คนตายกับคนเป็นได้พูดคุยกันในวันไหนบ้าง


วันนี้ก็จะเป็นหนึ่งในวันที่ลูกหลานจะได้พูดคุยบรรพบุรุษค่ะ "อาอึ้มจ๊อขี่" (วันครบรอบวันตายของคุณแม่) จะแวะเวียนมาอีกปีในอีกไม่กี่วันค่ะ
อาอึ้มคนนี้ล่ะค่ะที่แม่นันคิดถึงหนักหนา..อาอึ้มคนนี้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แม่นันสานต่อรสมือขนมผักกาด .
๒๐ ปีแล้วที่ท่านจากไปเท่ากับอายุพี่ภูมิ (ลูกชายคนโตของแม่นัน).นึกถึงทีไรอยากร้องไห้ทุกทีค่ะ เพราะตอนลูกอยู่ในท้อง 
แม่นันตั้งใจอย่างดิบดีว่าจะสอนให้ลูกพูดฟังภาษาจีน แล้วทุกอาทิตย์ที่พาหลานไปเยี่ยมอาม่า อาม่าจะได้สนทนากับหลาน อาม่าคงมีความสุขมาก ... 
แอบจินตนาการเวลาพวกเค้าสนทนากัน คงเป็นภาพที่น่ารักที่สุด..

จ๊อขี่ คือวันครบรอบวันตายของคนจีน ถ้านับตามปฏิทินจีน วันที่จะไม่ตรงกันทุกปีค่ะ อาตั่วแจ้ (พี่สาวคนโต) 
จะเป็นคนแจ้งให้น้องๆทั้งเจ็ดทราบว่าแต่ละปีจะตรงกับวันไหน อย่างปีนี้ก็ตรงกับวันที่ 21 เดือน 11 (เดือน 11 ของปฏิทินจีนคือเดือน 12 ของไทย วันที่ 4 ธค. ตรงกับชิวอิก อาแจ้ให้นับไปอีก 20 วัน ปีนี้ตรงกับวันไหว้ขนมบัวลอยพีอดี) 
ใกล้ๆแล้วแม่นันจะไลฟ์บอกสูตรวิธีทำ "ขนมบัวลอย" ให้ค่ะ

วันที่ 21 พวกเราพี่น้องก็จะไปรวมตัวกันที่บ้านอาเฮีย (พี่ชาย) รูปพ่อแม่จะต้องตั้งไว้ที่บ้านลูกชายคนโต
เพราะคนจีนถือว่าลูกชายคนโตต้องเป็นหลักของบ้านเวลาท่านจากไป พวกเราต่างคนต่างนำอาหารไปไหว้อาอึ้ม
และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว สมัยที่อาตั่วแจ้ยังแข็งแรง อาแจ้มักจะรับอาสาเป็นคนทำอาหารคาวหวานที่อาป๊ะ อาอึ้ม (คุณพ่อคุณแม่) ชอบ
แล้วก็พ่วงด้วยเมนูอาหารที่น้องๆชอบอีกหลายๆหม้อ อาตั่วแจ้ทำอาหารอร่อย โ่ดยเฉพาะเขาะชุงฉ่าย (ต้มผักขม)
และต้มพะโล้ ยังไม่รวมแกงไก่ และต้มอะไรอีกหม้อที่แอบอยู่ในครัวค่ะ ทำทีหม้อใหญ่มากค่ะ
*แม่นันถ่ายทอดวิทยายุทธสองเมนูนี้แรกมาได้นานแล้ว* ปัจจุบันอาตั่วแจ้สุขภาพไม่ค่อยดี พวกเราจึงใช้วิธีสั่งจากร้านอาหารมาไหว้แทน
แต่สุดท้ายพอได้ยินน้องๆบ่นคิดถึงเมนูนู้น เมนูนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะทำให้น้องๆทานค่ะ

ปีนี้บรรดาน้องฝั่งสามพรานก็ทำเป็นพูดเสียงดังให้อาตัวแจ้ได้ยินว่าอยากกินขาหมูพะโล้ คนนี้ขอหนึ่งขา คนนั้นขอสองขา 
พอแม่นันรู้ก็แกล้งทำเสียงดุ ว่า "ไม่ได้นะ จะให้อาแจ้เข้าครัวไม่ได้นะ เมื่อวานขาบวมฉึ่ง เพิ่งให้หมอฉีดยามาไม่เห็นกันเหรอ 
เค้าขอด้วยสองขา" ฮ่าฮ่า พูดเล่นค่ะ แล้วก็ปิดบทสนทนาด้วย "มา..ปีนี้น้องทำเอง" 
อาตั่วแจ้กระเซ้ากลับ "โอเคร งั้นปีนี้น้องเล็กรับอาสานะ" "ได้อยู่แล้ว"

ทำขาหมูไหว้พ่อแม่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่แม่นันไม่สามารถหาหม้อเบอร์ใหญ่ยักษ์มาทำขาหมูเป็นสิบขาให้ทุกพวกนางได้เจ้าค่า
ครอบครัวจีนถือวันนี้เป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่ง เพราะเป็นรวมตัวของลูกๆหลานๆ ...
สมัยก่อนจะมีลูกหลานของฝั่งอาแน (แม่ใหญ่ หรือภรรยาหลวงของอาป๊ะ) มาเคารพท่านในวันนี้ด้วย 
แต่ปัจจุบันล้มหายตายจากกันไปบ้างแล้ว จึงเหลือแต่พวกเราพี่น้อง ซึงโชคดีที่พี่น้องเรารักกันมาก อาตั่วแจ้เป็นหลักยึดให้พวกเรา.. 
ถ้าแม่นันเงียบไปก็แสดงว่าหมดรุ่นเราแล้วค่ะ ลูกหลานคงสานต่อไม่เป็น...

