'ชมรมแพทย์ชนบท' เผยปม 1330 สายล่ม เหตุยอดป่วยจริง ไม่ต่ำกว่าวันละแสน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6920744
 
 
‘ชมรมแพทย์ชนบท’ เผยปม 1330 สายล่ม เหตุยอดป่วยจริง ไม่ต่ำกว่าวันละแสน บ่งชี้โอมิครอน ระบาดหนัก แนะต้องยอมรับความจริง หาทางแก้ปัญหา
   
วันที่ 3 มี.ค.65 ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท ระบุว่า 
 
ทำไม 1330 ถึงสายล่ม????
 
มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันใหม่ไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ระบบ 1330 ล่มทุกวัน
ปรากฏการณ์สำคัญของช่วงนี้ที่มีเสียงบ่นเข้ามามากคือ 1330 สายล่ม โทรไม่เข้าเลย ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสภาวะการระบาดหนักของโอมิครอน
วันนี้ตัวเลขการติดเชื้อที่ ศบค.ปล่อยมาออกนั้นเป็น new high คือ พบผู้ติดเชื้อที่ RTPCR บวกจำนวน 23,618 ราย และพบผู้เข้าข่ายติดเชื้อที่ ATK บวก (จริงๆส่วนใหญ่ก็คือผู้ติดเชื้อนั่นแหละ) อีก 42,138 ราย รวมเป็น 65,756 ราย ซึ่งแน่นอนว่ายังมีผู้ติดเชื้ออีกจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าระบบการลงทะเบียนเพราะตรวจตนเอง
 
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเชิงลึกพบว่า จำนวนการลงทะเบียนยืนยันตัวตนเข้าระบบการรักษาพยาบาลที่เรียกเป็นภาษาวิชาการว่า Authen นั้น ในวันที่ 1 มีนาคม 2565 มีคนลงทะเบียนยืนยันตัวตนดังนี้
– authen เข้าระบบ CI จำนวน 6,558 ราย
– authen เข้ารระบบ HI จำนวน 52,416 ราย
– authen เข้าระบบ OP/IP/PP (ระบบการตรวจหาเชื้อ RTPCR และ ATK ที่ รพ.(OP) และเชิงรุก (PP) และการadmit เข้า รพ.หรือ รพ.สนาม หรือ hospitel (IP) จำนวน 177,635 ราย
 
ซึ่งข้อมูลนี้แม้จะแยกได้ไม่ชัดเจน แต่ก็สามารถประมาณการได้ว่าจำนวนนี้ 1 ใน 4 เป็นอย่างน้อยเป็นผู้ป่วยโควิดที่ admit ใหม่ หรือราว 40,000 ราย
ดังนั้น จากข้อมูลการลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อเข้าระบบการรักษา (Authen ) ทั้ง 3 ชุดข้อมูล เมื่อนำมาบวกกัน จะพบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันใหม่ไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ระบบ 1330 ล่มทุกวัน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพราะรับศึกการให้คำแนะนำและประสานโรงพยาบาลต่างๆไม่ไหว
 
ตัวเลขการ Authen ซึ่งถูกลงทะเบียนโดยสถานบริการเป็นส่วนใหญ่ คือตัวเลขจริง เพราะสถานบริการต้องลงทะเบียนนี้เพื่อเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลคืน และชัดเจนว่า จำนวนที่ authen นั้นมากกว่ารายงานการติดเชื้อประจำวัน
 
การรับทราบสถานการณ์จริงไม่ได้เพื่อทำให้ตระหนก แต่เพื่อสร้างความตระหนัก ประเทศไทยไม่ได้เก่งกว่านานาประเทศหรอก เขาก็ติดเชื้อวันละเป็นหลักแสนเช่นกัน เพียงแต่เขายอมรับความจริงก็เท่านั้น
 
การมีโทรศัพท์แบบ 1330 ให้คำแนะนำปรึกษา คือตัวช่วยเจอแจกจบที่ดีมากๆ ความไม่เพียงพอของ 1330 คือคอขวดสำคัญ ช่วงนี้ระบาดหนักและจะระบาดหนักขึ้นอีก ควรต้องมีตัวช่วย 1330 ที่มีศักยภาพเต็มเปี่ยมมาช่วยแล้วไหม คนติดเชื้อเขาต้องการสายด่วนเพื่อปรึกษาแนวทางมากมายการดูแลตนเอง

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=5607020572658387&id=142436575783508

---

แท็กซี่ ร้องรัฐเจรจาไฟแนนซ์ต่อลมหายใจ ก่อนถูกยึดหลายหมื่นคัน
https://ch3plus.com/news/category/281382
 
