แพงรับตรุษจีน! ราคาหมู พุ่ง 8 บาท/ก.ก. ขายปลีกทะลุ 200 บาท/ก.ก.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7461151
ราคาหมู ขยับแล้ว สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผย พุ่งขึ้น 3-8 บาทต่อกิโลกรัมรับ ตรุษจีน ภาคใต้แพงสุด ขายปลีกทะลุ 200 บาทต่อกิโลกรัม
วันที่ 16 ม.ค.2566 รายงานข่าวจาก สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แจ้งว่า วันพระล่าสุด 14 ม.ค. 2566 สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มทุกภูมิภาคได้มีการปรับฐานราคาสูงขึ้น ตามความต้องการบริโภคที่สูงขึ้นทุกภูมิภาคในช่วงเทศกาลตรุษจีน และปรับให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เฉลี่ยสูงกว่าราคาตลาดสุกรขุนในหลายพื้นที่
โดยแรงกดดันต้นทุนน้ำหนักยังคงอยู่ที่ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สัปดาห์นี้ขยับต่อไปอยู่ที่ 13.40 บาท/กิโลกรัม ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นจากกระสอบละ 1,320 บาท เป็นกระสอบละ 1,430 บาท รวมทั้งยังมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทยอยเดินทางเข้าไทยจำนวนมากทั้งสัปดาห์นับจากวันแรก 8 ม.ค. 2566 ที่จีนเปิดประเทศ
โดยราคาสุกรมีชีวิตมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่
ภาคตะวันตก ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 96-98 บาท/ก.ก. ส่งผลให้ราคาขายส่งเนื้อแดงห้างค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น 3 บาท/ก.ก. จาก 153 บาท/ก.ก. เป็น 153-156บาท/ก.ก. ส่วนราคาขายปลีกปรับเพิ่มขึ้น 4บาท/ก.ก. จาก 190-192บาท/ก.ก. เป็น 190-196 บาท/ก.ก.
ภาคตะวันออก อยู่ที่ 98-100บาท/ก.ก. ราคาขายส่งห้างค้าปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 3-4 บาท/ก.ก. จาก153-156 บาท/ก.ก. เป็น 156-160บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4 บาท/ก.ก. จาก 190-196 บาท/ก.ก. เป็น 194-200 บาท/ก.ก.
ภาคอีสาน ราคาอยู่ที่100-102 บาท/ก.ก. ราคาขายส่งห้างค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น 3บาท/ก.ก. จาก153-160บาท/ก.ก. เป็น 160-163 บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับจาก 190-200บาท/ก.ก. เป็น 198-202 บาท/ก.ก.
ภาคเหนือ 102 บาท/ก.ก.ราคาขายส่งห้างค้าปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 3-7บาท/ก.ก. จาก156-160 บาท/ก.ก. เป็น 163 บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4- 8 บาท/ก.ก. จาก194-200 บาท/ก.ก. เป็น 202-204 บาท/ก.ก.
ราคาอยู่ที่ 100 บาท/ก.ก. ราคาขายส่งห้างค้าปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 7 บาท/ก.ก. จาก 153 บาท/ก.ก. เป็น 160บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 8 บาท/ก.ก. จาก190-192บาท/ก.ก. จาก 198-200 บาท/ก.ก.
