หมูแพงทั้งแผ่นดิน! ทะยานโลละ 240.- เพจดังแซะคนกินหมูตอนนี้ = คนรวย
https://ch3plus.com/news/category/274509
ชาวบ้านอำนาจเจริญ โวยราคาหมูพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 240 บาท โดยราคาพุ่งสูงในรอบ 30 ปี
โดยผู้สื่อข่าวของเรา ได้สอบถาม นาย
บุญเลิศ สุริโย อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ บอกว่า ในรอบ 30 ปี ตนไม่เคยพบเห็นเนื้อหมูจะแพงถึงขนาดนี้ เนื้อหมู ชำแหละเนื้อแดงเนื้อก้อน ที่มีราคาแพง ถึงขนาดกิโลกรัมละ 240 บาท เนื้อหมูสามชั้น 230 บาท และกระดูกชีกโครงหมูกิโลกรัมละ 180 บาท
ซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์แรก ของจังหวัดอำนาจเจริญ ที่มีราคาหมูพุ่งสูงถึง 240 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนั้นยังพบว่า มีเขียงหมูที่ลักลอบชำแหละหมูอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งฉวยโอกาสขึ้นราคา
ขณะเดียวกัน หมูที่เลี้ยง ตามหมู่บ้านต่างๆ และที่เคยจำหน่ายหมูสดกิโลกรัมละ 120 บาท มาวันนี้ ขึ้นราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 130 ถึง 150 บาท อยากฝากถึง เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นปศุสัตว์อำเภอปศุสัตว์จังหวัด ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงให้ประจักษ์ด้วยและรีบหาทางแก้ไข เพราะชาวบ้านมีความเดือดร้อนกันมาก
ด้านนาย
วิรัตน์ นามวงษา พาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ บอกว่า ขณะนี้ได้กำชับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแล้วว่า ให้ตรึงราคาไว้ก่อน อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงนี้ เพราะประชาชนเดือดร้อน
ขณะที่เพจอีเจี๊ยบ เลียบด่วน ก็โพสต์เสียดสีหมูราคาแพงข้อความว่า
ถ้าเห็นใครเดินมา มือขวาอุ้มหมู มือซ้ายอุ้มไก่ ปากคาบขวดน้ำมันพืช คอห้อยถุงไข่ไก่ แสดงว่าแ-่งมันโครตรวย
โต๊ะอื่นเค้านั่งแด-ข้าวเปล่ากับน้ำปลาพริก กันทั้งร้าน -ึงรวยมาจากไหนวะ
ขณะที่เพจ Drama-addict โพสต์ข้อความ
เมื่อก่อนก็เป็นเมนูสิ้นคิดนะ ทุกวันนี้กลายเป็นเมนูราคาแพงขึ้นมาเลย
ขณะเดียวกันบนโลกโชเชียลแห่แชร์คลิปในติ๊กต๊อก ขณะคุณวัน อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยสั่งอาหารบอกว่าอยากกินอาหารแพงๆหน่อย สักพักแม่ค้าได้เอากะเพราหมูกรอบไข่ดาวมาให้ คุณวัน บอกว่ากินแบบนี้โต๊ะข้างๆอิจฉาเลย
ฝ่ายค้านนัด 21 ม.ค. ยื่นซักฟอก ม.152 ถล่มรัฐบาลปมโรคระบาด-แก้เศรษฐกิจเหลว
https://www.dailynews.co.th/news/665671/
'หมอชลน่าน' แง้มฝ่ายค้าน เคาะ 21 ม.ค. ยื่นซักฟอกรัฐบาลมาตรา 152 เล็งถล่มปมโรคระบาด-ศก.เหลวฟันธงเสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่น พบสัญญาณใกล้จุดจบ
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยงความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน นัดประชุมกำหนดประเด็นอภิปรายวันที่ 19 ม.ค. ก่อนยื่นยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปในวันที่ 21 ม.ค. โดยเบื้องต้นเตรียมอภิปรายปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขทั้งวิกฤตที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น เรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ราคาสินค้าแพง โรคระบาด วิกฤตความศรัทธาและความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
“ขณะนี้เสถียรภาพของรัฐบาลง่อนแง่นมาโดยตลอด เพราะเป็นรัฐบาลที่อ้างตัวเป็นเสียงข้างมาก แต่แท้จริงแล้วเป็นเสียงข้างน้อยเนื่องจากเป็นเสียงข้างมากได้เพราะเกิดจากการรวมตัวกันเฉพาะกิจ และขณะนี้ฝากฝั่งรัฐบาลมีเสียงเหลือเพียง 266 เสียง ดังนั้นเสถียรภาพจึงง่อนแง่นตั้งแต่แรกเริ่มมา ส่วนเสียงข้างมากที่แท้จริงในสภาฯเริ่มไม่มี นับองค์ประชุมล่มทุกครั้ง รวมถึงการเลือกตั้งซ่อมเริ่มมีข้อเท็จจริงออกมาว่าอยู่ด้วยกันเพื่อรักษาผลประโยชน์เป็นสัญญาณที่อาจทำให้รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้” หัวหน้าพรรค พท.กล่าว.
