JJNY : รุมขุด‘กลโกงเลือกตั้ง’│เค้กขึ้นราคาปอนด์ละ10บาท│"เด็กพท."โดดป้อง"ทักษิณ"│สื่อนอกแฉเจอสมุด ชื่อลูก‘มิน อ่อง ลาย’

ยิ่งชีพ-พงษ์ศักดิ์ รุมขุด ‘กลโกงเลือกตั้ง’ ชวนสร้าง ‘ชัยชนะที่มองไม่เห็น’ ลองรับบท กกต.จับบัตรเขย่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3767250

 
ยิ่งชีพ ชวน ปชช.แห่สังเกตการณ์เลือกตั้ง 66 สร้างชัยชนะที่มองไม่เห็น ด้าน ‘พงษ์ศักดิ์’ เครือข่ายเยาวชนฯ ยก เลือกตั้งอาเซียน ชี้ ปชช.ไม่มีส่วนร่วม ระวังเจอหายนะ
 
เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ห้องอเนกประสงค์ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) จัดกิจกรรม เข้าคูหา จับตา การเลือกตั้ง 2566 Protect Our Vote โดยมีการทดลองลงคะแนนเสียงแบบจำลองตามระบบการเลือกตั้งใหม่บัตร 2 ใบ ซึ่งช่วงท้ายจะเปิดหีบนับคะแนน เพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นข้างหน้าจะมีโอกาสเป็นอย่างไร รวมทั้งการอ่านแถลงการณ์จากเครือข่ายประชาชนสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ปี 2566 โดยนอกจากมีกิจกรรมเข้าคูหาจับตาการเลือกตั้ง 2566 ยังมีนิทรรศการ 2022 Election Flashback โดยพิพิธภัณฑ์สามัญชน รวมของสะสมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ย้อนภาพเหตุการณ์การเลือกตั้ง 62 ทั้งข่าวจากหนังสือพิมพ์ ใบปลิวหาเสียง ฯลฯ
 
โดยบรรยากาศเวลา 14.00 น. มีกิจกรรมการเสวนาวิชาการ “เข้าคูหา จับตา เลือกตั้ง 66 โดยวิทยากรได้แก่ รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw), นายพงษศักดิ์ จันทร์อ่อน จากเครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย, ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และดำเนินรายการโดย ดร.เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา
 
นายพงษ์ศักดิ์ จันทร์อ่อน เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (WeWatch) กล่าวว่า ในฐานะที่มีประสบการณ์ในการสังเกตการณ์การเลือกตั้งในต่างประเทศและติดตามการเลือกตั้งในไทยช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พูดได้ว่า รากเหง้าของปัญหาที่แท้จริงของเรื่องการเลือกตั้ง นั้นแบ่งเป็นสองระดับคือ 
1. ประเด็นเรื่องโครงสร้าง เรื่องพวกกฎหมายและเกณฑ์ที่สร้างหายนะกับประเทศไทย 
2. แนวคิดกับวิธีคิด วัฒนธรรมทางความคิดของคนในสังคม ซึ่งสะท้อนจากคนที่ทำงานในองค์กรหรือสถาบันต่างๆ
 
“ผมพูดรวมถึง กกต. การตัดสินหรือการวินิจฉัยที่เป็นที่มาของปัญหาที่ทำให้คนมองว่า การเลือกตั้งไม่โปร่งใสและเป็นธรรม การลงชื่อเพื่อปลดกกต. ของประชาชนสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ไว้วางใจ หลายคนในที่นี้คงไม่มั่นใจในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ประเด็นความกังวล เช่น การที่มีกฎหมายให้กระทรวงมหาดไทยมาจัดการเลือกตั้งร่วมกับ กกต. ซึ่ฃก่อนการรัฐประหารไม่มีกฎหมายนี้” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
 
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาคือ กกต.ไม่สนับสนุนการสังเกตการณ์และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งอยู่ในระเบียบของ กกต.ก่อนการรัฐประหาร 2557 แต่ถูกนำออก ตนถามว่า เอาออกทำไม ทั้งที่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เป็นสามัญสำนึก ว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนทำได้ และการไม่ประกาศผลคะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งจาก กกต. สวนทางหลักการความโปร่งใสและตรวจสอบได้
 
