JJNY : เท้งขอบคุณปชช. ปชน.อันดับ 1│โรมอุบ ซักฟอกนายกฯ หรือทั้งคณะ│2 วัน ตาย 93 เจ็บ 575│คีร์กีซสถานเริ่มสร้างทางรถไฟ

เท้ง ขอบคุณปชช. ให้คะแนนนิยม พรรคปชน.อันดับ 1 ย้ำ โพลมีขึ้นมีลง ยืนยัน ทำงานหนักต่อไปปีหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4976862

 
เท้ง ณัฐพงษ์ ขอบคุณประชาชนให้คะแนนนิยม ปชน.อันดับหนึ่ง ย้ำผลโพลมีขึ้นมีลงเสมอ ยืนยันจะมุ่งมั่นทำงานหนักต่อไปในปี 2568 ด้วยปณิธาน 9 ข้อ
 
วันที่ 29 ธันวาคม 2567 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองครั้งที่ 4/2567  ของนิด้าโพล ซึ่งพรรคประชาชนและณัฐพงษ์ได้รับคะแนนนิยมเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยและนายกฯ แพทองธารได้รับคะแนนนิยมตามมาเป็นอันดับสอง โดยระบุว่า ตนขอขอบคุณประชาชนที่สะท้อนเสียงคะแนนนิยมออกมาผ่านผลโพล อย่างไรก็ตาม ผลโพลมีขึ้นมีลงเสมอ ขึ้นเมื่อใดต้องไม่หลง ลงเมื่อใดต้องไม่ท้อ
 
ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ถึงแม้ผลโพลจะสะท้อนออกมาว่าพรรคประชาชนยังไม่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แต่เราก็ไม่เสียสมาธิ ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงานและผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การแก้ปัญหาค่าไฟแพง ที่ล่าสุดส่งผลให้เกิดการชะลอการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคประชาชนได้รับคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น
 
ณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อยืนยันว่า เราไม่ได้หลงกับผลโพลที่เพิ่มขึ้น พรรคประชาชนจะมุ่งมั่นทำงานต่อไปอย่างหนัก โดยมีการตั้งปณิธานประชาชน 2568 (New Year’s Resolutions) จำนวน 9 ข้อ ที่จะมุ่งมั่นผลักดันให้สำเร็จในปี 2568 เพื่อร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทยผ่านกลไกรัฐสภา จึงขอฝากให้พี่น้องประชาชนสนับสนุนพรรคประชาชน และเรายืนยันจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนต่อไป


 
โรมอุบ ซักฟอกนายกฯ หรือทั้งคณะ กลัวรู้ตัวก่อน ลั่นมีหมัดเด็ด ยันฝ่ายค้านทำงานเชิงรุกเต็มที่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4976798

โรม อุบ ซักฟอก นายกฯ หรือทั้งคณะ กลัวรู้ตัวก่อน ลั่นมีหมัดเด็ด ยันฝ่ายค้านทำงานเชิงรุกเต็มที่ เชื่อชั้น 14 ช่วย ทักษิณ มีคนติดคุกแน่
 
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านในปี 2568 เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าทำเชิงรุกมากขึ้นว่า ฝ่ายค้านเราทำงานเชิงรุกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมาย และในแง่ของการตรวจสอบในวาระสำคัญ ก็ตรวจสอบมาแล้ว อย่างไรก็ตามงานสำคัญในปี 2568 ที่รออยู่ท้าทายหลายเรื่อง
 
มีโจทย์สำหรับรัฐบาลหลายเรื่องที่ต้องแก้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือการช่วยเหลือคนไทยที่เป็นลูกเรือประมงที่ถูกเมียนมาจับไปทั้ง 4 คน ซึ่งดูเหมือนว่าการช่วยเหลือคงไม่ทันก่อนปีใหม่แล้ว ผมคิดว่าเป็นเรื่องด่วนที่สุดการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 4 คน ดังนั้นในวันที่ 4 มกราคม 2568 ที่ทั้ง 4 คนจะได้รับการปล่อยตัว แต่ถ้ายังไม่ได้รับการปลอยตัว ผมคิดว่ารัฐบาลต้องมีมาตรการเชิงรุกมากขึ้น นี่ถือเป็นเรื่องแรกที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องรีบจัดการ” นายรังสิมันต์กล่าว
 
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 คือเรื่องว้า ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่เป็นความท้าทายอย่างมากของรัฐบาลปัจจุบัน เป็นไปได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราใช้งบประมาณด้านความมั่นคงไปเยอะมาก แต่เราปล่อยให้ ขบวนการ ซึ่งเท่ากับก่อการร้ายอย่างว้า ที่ทำเรื่องยาเสพติดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถที่จะล้ำแดนเข้ามาในประเทศไทยได้แบบนี้ ซึ่งส่งผลต่อปัญหายาเสพติดในภาพรวมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นี่คือโจทย์ที่เราต้องทำงานเชิงรุกอย่างเข้มข้น เรื่องที่ 3.คอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าเป็นอีกปัญหาใหญ่เช่นเดียวกัน
 
