ม็อบรง.ไฟฟ้าขยะเล่นใหญ่เผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง
https://www.innnews.co.th/news/local/news_497405/
ม็อบต้านโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะเล่นใหญ่เผาพริกเผาเกลือสาปแช่งเจ้าของโครงการ ชาวบ้านวอนนำโครงการกลับไปทบทวนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พบมีขบวนรถกว่า 30 คัน พร้อมป้ายคัดค้านไม่เอาโรงงานไฟฟ้าขยะของชาวบ้านอำเภอขามสะแกแสงและชาวบ้านถนนโพธิ์ของอำเภอโนนไทยกว่า 200 คน เดินทางเข้ามายื่นหนังสือพร้อมกับรายชื่อของชาวบ้านจำนวน 1,989 รายชื่อ เพื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการโรงงานกำจัดขยะเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าของทางองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง กับทางศูนย์ดำรงธรรมซึ่งจากการสอบถามกับทางแกนนำของผู้ชุมชนทราบว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการจากการทรวงมหาดไทย
ก่อนที่ทางบริษัทเอกชนจะเป็นคนเข้ามารับผิดชอบต่อและเปิดรับเวทีรับฟังความคิดเห็นเรื่องมาตั้งแต่อำเภอคง อำเภอโนนไทย จนล่าสุดที่อำเภอขามสะแกแสง ซึ่งชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอล้วนไม่เป็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ซึ่งล่าสุดมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่หอประชุมอำเภอขามสะแกแสงก็เกือบมีเหตุการณ์วุ่นวายเพราะชาวบ้านอำเภอขามสะแกแสงมีการรวมตัวประท้วงกันอย่างหนักเพราะต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโครงการ
ซึ่งบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจราจรและรักษาความปลอดภัยระหว่างการชุมนุม โดยในระหว่างรอยื่นหนังสืออยู่นั้นทางแกนนำชาวบ้านได้มีการนำเตาอั้งโล่พร้อมกับพริกแห้งและเกลือเพื่อมาประกอบพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งเจ้าของโครงการ
โดยได้มีการสวดมนต์บูชารัตนตรัยก่อนที่แกนนำจะพาชาวบ้านกล่าวคำสาปแช่งเจ้าของโครงการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน หลังจากนั้นชาวบ้านได้มีการขนอาหารออกมารับประทานการเพื่อรอยื่นหนังสือให้กับศูนย์ดำรงธรรมโดยมีการนำอาหารและเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านพร้อมกับมีการตำส้มตำแจกจ่ายกันรับประทานในระหว่างรอ
ภายหลังก็มีตัวแทนจากทางศูนย์ดำรงธรรม ท้องถิ่นจังหวัด และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา ลงมารับหนังสือพร้อมรายชื่อของชาวบ้านทั้งหมด 1,989 ราย ที่ร่วมกันลงชื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการโรงงานกำจัดขยะเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจากการชี้แจงของทางศูนย์ดำรงธรรมทราบว่าโครงการดังกล่าวที่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่อำเภอโนนไทย
นั้นได้มีการประชุมหารือของทางสภาเทศบาลตำบลโนนไทยแล้วโดยผลจากการประชุมนั้นไม่เห็นชอบให้มีการก่อสร้างโครงการฯ แต่ในส่วนของทางอำเภอขามสะแกแสงนั้นยังคงต้องรอเอกสารการชี้แจงการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านเมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังจากการรับหนังสือแล้วชาวบ้านต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านอย่างสงบเรียบร้อย
นางสาว
สุชาดา แกนนำชาวบ้านอำเภอขามสะแกแสง กล่าวว่า โรงงานกำจัดขยะเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า นั้นเป็นโครงการของกระทรวงมหาดไทยก่อนที่จะส่งต่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนที่จะได้การจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการต่อซึ่งตลอดการเปิดรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอตนทราบว่าชาวบ้านส่วนมากไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างของโครงการซึ่งมีผลกระทบหลายอย่างกับชุมชนเพราะพื้นที่ก่อสร้างของโครงการจะอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนที่มีทั้งพื้นที่การเกษตร สถานศึกษา ที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
ทำให้ส่วนตัวตนมองว่ามันไม่เหมาะสมกับการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าขยะแบบนี้ โดยในวันที่ 14 ก.พ.66 ทางตนชาวบ้านจะเดินทางเข้าไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลพะงาดเพื่อกดดันการประชุมของสภาท้องถิ่นเพราะถ้าทางสภาของถิ่นของตนไม่รับหลักการแล้วการก่อสร้างก็จะไม่เกิด นอกจากนี้ตนอยากฝากไปยังกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นของโครงการอยากให้นำโครงการนี้กลับไปคิดทบทวนดูให้ดีอีกครั้งก่อนที่จะนำมาเสนอให้กับประชาชนอีกครั้ง เพราะโดยส่วนตัวแล้วตนมองว่าโครงการนี้ดีแต่ต้องตั้งอยู่ให้ห่างกับชุมชนมากกว่านี้ นางสาว
สุชาดา กล่าว
คนโคราชรอฟัง ‘นายกฯตู่’ ชี้แจงสร้างมอเตอร์เวย์ล่าช้ามาก-งบบาน!
