บันทึกของเจเจ บทที่ 7



.

           วันที่….

             มาแล้ว! สวัสดีฉันเจเจกลีบจันทร์เอง

               ฉันพึ่งจะว่างน่ะ กว่าจะทานข้าวเสร็จ ทำนู่นทำนี่เสร็จก็ปาไปดึกอยู่เหมือนกัน วันนี้ฉันไปสัมภาษณ์ที่บริษัทต้องรักมา และก็ดีใจมากเลยที่ได้เจอหลุยส์ หลุยส์ก็ไปสัมภาษณ์ด้วย เราได้คุยกันมากขึ้นนะ  

               หลุยส์บอกว่าได้งานโรงงาน ทำรองานที่สมัครไว้นี่แหละ ไม่อยากว่างงานก็เลยสมัครโรงงานทำไปก่อน พอบริษัทต้องรักเรียกก็ดีใจมากเหมือนกัน ถ้าสัมภาษณ์ผ่านหลุยส์ก็พร้อมจะเริ่มงานเลย ฉันเองก็เหมือนกัน

             ส่วนกรีนไม่มาสัมภาษณ์เลย ฉันไม่เห็นกรีนเลยนะ น่าจะได้งานที่อื่นไปแล้ว วาสนาจะไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ช่างเถอะ อย่างน้อยหลุยส์ก็มาแหละ หรือถ้าหลุยส์ไม่มาฉันก็ไม่เห็นเป็นไร ทว่าวันนี้มันดีใจที่สุดที่หลุยส์มา อิอิ

               พวกเราได้เข้าไปสัมภาษณ์ทีละคน โดยคนสัมภาษณ์ก็คือพี่เต๊กเอง เป็นคนอัธยาศัยดีมาก อารมณ์ดี แต่พอได้ทำงานด้วยกันจริง ๆ ไม่รู้จะโอเคหรือเปล่า ช่างเถอะค่อย ๆ เรียนรู้กันไปแหละ ฉันหวังแค่ว่าฉันจะสัมภาษณ์ผ่านก็พอ ไม่อยากว่างงานอีกแล้ว เบื่ออยู่บ้านเต็มทน แม่ของฉันนะก็จ้องจะเรียกตัวกลับบ้านตลอด ถ้าฉันยังว่างงานอยู่แบบนั้น

              เมื่อเช้าฉันตื่นแต่เช้าแต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่หัวจดเท้ากันเลย วันแรกก็อยากให้ฝ่ายบุคคลประทับใจนี่นา เขาก็ดูทุกอย่างนั่นแหละ การวางตัว พูดจา แม้กระทั่งการแต่งตัว เขาดูหมด เพราะฉะนั้นฉันต้องดูดีไว้ก่อน

                ฉันไม่ได้ให้เจเจ้พามาสัมภาษณ์หรอก ฉันนั่งบีทีเอสมาเองคนเดียว อยากลองไปไหนมาไหนเองบ้าง ถ้ากลับไม่ถูกค่อยโทรหาเจเจ้ก็ได้ ฉันมาถึงบริษัทต้องรักก็ตื่นเต้นมาก

               เห็นหลายคนเลยนะที่มาสัมภาษณ์ในวันนี้ ตำแหน่งไหนบ้างก็ไม่รู้ ฉันแอบมองหาหลุยส์ ภาวนาขอให้หลุยส์มาในวันนี้ด้วย และแล้วฉันก็ยิ้มออกเมื่อเจอใครคนหนึ่งที่คุ้นตา นั่นคือหลุยส์เอง

               ฉันรีบเดินไปหาหลุยส์ทันที “นาย! นายจำเราได้มั้ยที่เรามาสมัครงานพร้อมกันอ่ะ เจเจเอง” ฉันเป็นฝ่ายเข้าไปทักหลุยส์ก่อน ไม่อายหรอกด้านได้อายอดได้เพื่อน

             หลุยส์มองหน้าฉัน ยิ้มให้กับฉันก่อนจะตอบว่าจำฉันได้เช่นกัน “อีกคนไปไหนอ่ะ ยังไม่เห็นมาเลย” หลุยส์ถามหากรีน

             “เราก็มองหากรีนเหมือนกัน ไม่เห็นเลย เฟซบุ๊กก็ไม่มี เบอร์ก็ไม่มีด้วย รู้งี้นะขอไว้ซะก็ดี” ฉันตอบแบบเสียดาย อย่างน้อย ๆ เริ่มงานใหม่แบบนี้ก็ยังจะพอมีเพื่อนอยู่บ้าง “หลุยส์ทำงานอะไรอ่ะตอนนี้ ส่วนเราว่างงาน ฮา” ฉันพูดกลั้วยิ้ม ถามหลุยส์ด้วยความอยากรู้

