ตั้งแต่เด็กจนโต เราไม่เคยไปบ้านที่ภาคเหนือในช่วงฤดูหนาวเลยค่ะ จะได้ไป ก็ช่วงปิดเทอมในฤดูร้อน และพอโตมา เราจะได้ไปก็ต่อเมื่อใช้วันลาหยุดประจำปี แล้วแต่ช่วงที่ตัวเราเองนั้นสะดวก จะไม่ให้ตรงกับช่วงวันหยุดเทศกาล เพราะไม่ชอบรถติดและผู้คนแออัดเยอะๆ
พอดีเมื่อสัปดาห์ก่อนมีเหตุให้ต้องกลับไปทำธุระด่วนที่บ้าน และตรงกับช่วงอากาศหนาวพอดี และก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้เราได้รู้จักผักชนิดนี้ ซึ่งมีคนในหมู่บ้านเก็บเอามาขาย แม่ของเราเลยซื้อไว้ 2ถุง ราคา 120บาท (กิโลละ 60บาท)
ตอนเห็นครั้งแรก เราก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าเขาจะเอาสิ่งนี้มาทำเมนูอะไรให้กิน แล้วมันจะอร่อยได้อย่างไร
แม่บอกว่า... เป็นของอร่อยที่จะกินได้เฉพาะแค่ช่วงสั้นๆในฤดูหนาวเท่านั้น เพราะฝักยวม จะออกผลผลิตในช่วงอากาศแบบนี้ ในรอบหนึ่งปีจะได้กินแค่ช่วงสั้นๆค่ะ ยิ่งพอมีคนนำมาขาย เลยต้องรีบซื้อไว้ก่อน เดี๋ยวไม่ทันคนอื่น
.
.
.
.
ผักพื้นบ้านชนิดนี้ มีชื่อเรียกว่า...
ยวม งวม นวม หรือหนามโก๊ง(หนามโค้ง) ก็แล้วแต่จังหวัด แล้วแต่ท้องที่เรียกกันค่ะ
เขาจะมีลักษณะเป็นฝักแบนๆ หนาประมาณ 2มิลลิเมตร ถ้ามองเผินๆ จะคล้ายใบไม้ แต่ถ้าเราจับด้วยมือ จะรู้สึกว่าหนากว่าใบไม้ปกติ (เพราะจริงๆเขาคือฝัก)
รสชาติเมื่อเด็ดชิมสดๆ จะมีความเปรี้ยวๆ เราก็บอกไม่ถูกว่าคล้ายอะไร แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า จะคล้ายฝักมะขามอ่อนๆก็ไม่เชิง จะเหมือนใบชะมวงก็ไม่ใช่ แต่โดยรวมรสชาติของเขาถือว่าเปรี้ยวกลมกล่อมค่ะ
.
.
.
.
ด้วยความที่เขามีรสชาติเปรี้ยว บางคนบอกว่ามีติดรสชาติติดฝาดนิดๆที่ปลายลิ้น แต่ส่วนตัว เราเด็ดชิมสดๆดูแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าฝาดนะคะ (ถ้าเทียบกับรสชาติของยอดอ่อนใบมะม่วง อันนั้นเรารู้สึกเปรี้ยวฝาดของจริง)
แต่ก็นั่นแหละค่ะ ด้วยความที่ไม่ได้คุ้นชินกับผักชนิดนี้ เราเลยทำวิธีตามที่คนคุ้นเคยเขาทำดีกว่า (ขั้นตอนการเตรียมยวมก่อนเอาไปทำอาหาร)
หลังจากที่แม่เราทำให้ลองกิน เราติดใจมากๆเลยค่ะ ตอนกลับ เราเลยขอแบ่งกลับมาระยองด้วยนิดนึง เพราะจะเอามาทำให้คนทางนี้ได้กินบ้าง
🧂
ขั้นตอนการเตรียมยวม 🧂
- ยวม
- เกลือ
.
.
.
.
ขั้นตอนไม่มีอะไรมากค่ะ นำยวมมาล้างให้สะอาดแล้วจับเรียงซ้อนกัน จากนั้นทำการซอยเป็นเส้นๆ แล้วนำมาบีบๆ ขยำๆกับเกลือ (อารมณ์ประมาณคั้น)
และไม่ต้องกลัวว่าเขาจะแตกหรือขาดนะคะ ฝักของเขาจะมีความยืดยุ่นให้ตัวได้ค่ะ ขยำๆอยู่ประมาณ5นาที เพื่อให้เขาคลายความเปรี้ยวออกมา (บางคนก็บอกเพื่อลดความฝาด)
.
.
.
.
เมื่อคั้นเสร็จ ทำการล้างด้วยน้ำเปล่าสัก 2-3น้ำ เพื่อล้างเกลือออกและลดความเปรี้ยวลงค่ะ
.
