.
สวัสดีค่ะ เจเจมาแล้ว กลีบจันทร์ไงจะใครล่ะ
ไม่ได้เขียนบันทึกอีกแล้วค่ะ มัวแต่ไปเที่ยว และ ก็มัวแต่ดูซีรี่ส์อ่ะดิ ติดงอมแงมเลยค่ะ พอเที่ยวกลับมาก็ง่วงแล้วนอนเลย พอดูซีรี่ส์ดูเพลินไปหน่อยง่วงไม่รู้ตัวก็หลับเลย นี่ยังดูไม่จบเลยนะคะ เดี๋ยวเขียนไดอารี่ก่อนเดี๋ยวจะกลับไปดูใหม่
ไม่ได้เขียนไดอารี่ไปสองวันคงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะเรา จำได้อยู่ว่าผ่านอะไรมาบ้างในแต่ละวัน เดี๋ยวฉันจะไล่มาให้หมดเลยว่าไปเจออะไรบ้าง จะให้เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าเลยไหมละว่าฉันทำอะไรบ้าง แค่คิดก็ปวดมือจะแย่อยู่แล้ว เอาล่ะ ! ฉันจะย่อเรื่องเล่าให้สั้น ๆ กระชับใจความละกันว่า ระหว่างสองวันนี้ฉันได้ทำอะไรไปบ้าง นอกจากจะลืมนะ
หลังจากวันที่ไปสมัครงานมาก็ไม่ได้ไปอีกเลยค่ะ ฉันจึงเป็นคนว่างงาน อยู่บ้านคนเดียวไปอีกกับลุงและป้า พี่สาวไปทำงาน ระหว่างรองานก็หาอะไรทำช่วยลุงกับป้านั่นแหละ ทำตัวให้เป็นประโยชน์ที่สุด เอาเข้าจริงฉันแอบอึดอัดนะคะ นี่คิดว่าถ้าได้งานจะขอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกต่างหาก ไม่รู้ลุงจะอนุญาตหรือเปล่า
ตอนเช้า ๆ ไม่มีอะไรทำเช่นเคย ปล่อยรถให้ลุงค่ะ ให้คนมาเช่าแท็กซี่ไปขับ ตอนเย็นก็รับรถเก็บค่าเช่ากับเขานั่นแหละ ที่บ้านของลุงดูจะวุ่นวายไปหน่อยกับคนขับแท็กซี่ เพราะเราอยู่กันแบบครอบครัวกับคนขับแท็กซี่ มีข้าวมีน้ำให้กินเสมอ ฉันขี้เกียจจะพูดคุยด้วย ไม่ชอบอะไรแบบนี้ ไม่ชอบความวุ่นวาย แล้วคนที่มาเช่าขับคนอีสานทั้งนั้น พูดกันแตกโคบ ๆ อยู่ วุ่นวายมาก ! เอ่อ แตกโคบ ๆ แปลว่า พูดกันเสียงดังจอแจมั้งคะ ฮา ฉันก็ไม่ค่อยจะเข้าใจหรอกค่ะ
ทุกวันป้าจะทำแกงหม้อใหญ่รอคนขับแท็กซี่ค่ะ ฉันไม่ได้เป็นลูกมือหรอก พี่สาวก็ไม่ได้เป็นเช่นกันเพราะตื่นสาย ฮา จะทำแค่ตื่นมาปล่อยรถนี่แหละ ทันบ้างไม่ทันบ้าง
มีคุณตาคนหนึ่งน่าสงสารมากค่ะ ชื่อตามี แกโสดนะชายโสดเลยนะคะ แก่มาก ! อยู่คนเดียวแก่แล้วก็ยังมาขับแท็กซี่อีก ฉันยังคิดว่าจะพาผู้โดยสารไปส่งไหวเหรอ ไม่ขับก็ไม่มีกิน ป้าสงสารเลี้ยงดีกว่าใคร ๆ เลย เห็นว่าเลี้ยงเอาบุญว่าอย่างนั้น
สงสารเพราะถ้าไม่กินข้าวจากที่นี่ก็ไม่มีใครทำให้กินเลย เพราะตัวคนเดียวจริง ๆ ตอนเช้ากินข้าวเช้าที่นี่ ตอนเย็นเอารถมาส่งก็กินมื้อเย็นที่นี่ทุก ๆ วัน ค่าเช่าได้เต็มบ้างได้ไม่ครบบ้างป้าอนุโลม คนอื่นอย่าได้เบี้ยวเชียว