ประธานชมรมแท็กซี่วอนรัฐช่วยหารือไฟแนนซ์  หลังรายได้ลดฮวบ รถแท็กซี่หมดกำลังผ่อนต่อ จอดรอถูกยึด  เผยแท็กซี่ 40,000 คันจอดทิ้งยอมให้ยึด
 
นายวรพล แกมขุนทด ประธานที่ปรึกษาสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้โดยสารลดลง แท็กซี่ขาดรายได้ จากเดิมได้ชั่วโมงละ 250 บาท ปัจจุบันตั้งแต่มีโควิดรายได้เหลือไม่ถึง 80 บาท ทำให้ไม่มีเงินผ่อนค่างวด ซ้ำเติมด้วยราคาแก๊ส และ น้ำมันที่พุ่งสูง ทำให้คนขับรถแท็กซี่มีต้นทุนต่อวันเฉลี่ยที่กว่า 1,500 บาท แบ่งเป็นค่าน้ำมันวันละ 650 บาท ค่าผ่อนงวดรถวันละ 750 บาท เหลือเงินวันละ 100 บาทไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย หลายคนรับภาระไม่ไหวต้องจอดรถทิ้งยอมให้ไฟแนนซ์ยึดรถ เพราะจะขายต่อก็ไม่มีคนซื้อ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ที่เช่าซื้อมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งหากเป็นภาวะปกติจะต้องผ่อนรถหมดแล้ว แต่ขณะนี้ผ่อนไปได้ไม่ถึงครึ่งทางก็ต้องหยุดผ่อน เพราะไม่มีรายได้เพียงพอ
 
นายวรพล ระบุว่า ปัจจุบันรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนอยู่ในระบบมีอยู่ 85,092 คัน จอดทิ้งร้างไปแล้ว 40,000 คันโดยเจ้าของยอมให้ไฟแนนซ์มายึดเพราะผ่อนต่อไม่ไหว และยังเหลือแท็กซี่วิ่งในระบบอีกราว 40,000 คัน ในจำนวนนี้มีรถที่ซื้อช่วงปี 2561 ยังผ่อนไม่หมดกำลังจะถูกยึดอีก 10,000 คัน จะทำให้ทั้งปีถูกยึดกว่า 30,000 คัน โดยเรียกร้องขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือด้วยการเจรจากับนอนแบงก์ และไฟแนนซ์ หามาตรการลดเงินต้นและดอกเบี้ย พร้อมหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อต่อลมหายใจผู้ประกอบการก่อนที่อาชีพนี้จะหมดไปจากประเทศไทย
 

---

'ประเสริฐ' เผย 'ฝ่ายค้าน' เตรียมถกญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.151 เดือนนี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3213769
 
‘ประเสริฐ’ เผย ‘ฝ่ายค้าน’ เตรียมถกญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.151 เดือนนี้ เชื่อนายกฯมีไม่ถึง 260 หนุน มั่นใจซักฟอกแล้วสั่นคลอน รบ.ได้
 
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการระบุว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 151 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีเสียงที่พร้อมจะสนับสนุนในมือถึง 260 เสียง ว่าไม่น่าจะมีถึงขนาดนั้น
เมื่อถามย้ำว่าเชื่อว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้จะสามารถล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้เลยหรือไม่ เมื่อดูจากที่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย นายประเสริฐกล่าวว่า ครั้งนี้เราอยากเน้นไปที่เนื้อหาเป็นหลัก ซึ่งการอภิปรายจะล้มรัฐบาลได้หรือไม่ได้ นอกจากอาศัยมือในสภาแล้ว ยังต้องอาศัยเนื้อหาในการอภิปรายที่แน่น ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจในเนื้อหาสำหรับการอภิปรายครั้งนี้มาก เชื่อว่า ถ้าได้อภิปรายไปแล้วจะสามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวนายกรัฐมนตรี
 
เมื่อถามว่าจากท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัส ฝ่ายค้านคิดว่าจะมีโอกาสยกมือไม่ไว้วางใจเพื่อล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะยื่นทันทีในการเปิดประชุมเลยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า คะแนนเสียงส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างกลาง และยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนรัฐบาลก็ยังเป็นตัวแปรที่สำคัญ เห็นได้ชัดจากการเลือกประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง อันนั้นขนาดมี ส.ว.รวมด้วยนะ แล้วลองตัด ส.ว.ออกไปคะแนนยิ่งหาย นี่คือสัญญาณที่ไม่ดีของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ภายในเดือนมีนาคมนี้เราจะมีการพูดคุยหารือกันเรื่องญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาตรา 151