ชือคั้กก้วย ขนมไหว้ตรุษจีน

ใกล้เทศกาลตรุษจีนเข้ามาทุกทีค่ะ ปีนี้ช้ากว่าปีที่แล้วประมาณสองอาทิตย์ แต่แม่นันมีความรู้สึกว่าเวลาหมุนเร็วขึ้นค่ะ 
เผลอแพล็บเดียวจะหมดเดือนแรกของปีอีกแล้ว ว่ามั้ยคะ
ของไหว้ตรุษจีนนอกจาชุดซาแซ โหง่วแซ (เนื้อสัตว์ 3 อย่าง 5 อย่าง)
 และอาหารคาวหวานชื่อมงคลที่จัดเตรียมไว้ สำหรับไหว้ตี่จู้ (เจ้าที) และ บรรพบุรุษแล้ว

"ชือคั้กก้วย..ฉื่อคั้กก้วย" ก็เป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยที่มักจะถูกจัดขึ้นโต๊ะไหว้ด้วยค่ะ 
แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของ "ขนมเทียน" แต่ใส่ "ชือคั้ก" ชื่อของหญ้าสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณทางยา 
ให้ความหอมนุ่มอร่อยเวลานำลงนวดพร้อมกับตัวแป้ง แต่บางแห่งก็ยังทำ "ฉื่อคั้กก้วย" แบบแต้จิ๋วแท้ๆขายอยู่นะคะ (ขอบคุณภาพสวยๆหน้าเวปค่ะ)

ถ้าถามแม่นันว่ารู้จัก "ฉื่อคั้กก้วย" ของดั้งเดิมดีแค่ไหน แม่นันไม่รู้จักค่ะเกิดไม่ทัน 
กว่าแม่นันจะกดแป้นพิมพ์นี่ แม่นันทั้งเสิร์ซ ทั้งโทรถามคนรุ่นเก่าๆที่รู้จัก และอาหยี่แจ้ อาตั่วแจ้ของตัวเอง ซึ่งอายุ 72 และ 74 แล้ว 
อาตั่วแจ้เล่าว่า สมัยก่อน อาป๊ะ (คุณพ่อ) ก็ทำ "ชือคักก้วย" เองค่ะ ทำใส่แป้นพิมพ์เหมือนอั่งก่อก้วย 
อาตั่วแจ้บอกว่า อาป๊ะทำอาหารเก่ง เก่งทุกอย่างทั้งภาษาจีน (ที่พูดได้ตั้งหลายสำเนียง) ทั้งงานไม้ งานช่าง และการทำอาหาร 
อาอึ้ม (คุณแม่) ซะอีก ที่นั่งเป็นคุณนาย ทำอะไรก็ไม่เป็น ก็อาอึ้มของแม่นันเป็นคุณหนูที่อาป๊ะพาหนีมาอยู่กินด้วยกันเองนี่คะ 
แต่อาหยี่แจ้ (พี่สาวคนี่สอง) เล่าถึงอาอึ้มว่า " "บ้ะจ่างและไช้เถ่าก้วย (ขนมผักกาด) ของบ้านเราน่ะ 
ต้นตำหรับมาจากอาอึ้ม (คุณหนูสิงคโปร์ของเรา) นะจะบอกให้"

อาตั่วแจ้เล่าอีกว่าคนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ ก่อนวันตรุษจีน หรือเรียกว่าวัน "ซิ้งเจี่ยที" ตี่จู้หรือเจ้าที่ 
ซึ่งคอยคุ้มครองมนุษย์โลก จะต้องขึ้นไปรายงานแก่เง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์ว่า ระหว่างที่อยู่ปกป้องมนูษย์บนโลกนี้ 
มนุษย์โลกได้ทำความดีความชอบ หรือความชั่วอะไรไว้บ้าง
ในวันนั้นเราจึงทำ "ชือคั้กก้วย" อย่างสุดฝีมือไว้ไหว้ตี่จู้ ซึ่งนอกจาก "ชือคั้กก้วย" ที่อาป๊ะทำแล้ว 
อาป๊ะยังเตรียมน้ำชา ผลไม้ และม้ากระดาษ (แบ๋จั้ว) เพื่อเป็นยานพาหนะให้เจ้าที่
ขี่ไปรายงานความดีความชอบของพวกเราแก่เง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์ด้วย
อาตั่วแจ้เล่าติดตลกว่า ช่วงที่เป็นสะใภ้อยู่ในบ้านสามี ระหว่างที่จัดเตรียมของไหว้ในวันนั้น 
คนในบ้านมักจะตะโกนขึ้นมาว่า "อย่าลืมหาอะไรเหนียวๆอีกหนึ่งอย่างไว้ปิดปากเจ้าที่ด้วยนะ" อาตั่วแจ้สงสัยจึงถามขึ้น ก็ได้ความว่า 
เวลาเจ้าที่ได้ทานขนมเหนียวๆนี้ จะทำให้รายงานเง็กเซียนฮ่องเต้ได้ไม่ค่อยถนัดเพราะขนมติดปากอยู่ อย่างน้อยก็ปกปิดสิ่งที่เราทำไม่ดีไว้ได้บ้าง 
อาตั่วแจ้เล่าว่า ขณะนั้นตั่วเองนึกอยู่ในใจว่า "งั้นทำไมไม่กวนแป้งเปียกส่งไปด้วยล่ะจะได้ปิดได้ทุกเรื่อง" ฮ่าฮ่า
อาแจ้เล่ากันมาขนาดนี้ ยิ่งทำให้แม่นันอยากรู้จัก "ชือคักก้วยแบบดั้งเดิม" มาก 
ถึงกับเสิร์ซหาข้อมูล และโทรสั่งล่วงหน้ามาชิม