“เงินน่ะเก็บไว้ซื้อข้าวบ้าง เอาไปซื้อแต่เหล้ากั๊ก” ลุงของฉันบ่นให้ตามี เพราะตอนมาส่งรถเห็นเดินไปซื้อเหล้ากั๊กกับร้านค้าข้างอู่ แกชอบดื่มเหล้าจริง ๆ เอารถมาส่งแต่ละวัน มีเหล้าขวดน้อยมาด้วยตลอด
“กูดื่มนิดเดียวเอง เงินกูเก็บไว้ให้แฟน เวลาสาวอยากได้นั้นอยากได้นี่กูก็ซื้อให้” ปั๊ดโธ๊ตามี ! มีสาวด้วย ฮา ฉันกับป้าหัวเราะ
“เอาเงินให้แต่สาว ตัวเองขับแท็กซี่เหลือใช้วันละกี่บาท” ป้าพูด แววตาของป้าเอ็นดูตามีมาก “มีตะคนล้อเอาเงินลาว ๆ กะให้เขา” ป้าหันมากระซิบฉัน
“ดื่มได้ ! แต่ต้องเป็นตอนเอารถมาส่งผมแล้วนะ อย่าดื่มแล้วไปขับรถผม ไม่งั้นผมไม่ให้ขับจริง ๆ ด้วย ห่วงผู้โดยสาร” ลุงกำชับ
“เออ ! รู้แล้วน่า “ ตามีตอบ
“กินล่ะบ่ข้าว มากินถ้าแหมะนำเขาหนิ” แล้วลุงก็เดินไปตักข้าวใส่จานให้ตามี เป็นแบบนี้ประจำ ลุงจะนำโต๊ะม้าหินอ่อนขนาดยาวมาวางไว้ที่หลังบ้าน ไว้ให้คนขับแท็กซี่นั่งทานข้าว วางหม้อหุงข้าวกับหม้อแกงไว้หิวก็เดินมาตักเองเลย ส่วนคนในครอบครัวกินต่างหาก หรือ จะกินด้วยก็ได้ ฉันไม่ค่อยกินหรอก ไม่ได้แบ่งชนชั้นหรือรังเกียจนะ แต่แบบมันวุ่นวาย เสียงดังฉันไม่ค่อยชอบ
ฉันพูดคุยกับคนขับแท็กซี่จนจะได้แฟนเป็นคนขับแท็กซี่อยู่แล้ว แทะโลมเก่งเหลือเกินบางคน ไม่ดูสารรูปตัวเองกันเลย บางคนก็ขี้โม้เหลือเกิน จบ ป.โทแต่อยากมาขับแท็กซี่ ใครจะเชื่อ !
มีผู้ชายคนหนึ่งอายุราว ๆ สี่สิบ ชื่อพี่เก๊กค่ะ ขี้เก๊กสมชื่อเลย โสดเหมือนกัน บอกตนเองจบ ป.โท แต่อยากมาขับแท็กซี่ ขี้โม้มาก ! เห็นว่าเป็นญาติห่าง ๆ ของป้าด้วยก็เลยยอมให้เช่าขับรถแท็กซี่ เหมือนเกิน ๆ มากกว่านะ ไม่ใช่ไม่เต็ม ฮา
ลุงชอบเรียกไอ้ด็อกเตอร์ เรียกด็อกเตอร์กันทั้งบ้าน ชอบโม้เรื่องเรียน เรื่องทำงาน เบื่อ ๆ จึงออกจากงานประจำอยากขับแท็กซี่พะนะ ฉันก็อือ ๆ เออ ๆ ออ ๆ ไปด้วยแหละ ด็อกเตอร์มาส่งรถทีไรเป็นต้องฮาทุกที ตอนเช้าไม่ได้ฮา เพราะรีบเอารถออก ส่วนฉันเป็นหลานลุงค่ะ ลืมบอก ! พี่ด็อก เอ้ยพี่เก๊กเป็นญาติห่าง ๆ ของป้า ฉันหลานแท้ ๆ เลย พ่อเป็นน้องชายของลุง นี่ถ้ามีหนุ่ม ๆ วัยประมาณฉันมาขับแท็กซี่มิวายได้แฟนแน่กู เอ้ย ฉัน ! ฮา