.
.
.
เมื่อล้างเสร็จแล้ว ทำการบีบน้ำออกให้หมาดๆ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
.
.
.
.
มาถึงขั้นตอนการเตรียมน้ำพริกสำหรับทำยำยวม
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่าสูตรการทำยำยวมของแต่ละบ้าน ของแต่ละท้องถิ่นนั้น วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาจจะไม่เหมือนกันทีเดียว อันนี้ขออ้างอิงจากสูตรของบ้านเรา ของแถวบ้านเรานะคะ
🌶️
วัตถุดิบการทำน้ำพริกยำยวม 🐟
- พริกแห้ง
- ตะไคร้
- กระเทียม
- ปลาทูนึ่ง หรือปลาต้มชนิดอื่นก็ได้ค่ะ
(แต่ที่บ้านจะปลาทูนึ่งเพราะรู้สึกรสชาติกลมกล่อมกว่า)
- กะปิ
.
.
.
.
นำทุกอย่างมาโขลกรวมกัน ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกันเตรียมไว้ค่ะ
.
.
.
.
🌶️ วัตถุดิบและเครื่องปรุงการทำยำยวม 🧅
- ยวม
- น้ำพริกยำยวม
- น้ำมัน
- หอมแดงซอย
- น้ำปลา
- แคบหมู
(หรือหมี่ขาวทอดกรอบก็ได้ค่ะ)
.
.
.
.
🔪 วิธีทำ 🔪
ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ทำการเจียวหอมแดงให้หอม
(หากเจียวจนกรอบแล้ว จะแบ่งส่วนหนึ่งไว้โรยหน้าก็ได้นะคะ)
.
.
.
.
เมื่อเจียวหอมแดงได้ที่แล้ว ทำการใส่น้ำพริกยำลงไปผัดค่ะ ผัดให้สุกและมีกลิ่นหอม
.
.
.
.
จากนั้นทำการปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา ให้รสชาติออกไปทางเค็มกว่าปกตินิดนึงนะคะ (เพราะเดียวเราใส่ยวมลงไป รสชาติทุกอย่างจะพอดีกันเลย)
หากแห้งเกินไป สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปนิดนึงได้ค่ะ
และเมื่อรสชาติได้ตามที่ต้องการแล้ว ทำการปิดไฟเตาแก๊สได้เลย และพักไว้จนกว่าจะเย็นดี
.
.
.
.
เมื่อเครื่องที่เราผัดไว้เย็นดีแล้ว ทำการใส่ยวมที่เราเตรียมไว้ลงไปค่ะ จากนั้นทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ส่วนตัวใส่ถุงมือแล้วขยำคลุกเคล้าในกระทะเลยค่ะ จะง่ายกว่าการใช้ตะหลิวหรือทัพพีในการคลุก
.
.
.
.
🧡❤️ เมื่อเสร็จแล้วจะได้หน้าตาประมาณนี้ค่ะ ❤️🧡
.
.
.
.
บางคนอาจจะจินตนาการรสชาติไม่ถูก เพราะมันเป็นผักเฉพาะถิ่น ที่บางคนอาจไม่เคยเห็น ไม่เคยได้กินกันมาก่อน
แต่เราจะอธิบายว่าคล้ายๆน้ำพริกปลาทูค่ะ แต่จะมีความหอมมากกว่า เพราะเอาไปผัดกับหอมเจียว แล้วยิ่งมีรสชาติที่ออกเผ็ดๆ มีความเค็มนิดๆ พอยิ่งมาตัดกับยวมที่มีความเปรี้ยวนิดๆ ยิ่งทำให้ทุกอย่างออกมาเป็นรสชาติที่กลมกล่อมอร่อยพอดีกันเลยค่ะ
กินกับข้าวสวยก็อร่อย แต่ถ้าได้กินกับข้าวเหนียวก็ยิ่งอร่อยไปอีกค่ะ
พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บ มีความร้อนวิชาเลยรีบทำให้แฟนและเพื่อนร่วมงานได้ลองกิน ผลปรากฏว่าหมดเกลี้ยงในมื้อเดียวไม่มีเหลือเลยค่ะ มีแต่คนถามว่าคือผักอะไร
ด้วยความที่เป็นผักพื้นบ้าน อาจจะเป็นวัตถุดิบเฉพาะถิ่น ที่หากินยากไม่ได้หาง่ายหรือแพร่หลายเหมือนผักปกติทั่วไป เลยอยากนำมาให้รู้จักผ่านกระทู้นี้ค่ะ 😊😊
.
.