ทั้งสามเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปัญหาระหว่างประเทศและอาชญากรรมข้ามชาติ แล้วเกี่ยวข้องกับปัญหาเมียนมา ผมกำลังจะบอกว่าวันนี้ประเทศไทยเหมือนกับเรากินน้ำใต้ศอกของรัฐบาลทหารเมียนมา ทุกอย่างดูอ่อนช้อย ดูเบาบาง ไม่สามารถปกป้องพี่น้องประชาชนได้ วันนี้สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการแสดงถึงการปกป้องคนไทยจากปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น วันนี้ปัญหาของโลกซับซ้อนมากขึ้น เราต้องการการรับมือของรัฐบาล และในมิติเศรษฐกิจก็มี โดยเฉพาะการก้าวขึ้นมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหลายคนเป็นห่วงว่าเรื่องภาษีต่างๆ ของสินค้าไทยที่ส่งไปที่สหรัฐจะถูกเพิ่มหรือไม่ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีมาตรการต่างๆ มารองรับ ผมจึงคิดว่า ปี 2568 เป็นปีที่ดุแน่นอน แต่จะดุต่อใครผมไม่ขอฟันธง ดุต่อประชาชนมีความเป็นไปได้สูงมาก” นายรังสิมันต์กล่าว
 
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่หลายฝ่ายมองว่าฝ่ายค้านไม่เต็มที่ในการตรวจสอบ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะเราเต็มที่ในการทำงานขอยกตัวอย่างกรณีที่หลายคนชอบวิจารณ์เรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ารักษาที่ชั้น 14 และเรื่องต่างๆ เราก็เต็มที่ซึ่งอภิปรายเรื่องของนายทักษิณมาตลอด เพียงแต่สังคมอาจจะคาดหวังว่าต้องมากกว่านี้อีก ซึ่งในการทำงานของพวกเราเราพยายามทำงานบนพื้นฐานของข้อมูลและข้อเท็จจริง เราไม่ได้พยายามสร้างผีตัวใหม่ ถ้าสมมุติว่านายทักษิณต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นแกล้งป่วย หรือเรื่องต่างๆ ตนคิดว่าต้องดำเนินคดีอย่างเต็มที่กับเรื่องนี้ และจะต้องมีคนที่จะต้องติดคุกกับเรื่องนี้
 
ผมคิดว่ากระบวนการเรื่องชั้น 14 มันก็ชัดเจนในตัวของมันแล้วว่า วันนี้คุณทักษิณไม่ได้ป่วยจริง ซึ่งก็น่าจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเราก็พร้อมในการที่จะทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ต้องยอมรับว่าในการที่จะไปดำเนินการใดๆ ให้มีการตัดสินทางคดีเราอาจจะไม่มีอำนาจขนาดนั้น” นายรังสิมันต์กล่าว
 
เมื่อถามว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ที่จะเกิดขึ้น ฝ่ายค้านจะพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี หรือทั้งคณะ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้คงตอบไม่ได้เพราะยังอยู่ในช่วงของการเตรียมและไม่อยากให้ใครรู้ตัว เราคงจะต้องเก็บไว้ก่อนแต่เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่แน่นอน และการทำหน้าที่ของเราตามมาตรฐานที่ทำมาต้องมีพยานหลักฐานอย่างชัดเจน ไม่ใช่ประเภทแบบโวหารวาทศิลป์ โดยที่ไม่มีเนื้อหาสาระอะไร ยืนยันว่าการอภิปรายฯครั้งนี้มีหมัดเด็ดแน่นอน



10 วัน อันตรายปีใหม่ 2 วัน ตาย 93 เจ็บ 575
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_822443/
 
ศปถ. แถลง 10 วัน อันตรายปีใหม่ 2 วัน ตาย 93 ราย บาดเจ็บ 575 ราย นครศรีธรรมราช แชมป์ 5 ศพ สาเหตุขับรถเร็ว ขณะ ประสานจังหวัด คุมเข้มสร้างความปลอดภัยถนนสายหลัก สายรอง
 
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 กำชับจังหวัดอำนวยความสะดวกในเส้นทางสายหลัก สายรอง และถนนใน อบต.และหมู่บ้าน รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมเพิ่มมาตรการตรวจสอบของคนขับรถโดยสารสาธารณะและยานพาหนะในทุกจุดที่มีการรับ – ส่ง ผู้โดยสาร กำชับจุดตรวจ ด่านตรวจ ด่านชุมชน ด่านครอบครัว เพิ่มความเข้มข้นการเรียกตรวจ โดยเฉพาะเส้นทางสายรองและเส้นทางเลี่ยง ทางลัด ที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง เน้นกวดขันป้องปรามและสกัดกั้นผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ส่วนบางพื้นที่ที่เริ่มมีการจัดงานหรือกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ได้เน้นย้ำให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการดูแลเส้นทาง โดยรอบพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลองและดูแลบริเวณสถานที่จัดงานให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อให้ปีใหม่นี้เป็นปีแห่งความสุขและความปลอดภัย
 
โดยนายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2567 เปิดเผยว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว ในขณะที่บางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทางซึ่งยังคงมีจำนวนมาก ทั้งในส่วนของรถโดยสารประจำทางและรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งจากข้อมูล พบว่า เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.67) มีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมากถึง 1,100,000 เที่ยว และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทาง โดยมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด
 
มูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุ 269 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 257 คน ผู้เสียชีวิต 38 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 38.29 ทัศนวิสัยไม่ดี ร้อยละ 21.56 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 19.33 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.40 โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา และเชียงราย (จังหวัดละ 13 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (13 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดได้แก่ พังงา และหนองบัวลำภู (จังหวัดละ 3 ราย)
 
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (27 – 28 ธันวาคม 2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 592 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 575 คน ผู้เสียชีวิต รวม 93 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 51 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (27 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (24 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (5 ราย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่