              “เราทำโรงงานรออ่ะ นี่ก็ดีใจมากได้มาสัมภาษณ์ เหนื่อยชะมัด มีแต่คนถามจบ ป.ตรีมาทำโรงงานทำไม โห่! ถ้ามันเลือกได้ก็คงไม่มาหรอก” หลุยส์เล่าอย่างคนอารมณ์ดี หน้าตาธรรมดา ๆ แต่ภาพรวมดูดีทุกอย่าง

             “เราไม่ได้ทำอะไรเลย ว่างงาน ขายผลไม้ให้ป้ากับลุง” ฉันเองก็เล่าหมดเปลือกแบบไม่กัก พวกเราคุยกันฆ่าเวลา พอถึงเวลาเข้างานของพวกพนักงานที่นี่ พวกเราก็เข้าไปนั่งรอสัมภาษณ์

             “เดี๋ยวสัมภาษณ์ทีละคนนะคะ เชิญคุณนรากรค่ะ” พนักงานฝ่ายบุคคลเรียกเพื่อน ๆ ที่มาสัมภาษณ์พร้อมฉันเข้าไปสัมภาษณ์ก่อน

            “ตื่นเต้นอ่ะ เราจะสัมภาษณ์ผ่านมั้ย” บอกตรง ๆ ฉันตื่นเต้นมากเลย กลัวก็กลัวตื่นเต้นก็ตื่นเต้น กลัวไม่ผ่าน กลัวไม่ได้งาน ระแวงไปหมด

             “ผ่าน! ต้องผ่านอยู่แล้ว” หลุยส์เองก็คงจะลุ้นเหมือนกัน ไม่นานคนที่ชื่อนรากรก็เดินกลับออกมาจากในห้องอย่างหน้าชื่นตาบาน คงจะผ่านแน่เลย ทว่าหยิ่งชะมัด คนอะไรจะพูดคุยกันถามกันหน่อยก็ไม่ได้ หัวอกเดียวกันคือมาของานทำเหมือนกัน มาสัมภาษณ์พร้อมกัน จะทักทายกันสักหน่อยก็ไม่มี

             “คนต่อไปคุณรัฐศาสตร์ค่ะ” พนักงานสาวคนเดิมเดินมาเรียก คิวต่อไปคือหลุยส์ ฉันตื่นเต้นมาก ๆ เลยแหละ ลุ้นภาวนาให้หลุยส์สัมภาษณ์ผ่านด้วย ทั้งลุ้นให้ตัวเอง ทั้งลุ้นให้หลุยส์ด้วยคน มันตื่นเต้นมากอย่างมากที่สุด รอลุ้นว่าหลุยส์จะกลับออกมาด้วยสีหน้าท่าทางแบบไหน

              สักพักหลุยส์ก็เดินคอตกออกมา ฉันมองไปที่แววตาและสีหน้าของหลุยส์ หรือว่า! หลุยส์มองหน้าฉัน แววตานั้น ท่าทางนั้น เฮ้ย! หรือว่าหลุยส์สัมภาษณ์ไม่ผ่าน แต่แล้วหลุยส์ก็ยิ้มกว้างอวดฟันขาวเรียงกันสวยงามให้ฉัน สรุปมันยังไงกันแน่นายหลุยส์ หึหึ ฉันหัวใจจะวายนะ

              “เราผ่านเว้ย! ฮา เริ่มงานพรุ่งนี้เลย” ที่แท้หลุยส์แกล้งฉัน! หึหึ ให้ตายเถอะนายบ้า ทำฉันตกใจหมดเลย และฉันก็ยิ้มแสดงความยินดีด้วย

            “เค้าถามอะไรบ้างอ่ะ” ฉันถามหลุยส์ ยังไม่ถึงคิวของฉันหรอก ก็ดีเหมือนกันจะได้มีเวลาเตรียมตัว รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ฉันเก็บข้อมูลจากหลุยส์ เผื่อโดนถามอะไรมาจะได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทัน

               “นายจะกลับเลยเหรอ ที่พักนายอยู่ไกลมั้ยอ่ะ” ฉันถาม ดีใจกับหลุยส์จริง ๆ

             “ที่พักก็ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก ยังไม่กลับ รอฟังข่าวดีจากเธออยู่” หลุยส์ตอบ ทำเอาฉันยิ้มเลย

               “คุณกลีบจันทร์เชิญค่ะ” ฉันถูกเรียกให้เข้าไปสัมภาษณ์แล้ว หลุยส์ยกมือสู้ ๆ ให้กับฉัน จากนั้นฉันจึงเดินตามพนักงานสาวเข้าไปข้างใน

              “สวัสดีครับ เชิญนั่งครับ” คนสัมภาษณ์ฉันก็คือพี่เต๊กเอง คือ ฉันจำหน้าได้ รู้จัก และ จำได้แล้วว่าคน ๆ นี้ชื่อเต๊ก “อือ เราแนะนำตัวกับพี่อีกรอบหน่อยครับ พี่จำไม่ได้”