https://www.dailynews.co.th/news/1979288/
ส.ส.เพื่อไทย บอกคนโคราชรอฟังนายกฯ ตู่ ชี้แจงสร้าง "มอเตอร์เวย์" สายบางปะอิน-โคราช ช้ามาก! ส.ส.ก้าวไกล ขยี้ซ้ำ "งบบาน-งานช้า" ชี้แบบก่อสร้างมีปัญหา ทำประชาชนเสียโอกาส ถาม รมว.คมนาคม ใครต้องรับผิดชอบ!
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นาย
โกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนาย
เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์พรรค รทสช. จะปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 25 ก.พ. 66 ว่าในฐานะ ส.ส.โคราช พรรค พท. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ พล.อ.
ประยุทธ์ จะมาปราศรัยที่โคราช จะได้พูดกับปากตัวเองให้คนโคราชและคนอีสานทราบว่า เป็นนายกฯ และรัฐบาลมา 8 ปี ทำไมถึงปล่อยให้การก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-โคราช ล่าช้าไป 3-4 ปี แล้วตอนนี้ยังจะขอต่อเวลาไปอีก 2 ปี ถึงจะก่อสร้างเสร็จ การก่อสร้างล้าช้าเช่นนี้ เป็นการทำลายโอกาสทางเศรษฐกิจของพี่น้องชาวอีสานอย่างยิ่ง รวมถึงประชาชนต้องทุกข์ในการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหยุดยาวต้องใช้เวลา 7-11 ชั่วโมง แทนที่ประชาชนจะได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขกับครอบครัว แต่ต้องมาติดบนถนนเพราะความล่าช้าของรัฐบาล
“ประเด็นนี้ตนเชื่อว่าหากพรรค พท. แลนด์สไลด์ได้เป็นรัฐบาล จะเร่งรัดติดตามการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายดังกล่าวจเสร็จภายใน 6 เดือน นอกจากนั้นยังไม่สนใจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องโคราชที่ได้ยื่นร้องเรียนให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-โคราช ช่วงผ่านเมือง แต่ไม่มีความคืบหน้าและไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราชแต่อย่างใด”
นาย
โกศล กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประชาชนอยากฟังจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ อีกเรื่องคือการทำงานมา 8 ปี ใช้งบประมาณไปมหาศาล แต่ทำไมประชาชนยังยากจนอยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ บอกจะปราบปรามทุจริตอย่างเด็ดขาด แต่กลับตั้งคนใกล้ชิดที่มีข่าวพัวพันกับเรื่องการตบทรัพย์จนต้องออกไปครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้กลับตั้งเข้ามาอีกรอบ โดยไม่สนใจความรู้สึกประชาชน เช่นนี้แล้วประชาชนจะเชื่อมั่นนายกฯ ในเรื่องนี้ได้อย่างไร
ทางด้าน นาย
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการขยายระยะเวลาก่อสร้างและงบประมาณการก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช โดยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา มติ ครม. อนุมัติงบประมาณ 4,971 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างและขยายเวลาในการก่อสร้าง จากเดิมต้องแล้วเสร็จในปี 63 ออกไปเป็นปี 68 โดย รมว.คมนาคม ให้เหตุผลว่า มีอุปสรรค 4 ประเด็น ได้แก่
1. สภาพพื้นที่ในสนามที่ทำการ ก่อสร้างได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
2. ปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพของพื้นที่ในปัจจุบัน
3. ปรับรูปแบบให้เหมาะสม สอดคล้องกับโครงสร้างสาธารณูปโภค หรือความจำเป็นของหน่วยงานที่โครงการตัดผ่าน