ในวันครบรอบนี้ แต่ละปีจะต้องมีอาหาร ขนมโบราณที่มีชื่อมงคลมาเซ่นไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต 
ไม่ว่าจะเป็นอั่งก๋วยท้อ (ขนมกุ้ยช่ายรูปหัวใจสีแดงๆ) ซาลาเปา (เปา = เก็บ,ห่อ), เขาะชุงฉ่าย (ชุง = ยืด ยืนยาว ก้าวหน้า), 
ขนมผักกาด/ไช้เถ่าก้วย (ไช้ = มีลาภ มีโชค) ส่วนหมู เป็ด ไก่ ปลา และเนื้อสัตว์อื่นคือความสุข ความอุดมสมบูรณ์ 
ความยิ่งใหญ่ ความมีโชคลาภ

แน่นอนตอนจุดธูปไหว้แต่ละคนก็แย่งกันอวดอาหารที่นำมาไหว้
..."อาอึ้ม อาป๊ะอ่า กิมยิก อั้ว จ๊อ ไช้เถ่าก้วย อี่อี๊ ตั่วๆ ไก๊ ไหล่ ไป่ หลื่อ" 
(คุณพ่อ คุณแม่ขา วันนี้หนูทำขนมผักกาดถาดกลมๆใหญ่ๆ อร่อยที่สุดในโลกมาให้นะคะ) แม่นันชิงพูดก่อน

"อาอึ้มอ่า อั้วไก๊ ต๊อ หอเจี้ยะ. อั้ว ปู่ ตือโต้ว เหลาะ โห่วเจีย พังพัง ไหล่ โหะหลื่อ" 
(คุณแม่ขา ของหนูอร่อยกว่า หนูต้มกระเพาะหมูใส่พริกไทยเยอะๆที่แม่ชอบมาให้) อาโหง่วแจ้เกทับ

แล้วเสียงสาวๆก็แย่งกันอวดของ แย่งกันขอพร "ซาไก๊ หลักไก๊ เจี๊ย เจี่ย นา อาอึ้ม อาป๊ะ โอย" สามตัว หกตัว ตรงๆนะคะคุณพ่อคุณแม่ขา 
ฮ่าๆๆๆ ก็จะสนานกันไปครึ่งวันค่ะ .... มีเพียงอาตั่วแจ้ที่หัวเราะพร้อมส่ายหัวในความบ้าบอของพวกน้องๆ....

เมื่อเสร็จพิธีเซ่นไหว้แล้วก็จะแบ่งกันคนละเล็กละน้อยนำกลับไปเพื่อความเป็นสิริมงคล 
เมื่อก่อนแม่นันจะทำขนมผักกาดทีละหลายๆแพ็คแจกให้ทุกคนนำกลับไปทานที่บ้านด้วย 
ยังจำได้ว่าโชคดีเคยทำให้อาซ้อ (สะใภ้ของแม่ใหญ่) ด้วย แต่ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว

..ปีนี้แม่นันคงทำเป็นถาดกลมใหญ่ถาดเดียวเหมือนปีที่แล้ว ไหว้เสร็จได้นำกลับบ้านกันคนละชิ้น สองชิ้น..
ถือเป็น "ขนมผักกาดรสมือแม่" ที่ลูกๆทุกคนถวิลหาจริงๆค่ะ ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน 
แม่นันก็คงจะได้ยินประโยคนี้จากพี่ๆเหมือนเดิม "น้องเล็ก..ขนมผักกาดได้ครบทุกคนมั้ย อย่าลืมของแจ้นร้า" "น้องเล็ก ใส่ถุงให้อาแจ้รึยัง
" น้องเล็ก..ของแจ้ขอชิ้นใหญ่ๆนะ" น้องเล็ก น้องเล็ก น้องเล็ก ..... คิดถึงแม่ค่ะ ถ้าท่านอยู่คงดีใจ...
หลานๆ เหลนๆ ของอาอี๊คนนี้ทยอยโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว ต่างคนต่างเริ่มติดภาระกิจ (ติดงาน ติดแฟน ติดเรียน) 
เหลือเพียงลูกๆและหลานบางคนที่เป็นพ่อคนแม่คนแล้วที่มาได้เท่านั้น ปีที่แล้วสองหนุ่มยังได้ไปกราบไหว้อากง อาม่า 
ปีนี้คงไม่ได้ไปเพราะไม่ตรงเสาร์ อาทิตย์ (ติดเรียน ติดงาน ไปกับเค้าด้วยแล้วอีกหนึ่งรุ่น)
พวกเราพ่อแม่สองสมัย สมัยโบราณและสมัยใหม่..ถือว่าโชคดีที่ได้สานต่อวัฒนธรรมเก่าๆ 
ในขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้เทคโนโลยี่และความสมัยใหม่ในตัวของลูกหลาน ...แต่เป็นการเรียนรู้อย่างช้าๆเข้ากับร่างกายที่ถอยลง ถอยลงค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่