วันนี้ฉันรอโทรศัพท์ทั้งวันเลยนะคะ จะมีบริษัทไหนเรียกฉันบ้างไหม อยากให้บริษัทต้องรักเรียกฉันมาก ๆ เลยค่ะ นึกถึงกรีนผู้หญิงคนนั้น นึกถึงนายหลุยส์ด้วย ป่านนี้สองคนนี้ได้งานกันแล้วมั้ง ไม่ได้ขอเบอร์ ขอไลน์ และ เฟซบุ๊กไว้ด้วยสิ
ระหว่างวันลุงก็ลงผลไม้หน้าบ้านด้วย ฉันอีกแหละเป็นคนนั่งเฝ้านั่งขาย เป็นผลไม้ตามฤดูกาลค่ะ นำรถกระบะมาจอดตรงหน้าบ้าน แล้วก็เปิดกระบะขาย ก็พอได้ขายนะคะ ทว่าฉันคงไม่คิดจะเป็นแม่ค้าหรอกค่ะ ยังมีความฝันอยากเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่
ถัดไปจากอู่แท็กซี่ของลุงเป็นโรงงานตึกแถวค่ะ เป็นโรงงานครอบครัวของคนจีน เฮ้อ ! คงไม่ใช่ที่สุดท้ายของฉันหรอกนะ โรงงานน่ะ ! ไม่ได้ดูหมิ่นแต่ขอเลือกก่อนได้ไหมล่ะ งือ… เมื่อไหร่บริษัทที่สมัครงานไปจะโทรมาคอนเฟิร์มสักที รอจนท้อแล้วนะ แฮ่ ความจริงผ่านไปแค่สามวันเอง
หม่อมแม่ก็โทรถามเก่งเหลือเกิน ได้งานหรือยัง ! พึ่งจะสมัครไปเอง ใครเขาจะเรียก มันต้องรอดูช่วงปลายเดือนไหม เพราะต้องเริ่มงานในต้นเดือน ใครเขาจะเรียกให้เริ่มงานกลางเดือนล่ะ ฉันล่ะรำคาญแม่จริง ๆ โทรมาถามตลอดเวลา
ชีวิตของฉันที่รองานก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ เช้าส่งรถ กลางวันขายผลไม้ให้ลุง เย็นรับรถวนเวียนอยู่แบบนี้ ระหว่างนั้นก็ดูซีรี่ย์แก้เบื่อ ตอนนี้นะทุกคน ฉันติดซีรี่ส์อินเดียมาก ! เหอะ ‘มหากาลีเทวีผู้พิทักษ์โลก’พุ่นแหล่ว ข้าคือพระแม่ปารวตี บู้ย ฮา กลีบจันทร์เอง ปาราวตีที่ไหน !
สนุก จริง ๆ นะคะ ฉันนี่ติดมากจนไม่อยากขายผลไม้ให้ลูกค้าเลย ขัดจังหวะไง สักพักก็โอมนะมะศิวะอีกล่ะ ฮา พระศิวะสามีของพระแม่ปารวตี ไม่อยากสปอยล์ให้ฟังเลย ไปหาดูเองแล้วกันนะ คราวนี้ก็มีสุมกับนิสุมอสูรสองพี่น้องอีก สองคนนี้วุ่นวายเหลือเกิน ชอบมาวุ่นวายกับเขาไกรลาสอีกเด้บาดหนิ สนุกจริงค่ะ ฉันยังดูไม่จบเลยจะต้องดูให้จบล่ะ วันนี้ต้องมาเขียนไดอารี่ก่อน หยุดไปสองคืนแล้ว
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่งานยังไม่ได้ทำเลย เจเจ้ก็ชวนเที่ยวเก่งมาก เมื่อคืนพี่สาวชวนไปร้านเหล้าฟังเพลงเบา ๆ ค่ะ สนุกนะ ฉันชอบอะไรแบบนี้ค่ะ ไม่ได้เป็นคนชอบเที่ยวกลางคืน แต่ขอบ้างอะไรบ้าง นี่ฉันแอบคิดนะว่า ถ้ามีงานทำนะ ถ้ามีเพื่อนสนิทนะ ฉันจะชวนเพื่อน ๆ มาทุกวันเงินเดือนออกเลยคอยดู มีตติ้งไง ของมันต้องเที่ยวบ้าง กรี๊ด ! แค่คิดก็สนุกแล้วค่ะทุกคน ขอให้ได้งานทีเถอะสาธุ !
