 ติดต่อกันในช่วงเวลาประมาณ3 นาฬิกาของวันที่1 พฤศจิกายนโดยวาระที่3 สภาฯมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน310 ต่อ0 งดออกเสียง4 มีผลให้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรจากนั้นนายสมศักดิ์ได้สั่งปิดประชุมสภาฯในเวลา4 นาฬิกา25 นาทีทำให้ได้รับอีกฉายาว่า “พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับลักหลับ”
นอกสภานายสุเทพเทือกสุบรรณได้นำสส.พรรคประชาธิปัตย์จัดชุมนุมใหญ่เพื่อต่อต้านการออกกฎหมายล้างผิดสุดซอยโดยมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากและต่อมาก็ได้ก่อกำเนิดเป็นกลุ่มกปปส. เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ประชาชนมาเข้าร่วมชุมนุมหลายล้านคนทั่วประเทศ
ถ้าไม่ไปล้างผิดให้คนโกงหนีคดีด้วยบ้านเมืองก็ไม่เกิดความวุ่นวายไม่มีประชาชนผู้ชุมนุมถูกฆ่าตาย
ช่างน่าระอาใจ.... ปัจจุบันคนโกงหนีคดีก็ยังคิดจะกลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุกโดยอาศัยลูกสาวที่จะช่วยเหลืออีกครั้ง
สารส้ม
https://www.naewna.com/politic/columnist/52669
ทักษิณ คนโกงหนีคดี ยังคิดกลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก อาศัยลูกสาวที่จะช่วยเหลืออีกครั้ง (ช่วยเสริมส่งให้ประวิตรเป็นนายก)
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้สัมภาษณ์สื่อทำนองว่า ถ้านายทักษิณกลับมาก็เตรียมห้องพักไว้ให้ที่บ้านจะได้เลี้ยงหลาน
สะท้อนว่าไม่ได้ตระหนักถึงบทเรียนไม่สำเหนียกว่าบ้านเมืองวุ่นวายเพราะคนโกงไม่ยอมติดคุกไม่ยอมรับผิดตามกฎหมายแต่พยายามอาศัยอำนาจรัฐช่วยเหลือให้พ้นผิดไม่ต้องติดคุกเดือดร้อนกันไปทั่วเพียงเพราะผลประโยชน์ส่วนตนของคนตระกูลเดียว
1. เมื่อวันที่31 ส.ค. ที่ผ่านมานายนิวัติไชยเกษมมงคลเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงานป.ป.ช.เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานของป.ป.ช. ระบุว่าเมื่อเร็วๆนี้คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายสมศักดิ์เกียรติสุรนนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกรณีกล่าวหานายวรชัยเหมะอดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทยกับพวกรวม42 รายใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมฯ(พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย)
โฆษกป.ป.ช. กล่าวว่าพฤติการณ์ของนายสมศักดิ์กับพวกร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบทำผิดข้อบังคับในการประชุมสภาฯปี’51 หลายประการเช่นมีการเร่งรีบให้สส.ลงมติและไม่ทำหน้าที่ส่งร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่าการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินต้องส่งให้หน่วยงานอื่นของรัฐพิจารณาก่อนหรือไม่ไม่ทำหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับสภาเร่งรีบผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษสุดซอยโดยไม่ทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภาว่าการขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการขัดกับหลักการแห่งร่างหรือไม่อย่างไรมีการเสนอมาตราหนึ่งเข้ามาตามหลักการต้องส่งเข้าที่ประชุมสภาพิจารณาก่อนว่าสิ่งที่ส่งมาใหม่ขัดหลักการหรือไม่แต่นายสมศักดิ์ไม่เสนอซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเป็นการดำเนินการที่มิชอบ
คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือโดยมิชอบตามพ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี2542 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา213/1 ปัจจุบันได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อพิจารณาแล้ว
ขณะนี้นายสมศักดิ์ยังไม่ถูกพิพากษาความผิดยังมีสิทธิต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
2. สถานีข่าวท็อปนิวส์ ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมได้รับการยืนยันจากนายนิวัติไชยเลขาธิการป.ป.ช. ระบุว่ามติป.ป.ช.ดังกล่าวชี้มูลนายสมศักดิ์เพียงคนเดียว