4. ปรับรูปแบบการก่อสร้างเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางในปัจจุบัน
นาย
สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แม้หลักการและเหตุผลดูเป็นการขอขยายระยะเวลาและงบประมาณในการก่อสร้างทั่วไป แต่ตนมองว่ามีความซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะต้องย้อนไปตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อปี 57 รัฐบาล คสช. เข้ามามีอำนาจ และอนุมัติโครงการเมกะโปรเจคท์ ซึ่งโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช เป็นเมกะโปรเจคท์แรกของรัฐบาล คสช. มีการโฆษณามาโดยตลอดว่าใกล้เสร็จและพร้อมใช้งาน โดยแผนเดิมมอเตอร์เวย์เส้นนี้จะแล้วเสร็จในปี 63 แต่ปรากฏว่าขยายเวลาออกไปถึง 5 ปี เป็นปี 68
“เบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้เกิดปัญหางบบานงานช้า เพราะรัฐบาล คสช. อนุมัติก่อสร้างเมื่อปี 59 โดยใช้แบบการก่อสร้างเมื่อปี 2551 แต่ปรากฏว่าแบบนั้นมีปัญหา จึงต้องสร้างไปแก้ไป รัฐบาล คสช. ที่รัฐประหารแล้วอ้างว่ามาเพื่อปราบโกง ก็ไม่ได้ปราบโกงจริง แต่เข้ามาเร่งอนุมัติโครงการ หากินกับการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ แทนที่จะมาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างที่เคยสัญญาไว้ รัฐบาล คสช. หยิบโครงการนี้ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ เอามาซอยย่อยกว่า 40 โครงการ ราคากลางโดยรวมอยู่ที่ 59,512 ล้านบาท ประมูลได้ต่ำกว่าราคากลางเพียง 1.12% แต่ที่สาหัสจริงๆ ที่ทำให้งบบานคือเรื่องแบบที่ไม่พร้อมใช้งาน”
นาย
สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนต้องการเห็นผู้รับผิดชอบโครงการเมกะโปรเจคท์นี้ เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ล้มเหลว ดังนั้น รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องออกมาอธิบายให้ชัดเจน และต้องมีคนรับผิดชอบภาษีประชาชนกว่า 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีค่าเสียโอกาสต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนไม่ได้ใช้โครงการ โครงการก็เสื่อมสภาพ ถูกลอบขโมยเหล็ก ลักสายไฟ ซึ่งตนต้องการความชัดเจนจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และต้องการฝากคำถามสำคัญ 2 ข้อ คือ 1. งบประมาณที่เพิ่มขึ้นอีก 4,971 ล้านบาท ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และ 2. แบบที่ใช้ในการอนุมัติก่อสร้างเมื่อปี 2559 เป็นแบบเก่าซึ่งออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 2551 ใช่หรือไม่ ขอให้สื่อมวลชนทวงถามความชัดเจนและจับตาดูความล้มเหลวของเมกะโปรเจคท์นี้ไปพร้อมกัน
ส.ส.หลอกต้มชาวประมง ทำสถิติประชุมล่ม เข้าน้อยสุด 93 คน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3815719
ส.ส.หลอกต้มชาวประมง ทำสถิติประชุมล่ม เข้าน้อยสุด 93 คน
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนาย
ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. … จำนวน 7 ฉบับ ที่เสนอโดย ครม. และพรรคการเมืองต่างๆ หลังจากที่มีชาวประมงจำนวนมากมายื่นหนังสือถึงหลายพรรคการเมืองในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ขอให้ช่วยสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อปลดล็อกเงื่อนไขการจำกัดสิทธิการประมงในหลายเรื่อง และแก้ไขเรื่องใบอนุญาตการทำประมง ซึ่งทุกพรรคก็รับปากจะช่วยสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยการอภิปรายส.ส.ทุกพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างพร้อมใจสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้
