โพล ชี้ ประชาชน 58.49% หนุน แก้ รธน.ทั้งฉบับ เห็นควรให้ ส.ส.ร. ยกร่างฯ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2054255
โพล ชี้ชัด ประชาชนส่วนใหญ่ 58.49% หนุน แก้ รธน.ปี 60 ทั้งฉบับ ขณะ 59.86% เห็นควรให้ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศ เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ
วันที่ 21 มี.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “
นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “
ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,313 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “
นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่าง ด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามการตัดสินใจของประชาชน หากวันนี้เป็นวันลงประชามติ เรื่อง “
ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” พบว่า
ส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.49 ระบุว่า ประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ)
รองลงมา ร้อยละ 25.13 ระบุว่า ไม่ประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ)
ร้อยละ 6.48 ระบุว่า ไม่ไปลงประชามติ
ร้อยละ 5.94 ระบุว่า ไปลงประชามติ ไม่เลือกข้อใด (Vote NO)
และร้อยละ 3.96 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงบุคคลที่ควรเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ หากมีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พบว่า
ส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.86 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศ
รองลงมา ร้อยละ 21.86 ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)
ร้อยละ 17.75 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหา จากมหาวิทยาลัย
ร้อยละ 11.88 ระบุว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
ร้อยละ 10.97 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหา จากรัฐบาล
ร้อยละ 9.75 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหา จากรัฐสภา
และร้อยละ 8.38 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ/ไม่ตอบ
โพลระบุประชาชนมอง 'ตกงาน' เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้
https://prachatai.com/journal/2021/03/92214
โพลระบุประชาชนมอง 'ตกงาน' เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้
สวนดุสิตโพลสำรวจ 1,155 คน พบ 65.94% มอง 'ตกงาน' เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้ ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล 56.66% อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยให้มีการฝึกอาชีพ สร้างอาชีพเสริม
21 มี.ค. 2564 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,155 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. 2564 พบว่า ตั้งแต่มีโควิด-19 ประชาชนใช้จ่ายเรื่องสุขภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 38.65 แต่เงินออมลดลง ร้อยละ 47.10 เมื่อต้องใช้เงินฉุกเฉินจะนำเงินเก็บส่วนตัวออกมาใช้ ร้อยละ 55.23 โดยมองว่าสถานการณ์ “ตกงาน” ณ วันนี้ ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล ร้อยละ 65.94 จึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยให้มีการฝึกอาชีพ สร้างอาชีพเสริมให้กับประชาชน ร้อยละ 56.66
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าไม่ว่าจะก่อนหรือหลังมีโควิด-19 ตัวเลขการตกงานของคนไทยก็ไม่ได้อยู่ในสภาวะที่สบายใจได้เท่าใดนัก เมื่อโควิด-19 เข้ามาจึงเป็นเหมือนตัวเร่งให้ยอดคนตกงานพุ่งสูงขึ้น แรงงานอีกหลายส่วนก็ยังอยู่ในสถานะที่ไม่รู้ว่าจะยื้อไปได้อีกนานแค่ไหน ปัญหาตกงานจึงเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้ และควรจะต้องเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลด้วยเช่นกัน เพราะหากมุ่งแก้เฉพาะปัญหาการเมือง สุดท้ายแล้วเศรษฐกิจไทยจะหลับลึกและไม่ตื่นก็เป็นได้
ด้าน ผศ.ดร.ประศาสน์ นิยม อาจารย์ประจำหลักสูตรเศรษฐศาสตรบัณฑิต คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าในปี 2563 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลดลงถึงร้อยละ 6.6 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบ ร้อยละ 0.9 เป็นผลมาจากการที่ประชาชนมีรายได้ ชั่วโมงการทำงาน และค่าล่วงเวลาลดลง จำเป็นต้องใช้เงินออมเพื่อใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาด มีการก่อหนี้บัตรเครดิตมากขึ้น จากข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐแสดงให้เห็นว่าคนไทยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน มีรายได้ไม่เกิน 2,500 บาทต่อเดือน รวมทั้งคนไทยที่มียอดเงินฝาก ไม่เกิน 50,000 บาท สูงถึงร้อยละ 86.6 ของจำนวนบัญชีเงินฝากทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งชี้ให้เห็นถึงระดับรายได้และเงินออมของคนไทยส่วนใหญ่ต่ำมาก ปัจจุบันมีผู้ว่างงานจำนวน 650,000 คน คิดเป็นร้อยละ 1.69 ของกำลังแรงงานมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าปีก่อน
ดังนั้นทั้งภาครัฐภาคธุรกิจและภาคประชาชนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างงานและพัฒนาทักษะใหม่ เช่น การพัฒนาระบบ อี-คอมเมิร์ซ และระบบโลจิสติกส์ที่เป็นของคนไทย การส่งเสริมการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มอเตอร์ และแบตเตอรี่ การเกษตรปลอดภัยและอาหารสุขภาพ โดรนทางการเกษตร การติดตั้งโซล่าเซลล์ทั้งภาคในเมืองและภาคการเกษตร เป็นต้น