             “ได้ค่ะ หนูชื่อ กลีบจันทร์ ชื่อเล่นเจเจค่ะ” ฉันแนะนำตัวเอง คณะและมหาวิทยาลัยที่จบมา พี่เต๊กก็ฟังฉันแนะนำตัวพร้อมดูเอกสารสมัครงานของฉันไปด้วย

             พี่เต๊กถามฉันทีเล่นที่จริง หมายถึงจริงจังบ้าง ถามเล่นบ้าง จะดูอะไรฉันหรือไง หมายถึงจิตวิทยาอ่ะบางคำถามก็ทำให้ฉันฉุกคิดว่า สัมภาษณ์งานถามแบบนี้ก็มี ฮา คือ ไม่ได้ซีเรียสนะ แต่พึ่งรู้ไง! ฉันนี่ก็จริงจังข้อมูลต้องเป๊ะไปหมดซะทุกอย่างเลย

            “เรามีพี่น้องกี่คน” หลังจากที่พี่เต๊กสอบถามข้อมูลฉันไปหมดแล้ว ก็ถามเรื่องส่วนตัวบ้าง

             “สองคนค่ะ” ฉันตอบปนยิ้ม

             “เราเป็นคนที่เท่าไหร่” พี่เต๊กถามปนรอยยิ้มเหมือนกัน น่ารักมาก ใครได้เป็นแฟนนะคงหลงน่าดู

              “เป็นคนกลางค่ะ” ฉันตอบอย่ามั่นใจ

              “ฮะ!” พี่เต๊กอุทาน “พี่ถามเราว่าเรามีพี่น้องกี่คน”

               “ก็สองคนค่ะ หนูมีพี่น้องสองคน หนูเป็นคนกลาง มีพี่หนึ่งคน มีน้องหนึ่งคน” ฉันตอบอย่างมั่นใจ ก็ถูกแล้วไง มีพี่น้องสองคน ถ้าพี่หนึ่งคน น้องสองคนก็จะรวมกันเป็นพี่น้องสามคน

               พี่เต๊กหัวเราะอึกอัก หัวเราะฉันไปอีก “นี่เรามาจากตลกคณะไหนหนิ โอเค! สรุปคือมีพี่หนึ่งคน เรา และ น้องหนึ่งคน รวมกันเป็นสามคนนะ โอเคครับ พรุ่งนี้มาเริ่มงานกับพี่ได้เลย” พี่เต๊กกล่าว ฉันดีใจมาก แทบอยากกรี๊ด ณ ตรงนี้เลยถ้าทำได้อ่ะนะ

             ฉันเดินยิ้มออกมาหน้าบานเลย ไม่แกล้งทำเป็นเศร้าคอตกเหมือนหลุยส์หรอก ฉันเดินไปหาหลุยส์แจ้งข่าวดีให้หลุยส์ทราบเหมือนกัน จากนั้นพวกเราก็กลับบ้าน

             ฉันกับหลุยส์เดินมาขึ้นบีทีเอสด้วยกัน ฉันลงก่อนหลุยส์ ส่วนหลุยส์ต้องต่อไปอีกหลายป้ายเลยแหละ “พรุ่งนี้เจอกันนะ”

             “อือ” จากนั้นพวกเราก็แยกกัน ฉันกับหลุยส์เราแลกไลน์กันแล้วล่ะ เป็นเพื่อนกันแล้ว

              กลับมาถึงบ้านฉันแจ้งข่าวดีกับทุกคน ทุกคนดีใจกับฉันมาก ๆ เจเจ้พาไปเลี้ยงหมูกระทะนอกบ้าน นี่ก็พึ่งกลับมาแหละ ฉันพึ่งได้มาเขียนไดอารี่ ฉันโทรไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ดีใจไปกับฉันด้วย คงจะโล่งใจล่ะสิที่ฉันได้งานสักที

              สำหรับวันนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นฉันประทับใจมาก ๆ แต่เสียใจอยู่เรื่องเดียว คือ ไม่เจอกรีนเลย กรีนไม่ยอมมาสัมภาษณ์ เสียดายนะ ช่างเถอะเพราะแต่ละคนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไปนี่นา

              สำหรับวันนี้ฉันง่วงนอนแล้ว พอแค่นี้ก่อน แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาเล่าให้ฟังอีกนะว่าฉันเจออะไรมาบ้าง สำหรับวันนี้นอนละ

            สวัสดี………………………………jj

จบบท…

https://ppantip.com/topic/41056703 บทที่ 1-6

เอามาปัดหยักไย่เคาะฝุ่นก่อน ดองไว้นานแล้ว มันต้องจบ! ทุกเรื่อง! เขียนมิจบมิใช่ Chalun Ch เด้อ^^ แหแหแห 😻😻😻

จบแบบลวก ๆ ไว้ก่อน เพราะในอนาคตรีไรท์ใหม่แน่นอน ปูพล็อตไว้ก่อนน้อ…
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่