ต่อมาเวลา 18.00 น. หลังจากแสดงความคิดเห็นเสร็จสิ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อเตรียมตัวลงมติวาระรับหลักการ ปรากฏว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ นาย
อรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท. พากันเรียกร้องให้ปิดประชุม เพื่อไปลงมติร่างกฎหมายดังกล่าวในครั้งต่อไป เพราะมีจำนวนสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา มีแนวโน้มไม่ครบองค์ประชุม
แต่นาย
ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ยืนยันให้มีการลงมติทันที เพราะพี่น้องชาวประมงรออยู่ ถ้าไม่โหวตวันนี้ก็ไม่รู้จะนำกลับมาพิจารณาได้ทันหรือไม่ เพราะยังมีขั้นตอนพิจารณาในวุฒิสภาอีก ควรโชว์ให้เห็นว่าใครรักชาวประมงจริงหรือรักแต่ปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างรอตรวจสอบองค์ประชุม ได้มี ส.ส.ตะโกนเสียงลอดผ่านไมค์ออกมาว่า สถิตินี้น้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว
หลังจากที่รอให้สมาชิกแสดงตนอยู่นาน ปรากฏว่ามี ส.ส.แสดงตนเพียง 93 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม นาย
ศุภชัย จึงสั่งปิดประชุมเวลา 18.24 น. นับว่าเป็นการประชุมสภาฯ ล่มครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ต้นปี 2566
JJNY : 5in1 ม็อบรง.ไฟฟ้าขยะเล่นใหญ่│คนโคราชรอฟังมอเตอร์เวย์│ทำสถิติประชุมล่ม│‘เบนซิน-โซฮอล์’ ขึ้น 40 สต.│ปูตินขู่ UK
https://www.innnews.co.th/news/local/news_497405/
ม็อบต้านโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะเล่นใหญ่เผาพริกเผาเกลือสาปแช่งเจ้าของโครงการ ชาวบ้านวอนนำโครงการกลับไปทบทวนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พบมีขบวนรถกว่า 30 คัน พร้อมป้ายคัดค้านไม่เอาโรงงานไฟฟ้าขยะของชาวบ้านอำเภอขามสะแกแสงและชาวบ้านถนนโพธิ์ของอำเภอโนนไทยกว่า 200 คน เดินทางเข้ามายื่นหนังสือพร้อมกับรายชื่อของชาวบ้านจำนวน 1,989 รายชื่อ เพื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการโรงงานกำจัดขยะเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าของทางองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองคง กับทางศูนย์ดำรงธรรมซึ่งจากการสอบถามกับทางแกนนำของผู้ชุมชนทราบว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการจากการทรวงมหาดไทย
ก่อนที่ทางบริษัทเอกชนจะเป็นคนเข้ามารับผิดชอบต่อและเปิดรับเวทีรับฟังความคิดเห็นเรื่องมาตั้งแต่อำเภอคง อำเภอโนนไทย จนล่าสุดที่อำเภอขามสะแกแสง ซึ่งชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอล้วนไม่เป็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ซึ่งล่าสุดมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่หอประชุมอำเภอขามสะแกแสงก็เกือบมีเหตุการณ์วุ่นวายเพราะชาวบ้านอำเภอขามสะแกแสงมีการรวมตัวประท้วงกันอย่างหนักเพราะต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโครงการ
ซึ่งบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจราจรและรักษาความปลอดภัยระหว่างการชุมนุม โดยในระหว่างรอยื่นหนังสืออยู่นั้นทางแกนนำชาวบ้านได้มีการนำเตาอั้งโล่พร้อมกับพริกแห้งและเกลือเพื่อมาประกอบพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งเจ้าของโครงการ