เมื่อคืนพี่สาวพาฉันไปเดินตลาดนัดรถไฟด้วย ไม่ได้อะไรหรอก ไม่อยากใช้ตังค์ค่ะ งานยังไม่ได้ทำเลย ตังค์หมดโทรขอหม่อมแม่มีหวังโดนด่าไปอีก อยู่กับลุงกับป้าก็ไม่ได้ซื้ออะไรนะ ข้าวก็มีให้กิน จึงไม่ค่อยเดือดร้อนนัก แต่ตอนนี้ใจร้อนเป็นไฟเรื่องงานมากกว่า อยากให้พวกบริษัทโทรมาว่า ‘คุณได้งานแล้วนะคะ เริ่มงานวันที่หนึ่งเดือนหน้า’ อะไรแบบนี้ ฉันจะสบายใจในการใช้ชีวิตมาก นี่อะไรเงียบไปหมดเลย หึหึ
ระหว่างเดินตลาดฉันเจอหลุยส์ด้วย ดูเหมือนหลุยส์จะจำฉันได้นะ ฉันเองก็จำหลุยส์ได้แม่นยำเลย ฉันก็ไม่กล้าทักหรอกค่ะ เราแค่มอง ๆ กันเฉย ๆ เสียดายเนอะ ฉันน่าจะถามหลุยส์ว่าได้งานหรือยัง บางทีบริษัทต้องรักอาจจะเรียกหลุยส์กับกรีนแล้วก็ได้ ฉันไม่ผ่านการคัดเลือกไง บริษัทจึงไม่โทรมา เฮ้อ ช่างเหอะ หาบริษัทใหม่ก็ได้ แต่ชอบพี่เขาไงพี่เต๊ก ปลื้มแหละ เออ ปลื้ม ! ฮา เขาตลกนะ ฉันชอบคนตลก ๆ
เอาจริง ๆ จากใจเลยนะ ในมุมมองผู้หญิงอย่างฉัน หลุยส์เค้าก็ใช้ได้นะ หน้าตาธรรมดาแต่ว่าก็ไม่ได้ขี้เหร่ นี่ ๆ ที่ฉันพูดเนี่ย ไม่ได้จะชอบเขาหรอกนะ ยัยเจเจหยุดคิดไปเลยเธอ ยัยบ้า ! ฮา ด่าตนเองไง
ฉันกับเจเจ้พอเราเดินตลาดกันแล้ว เราก็มานั่งร้านเหล้าค่ะตามสเต็ปล่ะ เจเจ้ก็สาวสายดริ้งค์คนหนึ่งเด้อจะบอกให้ ฉันสู้เจเจ้ไม่ได้หรอกเรื่องนี้ พวกเราไม่ได้นั่งสองคนหรอกค่ะ พี่สาวโทรเรียกเพื่อนมาอีกสองคน โทรสามแหละแต่มาสอง จะได้ไม่เขินนั่งกันสองคน ฉันก็ไม่กล้าดื่มอะไรมากมาย กลัวกลับบ้านไม่ได้
“เจเจเดี๋ยววันหลังกูพาไปอีกที่ สนุกกว่านี้เยอะ “ พี่สาวบอกกับฉัน
“ไปที่ไหนอ่ะ” ฉันถาม
“เออน่า เดี๋ยวก็รู้ ให้มืงได้งานก่อน “ แล้วพี่สาวก็หันไปคุยกับเพื่อน ๆ ของพี่ต่อ ฉันก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปคนเดียว เหงาดีนะตอนนั้น อยากมีแฟนคุยโทรศัพท์กัน ฉันพูดตรง ๆ งือ… เป็นโสดมันก็ดีแต่บางทีมันก็เหงานะ ฮ่วย
‘มืงที่บ่นโสดทุกวัน แต่พอมีคนมาคุยก็ไม่เอา’ เพราะเหงาฉันจึงทักไปหาเพื่อนซี้ แล้วก็โดนมันต่อว่าไปอีก เอ้าคิดดูสิก็มันไม่ถูกใจไง ไม่ถูกใจจะคุยทำไมใช่มั้ย ก็เลยต้องโสดต่อไป แต่มันเหงานะ ! เทวดาเข้าใจเจเจบ้างมั้ย หึหึ ฉันงอนแล้วนะ ทำไมต้องให้ฉันโสด อุ้ย ! ท่าจะบ้าแล้วเรา ฮา บ่นอะไรคนเดียว เออโสดไปแบบนี้แหละดีแล้ว เห็นมั้ยตามีกับพี่ด็อกเก๊กโสดยังไม่เห็นตายเลย
ฉันลืมบอกไปว่า วันนี้ฉันเจอกรีนอีกคนด้วยก่อนจะกลับ ฉันทักกรีนก่อนแต่ก็ลืมถามเรื่องงานอีก เซ็งเลยค่ะ ลืมถามว่าบริษัทต้องรักเรียกกรีนไปทำงานหรือยัง ลืมอ่ะ ! เสียดาย ถึงอย่างไรยังไม่ถึงสิ้นเดือนก็ยังมีหวังล่ะ ได้บริษัทไหนก็เอาไปก่อนแหละ ทำ ๆ ไปก่อนไม่ถูกใจค่อยว่ากันทีหลัง
ฉันง่วงนอนแล้วค่ะ สัญญาว่าฉันจะนอนจริง ๆ ไม่แอบเปิดซีรี่ส์อินเดียดูแน่นอน นอนจริง ๆ ฮ่วย แค่นี้แหละ ง่วงนอนแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมาเขียนอีกนะว่าพบเจออะไรมาบ้าง สำหรับวันนี้นอนแล้ว ฝันดี
สวัสดี…………jj
จบบท…
https://ppantip.com/topic/40945101…..บทที่ 3
บันทึกของเจเจ…..บทที่ 4
.