“ในเรื่องของการรายงานผลเรียลไทม์ที่เขาตั้งคำถาม และรู้สึกว่าสังคมไทยไม่ได้ตั้งคำถามเรื่องนี้มากนัก ปกติแล้วการรายงานผลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับผลคะแนนจะต้องถูกตรวจสอบโดยองค์กรที่ได้รับการยอมรับ ยกตัวอย่าง ที่ฟิลิปปินส์ต้องมีการตรวจสอบก่อน มิเช่นนั้นประชาชนจะไม่ยอมรับ” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
  
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งในระดับอาเซียนที่ผ่านมา ที่ฟิลิปปินส์มีองค์กรสังเกตการณ์การเลือกตั้ง สามารถระดมอาสาสมัครได้ 550,000 คน ใน 70,000 หน่วยเลือกตั้ง พร้อมทั้งสามารถสังเกตการณ์และเทียบคะแนนได้ทุกหน่วยเลือกตั้งสามารถอ้างอิงและขอให้ตรวจสอบได้
 
“ไม่ว่าประเทศใดๆ ก็ตามในโลกนี้ จะสร้างเครื่องมือหรือกลไกอะไรก็ตาม เพื่อจะตรวจสอบหรือถ่วงดุลอำนาจก็แล้วแต่ แต่ถ้าปราศจากการที่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ วางใจ ละเลย เชื่อมั่นในกลไกนั้นโดยไม่มีส่วนร่วม คุณเชื่อไหมว่า หายนะจะมาเยือนประชาชนหรือสังคมนั้น เพราะว่า ท้ายที่สุดคนที่มีอำนาจก็ต้องใช้กลไกหรือเครื่องมือนั้นเพื่อหาประโยชน์หรือสืบทอดอำนาจของตนเอง” นายพงษ์ศักดิ์ชี้
 
จากนั้น นายยิ่งชีพ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เผยว่า การเลือกตั้งปี 2562 อยู่ภายใต้กติกาของคสช. ปูทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มีกลไกที่วางไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ เอารัดเอาเปรียบผู้แข่งขัน ไม่ว่าจะการตั้งชื่อพรรคการเมืองให้เหมือนนโยบายคสช. และการแบ่งเขตใหม่
 
ในการเปิดตัววันที่ 9 มกราคม 2566 ทำให้แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังตั้งมั่นในทางการเมือง อย่างไรก็ตาม 4 ปีที่ผ่านมา อำนาจเปลี่ยนแปลงไป เช่น การใช้อำนาจตามมาตรา 44 อย่างการจำกัดเสรีภาพสื่อ ปัญหาเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาและ New Voter อีกจำนวนมากขึ้นอันเป็นคะแนนที่ควบคุมไม่ได้ ใช้การควบคุมแบบเก่า อิทธิพลบ้านใหญ่แบบเดิมยิ่งน้อยลง การอยู่ต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ในปี 2566 ยากขึ้นมาก แต่ยังมีกลไกบางอย่างที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของ คสช. อยู่” นายยิ่งชีพกล่าว
 
นายยิ่งชีพกล่าวต่อว่า ในการเลือกตั้งปี 2562 หลังการเลือกตั้ง ประธาน กกต. แถลงข่าวตอน 21.00 น.ว่า ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 65% แต่กว่าคะแนนจะครบ 100 % คืออีกหลายวันถัดมา โดยเปลี่ยนตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเป็น 75 % จำนวนห่างกันหลักล้านคน และประเด็นที่ กกต.มีการรายงานผลเรียลไทม์หน้าหน่วยเมื่อนับเสร็จและรายงานตอนนั้น ซึ่งการรายงานคะแนนมีปัญหาตามมามากมาย และครั้งนี้ กกต.อาจไม่มีการรายงานผลเรียลไทม์แล้ว
 
