**อยากแก้ไขหัวข้อเป็น เล่าประสบการณ์อาการหลังอาการบินจ์ รักษาตัวเอง** ไม่อยากใช้คำว่าลดน้ำหนักกลัว trigger ค่ะ
สวัสดีค่า วันนี้เมษ์มารีวิวการลดน้ำหนักของเมษ์ให้ทุกคนฟังกันนะคะ มีคนถามมาเยอะมากๆ
(ตรงนี้เกรินประวัติที่เคยลกความอ้วนมากค่ะ ข้ามก็ได้นะคะ)ขอเริ่มต้นตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยนะคะ ตอนม.2 เมษ์เริ่มต้นลดนน.(เป็นเรื่องที่ผิดมากๆ สำหรับเด็กอายุน้อยๅประมาณ14-18ที่คิดจะทำ) เมษ์เริ่มจากการออกกำลังกายโดยการวิ่งและการกินน้อย คือแต่ก่อนไม่ใช่ว่าเราไม่หาข้อมูลนะคะ หาข้อมูล ทุกคนก็จะบอกว่ากินน้อยจะโยโย่ แล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่าที่เราทำอยู่คือเรากินน้อย+เป็นเด็กไม่มองเห็นถึงผลเสียในอนาคตหรอกค่ะ มีคนมาเตือนเหมือนกันแต่ไม่ฟังเลย ที่สำคัญที่ประจำเดือนไม่มา สองปี คือในใจแบบ ก็ดี ขี้เกียจใส่ผ้าอนามัย (โถ่ ชีวิตเด็กน้อย) อีกอย่างคือเราไม่สูงเลยค่ะ หยุดอยู่ที่ 150 ซม ทั้งๆที่คนอื่นในบ้านก็ดูสูงนะ เรื่องไม่สูงเสียใจถึงตอนนี้เลยค่ะ
มาถึงตอน ม.5 กำลังไปแลกเปลี่ยน อันนี้ก็เป็นอีกจุดสำคัญค่ะ เราได้ไปเวทเทรนนิ่งที่ยิม ที่ยิมที่นู้นดีมากค่ะ ไม่ต้องจ้าง PT คนที่ดูแลยิมก็มาสอนให้เราเล่นเวทเป็น จัดโปรแกรมให้ ป้องกันการบาดเจ็บ เหมือนยิมที่นู้นเราต้องเล่นเอง มาช่วยซัพพอร์ตแนวเป็นเพื่อนๆกัน
จะบอกว่าเรานี้จิตใจตั้งมั่นมากกก แบบไปแลกเปลี่ยนก็ตั้งมั่นว่าชั้นจะไม่อ้วน🥲 คือทำอาหารคลีน กินตอนกลางวันกับเช้า ตอนเย็นกินกับโฮส ออกกำลังกายบ่อยมากกก 5 วันต่อสัปดาห์ เพราะเหมือนไม่มีไรทำด้วยค่ะ นน. เพิ่มมา 3โล ตอนกลับมาจากอิตาลี อยู่ที่ 43 กก.
พอตอนกลับมาม6 เมษ์ไม่ได้ซํ้าชั้นค่ะ ทำให้เครียดกับการเรียนมาเพื่อเตรียมตัวสอบ เข้ามหาลัย คณะสุดงานจะเยอะ แง แค่ตอนติวเข้าเหนื่อยแล้วค่ะ ทำงานดึกทุกวัน ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่เมษ์ยอมปล่อยตัว คือเมษ์บอกกับตัวเองว่าชั้นจะต้องเข้าคณะนี้ให้ได้ แล้วชั้นค่อยมาสนใจเรื่องลดความอ้วนทีหลังง ช่วงนั้นกินหนักค่ะ แบบไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้ออกกำลังกาย ตัวก็คืออ้วนขึ้นแต่ไม่ได้มากอะไรค่ะ แค่บวมๆแบบออกหน้า
พอติดมหาลัยแล้วว่างจริงค่ะ ช่วงนั้นสามารถออกกำลังได้7วันแบบ อยู่ทั้งวันยังได้เลยค่ะ ไปเอาก็ปไเลยค่า7วัน+เช้าเข้าคลาส เวทบ้าง เย็นตีเเบต หรือไปวิ่ง ว่างและฟิตจริงค่ะเด็กคนนี้5555 เรื่องอาหาร ไม่ได้คุมค่า ตอนนั้นยังเจอเพื่อนบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ทานของอ้วนๆเยอะ หรืออะไรค่ะ นน สัดส่วนลงจริง ช่วงนั้นลีนแบบ คนคาดิโอเยอะ