สวัสดีค่ะ เจเจมาแล้ว กลีบจันทร์ไงจะใครล่ะ
ไม่ได้เขียนบันทึกอีกแล้วค่ะ มัวแต่ไปเที่ยว และ ก็มัวแต่ดูซีรี่ส์อ่ะดิ ติดงอมแงมเลยค่ะ พอเที่ยวกลับมาก็ง่วงแล้วนอนเลย พอดูซีรี่ส์ดูเพลินไปหน่อยง่วงไม่รู้ตัวก็หลับเลย นี่ยังดูไม่จบเลยนะคะ เดี๋ยวเขียนไดอารี่ก่อนเดี๋ยวจะกลับไปดูใหม่
ไม่ได้เขียนไดอารี่ไปสองวันคงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะเรา จำได้อยู่ว่าผ่านอะไรมาบ้างในแต่ละวัน เดี๋ยวฉันจะไล่มาให้หมดเลยว่าไปเจออะไรบ้าง จะให้เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าเลยไหมละว่าฉันทำอะไรบ้าง แค่คิดก็ปวดมือจะแย่อยู่แล้ว เอาล่ะ ! ฉันจะย่อเรื่องเล่าให้สั้น ๆ กระชับใจความละกันว่า ระหว่างสองวันนี้ฉันได้ทำอะไรไปบ้าง นอกจากจะลืมนะ
หลังจากวันที่ไปสมัครงานมาก็ไม่ได้ไปอีกเลยค่ะ ฉันจึงเป็นคนว่างงาน อยู่บ้านคนเดียวไปอีกกับลุงและป้า พี่สาวไปทำงาน ระหว่างรองานก็หาอะไรทำช่วยลุงกับป้านั่นแหละ ทำตัวให้เป็นประโยชน์ที่สุด เอาเข้าจริงฉันแอบอึดอัดนะคะ นี่คิดว่าถ้าได้งานจะขอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกต่างหาก ไม่รู้ลุงจะอนุญาตหรือเปล่า
ตอนเช้า ๆ ไม่มีอะไรทำเช่นเคย ปล่อยรถให้ลุงค่ะ ให้คนมาเช่าแท็กซี่ไปขับ ตอนเย็นก็รับรถเก็บค่าเช่ากับเขานั่นแหละ ที่บ้านของลุงดูจะวุ่นวายไปหน่อยกับคนขับแท็กซี่ เพราะเราอยู่กันแบบครอบครัวกับคนขับแท็กซี่ มีข้าวมีน้ำให้กินเสมอ ฉันขี้เกียจจะพูดคุยด้วย ไม่ชอบอะไรแบบนี้ ไม่ชอบความวุ่นวาย แล้วคนที่มาเช่าขับคนอีสานทั้งนั้น พูดกันแตกโคบ ๆ อยู่ วุ่นวายมาก ! เอ่อ แตกโคบ ๆ แปลว่า พูดกันเสียงดังจอแจมั้งคะ ฮา ฉันก็ไม่ค่อยจะเข้าใจหรอกค่ะ
ทุกวันป้าจะทำแกงหม้อใหญ่รอคนขับแท็กซี่ค่ะ ฉันไม่ได้เป็นลูกมือหรอก พี่สาวก็ไม่ได้เป็นเช่นกันเพราะตื่นสาย ฮา จะทำแค่ตื่นมาปล่อยรถนี่แหละ ทันบ้างไม่ทันบ้าง
มีคุณตาคนหนึ่งน่าสงสารมากค่ะ ชื่อตามี แกโสดนะชายโสดเลยนะคะ แก่มาก ! อยู่คนเดียวแก่แล้วก็ยังมาขับแท็กซี่อีก ฉันยังคิดว่าจะพาผู้โดยสารไปส่งไหวเหรอ ไม่ขับก็ไม่มีกิน ป้าสงสารเลี้ยงดีกว่าใคร ๆ เลย เห็นว่าเลี้ยงเอาบุญว่าอย่างนั้น
สงสารเพราะถ้าไม่กินข้าวจากที่นี่ก็ไม่มีใครทำให้กินเลย เพราะตัวคนเดียวจริง ๆ ตอนเช้ากินข้าวเช้าที่นี่ ตอนเย็นเอารถมาส่งก็กินมื้อเย็นที่นี่ทุก ๆ วัน ค่าเช่าได้เต็มบ้างได้ไม่ครบบ้างป้าอนุโลม คนอื่นอย่าได้เบี้ยวเชียว