“เราจะรอผลคะแนนจาก กกต.เท่านั้นหรือ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีอาสาสมัครการเลือกตั้งปี 2566 ไม่มีทางเลือกเลย หากประชาชนลงสังเกตการณ์การเลือกตั้งจำนวนมากจะเป็นชัยชนะที่มองไม่เห็น มันอาจจะไม่มีกรณีที่นับต่างกันจนต้องโต้แย้ง แต่เมื่อประชาชนออกมาสังเกตการณ์จำนวนมาก ผู้จัดการการเลือกตั้งจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องโปร่งใสไปเอง” นายยิ่งชีพกล่าว
 
จากนั้น ได้มีการทดลองนับเสียงเลือกตั้ง โดยมีการทดลองใช้กลโกงในการเลือกตั้งจำลองนี้ เช่น การเขียนคะแนนผิด ไฟดับ คะแนนเขย่ง รวมคะแนนผิด ซึ่งมีการแสดงบทบาทสมมติเป็นเจ้าหน้าที่ กกต.ด้วย



เค้กขึ้นราคา ปอนด์ละ 10 บาท หลังวัตถุดิบ ‘ไข่ไก่-เนย’ ปรับขึ้น
https://www.matichon.co.th/region/news_3767569

ร้านเบเกอรี่ ปรับเค้กขึ้นปอนด์ ละ 10 บาท หลังไข่ไก่และวัตถุดิบสำคัญปรับขึ้นราคา ส่วนเมนูอื่นยังพยุงขายราคาเดิม

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สำรวจร้านขายเบเกอรี่ในตัวเมืองอุทัยธานี เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี หลายร้าน อย่างที่ร้าน มาแชร์เบเกอรี่ หนึ่งในผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากราคาไข่ที่ปรับขึ้น เนื่องจาก ไข่ไก่เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบสำคัญ ที่ใช้ในการทำขนมเบเกอรีต่างๆทุกชนิด
 
จากการสอบถาม นายสุนันท์ ชินพีระเสถียร อายุ 64 ปี เจ้าของร้านมาแชร์เบเกอรี่ กล่าวถึง ราคาไข่ไก่ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่เป็นส่วนผสมกับขนมทุกชนิดของทางร้านที่ทำขาย แม้จะขึ้นราคาไม่มาก ถ้าเทียบกับราคาวัตถุดิบอื่นๆที่ใช้ทำขนม เช่น แป้ง เนย น้ำตาล น้ำมัน ซึ่งขึ้นนำไปก่อนหน้านี้ก็เดือดร้อนอยู่แล้ว โดยเฉพาะเนยแท่งละ 5 กิโลกรัม จากเดิม แท่งละ 700 เป็น 900 บาท และราคาไข่มาขึ้นอีกแผงละ 6 บาท ถือเป็นการซ้ำเติมการเพิ่มต้นทุนมากขึ้น และทำให้ได้รับความเดือดร้อนต้องแบกรับต้นทุน ทำให้ผลกำไรเหลือน้อยลง
 
ซึ่งราคาขนมของทางร้านที่วางขายมีราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 10 บาท ไปจนถึงหลักร้อย โดยยังขอตรึงราคาขายราคาเดิมไปก่อน เพื่อรักษาฐานลูกค้า รวมทั้งช่วยลูกค้าได้ซื้อขนมจากทางร้านถูกเหมือนเดิมและคงยอดขายไว้ก่อน
 
แต่จะมีการขยับราคาเบเกอรี่ชิ้นใหญ่แทน เช่น เค้ก ขยับขึ้น ปอนด์ละ 10 บาท จากราคาปอนละ 160 บาท เป็น 170 บาท
 
อย่างไรก็ตามหากไข่ราคาปรับขึ้นสูงกว่านี้ และราคาวัตถุดิบอื่นๆปรับขึ้นราคาสูงขึ้นอีก ตอนนั้นคงจะต้องขอขยับปรับราคาขนมขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้ร้านอยู่รอดสามารถดำเนินกิจการได้ ต่อไป
 