>>>>>>>เน้นที่ตรงนี้ค่ะ
อะทีนี้แหละ จุดเริ่มอ้วน พอเปิดเทอม ปี1 ปีแรก เป็นปีที่งานหนักมากกกกกกค่ะ สำหรับคณะที่เมษ์เรียน ฮือ ไม่ค่อยได้นอนเลยค่ะ เเต่คือใจเรามันได้ไงค่ะ การออกกำลังหายและคุมอาหารมันเปนชีวิตจิตใจ ทำให้เราก็พยายามบังคบตัวเอง เลิก เรียน5โมงก็ยังไปฟิตเนสอ่ะ ทั้งๆที่ฟิตเนสคือไกลจาก มหาลัย 1ชั่วโมงเพราะรถติด แทนที่จะไปหาเพื่อนหรือกินข้าวrelax คือถือว่าเราฟิตมากก5555
หลังๆยอมรับเริ่มไม่ได้แล้วค่ะ คือจริงๆร่างกายเครียดแหละ นอนก้ไม่ได้นอน คุมอาหาร แถมยังต้องออกกำลังหายอีก แต่คือเราไม่รู้ตัวไง เลยเกิดอาการบินจ์ แบบที่เราไม่รู้ว่าตัวเองเป็น บินจ์คืออาการตะบะแตก เลิกกินไม่ได้ อิ่มก็ยังจะกินนะคะ ช่วงนี้ยังไม่ล้วงคอค่ะ คือจริงๆลองไปอ่านกระทู้เก่า เคยพูดเรื่องบินจ์แยกมาเป็นอีกท้อปปิ้กนึงไว้ <กระทู้เก่าเกี่ยวกับบินจ์ค่ะ
https://ppantip.com/topic/40425389/comment16-2 >
ทำให้จบปี 1 อ้วนขึ้นมานิดหน่อยแต่ไม่มากค่ะ จากปิดเทอม-->ปี1 น่าจะ 43กก-->45กก
ตอนปี 2 ตอนนี้ค่ะ เริ่มมีปัญหาครอบครัว คนรอบข้างทำให้เราเริ่มเครียดมากๆค่ะ จนกลายเป็นบิ้นจ์หนักๆ มากจนกระทั่งล้วงคอ ในระยะเวลานี้ยังคงออกกำลังกายอยู่นะคะ ไม่เคยหยุดออกกำลังกายเลยค่ะเพราะกลัวอ้วน แต่เรื่องอาหารในช่วงนี้คือเราอยากบอกว่าเราคุมตัวเองไม่ได้เลยค่ะ เคยเป็นประมาณว่า เปิดตู้เยนคว้านทึกอย่างให้ตู้เย็นออกมา เพื่อจะกินทุกอย่างที่ขว้างหน้า เลือกแต่อะไรอ้วนๆ นํ้าตาลเยอะๆ เช่นเบคอนทอด มาชเมลโล่ คือพยายามทำเมนูอะไรก็ได้ที่ ช่วงลดนน เราไม่กล้ากิน คือเหมือนอาการทำทุกย่างที่ตรงข้ามที่เราเคยทำมาในการลดนํ้าหนัก กินทุกอย่างที่ไม่เคยเข้าปากแบบเต็มใจ เรื่องนี้ไม่พูดเยอะละกันค่ะ กลับไปอ่านอีกกระทู้น้าาา แต่คือหลังๆมากล้วยเป็นอ้วกเอง พัฒนามาเป็นล้วงคอ งือออ อ้วกจนเหนื่อยแล้วก็กินใหม่ แล้วกอ้วกใหม่ วนลูปไปอย่างงี้หลายเดือน จนถึงประมาณอีกห้าเดือนต่อมา อาการเริ่มลดลงค่ะ โดยการเลิกเล่นไอจี เลิกออกกำลังกาย พยายามตัดวงจรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะสังเกตุได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เมษ์หายไปจากวงการกินคลีน ขนมคลีน ตอนช่วงนั้นแอบคิดว่าจะเลิกเล่นไอจีนี้แล้วว
แปะไอจี @bitchycooking <
https://www.instagram.com/bitchycooking/ >