“เงินน่ะเก็บไว้ซื้อข้าวบ้าง เอาไปซื้อแต่เหล้ากั๊ก” ลุงของฉันบ่นให้ตามี เพราะตอนมาส่งรถเห็นเดินไปซื้อเหล้ากั๊กกับร้านค้าข้างอู่ แกชอบดื่มเหล้าจริง ๆ เอารถมาส่งแต่ละวัน มีเหล้าขวดน้อยมาด้วยตลอด
“กูดื่มนิดเดียวเอง เงินกูเก็บไว้ให้แฟน เวลาสาวอยากได้นั้นอยากได้นี่กูก็ซื้อให้” ปั๊ดโธ๊ตามี ! มีสาวด้วย ฮา ฉันกับป้าหัวเราะ
“เอาเงินให้แต่สาว ตัวเองขับแท็กซี่เหลือใช้วันละกี่บาท” ป้าพูด แววตาของป้าเอ็นดูตามีมาก “มีตะคนล้อเอาเงินลาว ๆ กะให้เขา” ป้าหันมากระซิบฉัน
“ดื่มได้ ! แต่ต้องเป็นตอนเอารถมาส่งผมแล้วนะ อย่าดื่มแล้วไปขับรถผม ไม่งั้นผมไม่ให้ขับจริง ๆ ด้วย ห่วงผู้โดยสาร” ลุงกำชับ
“เออ ! รู้แล้วน่า “ ตามีตอบ
“กินล่ะบ่ข้าว มากินถ้าแหมะนำเขาหนิ” แล้วลุงก็เดินไปตักข้าวใส่จานให้ตามี เป็นแบบนี้ประจำ ลุงจะนำโต๊ะม้าหินอ่อนขนาดยาวมาวางไว้ที่หลังบ้าน ไว้ให้คนขับแท็กซี่นั่งทานข้าว วางหม้อหุงข้าวกับหม้อแกงไว้หิวก็เดินมาตักเองเลย ส่วนคนในครอบครัวกินต่างหาก หรือ จะกินด้วยก็ได้ ฉันไม่ค่อยกินหรอก ไม่ได้แบ่งชนชั้นหรือรังเกียจนะ แต่แบบมันวุ่นวาย เสียงดังฉันไม่ค่อยชอบ
ฉันพูดคุยกับคนขับแท็กซี่จนจะได้แฟนเป็นคนขับแท็กซี่อยู่แล้ว แทะโลมเก่งเหลือเกินบางคน ไม่ดูสารรูปตัวเองกันเลย บางคนก็ขี้โม้เหลือเกิน จบ ป.โทแต่อยากมาขับแท็กซี่ ใครจะเชื่อ !
มีผู้ชายคนหนึ่งอายุราว ๆ สี่สิบ ชื่อพี่เก๊กค่ะ ขี้เก๊กสมชื่อเลย โสดเหมือนกัน บอกตนเองจบ ป.โท แต่อยากมาขับแท็กซี่ ขี้โม้มาก ! เห็นว่าเป็นญาติห่าง ๆ ของป้าด้วยก็เลยยอมให้เช่าขับรถแท็กซี่ เหมือนเกิน ๆ มากกว่านะ ไม่ใช่ไม่เต็ม ฮา
ลุงชอบเรียกไอ้ด็อกเตอร์ เรียกด็อกเตอร์กันทั้งบ้าน ชอบโม้เรื่องเรียน เรื่องทำงาน เบื่อ ๆ จึงออกจากงานประจำอยากขับแท็กซี่พะนะ ฉันก็อือ ๆ เออ ๆ ออ ๆ ไปด้วยแหละ ด็อกเตอร์มาส่งรถทีไรเป็นต้องฮาทุกที ตอนเช้าไม่ได้ฮา เพราะรีบเอารถออก ส่วนฉันเป็นหลานลุงค่ะ ลืมบอก ! พี่ด็อก เอ้ยพี่เก๊กเป็นญาติห่าง ๆ ของป้า ฉันหลานแท้ ๆ เลย พ่อเป็นน้องชายของลุง นี่ถ้ามีหนุ่ม ๆ วัยประมาณฉันมาขับแท็กซี่มิวายได้แฟนแน่กู เอ้ย ฉัน ! ฮา