🧡🧡 ขออนุญาตเปิบมือนะคะ 🧡🧡
... ยำยวม เมนูบ้านๆแสนอร่อย จากผักพื้นบ้านค่ะ 🧡💛💚
พอดีเมื่อสัปดาห์ก่อนมีเหตุให้ต้องกลับไปทำธุระด่วนที่บ้าน และตรงกับช่วงอากาศหนาวพอดี และก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้เราได้รู้จักผักชนิดนี้ ซึ่งมีคนในหมู่บ้านเก็บเอามาขาย แม่ของเราเลยซื้อไว้ 2ถุง ราคา 120บาท (กิโลละ 60บาท)
ตอนเห็นครั้งแรก เราก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าเขาจะเอาสิ่งนี้มาทำเมนูอะไรให้กิน แล้วมันจะอร่อยได้อย่างไร
แม่บอกว่า... เป็นของอร่อยที่จะกินได้เฉพาะแค่ช่วงสั้นๆในฤดูหนาวเท่านั้น เพราะฝักยวม จะออกผลผลิตในช่วงอากาศแบบนี้ ในรอบหนึ่งปีจะได้กินแค่ช่วงสั้นๆค่ะ ยิ่งพอมีคนนำมาขาย เลยต้องรีบซื้อไว้ก่อน เดี๋ยวไม่ทันคนอื่น
เขาจะมีลักษณะเป็นฝักแบนๆ หนาประมาณ 2มิลลิเมตร ถ้ามองเผินๆ จะคล้ายใบไม้ แต่ถ้าเราจับด้วยมือ จะรู้สึกว่าหนากว่าใบไม้ปกติ (เพราะจริงๆเขาคือฝัก)
รสชาติเมื่อเด็ดชิมสดๆ จะมีความเปรี้ยวๆ เราก็บอกไม่ถูกว่าคล้ายอะไร แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า จะคล้ายฝักมะขามอ่อนๆก็ไม่เชิง จะเหมือนใบชะมวงก็ไม่ใช่ แต่โดยรวมรสชาติของเขาถือว่าเปรี้ยวกลมกล่อมค่ะ
แต่ก็นั่นแหละค่ะ ด้วยความที่ไม่ได้คุ้นชินกับผักชนิดนี้ เราเลยทำวิธีตามที่คนคุ้นเคยเขาทำดีกว่า (ขั้นตอนการเตรียมยวมก่อนเอาไปทำอาหาร)
หลังจากที่แม่เราทำให้ลองกิน เราติดใจมากๆเลยค่ะ ตอนกลับ เราเลยขอแบ่งกลับมาระยองด้วยนิดนึง เพราะจะเอามาทำให้คนทางนี้ได้กินบ้าง
และไม่ต้องกลัวว่าเขาจะแตกหรือขาดนะคะ ฝักของเขาจะมีความยืดยุ่นให้ตัวได้ค่ะ ขยำๆอยู่ประมาณ5นาที เพื่อให้เขาคลายความเปรี้ยวออกมา (บางคนก็บอกเพื่อลดความฝาด)
(หากเจียวจนกรอบแล้ว จะแบ่งส่วนหนึ่งไว้โรยหน้าก็ได้นะคะ)
หากแห้งเกินไป สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปนิดนึงได้ค่ะ
และเมื่อรสชาติได้ตามที่ต้องการแล้ว ทำการปิดไฟเตาแก๊สได้เลย และพักไว้จนกว่าจะเย็นดี
ส่วนตัวใส่ถุงมือแล้วขยำคลุกเคล้าในกระทะเลยค่ะ จะง่ายกว่าการใช้ตะหลิวหรือทัพพีในการคลุก
แต่เราจะอธิบายว่าคล้ายๆน้ำพริกปลาทูค่ะ แต่จะมีความหอมมากกว่า เพราะเอาไปผัดกับหอมเจียว แล้วยิ่งมีรสชาติที่ออกเผ็ดๆ มีความเค็มนิดๆ พอยิ่งมาตัดกับยวมที่มีความเปรี้ยวนิดๆ ยิ่งทำให้ทุกอย่างออกมาเป็นรสชาติที่กลมกล่อมอร่อยพอดีกันเลยค่ะ
กินกับข้าวสวยก็อร่อย แต่ถ้าได้กินกับข้าวเหนียวก็ยิ่งอร่อยไปอีกค่ะ
พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บ มีความร้อนวิชาเลยรีบทำให้แฟนและเพื่อนร่วมงานได้ลองกิน ผลปรากฏว่าหมดเกลี้ยงในมื้อเดียวไม่มีเหลือเลยค่ะ มีแต่คนถามว่าคือผักอะไร
ด้วยความที่เป็นผักพื้นบ้าน อาจจะเป็นวัตถุดิบเฉพาะถิ่น ที่หากินยากไม่ได้หาง่ายหรือแพร่หลายเหมือนผักปกติทั่วไป เลยอยากนำมาให้รู้จักผ่านกระทู้นี้ค่ะ 😊😊