"ชลน่าน" แนะจับตา 3 วันฤกษ์ดี รัฐบาลเล็งยุบสภาหวังได้กลับมาสืบทอดอำนาจ
https://siamrath.co.th/n/415246
"ชลน่าน" จับตา 3 วันฤกษ์ดี รัฐบาลเล็งยุบสภาหวังได้กลับมาสืบทอดอำนาจ ชี้ช่องจับตา 6 ก.พ. ถ้า ส.ส.ยังไม่ย้ายพรรค เป็นสัญญาณยุบแน่ เตือนชิงยุบหนีอภิปราย ม.152 เจอ ปชช. พิพากษาในคูหาเลือกตั้ง
วันที่ 16 ม.ค.2566 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่าพร้อมเข้ามาชี้แจงตั้งแต่ 15 ก.พ. เป็นต้นไป ว่า น่าจะเป็นเวลาที่เนิ่นนานเกินกว่าเหตุที่จำเป็น เพราะดูจากกระบวนการยื่นญัตติก็ทำอย่างรวดเร็ว แต่ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านและประธานสภา ก็ได้ทักท้วงไปว่า เป็นการทอดเวลาที่ยาวนานเกินไป เพราะโดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนหลังจากการยื่นญัตติ สำหรับเนื้อหาในการอภิปรายจะครอบคลุมทุกนโยบายทั้ง 12 ด้านของรัฐบาล รวมถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม เช่น เรื่องยาเสพติด ทุนจีนสีเทา ปฏิรูประบบราชการ ก็จะถูกหยิบยกมาสอบถามและเสนอแนะต่อไปโดยมี
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ทำหน้าที่ดูแลเนื้อหาสาระและบทบาทหน้าที่ในการอภิปราย จัดสรรกันไปตามความถนัดของแต่ละพรรคการเมือง เดิมในการอภิปรายทั่วไปครั้งล่าสุดได้เวลาทั้งหมด 22 ชั่วโมง คราวนี้จึงตั้งใจจะต่อรองให้ไม่ต่ำกว่า 22 ชั่วโมง หรือมากกว่า
ส่วนคนอภิปรายของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ด้วยความสมัครใจ แต่ถูกคัดเลือกและมอบหมายจากพรรคให้ทำหน้าที่ เสมือนเวทีปราศรัยใหญ่ แต่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคมีความมั่นใจในบุคคลที่ได้รับคัดเลือก ว่าจะนำเสนอประเด็นที่เป็นประโยชน์ได้
เมื่อถามว่าการทอดเวลาของรัฐบาลที่นานกว่าเป็นปกติ กลัวว่าจะเป็นการชิงยุบสภาหนีหรือไม่ นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า หาก ส.ส.ที่ประกาศว่าจะย้ายพรรคยังทำหน้าที่อยู่หลังวันที่ 6 ก.พ. เป็นต้นไปโดยไม่ย้าย ก็ยืนยันได้เลยว่าจะมีการยุบสภาแน่ เพราะตรงตามเงื่อนไข 90 วันที่ต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้ง ระบอบประชาธิปไตยอาศัยอำนาจสูงสุดมาจากประชาชน ท่านหนีสภาได้ แต่ท่านหนีประชาชนไม่ได้ เพราะประชาชนจะพิพากษาท่านในคูหาเลือกตั้ง อย่าได้คิดทำ หากท่านได้ชี้แจงในสภา อาจจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน แต่ถ้าท่านหนีการอภิปราย จะไม่มีโอกาสอีกเลย
"การยุบสภาอาจขึ้นอยู่กับฤกษ์ยามด้วย โดยให้จับตาวันที่ 14 ก.พ. 24 ก.พ. และ 7 มี.ค. วันดังกล่าวนี้ ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ยุบสภาแล้วอาจจะได้กลับมาสืบทอดอำนาจต่อ แต่ฤกษ์ดีของประชาชนคือวันที่เข้าไปกาบัตรเลือกตั้งวันที่ 14 ก.พ. คือวันแห่งความรัก แต่มีใครบางคนจะเปลี่ยนวันแห่งความรักให้เป็นวันแห่งความเกลียด ผมก็ช่วยไม่ได้นะ ประชาชนจะฝังจำความเกลียดนั้นเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง" นพ.
ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลเสนอเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นการฉกชิงความได้เปรียบของรัฐบาลหรือไม่ นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า ตอบแบบกำปั้นทุบดินตรงไหนก็ถูก ว่าใช่แน่นอน ขอแสดงความยินดีกับประชาชนที่ได้รับเงินเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤต แต่การมาเติมเงินในช่วง 2 เดือนสุดท้าย เพราะคิดว่าจะได้คะแนนเพิ่ม ย่อมไม่สามารถซื้อใจประชาชนได้ ประชาชนรู้ดีว่าเป็นเงินที่มาจากภาษีประชาชนและจะรู้ว่าทำไมผ่านมาถึง 8 ปี ถึงเพิ่งมาให้ เป็นการอาศัยจังหวะทางกฎหมายเพื่อเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น แต่คุณเอาเปรียบประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจไม่ได้ คุณให้ช้าไป
กานต์กนิษฐ์ เปิดใจย้ายซบเพื่อไทย ขอเลือกพรรคที่สบายใจ เผย ‘ประวิตร’ ไม่ว่าอะไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_3773957
‘กานต์กนิษฐ์’ เปิดใจย้ายซบ พท. บอก ขอทำงานกับพรรคที่สบายใจ พร้อมทำความเข้าใจแจงเหตุผลกับ ปชช.ในพื้นที่ ชี้ ‘บิ๊กป้อม’ ทราบแล้วไม่ได้ว่าอะไร ยัน ไม่มีเชิญใครใน พปชร.มาเพิ่ม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.
กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัคร ส.ส.กทม.เขต 1 พรรค พท. กล่าวเปิดใจที่ย้ายมาร่วมงานกับพรรค พท.ว่า เลือกอยู่กับพรรคที่ทำงานแล้วสบายใจ มองว่าที่พื้นที่ กทม.เขต 1 เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีพ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจค้าขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งนโยบายของพรรค พท.ให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจ และเชื่อว่าจะช่วยพี่น้องประชาชนได้ เพื่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในพื้นที่
น.ส.
กานต์กนิษฐ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การย้ายมาอยู่พรรค พท. อาจจะทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่รู้สึกสับสน แต่ก็พยายามทำความเข้าใจและชี้แจงแนวทางที่ตัดสินใจมาอยู่กับพรรค พท. ขณะที่ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ก็ทราบเรื่องที่ตนย้ายมาอยู่พรรค พท.แล้ว ซึ่ง พล.อ.
ประวิตรก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนยันว่าจะรักษาเก้าอี้ในพื้นที่ไว้ได้ เนื่องจากตนเป็นนักการเมืองมานาน และที่ผ่านมาก็ทำพื้นที่มาตลอด ขอให้ประชาชนมั่นใจ และจะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า การย้ายพรรคครั้งนี้ แสดงว่าพรรค พปชร.มีปัญหาหรือไม่ น.ส.
กานต์กนิษฐ์กล่าวว่า ทุกคนในพรรค พชปร.น่ารักทุกคน แต่จะเป็นเรื่องของนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนมากกว่า ยืนยันว่าทุกคนในพรรค พปชร.ยังเป็นเพื่อนและยังพูดคุยกันได้ และจะยังไม่มีการชวนใครในพรรค พปชร.มาอยู่กับพรรค พท.อีก
JJNY : แพงรับตรุษจีน! ราคาหมู│"ชลน่าน" แนะจับตา 3 วันฤกษ์ดี│กานต์กนิษฐ์ย้ายซบเพื่อไทย│‘ชวน’อัดถกกม. รวดเดียว 10 ฉบับ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7461151
ราคาหมู ขยับแล้ว สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผย พุ่งขึ้น 3-8 บาทต่อกิโลกรัมรับ ตรุษจีน ภาคใต้แพงสุด ขายปลีกทะลุ 200 บาทต่อกิโลกรัม
วันที่ 16 ม.ค.2566 รายงานข่าวจาก สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แจ้งว่า วันพระล่าสุด 14 ม.ค. 2566 สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มทุกภูมิภาคได้มีการปรับฐานราคาสูงขึ้น ตามความต้องการบริโภคที่สูงขึ้นทุกภูมิภาคในช่วงเทศกาลตรุษจีน และปรับให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เฉลี่ยสูงกว่าราคาตลาดสุกรขุนในหลายพื้นที่
โดยแรงกดดันต้นทุนน้ำหนักยังคงอยู่ที่ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สัปดาห์นี้ขยับต่อไปอยู่ที่ 13.40 บาท/กิโลกรัม ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นจากกระสอบละ 1,320 บาท เป็นกระสอบละ 1,430 บาท รวมทั้งยังมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทยอยเดินทางเข้าไทยจำนวนมากทั้งสัปดาห์นับจากวันแรก 8 ม.ค. 2566 ที่จีนเปิดประเทศ
โดยราคาสุกรมีชีวิตมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่
ภาคตะวันตก ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 96-98 บาท/ก.ก. ส่งผลให้ราคาขายส่งเนื้อแดงห้างค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น 3 บาท/ก.ก. จาก 153 บาท/ก.ก. เป็น 153-156บาท/ก.ก. ส่วนราคาขายปลีกปรับเพิ่มขึ้น 4บาท/ก.ก. จาก 190-192บาท/ก.ก. เป็น 190-196 บาท/ก.ก.