เยาวราชก็มีขายค่ะ อาหยี่แจ้บอกจะซื้อมาให้ชิมเหมือนกัน ถ้าอยากรู้รสชาตินักก้อ
แต่แม่นันติดตรงที่ว่า "ฉื่อคั้กก้วย" ไส้เต่าซา (ถั่วเขียว) ของดั้งเดิมอาแจ้บอกว่าจะออกหวาน ไม่เหมือนที่ทำใส่ในขนมเทียนจะออกเผ็ดเค็ม
แม่นันชอบแบบเค็มมากกว่า ไม่เป็นไรค่ะ อยากรู้จักต้องลองค่ะ

สองสามวันก่อนได้ไปช่วยมาม้าบุญธรรมทำ "ขนมเทียน" แต่ตัวแป้งผสม "ชือคักเฮียะ" (ใบชือคั้ก) ลงไปด้วย อร่อยมากค่ะ 
ยิ่งตัวไส้เต่าซาเผ็ดนำ มาม้าทำอร่อยอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความอร่อยเข้าไปอีก มาดูขั้นตอนการทำที่ไม่ง่ายกันมั้ยคะ
ใบชือขัก

ก่อนอื่นต้องเตรียมต้มใบ "ชือขัก" ก่อนค่ะ ใบชือขักหาซื้อได้ตามตลาดชุมชนชาวจีนค่ะ ล้างและต้มจนนิ่ม 
บางที่ก็นำไปบดเลยค่ะ ต้มผสมด้วยน้ำตาลปี๊บ/น้ำตาลก้อนจนเข้าเนื้อกัน 
และที่ต้องใช้สองคนช่วยกันทำคือ ตัวไส้เต่าซาค่ะ คนหนึ่งกวน คนหนึ่งจับหูกระทะ เมื่อกวนจนได้ที่แล้ว พักไว้
นำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ใส่เป็นตัวไส้ค่ะซูฮก (ขอคารวะ) มาม้า ท่านอายุ 74 แล้ว แต่แข็งแรงกว่าแม่นันมาก

- จากนั้นนำมานวดให้เข้ากับแป้งข้าวเหนียว คอยหยอดน้ำตามขณะนวด นวดจนเนียนเข้าเนื้อกัน 
ขั้นตอนนี้เหนื่อยนะคะ เพราะต้องนวดจนตัวแป้งนิ่มหยอดเป็นสายน้ำได้ค่ะ ทีนี้ก็แล้วแต่ว่าจะให้นิ่ม หนืดขนาดไหนก็หยุดนวดที่ตรงนั้นค่ะ

- เสร็จแล้วนำตัวแป้งมาหยอดลงบนใบตอง (ตัดเป็นสามเหลี่ยมมนๆ) ตามด้วยไส้เต่าซาปั้นเป็นกลมๆ ห่อใบตองให้เป็นรูปทรงปิรามิด
เก็บปลายใบตองให้สนิท ห่อสวยไม่สวยดูตรงนม (ยอดแหลมของปิรามิดค่ะ) ว่าเอียง ตรง หรือแฟบ เหมือนคนห่อ (อิอิ)

- ขั้นตอนสุดท้ายนำไปนึ่งได้เลยค่า ถ้าเป็นคนจีนก็จะบอกให้นึ่งนานครึ่งธูป หรือหนึ่งธูปดับ 
แต่ถ้าเอาหลักสากลก็ประมาณสิบห้านาทีค่ะ แม่นันตั้งจับเวลาให้มาม้า
แม่นันตั้งคำถาม.... แต่... ไม่มีใครตอบแม่นันได้เลยค่ะว่า
ขนมเทียนที่ถูกนำมาไหว้ในช่วงเทศกาลกันอย่างแพร่หลาย ประวัติเป็นมาอย่างไร 
ใครทราบช่วยไขข้อข้องใจแม่นันทีค่ะ บ้างก็ว่าเป็นขนมไทย บ้างก็ว่าเป็นขนมจีน
ถ้าให้แม่นันไล่เรียงตามที่อาแจ้และมาม้าบุญธรรมเล่ามา
"ขนมเทียน" เป็นขนมไทย แล้วคนจีนนำมาดัดแปลง โดยการใส่ใบ "ชือขัก" ผสมลงไปในเนื้อแป้งด้วย และเปลี่ยนไส้เป็นเต่าซารสชาติเผ็ดเค็ม
หรือ
"ขนมเทียน" เป็น "ชือคั้กก้วย" ของคนจีน ที่เปลี่ยนรูปทรง จากทรงโบราณ มาเป็นสามเหลี่ยนปิรามิดแทน แล้วคนไทยนำมาดัดแปลงโดยการตัดใบ "ชือขัก" ออก และเปลี่ยนไส้เป็นไส้หวาน ไส้เค็ม และไส้อื่นๆ ให้ถูกปากคนไทย
#ขนมเทียน #ชือคักก้วย #อร่อย #NanthineeHomemade #ประวัติขนมเทียน #ประวัติชือคักก้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่