วันนี้ฉันรอโทรศัพท์ทั้งวันเลยนะคะ จะมีบริษัทไหนเรียกฉันบ้างไหม อยากให้บริษัทต้องรักเรียกฉันมาก ๆ เลยค่ะ นึกถึงกรีนผู้หญิงคนนั้น นึกถึงนายหลุยส์ด้วย ป่านนี้สองคนนี้ได้งานกันแล้วมั้ง ไม่ได้ขอเบอร์ ขอไลน์ และ เฟซบุ๊กไว้ด้วยสิ
ระหว่างวันลุงก็ลงผลไม้หน้าบ้านด้วย ฉันอีกแหละเป็นคนนั่งเฝ้านั่งขาย เป็นผลไม้ตามฤดูกาลค่ะ นำรถกระบะมาจอดตรงหน้าบ้าน แล้วก็เปิดกระบะขาย ก็พอได้ขายนะคะ ทว่าฉันคงไม่คิดจะเป็นแม่ค้าหรอกค่ะ ยังมีความฝันอยากเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่
ถัดไปจากอู่แท็กซี่ของลุงเป็นโรงงานตึกแถวค่ะ เป็นโรงงานครอบครัวของคนจีน เฮ้อ ! คงไม่ใช่ที่สุดท้ายของฉันหรอกนะ โรงงานน่ะ ! ไม่ได้ดูหมิ่นแต่ขอเลือกก่อนได้ไหมล่ะ งือ… เมื่อไหร่บริษัทที่สมัครงานไปจะโทรมาคอนเฟิร์มสักที รอจนท้อแล้วนะ แฮ่ ความจริงผ่านไปแค่สามวันเอง
หม่อมแม่ก็โทรถามเก่งเหลือเกิน ได้งานหรือยัง ! พึ่งจะสมัครไปเอง ใครเขาจะเรียก มันต้องรอดูช่วงปลายเดือนไหม เพราะต้องเริ่มงานในต้นเดือน ใครเขาจะเรียกให้เริ่มงานกลางเดือนล่ะ ฉันล่ะรำคาญแม่จริง ๆ โทรมาถามตลอดเวลา
ชีวิตของฉันที่รองานก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ เช้าส่งรถ กลางวันขายผลไม้ให้ลุง เย็นรับรถวนเวียนอยู่แบบนี้ ระหว่างนั้นก็ดูซีรี่ย์แก้เบื่อ ตอนนี้นะทุกคน ฉันติดซีรี่ส์อินเดียมาก ! เหอะ ‘มหากาลีเทวีผู้พิทักษ์โลก’พุ่นแหล่ว ข้าคือพระแม่ปารวตี บู้ย ฮา กลีบจันทร์เอง ปาราวตีที่ไหน !
สนุก จริง ๆ นะคะ ฉันนี่ติดมากจนไม่อยากขายผลไม้ให้ลูกค้าเลย ขัดจังหวะไง สักพักก็โอมนะมะศิวะอีกล่ะ ฮา พระศิวะสามีของพระแม่ปารวตี ไม่อยากสปอยล์ให้ฟังเลย ไปหาดูเองแล้วกันนะ คราวนี้ก็มีสุมกับนิสุมอสูรสองพี่น้องอีก สองคนนี้วุ่นวายเหลือเกิน ชอบมาวุ่นวายกับเขาไกรลาสอีกเด้บาดหนิ สนุกจริงค่ะ ฉันยังดูไม่จบเลยจะต้องดูให้จบล่ะ วันนี้ต้องมาเขียนไดอารี่ก่อน หยุดไปสองคืนแล้ว
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่งานยังไม่ได้ทำเลย เจเจ้ก็ชวนเที่ยวเก่งมาก เมื่อคืนพี่สาวชวนไปร้านเหล้าฟังเพลงเบา ๆ ค่ะ สนุกนะ ฉันชอบอะไรแบบนี้ค่ะ ไม่ได้เป็นคนชอบเที่ยวกลางคืน แต่ขอบ้างอะไรบ้าง นี่ฉันแอบคิดนะว่า ถ้ามีงานทำนะ ถ้ามีเพื่อนสนิทนะ ฉันจะชวนเพื่อน ๆ มาทุกวันเงินเดือนออกเลยคอยดู มีตติ้งไง ของมันต้องเที่ยวบ้าง กรี๊ด ! แค่คิดก็สนุกแล้วค่ะทุกคน ขอให้ได้งานทีเถอะสาธุ !