ภาคตะวันออก อยู่ที่ 98-100บาท/ก.ก. ราคาขายส่งห้างค้าปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 3-4 บาท/ก.ก. จาก153-156 บาท/ก.ก. เป็น 156-160บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4 บาท/ก.ก. จาก 190-196 บาท/ก.ก. เป็น 194-200 บาท/ก.ก.
ภาคอีสาน ราคาอยู่ที่100-102 บาท/ก.ก. ราคาขายส่งห้างค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้น 3บาท/ก.ก. จาก153-160บาท/ก.ก. เป็น 160-163 บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับจาก 190-200บาท/ก.ก. เป็น 198-202 บาท/ก.ก.
ภาคเหนือ 102 บาท/ก.ก.ราคาขายส่งห้างค้าปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 3-7บาท/ก.ก. จาก156-160 บาท/ก.ก. เป็น 163 บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4- 8 บาท/ก.ก. จาก194-200 บาท/ก.ก. เป็น 202-204 บาท/ก.ก.
ราคาอยู่ที่ 100 บาท/ก.ก. ราคาขายส่งห้างค้าปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 7 บาท/ก.ก. จาก 153 บาท/ก.ก. เป็น 160บาท/ก.ก. ราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 8 บาท/ก.ก. จาก190-192บาท/ก.ก. จาก 198-200 บาท/ก.ก.
"ชลน่าน" แนะจับตา 3 วันฤกษ์ดี รัฐบาลเล็งยุบสภาหวังได้กลับมาสืบทอดอำนาจ
https://siamrath.co.th/n/415246
"ชลน่าน" จับตา 3 วันฤกษ์ดี รัฐบาลเล็งยุบสภาหวังได้กลับมาสืบทอดอำนาจ ชี้ช่องจับตา 6 ก.พ. ถ้า ส.ส.ยังไม่ย้ายพรรค เป็นสัญญาณยุบแน่ เตือนชิงยุบหนีอภิปราย ม.152 เจอ ปชช. พิพากษาในคูหาเลือกตั้ง
วันที่ 16 ม.ค.2566 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่าพร้อมเข้ามาชี้แจงตั้งแต่ 15 ก.พ. เป็นต้นไป ว่า น่าจะเป็นเวลาที่เนิ่นนานเกินกว่าเหตุที่จำเป็น เพราะดูจากกระบวนการยื่นญัตติก็ทำอย่างรวดเร็ว แต่ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านและประธานสภา ก็ได้ทักท้วงไปว่า เป็นการทอดเวลาที่ยาวนานเกินไป เพราะโดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนหลังจากการยื่นญัตติ สำหรับเนื้อหาในการอภิปรายจะครอบคลุมทุกนโยบายทั้ง 12 ด้านของรัฐบาล รวมถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม เช่น เรื่องยาเสพติด ทุนจีนสีเทา ปฏิรูประบบราชการ ก็จะถูกหยิบยกมาสอบถามและเสนอแนะต่อไปโดยมี สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ทำหน้าที่ดูแลเนื้อหาสาระและบทบาทหน้าที่ในการอภิปราย จัดสรรกันไปตามความถนัดของแต่ละพรรคการเมือง เดิมในการอภิปรายทั่วไปครั้งล่าสุดได้เวลาทั้งหมด 22 ชั่วโมง คราวนี้จึงตั้งใจจะต่อรองให้ไม่ต่ำกว่า 22 ชั่วโมง หรือมากกว่า
ส่วนคนอภิปรายของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ด้วยความสมัครใจ แต่ถูกคัดเลือกและมอบหมายจากพรรคให้ทำหน้าที่ เสมือนเวทีปราศรัยใหญ่ แต่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคมีความมั่นใจในบุคคลที่ได้รับคัดเลือก ว่าจะนำเสนอประเด็นที่เป็นประโยชน์ได้
เมื่อถามว่าการทอดเวลาของรัฐบาลที่นานกว่าเป็นปกติ กลัวว่าจะเป็นการชิงยุบสภาหนีหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หาก ส.ส.ที่ประกาศว่าจะย้ายพรรคยังทำหน้าที่อยู่หลังวันที่ 6 ก.พ. เป็นต้นไปโดยไม่ย้าย ก็ยืนยันได้เลยว่าจะมีการยุบสภาแน่ เพราะตรงตามเงื่อนไข 90 วันที่ต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้ง ระบอบประชาธิปไตยอาศัยอำนาจสูงสุดมาจากประชาชน ท่านหนีสภาได้ แต่ท่านหนีประชาชนไม่ได้ เพราะประชาชนจะพิพากษาท่านในคูหาเลือกตั้ง อย่าได้คิดทำ หากท่านได้ชี้แจงในสภา อาจจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน แต่ถ้าท่านหนีการอภิปราย จะไม่มีโอกาสอีกเลย