เพื่อไทยต้อนรับคณะแก้รธน.มาตรา272-พร้อมหนุน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_272929/
เพื่อไทย ต้อนรับคณะ แก้ รธน.มาตรา 272 “ชลน่าน”ยันตรงกับอุดมการณ์ เจตนารมณ์ของพรรค
นายแพทย์
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย , นาย
ชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค , นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย และนาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และ นาย
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยให้การต้อนรับคณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา ในการเลือกนายกรัฐมนตรี นำโดยอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร และนางสาว
ณัฏฐา มหัทธนา
โดยนาย
สมชัย กล่าวถึงเหตุผลที่ควรยกเลิกในประเด็นดังกล่าว เพราะมองว่าขณะนี้ได้ทำตามยุทธศาสตร์พอสมควรแล้ว และหากสมาชิกวุฒิสภายังมีอำนาจนี้อยู่ จะทำให้เกิดปัญหา และก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไม่จบไม่สิ้น โดยคณะฯตั้งใจจะเสนอแก้กฎหมายมาตรา 272 นี้ ให้ทันใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. ถึงวันที่ 16 เม.ย. 65 โดยขณะนี้มีผู้สนใจร่วมลงชื่อแล้วกว่า 31,000 คน ซึ่งหากครบ 70,000 รายชื่อ จะนำไปเสนอต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาบรรจุเข้าสู่สภาต่อไป อีกทั้งตนยังเห็นว่าครั้ง มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ เพราะที่ผ่านมาเป็นการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญควบรวมในหลายเรื่อง ซึ่งครั้งนี้เป็นการเสนอแก้เพียงเรื่องเดียว อีกทั้งยังย้ำว่าหากมีการแก้ไข จะเกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ส่วนหลังจากนี้ก็มีโครงการที่จะเดินสายไปพบทุกพรรคการเมืองไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล รวมถึงฝ่ายสมาชิกวุฒิสภาเพื่อขอแรงสนับสนุนด้วย
นอกจากนี้ นาย
สมชัย ยังขอให้พรรคเพื่อไทยนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบและร่วมเข้าชื่อกับคณะฯ รวมถึงต้องการให้พรรคเพื่อไทยอภิปรายและลงมติสนับสนุนทั้ง 3 วาระ เพื่อให้เกิดการแก้ไขเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และให้ได้รัฐบาลหลังเลือกตั้งที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายแพทย์
ชลน่าน ยืนยันว่า ตรงกับอุดมการณ์และเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการแก้ไขและไม่เห็นด้วยมาตลอดซึ่งที่ผ่านมาเราเคยเสนอเรื่องนี้เข้าสภาแล้วแต่เนื่องจากพวกเราเสียงน้อยจึงไม่สามารถผลักดันไปสู่การแก้ไขได้ พร้อมถามกลับว่า การไปตั้งคำถามพ่วงในการทำประชามตินั้น นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ปฏิรูปประเทศหรือไม่ เพราะเมื่อได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วก็มีหน้าที่ทำตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นแล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาการปฏิรูปประเทศไม่มีความคืบหน้า ผลงานจับต้องได้ก็ไม่มี ฉะนั้นถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องมาร่วมกันเปลี่ยนแปลง พร้อมยืนยัน ว่าพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนการพิจารณาทั้ง 3 วาระ และในส่วนของพรรค จะเข้าชื่อเสนอแก้มาตรานี้เข้าสู่สภา ไปพร้อมกับภาคประชาชนด้วย
JJNY : หมูแพงทั้งแผ่นดิน!│21ม.ค.ยื่นซักฟอกม.152│เพื่อไทยต้อนรับคณะแก้รธน.มาตรา272│‘ก้าวไกล’ ปูพรมหาเสียงทั่วเขต 6 สงขลา
https://ch3plus.com/news/category/274509
ชาวบ้านอำนาจเจริญ โวยราคาหมูพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 240 บาท โดยราคาพุ่งสูงในรอบ 30 ปี