ส่วนนายวรชัยกับพวกที่ร่วมกันเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้นป.ป.ช.ไม่ได้ชี้มูลเพราะเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติในการเสนอกฎหมาย
3. ย้อนกลับไปเมื่อปี2556 ช่วงที่ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการให้เป็นแบบล้างผิดสุดซอยรวมคดีทุจริตโกงกินเข้าไปด้วยนั้นรายชื่ออดีตสส.พรรคเพื่อไทยที่ร่วมเซ็นชื่อกับนายวรชัยเพื่อเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมีทั้งหมดรวม40 รายชื่อ
ประกอบด้วย นายก่อแก้วพิกุลทองนางสาวทัศนีย์บูรณุปกรณ์ นายสุนัยจุลพงศธรนายสงวนพงษ์มณีนางระพิพรรณพงศ์เรืองรองนางสาวสุณีย์เหลืองวิจิตรนายพายัพปั้นเกตุนายเชิดชัยตันติศิรินทร์นายโกศลปัทมะนายบุญแก้วสมวงศ์นายถาวรตรีรัตน์ณรงค์นายสมศักดิ์ใจแคล้ว นายบุญชูนิลถนอมนายมนตรีตั้งเจริญถาวรนางเอมอรสินธุไพรนายสมคิดเชื้อคงนายสัมภาษณ์อัตถาวงศ์นายพหลวรปัญญานางพัชรินทร์มั่นปานนางสมหญิงบัวบุตรนายเกียรติอุดมเมนะสวัสดิ์
นางสาวมาลินีอินฉัตร นางชมภูจันทาทองนางเปล่งมณีเร่งสมบูรณ์สุขนางอนุรักษ์บุญศลนางเทียบจุฑาขาวคำนายประเสริฐชัยกิจเด่นนภาลัยนายสมโภชสายเทพนายปวีณแซ่จึงนายอนุสรณ์ปั้นทองนายชูศักดิ์แอกทองนายไพโรจน์อิสระเสรีพงษ์ นายรสมะลิผลนายอภิชาติตีรสวัสดิชัยนายประสาทตันประเสริฐนายชินวัฒน์หาบุญพาดนายพิสิษฐ์สันตพันธุ์นายธวัชชัยสุทธิบงกชนายนิยมเวชกามา
-สิงหาคม2556 นายวรชัยเหมะและนายนิยมวรปัญญา2 สส.พรรคเพื่อไทยเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเฉพาะการกระทำที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมืองของทุกฝ่ายย้อนหลังไปถึงปี2547 ต่อมา8 สิงหาคม2556 สภาฯเห็นชอบวาระแรกและตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณา
-28 ตุลาคม2556 ก่อนที่จะเข้าสู่สภาฯในวาระ2 และ3 คณะกรรมาธิการฯเสียงข้างมากได้มีมติแก้ไขเนื้อหาสำคัญที่เสนอโดยนายประยุทธ์ศิริพานิชย์สส.เพื่อไทยเจ้าของฉายา“หัวเขียง” ที่ให้นิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร19 กันยายน2549 ทำให้ร่างนี้ถูกตั้งฉายาว่า “ฉบับเหมาเข่งสุดซอย” เพราะนายทักษิณได้ประโยชน์เต็มๆ
-29 ตุลาคม2556 นายสมศักดิ์มีหนังสือเรียกประชุมด่วนนัดพิเศษในวันที่31 ตุลาคม2556 เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในวาระที่2 ในมาตรา2 และ3
-31 ตุลาคมที่สภาฯได้ประชุมโดยมีการอภิปรายกันอย่างดุเดือดยาวนานกว่า19 ชั่วโมงและเกิดความวุ่นวายในสภาสส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ประท้วงการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์อย่างหนักถึงขั้นเดินไปหน้าบัลลังก์ชี้หน้าต่อว่านายสมศักดิ์
-สุดท้ายนายสมศักดิ์ได้สั่งให้ลงมติในวาระที่2 และ3 ติดต่อกันในช่วงเวลาประมาณ3 นาฬิกาของวันที่1 พฤศจิกายนโดยวาระที่3 สภาฯมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน310 ต่อ0 งดออกเสียง4 มีผลให้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรจากนั้นนายสมศักดิ์ได้สั่งปิดประชุมสภาฯในเวลา4 นาฬิกา25 นาทีทำให้ได้รับอีกฉายาว่า “พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับลักหลับ”
นอกสภานายสุเทพเทือกสุบรรณได้นำสส.พรรคประชาธิปัตย์จัดชุมนุมใหญ่เพื่อต่อต้านการออกกฎหมายล้างผิดสุดซอยโดยมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากและต่อมาก็ได้ก่อกำเนิดเป็นกลุ่มกปปส. เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ประชาชนมาเข้าร่วมชุมนุมหลายล้านคนทั่วประเทศ
ถ้าไม่ไปล้างผิดให้คนโกงหนีคดีด้วยบ้านเมืองก็ไม่เกิดความวุ่นวายไม่มีประชาชนผู้ชุมนุมถูกฆ่าตาย
ช่างน่าระอาใจ.... ปัจจุบันคนโกงหนีคดีก็ยังคิดจะกลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุกโดยอาศัยลูกสาวที่จะช่วยเหลืออีกครั้ง
สารส้ม
https://www.naewna.com/politic/columnist/52669