โดยได้มีการสวดมนต์บูชารัตนตรัยก่อนที่แกนนำจะพาชาวบ้านกล่าวคำสาปแช่งเจ้าของโครงการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน หลังจากนั้นชาวบ้านได้มีการขนอาหารออกมารับประทานการเพื่อรอยื่นหนังสือให้กับศูนย์ดำรงธรรมโดยมีการนำอาหารและเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านพร้อมกับมีการตำส้มตำแจกจ่ายกันรับประทานในระหว่างรอ
ภายหลังก็มีตัวแทนจากทางศูนย์ดำรงธรรม ท้องถิ่นจังหวัด และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา ลงมารับหนังสือพร้อมรายชื่อของชาวบ้านทั้งหมด 1,989 ราย ที่ร่วมกันลงชื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการโรงงานกำจัดขยะเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจากการชี้แจงของทางศูนย์ดำรงธรรมทราบว่าโครงการดังกล่าวที่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่อำเภอโนนไทย
นั้นได้มีการประชุมหารือของทางสภาเทศบาลตำบลโนนไทยแล้วโดยผลจากการประชุมนั้นไม่เห็นชอบให้มีการก่อสร้างโครงการฯ แต่ในส่วนของทางอำเภอขามสะแกแสงนั้นยังคงต้องรอเอกสารการชี้แจงการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านเมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังจากการรับหนังสือแล้วชาวบ้านต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านอย่างสงบเรียบร้อย
นางสาวสุชาดา แกนนำชาวบ้านอำเภอขามสะแกแสง กล่าวว่า โรงงานกำจัดขยะเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า นั้นเป็นโครงการของกระทรวงมหาดไทยก่อนที่จะส่งต่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนที่จะได้การจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการต่อซึ่งตลอดการเปิดรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอตนทราบว่าชาวบ้านส่วนมากไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างของโครงการซึ่งมีผลกระทบหลายอย่างกับชุมชนเพราะพื้นที่ก่อสร้างของโครงการจะอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนที่มีทั้งพื้นที่การเกษตร สถานศึกษา ที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
ทำให้ส่วนตัวตนมองว่ามันไม่เหมาะสมกับการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าขยะแบบนี้ โดยในวันที่ 14 ก.พ.66 ทางตนชาวบ้านจะเดินทางเข้าไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลพะงาดเพื่อกดดันการประชุมของสภาท้องถิ่นเพราะถ้าทางสภาของถิ่นของตนไม่รับหลักการแล้วการก่อสร้างก็จะไม่เกิด นอกจากนี้ตนอยากฝากไปยังกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นของโครงการอยากให้นำโครงการนี้กลับไปคิดทบทวนดูให้ดีอีกครั้งก่อนที่จะนำมาเสนอให้กับประชาชนอีกครั้ง เพราะโดยส่วนตัวแล้วตนมองว่าโครงการนี้ดีแต่ต้องตั้งอยู่ให้ห่างกับชุมชนมากกว่านี้ นางสาวสุชาดา กล่าว
คนโคราชรอฟัง ‘นายกฯตู่’ ชี้แจงสร้างมอเตอร์เวย์ล่าช้ามาก-งบบาน!
https://www.dailynews.co.th/news/1979288/
ส.ส.เพื่อไทย บอกคนโคราชรอฟังนายกฯ ตู่ ชี้แจงสร้าง "มอเตอร์เวย์" สายบางปะอิน-โคราช ช้ามาก! ส.ส.ก้าวไกล ขยี้ซ้ำ "งบบาน-งานช้า" ชี้แบบก่อสร้างมีปัญหา ทำประชาชนเสียโอกาส ถาม รมว.คมนาคม ใครต้องรับผิดชอบ!