"การยุบสภาอาจขึ้นอยู่กับฤกษ์ยามด้วย โดยให้จับตาวันที่ 14 ก.พ. 24 ก.พ. และ 7 มี.ค. วันดังกล่าวนี้ ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ยุบสภาแล้วอาจจะได้กลับมาสืบทอดอำนาจต่อ แต่ฤกษ์ดีของประชาชนคือวันที่เข้าไปกาบัตรเลือกตั้งวันที่ 14 ก.พ. คือวันแห่งความรัก แต่มีใครบางคนจะเปลี่ยนวันแห่งความรักให้เป็นวันแห่งความเกลียด ผมก็ช่วยไม่ได้นะ ประชาชนจะฝังจำความเกลียดนั้นเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง" นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลเสนอเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นการฉกชิงความได้เปรียบของรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอบแบบกำปั้นทุบดินตรงไหนก็ถูก ว่าใช่แน่นอน ขอแสดงความยินดีกับประชาชนที่ได้รับเงินเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤต แต่การมาเติมเงินในช่วง 2 เดือนสุดท้าย เพราะคิดว่าจะได้คะแนนเพิ่ม ย่อมไม่สามารถซื้อใจประชาชนได้ ประชาชนรู้ดีว่าเป็นเงินที่มาจากภาษีประชาชนและจะรู้ว่าทำไมผ่านมาถึง 8 ปี ถึงเพิ่งมาให้ เป็นการอาศัยจังหวะทางกฎหมายเพื่อเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น แต่คุณเอาเปรียบประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจไม่ได้ คุณให้ช้าไป
กานต์กนิษฐ์ เปิดใจย้ายซบเพื่อไทย ขอเลือกพรรคที่สบายใจ เผย ‘ประวิตร’ ไม่ว่าอะไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_3773957
‘กานต์กนิษฐ์’ เปิดใจย้ายซบ พท. บอก ขอทำงานกับพรรคที่สบายใจ พร้อมทำความเข้าใจแจงเหตุผลกับ ปชช.ในพื้นที่ ชี้ ‘บิ๊กป้อม’ ทราบแล้วไม่ได้ว่าอะไร ยัน ไม่มีเชิญใครใน พปชร.มาเพิ่ม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัคร ส.ส.กทม.เขต 1 พรรค พท. กล่าวเปิดใจที่ย้ายมาร่วมงานกับพรรค พท.ว่า เลือกอยู่กับพรรคที่ทำงานแล้วสบายใจ มองว่าที่พื้นที่ กทม.เขต 1 เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีพ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจค้าขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งนโยบายของพรรค พท.ให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจ และเชื่อว่าจะช่วยพี่น้องประชาชนได้ เพื่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในพื้นที่
น.ส.กานต์กนิษฐ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การย้ายมาอยู่พรรค พท. อาจจะทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่รู้สึกสับสน แต่ก็พยายามทำความเข้าใจและชี้แจงแนวทางที่ตัดสินใจมาอยู่กับพรรค พท. ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ก็ทราบเรื่องที่ตนย้ายมาอยู่พรรค พท.แล้ว ซึ่ง พล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนยันว่าจะรักษาเก้าอี้ในพื้นที่ไว้ได้ เนื่องจากตนเป็นนักการเมืองมานาน และที่ผ่านมาก็ทำพื้นที่มาตลอด ขอให้ประชาชนมั่นใจ และจะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า การย้ายพรรคครั้งนี้ แสดงว่าพรรค พปชร.มีปัญหาหรือไม่ น.ส.กานต์กนิษฐ์กล่าวว่า ทุกคนในพรรค พชปร.น่ารักทุกคน แต่จะเป็นเรื่องของนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนมากกว่า ยืนยันว่าทุกคนในพรรค พปชร.ยังเป็นเพื่อนและยังพูดคุยกันได้ และจะยังไม่มีการชวนใครในพรรค พปชร.มาอยู่กับพรรค พท.อีก