ด้วยการที่เราเจอสังคมใหม่ๆด้วย เจอแฟนคนปัจจุบัน ตอนนั้นคุยๆกันอยู่ เห่อแฟน คือแฟนเค้าไม่ได้ความเชื่อมโยงกับการออกกำลังหรือการกินคลีน แล้วเราก็ร็สึกว่าเราไม่ได้เหมาะสมที่จะไปบอกคนอื่นว่าเรากินคลีน เราเลยไม่ได้บอกเกี่ยวกับการที่เราทำไอจีนี้ขึ้นมาค่ะ ทำให้จริงๆ ช่วงแรกแฟนไม่รู้เลยว่าเรากินคลีนและออกกำลังกายมาก่อน เพราะช่วงนั้นเราก็เลิกแล้วจริงๆ เพราะต้แงการรักษอาการบินจ์ ซึ่งบวกกับช่วงที่คุยกับแฟนอยู่ เราก็แฮปปี้กับการกิน การเจอเพื่อนใหม่แล้วก็กิจกรรมต่างๆทำให้เราอ้วนขึ้นมาจริงๆค่ะ5555 แต่อาการบินจ์ที่ลดลงนะคะ
พอมาช่วงโควิด อะ เริ่มอยู่บ้านแล้วค่ะ ว่างง กลับมาดูตัวเองง แง อ้วนจัง ตั้งใจจะลดนํ้าหนักอีกรอบค่ะ โดยการออกกำลังกายและคุมอาหารเหมือนเดิม
การคุมอาหาร : เรานับแคลเช่นเดิมค่ะแบบที่เคยทำเมื่อนานมาแล้ว ช่วงแรก ทำอาหารทานกินคลีนค่ะ แต่เอาจริงๆ กินเสร็จก็ยังมีความอยากขนมอยู่ดีอะ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาติดขนมคลีนค่ะ ซื้อตุนนตลอด ตั้งใจว่าจะทานขนมคลีนเช้าวันละชิ้น หลังๆมาเริ่มไม่ใช่วันละชิ้นแล้วค่ะ เกิดอาการบิ้นจ์อีกรอบ เป็นวันละสี่ชิ้นค่ะ แงง
การออกกำลังกาย ออกกำลังกายที่บ้าน ตามคลิปค่ะ เน้นเหงื่ออก
ผลลัพธ์ ผอมลงจริงค่ะ ทีละนิด มีช่วงอ้วนขึ้นบ้างเวลาชีทเดย์แล้วไม่ยอมกลับมาคุมอาการต่อ
อายตัวเองอ่ะ55555
ช่วงอ้วนๆ ผอมๆ นับแคล ออกกำลังกายที่บ้าน ตะบะแตกหลายครั้ง
นี้คือ ขนมที่กินในครั้งเดียว แง ไม่กินข้าวนะ กินแต่ขนม
โควิทเริ่มเปิดค่ะ
การออกกำลังกาย;ด้วยความว่าโควิทเริ่มเปิดเเล้วเรากลับไปอยู่คอนโด ทำให้ไม่มีที่ออกกำลังกาย (แล้วเราก็ไม่สมัครฟิตเนสใหม่สักที เพราะยังไม่เจอที่ถูกใจ และตั้งใจว่าจะประหยัดเงินดู ลองออกที่บ้าน) กลายเป็นเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ
การคุมอาหาร ตั้งใจว่าจะไม่เข้าร้านอาหารคลีน จะทานอาหารปกติให้ได้ ในปริมาณที่ลดลง บวกกับไม่ได้ออกกำลังหายแล้ว ทำให้ไม่ค่อยอยากอาหาร
การนอน ช่วงนี้เป็นช่วงที่นอนเยอะมากๆค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร การนอนก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำมห้ความอยากอาหารของเราลดลง ปริมาณอาหารของเราลดลงค่ะ
ผลลัพธ์ ผอมลง แล้วก็ตัวบางๆ ฟีบๆลงเยอะมาก แบบคนไม่ได้ออกกำลังกายค่ะ รู้สึกว่าตัวเองไม่แข็งเเรงเท่าเดิม ไม่แอคทีฟเท่าไหร่ ขี้เกียจเดิน คือปกติจะชอบเดินมาก
ช่วงกลับมาเล่นฟิตเนสอีกรอบเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีแรง ครั้งนี้รู้เเล้วว่าการออกกำลังกายน้อยลงทำให้เรากินน้อยลงตามลำดับ