โดยผู้สื่อข่าวของเรา ได้สอบถาม นายบุญเลิศ สุริโย อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ บอกว่า ในรอบ 30 ปี ตนไม่เคยพบเห็นเนื้อหมูจะแพงถึงขนาดนี้ เนื้อหมู ชำแหละเนื้อแดงเนื้อก้อน ที่มีราคาแพง ถึงขนาดกิโลกรัมละ 240 บาท เนื้อหมูสามชั้น 230 บาท และกระดูกชีกโครงหมูกิโลกรัมละ 180 บาท
ซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์แรก ของจังหวัดอำนาจเจริญ ที่มีราคาหมูพุ่งสูงถึง 240 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนั้นยังพบว่า มีเขียงหมูที่ลักลอบชำแหละหมูอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งฉวยโอกาสขึ้นราคา
ขณะเดียวกัน หมูที่เลี้ยง ตามหมู่บ้านต่างๆ และที่เคยจำหน่ายหมูสดกิโลกรัมละ 120 บาท มาวันนี้ ขึ้นราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 130 ถึง 150 บาท อยากฝากถึง เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นปศุสัตว์อำเภอปศุสัตว์จังหวัด ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงให้ประจักษ์ด้วยและรีบหาทางแก้ไข เพราะชาวบ้านมีความเดือดร้อนกันมาก
ด้านนายวิรัตน์ นามวงษา พาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ บอกว่า ขณะนี้ได้กำชับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแล้วว่า ให้ตรึงราคาไว้ก่อน อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงนี้ เพราะประชาชนเดือดร้อน
ขณะที่เพจอีเจี๊ยบ เลียบด่วน ก็โพสต์เสียดสีหมูราคาแพงข้อความว่า
ถ้าเห็นใครเดินมา มือขวาอุ้มหมู มือซ้ายอุ้มไก่ ปากคาบขวดน้ำมันพืช คอห้อยถุงไข่ไก่ แสดงว่าแ-่งมันโครตรวย
โต๊ะอื่นเค้านั่งแด-ข้าวเปล่ากับน้ำปลาพริก กันทั้งร้าน -ึงรวยมาจากไหนวะ
ขณะที่เพจ Drama-addict โพสต์ข้อความ เมื่อก่อนก็เป็นเมนูสิ้นคิดนะ ทุกวันนี้กลายเป็นเมนูราคาแพงขึ้นมาเลย
ขณะเดียวกันบนโลกโชเชียลแห่แชร์คลิปในติ๊กต๊อก ขณะคุณวัน อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยสั่งอาหารบอกว่าอยากกินอาหารแพงๆหน่อย สักพักแม่ค้าได้เอากะเพราหมูกรอบไข่ดาวมาให้ คุณวัน บอกว่ากินแบบนี้โต๊ะข้างๆอิจฉาเลย
ฝ่ายค้านนัด 21 ม.ค. ยื่นซักฟอก ม.152 ถล่มรัฐบาลปมโรคระบาด-แก้เศรษฐกิจเหลว
https://www.dailynews.co.th/news/665671/
'หมอชลน่าน' แง้มฝ่ายค้าน เคาะ 21 ม.ค. ยื่นซักฟอกรัฐบาลมาตรา 152 เล็งถล่มปมโรคระบาด-ศก.เหลวฟันธงเสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่น พบสัญญาณใกล้จุดจบ
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยงความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน นัดประชุมกำหนดประเด็นอภิปรายวันที่ 19 ม.ค. ก่อนยื่นยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปในวันที่ 21 ม.ค. โดยเบื้องต้นเตรียมอภิปรายปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขทั้งวิกฤตที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น เรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ราคาสินค้าแพง โรคระบาด วิกฤตความศรัทธาและความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
“ขณะนี้เสถียรภาพของรัฐบาลง่อนแง่นมาโดยตลอด เพราะเป็นรัฐบาลที่อ้างตัวเป็นเสียงข้างมาก แต่แท้จริงแล้วเป็นเสียงข้างน้อยเนื่องจากเป็นเสียงข้างมากได้เพราะเกิดจากการรวมตัวกันเฉพาะกิจ และขณะนี้ฝากฝั่งรัฐบาลมีเสียงเหลือเพียง 266 เสียง ดังนั้นเสถียรภาพจึงง่อนแง่นตั้งแต่แรกเริ่มมา ส่วนเสียงข้างมากที่แท้จริงในสภาฯเริ่มไม่มี นับองค์ประชุมล่มทุกครั้ง รวมถึงการเลือกตั้งซ่อมเริ่มมีข้อเท็จจริงออกมาว่าอยู่ด้วยกันเพื่อรักษาผลประโยชน์เป็นสัญญาณที่อาจทำให้รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้” หัวหน้าพรรค พท.กล่าว.