"เด็กพท." โดดป้อง "ทักษิณ" ปัดด้อยค่า "รทสช." แค่เตือน "บิ๊กตู่" กลืนน้ำลายตัวเองเคยบอกรังเกียจการเมือง
https://siamrath.co.th/n/414262

วันที่ 12 ม.ค.2566 นายณพลเดช มณีลังกา คณะทำงานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้จัดรายการผ่านทางคลับเฮ้าส์พรรครวมไทยสร้างชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ จะได้ ส.ส.ทั่วประเทศไม่ถึง 25 คนว่า เป็นการดูถูกเหยียดหยามประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและเป็นการด้อยค่าพรรคการเมืองอื่นที่หมายถึงพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น นายเสกสกลคงมัวแต่หลับหูหลับตาเชียร์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมจนไม่ได้มองความเป็นจริงที่เกิดขึ้น สิ่งที่นายทักษิณ พูดผ่านเป็นการประเมินค่าในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนอย่างถล่มทลาย ที่มองทะลุถึงความเป็นไปได้ของการเมืองไทย  ต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ที่ในอดีตรังเกียจนักการเมืองถึงขั้นเคยด่านักการเมืองแบบเสียๆหายๆ พอเริ่มเข้าสู่แวดวงทางการเมืองก็เอาสีข้างเข้าถูว่าตนเองเป็นอดีตนายทหารไม่ใช่นักการเมือง พอมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็อ้อมๆแอ้มๆกว่าจะมาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่มีลูกน้องตัวเองเป็นหัวหนัาพรรคให้สับสนอลหม่านในวันนี้ ก็กลืนน้ำลายที่ถ่มด่านักการเมืองเอาไว้มาเป็นนักการเมืองเต็มตัว ใครกันแน่ที่ด้อยค่า เพราะความเป็นจริงของที่มีค่าไม่มีทางถูกด้อยค่าได้เว้นเสียแต่ว่าของนั้นไม่มีค่า  ประชาชนย่อมรู้ดีกว่าสิ่งที่นายทักษิณ ได้แสดงความเห็นทางการเมืองเพราะเห็นว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีมาจากการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน  พอเลือกตั้งปี 2562 ก็ไม่ได้ลงเลือกตั้งในฐานะสมาชิกพรรคการเมือง  มาในนามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ในขณะที่ตนเองยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากคณะยึดอำนาจ ถ้าไม่มีเสียง ส.ว.มาร่วมโหวต ไม่มีกติกาพิเศษพล.อ.ประยุทธ์คงไม่ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีมาถึงวันนี้ใช่หรือไม่
          
"พรรครวมไทยสร้างชาติกำลังถูกมองว่าเป็นพรรครวมใครสร้างชาติ เพราะแต่ละคนที่ล้อมหน้าล้อมหลังพล.อ.ประยุทธ์ล้วนแต่เป็นคนหน้าเดิม ล้วนแต่เป็นการตกปลาจากบ่อพี่ทั้งนั้น คลัายสำนวนไทย ฝนตกขี้หมูไหลคนอะไรมาเจอกันล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลหน้าเก่าที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรรณ เลขาธิการกลุ่มกปปส. ทั้งนั้น ที่สำคัญเสัญญาณชัดยิ่งกว่าระบบ 5G ว่ารอยร้าวที่ร่ำลือกลายเป็นรอยแตกของ 3ป.อย่างแท้จริง ประเภทรักกันจริงแบบน้องไม่ไว้หน้าพี่ใช้แหหว่านปลาในบ่อพี่เกือบหมดบ่อ เช่นเดียวกับตัวของนายเสกสกลก็เป็นปลาหลายบ่อ  วันนี้ปลาบ่อเดียวกันจะขายได้ในตลาดสดหรือไม่ ถ้าเป็นปลาสดอาจจะไม่มีปัญหาอะไรแต่ถ้าปลาเน่าอาจทำตลาดวายได้  ไปหานโยบายดีๆและทำให้ได้จริงให้ประชาชนพิสูจน์ แล้วจะได้เห็นว่าสิ่งที่นายทักษิณประเมินคือสิ่งที่ถูกต้อง" นายณพลเดช กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่