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์พรรค รทสช. จะปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 25 ก.พ. 66 ว่าในฐานะ ส.ส.โคราช พรรค พท. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมาปราศรัยที่โคราช จะได้พูดกับปากตัวเองให้คนโคราชและคนอีสานทราบว่า เป็นนายกฯ และรัฐบาลมา 8 ปี ทำไมถึงปล่อยให้การก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-โคราช ล่าช้าไป 3-4 ปี แล้วตอนนี้ยังจะขอต่อเวลาไปอีก 2 ปี ถึงจะก่อสร้างเสร็จ การก่อสร้างล้าช้าเช่นนี้ เป็นการทำลายโอกาสทางเศรษฐกิจของพี่น้องชาวอีสานอย่างยิ่ง รวมถึงประชาชนต้องทุกข์ในการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหยุดยาวต้องใช้เวลา 7-11 ชั่วโมง แทนที่ประชาชนจะได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขกับครอบครัว แต่ต้องมาติดบนถนนเพราะความล่าช้าของรัฐบาล
“ประเด็นนี้ตนเชื่อว่าหากพรรค พท. แลนด์สไลด์ได้เป็นรัฐบาล จะเร่งรัดติดตามการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายดังกล่าวจเสร็จภายใน 6 เดือน นอกจากนั้นยังไม่สนใจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องโคราชที่ได้ยื่นร้องเรียนให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-โคราช ช่วงผ่านเมือง แต่ไม่มีความคืบหน้าและไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราชแต่อย่างใด”
นายโกศล กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประชาชนอยากฟังจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ อีกเรื่องคือการทำงานมา 8 ปี ใช้งบประมาณไปมหาศาล แต่ทำไมประชาชนยังยากจนอยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ บอกจะปราบปรามทุจริตอย่างเด็ดขาด แต่กลับตั้งคนใกล้ชิดที่มีข่าวพัวพันกับเรื่องการตบทรัพย์จนต้องออกไปครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้กลับตั้งเข้ามาอีกรอบ โดยไม่สนใจความรู้สึกประชาชน เช่นนี้แล้วประชาชนจะเชื่อมั่นนายกฯ ในเรื่องนี้ได้อย่างไร
ทางด้าน นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการขยายระยะเวลาก่อสร้างและงบประมาณการก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช โดยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา มติ ครม. อนุมัติงบประมาณ 4,971 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างและขยายเวลาในการก่อสร้าง จากเดิมต้องแล้วเสร็จในปี 63 ออกไปเป็นปี 68 โดย รมว.คมนาคม ให้เหตุผลว่า มีอุปสรรค 4 ประเด็น ได้แก่
1. สภาพพื้นที่ในสนามที่ทำการ ก่อสร้างได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
2. ปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพของพื้นที่ในปัจจุบัน
3. ปรับรูปแบบให้เหมาะสม สอดคล้องกับโครงสร้างสาธารณูปโภค หรือความจำเป็นของหน่วยงานที่โครงการตัดผ่าน
4. ปรับรูปแบบการก่อสร้างเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางในปัจจุบัน
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า แม้หลักการและเหตุผลดูเป็นการขอขยายระยะเวลาและงบประมาณในการก่อสร้างทั่วไป แต่ตนมองว่ามีความซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะต้องย้อนไปตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อปี 57 รัฐบาล คสช. เข้ามามีอำนาจ และอนุมัติโครงการเมกะโปรเจคท์ ซึ่งโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช เป็นเมกะโปรเจคท์แรกของรัฐบาล คสช. มีการโฆษณามาโดยตลอดว่าใกล้เสร็จและพร้อมใช้งาน โดยแผนเดิมมอเตอร์เวย์เส้นนี้จะแล้วเสร็จในปี 63 แต่ปรากฏว่าขยายเวลาออกไปถึง 5 ปี เป็นปี 68
“เบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้เกิดปัญหางบบานงานช้า เพราะรัฐบาล คสช. อนุมัติก่อสร้างเมื่อปี 59 โดยใช้แบบการก่อสร้างเมื่อปี 2551 แต่ปรากฏว่าแบบนั้นมีปัญหา จึงต้องสร้างไปแก้ไป รัฐบาล คสช. ที่รัฐประหารแล้วอ้างว่ามาเพื่อปราบโกง ก็ไม่ได้ปราบโกงจริง แต่เข้ามาเร่งอนุมัติโครงการ หากินกับการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ แทนที่จะมาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างที่เคยสัญญาไว้ รัฐบาล คสช. หยิบโครงการนี้ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ เอามาซอยย่อยกว่า 40 โครงการ ราคากลางโดยรวมอยู่ที่ 59,512 ล้านบาท ประมูลได้ต่ำกว่าราคากลางเพียง 1.12% แต่ที่สาหัสจริงๆ ที่ทำให้งบบานคือเรื่องแบบที่ไม่พร้อมใช้งาน”
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนต้องการเห็นผู้รับผิดชอบโครงการเมกะโปรเจคท์นี้ เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ล้มเหลว ดังนั้น รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องออกมาอธิบายให้ชัดเจน และต้องมีคนรับผิดชอบภาษีประชาชนกว่า 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีค่าเสียโอกาสต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนไม่ได้ใช้โครงการ โครงการก็เสื่อมสภาพ ถูกลอบขโมยเหล็ก ลักสายไฟ ซึ่งตนต้องการความชัดเจนจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และต้องการฝากคำถามสำคัญ 2 ข้อ คือ 1. งบประมาณที่เพิ่มขึ้นอีก 4,971 ล้านบาท ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และ 2. แบบที่ใช้ในการอนุมัติก่อสร้างเมื่อปี 2559 เป็นแบบเก่าซึ่งออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 2551 ใช่หรือไม่ ขอให้สื่อมวลชนทวงถามความชัดเจนและจับตาดูความล้มเหลวของเมกะโปรเจคท์นี้ไปพร้อมกัน
ส.ส.หลอกต้มชาวประมง ทำสถิติประชุมล่ม เข้าน้อยสุด 93 คน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3815719
ส.ส.หลอกต้มชาวประมง ทำสถิติประชุมล่ม เข้าน้อยสุด 93 คน
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. … จำนวน 7 ฉบับ ที่เสนอโดย ครม. และพรรคการเมืองต่างๆ หลังจากที่มีชาวประมงจำนวนมากมายื่นหนังสือถึงหลายพรรคการเมืองในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ขอให้ช่วยสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อปลดล็อกเงื่อนไขการจำกัดสิทธิการประมงในหลายเรื่อง และแก้ไขเรื่องใบอนุญาตการทำประมง ซึ่งทุกพรรคก็รับปากจะช่วยสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยการอภิปรายส.ส.ทุกพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างพร้อมใจสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้
ต่อมาเวลา 18.00 น. หลังจากแสดงความคิดเห็นเสร็จสิ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อเตรียมตัวลงมติวาระรับหลักการ ปรากฏว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท. พากันเรียกร้องให้ปิดประชุม เพื่อไปลงมติร่างกฎหมายดังกล่าวในครั้งต่อไป เพราะมีจำนวนสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา มีแนวโน้มไม่ครบองค์ประชุม
แต่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ยืนยันให้มีการลงมติทันที เพราะพี่น้องชาวประมงรออยู่ ถ้าไม่โหวตวันนี้ก็ไม่รู้จะนำกลับมาพิจารณาได้ทันหรือไม่ เพราะยังมีขั้นตอนพิจารณาในวุฒิสภาอีก ควรโชว์ให้เห็นว่าใครรักชาวประมงจริงหรือรักแต่ปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างรอตรวจสอบองค์ประชุม ได้มี ส.ส.ตะโกนเสียงลอดผ่านไมค์ออกมาว่า สถิตินี้น้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว
หลังจากที่รอให้สมาชิกแสดงตนอยู่นาน ปรากฏว่ามี ส.ส.แสดงตนเพียง 93 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม นายศุภชัย จึงสั่งปิดประชุมเวลา 18.24 น. นับว่าเป็นการประชุมสภาฯ ล่มครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ต้นปี 2566