เมื่อคืนพี่สาวพาฉันไปเดินตลาดนัดรถไฟด้วย ไม่ได้อะไรหรอก ไม่อยากใช้ตังค์ค่ะ งานยังไม่ได้ทำเลย ตังค์หมดโทรขอหม่อมแม่มีหวังโดนด่าไปอีก อยู่กับลุงกับป้าก็ไม่ได้ซื้ออะไรนะ ข้าวก็มีให้กิน จึงไม่ค่อยเดือดร้อนนัก แต่ตอนนี้ใจร้อนเป็นไฟเรื่องงานมากกว่า อยากให้พวกบริษัทโทรมาว่า ‘คุณได้งานแล้วนะคะ เริ่มงานวันที่หนึ่งเดือนหน้า’ อะไรแบบนี้ ฉันจะสบายใจในการใช้ชีวิตมาก นี่อะไรเงียบไปหมดเลย หึหึ
ระหว่างเดินตลาดฉันเจอหลุยส์ด้วย ดูเหมือนหลุยส์จะจำฉันได้นะ ฉันเองก็จำหลุยส์ได้แม่นยำเลย ฉันก็ไม่กล้าทักหรอกค่ะ เราแค่มอง ๆ กันเฉย ๆ เสียดายเนอะ ฉันน่าจะถามหลุยส์ว่าได้งานหรือยัง บางทีบริษัทต้องรักอาจจะเรียกหลุยส์กับกรีนแล้วก็ได้ ฉันไม่ผ่านการคัดเลือกไง บริษัทจึงไม่โทรมา เฮ้อ ช่างเหอะ หาบริษัทใหม่ก็ได้ แต่ชอบพี่เขาไงพี่เต๊ก ปลื้มแหละ เออ ปลื้ม ! ฮา เขาตลกนะ ฉันชอบคนตลก ๆ
เอาจริง ๆ จากใจเลยนะ ในมุมมองผู้หญิงอย่างฉัน หลุยส์เค้าก็ใช้ได้นะ หน้าตาธรรมดาแต่ว่าก็ไม่ได้ขี้เหร่ นี่ ๆ ที่ฉันพูดเนี่ย ไม่ได้จะชอบเขาหรอกนะ ยัยเจเจหยุดคิดไปเลยเธอ ยัยบ้า ! ฮา ด่าตนเองไง
ฉันกับเจเจ้พอเราเดินตลาดกันแล้ว เราก็มานั่งร้านเหล้าค่ะตามสเต็ปล่ะ เจเจ้ก็สาวสายดริ้งค์คนหนึ่งเด้อจะบอกให้ ฉันสู้เจเจ้ไม่ได้หรอกเรื่องนี้ พวกเราไม่ได้นั่งสองคนหรอกค่ะ พี่สาวโทรเรียกเพื่อนมาอีกสองคน โทรสามแหละแต่มาสอง จะได้ไม่เขินนั่งกันสองคน ฉันก็ไม่กล้าดื่มอะไรมากมาย กลัวกลับบ้านไม่ได้
“เจเจเดี๋ยววันหลังกูพาไปอีกที่ สนุกกว่านี้เยอะ “ พี่สาวบอกกับฉัน
“ไปที่ไหนอ่ะ” ฉันถาม
“เออน่า เดี๋ยวก็รู้ ให้มืงได้งานก่อน “ แล้วพี่สาวก็หันไปคุยกับเพื่อน ๆ ของพี่ต่อ ฉันก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปคนเดียว เหงาดีนะตอนนั้น อยากมีแฟนคุยโทรศัพท์กัน ฉันพูดตรง ๆ งือ… เป็นโสดมันก็ดีแต่บางทีมันก็เหงานะ ฮ่วย
‘มืงที่บ่นโสดทุกวัน แต่พอมีคนมาคุยก็ไม่เอา’ เพราะเหงาฉันจึงทักไปหาเพื่อนซี้ แล้วก็โดนมันต่อว่าไปอีก เอ้าคิดดูสิก็มันไม่ถูกใจไง ไม่ถูกใจจะคุยทำไมใช่มั้ย ก็เลยต้องโสดต่อไป แต่มันเหงานะ ! เทวดาเข้าใจเจเจบ้างมั้ย หึหึ ฉันงอนแล้วนะ ทำไมต้องให้ฉันโสด อุ้ย ! ท่าจะบ้าแล้วเรา ฮา บ่นอะไรคนเดียว เออโสดไปแบบนี้แหละดีแล้ว เห็นมั้ยตามีกับพี่ด็อกเก๊กโสดยังไม่เห็นตายเลย
ฉันลืมบอกไปว่า วันนี้ฉันเจอกรีนอีกคนด้วยก่อนจะกลับ ฉันทักกรีนก่อนแต่ก็ลืมถามเรื่องงานอีก เซ็งเลยค่ะ ลืมถามว่าบริษัทต้องรักเรียกกรีนไปทำงานหรือยัง ลืมอ่ะ ! เสียดาย ถึงอย่างไรยังไม่ถึงสิ้นเดือนก็ยังมีหวังล่ะ ได้บริษัทไหนก็เอาไปก่อนแหละ ทำ ๆ ไปก่อนไม่ถูกใจค่อยว่ากันทีหลัง
ฉันง่วงนอนแล้วค่ะ สัญญาว่าฉันจะนอนจริง ๆ ไม่แอบเปิดซีรี่ส์อินเดียดูแน่นอน นอนจริง ๆ ฮ่วย แค่นี้แหละ ง่วงนอนแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมาเขียนอีกนะว่าพบเจออะไรมาบ้าง สำหรับวันนี้นอนแล้ว ฝันดี
สวัสดี…………jj
จบบท…
https://ppantip.com/topic/40945101…..บทที่ 3