เพื่อไทยต้อนรับคณะแก้รธน.มาตรา272-พร้อมหนุน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_272929/
เพื่อไทย ต้อนรับคณะ แก้ รธน.มาตรา 272 “ชลน่าน”ยันตรงกับอุดมการณ์ เจตนารมณ์ของพรรค
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย , นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค , นายภูมิธรรม เวชยชัย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยให้การต้อนรับคณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา ในการเลือกนายกรัฐมนตรี นำโดยอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร และนางสาวณัฏฐา มหัทธนา
โดยนายสมชัย กล่าวถึงเหตุผลที่ควรยกเลิกในประเด็นดังกล่าว เพราะมองว่าขณะนี้ได้ทำตามยุทธศาสตร์พอสมควรแล้ว และหากสมาชิกวุฒิสภายังมีอำนาจนี้อยู่ จะทำให้เกิดปัญหา และก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไม่จบไม่สิ้น โดยคณะฯตั้งใจจะเสนอแก้กฎหมายมาตรา 272 นี้ ให้ทันใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. ถึงวันที่ 16 เม.ย. 65 โดยขณะนี้มีผู้สนใจร่วมลงชื่อแล้วกว่า 31,000 คน ซึ่งหากครบ 70,000 รายชื่อ จะนำไปเสนอต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาบรรจุเข้าสู่สภาต่อไป อีกทั้งตนยังเห็นว่าครั้ง มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ เพราะที่ผ่านมาเป็นการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญควบรวมในหลายเรื่อง ซึ่งครั้งนี้เป็นการเสนอแก้เพียงเรื่องเดียว อีกทั้งยังย้ำว่าหากมีการแก้ไข จะเกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ส่วนหลังจากนี้ก็มีโครงการที่จะเดินสายไปพบทุกพรรคการเมืองไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล รวมถึงฝ่ายสมาชิกวุฒิสภาเพื่อขอแรงสนับสนุนด้วย
นอกจากนี้ นายสมชัย ยังขอให้พรรคเพื่อไทยนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบและร่วมเข้าชื่อกับคณะฯ รวมถึงต้องการให้พรรคเพื่อไทยอภิปรายและลงมติสนับสนุนทั้ง 3 วาระ เพื่อให้เกิดการแก้ไขเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และให้ได้รัฐบาลหลังเลือกตั้งที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายแพทย์ชลน่าน ยืนยันว่า ตรงกับอุดมการณ์และเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการแก้ไขและไม่เห็นด้วยมาตลอดซึ่งที่ผ่านมาเราเคยเสนอเรื่องนี้เข้าสภาแล้วแต่เนื่องจากพวกเราเสียงน้อยจึงไม่สามารถผลักดันไปสู่การแก้ไขได้ พร้อมถามกลับว่า การไปตั้งคำถามพ่วงในการทำประชามตินั้น นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ปฏิรูปประเทศหรือไม่ เพราะเมื่อได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วก็มีหน้าที่ทำตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นแล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาการปฏิรูปประเทศไม่มีความคืบหน้า ผลงานจับต้องได้ก็ไม่มี ฉะนั้นถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องมาร่วมกันเปลี่ยนแปลง พร้อมยืนยัน ว่าพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนการพิจารณาทั้ง 3 วาระ และในส่วนของพรรค จะเข้าชื่อเสนอแก้มาตรานี้เข้าสู่สภา ไปพร้อมกับภาคประชาชนด้วย