****
กระทู้ผลโพลอย่างเป็นทางการของสวนดุสิตโพลครับ
“ตกงาน” ปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้
https://ppantip.com/topic/40594255
JJNY : โพลชี้ 58.49% หนุนแก้ รธน.ทั้งฉบับ│โพลระบุปชช.มอง'ตกงาน'ปัญหาใหญ่│'หมอทศพร'เผยเจอคนถูกตีหัว│นักข่าวโดนกระสุนยาง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2054255
วันที่ 21 มี.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,313 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่าง ด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามการตัดสินใจของประชาชน หากวันนี้เป็นวันลงประชามติ เรื่อง “ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” พบว่า
ส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.49 ระบุว่า ประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ)
รองลงมา ร้อยละ 25.13 ระบุว่า ไม่ประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ)
ร้อยละ 6.48 ระบุว่า ไม่ไปลงประชามติ
ร้อยละ 5.94 ระบุว่า ไปลงประชามติ ไม่เลือกข้อใด (Vote NO)
และร้อยละ 3.96 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงบุคคลที่ควรเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ หากมีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พบว่า
ส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.86 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศ
รองลงมา ร้อยละ 21.86 ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)
ร้อยละ 17.75 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหา จากมหาวิทยาลัย
ร้อยละ 11.88 ระบุว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
ร้อยละ 10.97 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหา จากรัฐบาล
ร้อยละ 9.75 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหา จากรัฐสภา
และร้อยละ 8.38 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ/ไม่ตอบ
โพลระบุประชาชนมอง 'ตกงาน' เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้
https://prachatai.com/journal/2021/03/92214
โพลระบุประชาชนมอง 'ตกงาน' เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้
สวนดุสิตโพลสำรวจ 1,155 คน พบ 65.94% มอง 'ตกงาน' เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้ ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล 56.66% อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยให้มีการฝึกอาชีพ สร้างอาชีพเสริม
21 มี.ค. 2564 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,155 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. 2564 พบว่า ตั้งแต่มีโควิด-19 ประชาชนใช้จ่ายเรื่องสุขภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 38.65 แต่เงินออมลดลง ร้อยละ 47.10 เมื่อต้องใช้เงินฉุกเฉินจะนำเงินเก็บส่วนตัวออกมาใช้ ร้อยละ 55.23 โดยมองว่าสถานการณ์ “ตกงาน” ณ วันนี้ ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล ร้อยละ 65.94 จึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยให้มีการฝึกอาชีพ สร้างอาชีพเสริมให้กับประชาชน ร้อยละ 56.66
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าไม่ว่าจะก่อนหรือหลังมีโควิด-19 ตัวเลขการตกงานของคนไทยก็ไม่ได้อยู่ในสภาวะที่สบายใจได้เท่าใดนัก เมื่อโควิด-19 เข้ามาจึงเป็นเหมือนตัวเร่งให้ยอดคนตกงานพุ่งสูงขึ้น แรงงานอีกหลายส่วนก็ยังอยู่ในสถานะที่ไม่รู้ว่าจะยื้อไปได้อีกนานแค่ไหน ปัญหาตกงานจึงเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้ และควรจะต้องเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลด้วยเช่นกัน เพราะหากมุ่งแก้เฉพาะปัญหาการเมือง สุดท้ายแล้วเศรษฐกิจไทยจะหลับลึกและไม่ตื่นก็เป็นได้
ด้าน ผศ.ดร.ประศาสน์ นิยม อาจารย์ประจำหลักสูตรเศรษฐศาสตรบัณฑิต คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าในปี 2563 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลดลงถึงร้อยละ 6.6 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบ ร้อยละ 0.9 เป็นผลมาจากการที่ประชาชนมีรายได้ ชั่วโมงการทำงาน และค่าล่วงเวลาลดลง จำเป็นต้องใช้เงินออมเพื่อใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาด มีการก่อหนี้บัตรเครดิตมากขึ้น จากข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐแสดงให้เห็นว่าคนไทยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน มีรายได้ไม่เกิน 2,500 บาทต่อเดือน รวมทั้งคนไทยที่มียอดเงินฝาก ไม่เกิน 50,000 บาท สูงถึงร้อยละ 86.6 ของจำนวนบัญชีเงินฝากทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งชี้ให้เห็นถึงระดับรายได้และเงินออมของคนไทยส่วนใหญ่ต่ำมาก ปัจจุบันมีผู้ว่างงานจำนวน 650,000 คน คิดเป็นร้อยละ 1.69 ของกำลังแรงงานมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าปีก่อน
ดังนั้นทั้งภาครัฐภาคธุรกิจและภาคประชาชนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างงานและพัฒนาทักษะใหม่ เช่น การพัฒนาระบบ อี-คอมเมิร์ซ และระบบโลจิสติกส์ที่เป็นของคนไทย การส่งเสริมการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มอเตอร์ และแบตเตอรี่ การเกษตรปลอดภัยและอาหารสุขภาพ โดรนทางการเกษตร การติดตั้งโซล่าเซลล์ทั้งภาคในเมืองและภาคการเกษตร เป็นต้น
****
กระทู้ผลโพลอย่างเป็นทางการของสวนดุสิตโพลครับ
“ตกงาน” ปัญหาใหญ่ของคนไทย ณ วันนี้
https://ppantip.com/topic/40594255