การออกำลังกาย เลยกะว่าจะมาฟิตเนสนานๆทีค่ะ ช่วงแรก เดือนละสี่ครั้งได้55555 จากคนที่ไปฟิตเนส เจ็ดวันต่อสัปดาห์แอบรู้สึกแปลกเหมือนกันนะ
คุมอาหาร ไม่ได้คุม แต่ทานน้อยลงค่ะ ด้วยความว่าไม่อยากอาหาร แนวแบบ ไม่ชอบความรู้สึกอิ่ม มันแน่นท้อง บ้าม้ะ งงตัวเองมาก(ตอนนี้ผ่านมาหลายเดือนไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว กินอิ่ม ปกติ แอบอยากได้ความรู้สึกนั้นกลับมา 😂😂)
ผลลัพธ์ ตัวบางลงเรื่อยๆค่ะ หลักๆเลยเพราะทานน้อยลง แต่ไม่ได้น้อยแบบนั้นนะคะ คือทานอาหารปกติเลยค่ะ ไม่ได้คลีนอะไร ขนมคลีนก็เลิกแล้วค่ะ มื้อหลักอิ่มแล้วก็ไม่ได้ทานอะไรเลย เน้นอาหารง่ายๆถูกๆค่ะ ช่วงนี้รู้สึกอารมณ์ต่างๆ ดีขึ้น คิดว่าเพราะการทานอาหารที่ครบ 5 หมู่มากขึ้น แต่ก่อนทำอาหารคลีนเอง ชอบไม่ใส่นํ้ามันค่ะ ใส่อะไรก็กล้าๆกลัว พอมาทานอาหารนอกบ้าน เราก็เลือกอะไรมากไม่ได้
นี้ค่า สองรูปขวาเริ่มไม่ออกกำลังกาย เริ่มกินอาหารปกติ ไม่กินขนมแย้ว ชอบกินของคาว
ตัวบางแบบผอมแห้งแรงน้อย เพราะกินน้อยลงเยอะเลยค่ะ
ช่วงประมาณกำลังจะปีใหม่ 2021เริ่มเล่นฟิตเนสบ่อยอีกรอบ ช่วงนี้ทานเยอะขึ้น เริ่มมาใส่ใจอาหารมากขึ้น หันมาทานคลีนแบบอาหารธรรมชาติ อาหารคาว รวมถึงมันหมู ไขมัน ก็ทานนะคะ จากที่แต่ก่อนไม่สนใจพวกไดเอทแบบนี้เลยเพราะคิดว่าตัวเองคุมอาหารไม่ได้หรอก เพราะชอบกินขนม ไม่ชอบกินข้าว การกินอาหารหลักให้อิ่ม คืออันดับแรกเลยที่ทำให้เราคุมอาหารได้ดีขึ้น และไม่อยากขนม!! ที่สำคัญ การลดความหวานที่ติดลิ้นเรา เลือกความหวานจากธรรมชาติ ทำให้ไม่อยากของหวาน และขนมค่ะ จริงๆค่ะ
ช่วงนี้ออกกำลังกายเยอะขึ้น ทานคลีนขึ้นค่ะ
แทรกตัวอย่างอาหารไว้ให้นะคะ. ดูเพิ่มได้ในไอจีค่าา
ช่วงที่เป็นได้รับแรงบันดาลใจจาก ครูปลายฟ้า คือเค้าไม่เคยเรียนกะครูนะคะ เป็นครั้งแรกที่บอกว่าชั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหน แค่เห็นรูปครูปลายฟ้าแล้วแบบ ชั้นชอบบ ชั้นชอบมากๆ ผู้หญิงอะไร หุ่นดี สวย และรวย 55555 ที่เลือกครูคนนี้มาเป็นแรงบันดาลใจเพราะ รู้สึกว่ารูปคล้ายๆกันคือ มีก้น และ ตัวเล็ก จะบอกว่าแต่ก่อนเมษ์คิดว่าแรงบันดาลใจไม่สำคัญ เวลาคนถามว่าชอบหุ่นแบบไหน คือเราตอบไม่ได้เลย ซึ่งถือว่าไม่ดีนะคะ เหมือนมันไม่มีเป้าหมานที่อยากจะเป็น คือถ้าเราชอบหุ่นแบบไหนก็ต้องใช้ชีวิตแบบคนนั้นค่ะ
เลยหันมาใส่ใจเรื่องอาหารคลีนจากธรรมชาติมากขึ้นค่ะ ไม่ได้นับแคลหรือสารอาหารอะไรเลย เน้นทำสบายๆ อย่าไปเครียดมาก กินอาหารที่ดีก็พอแล้วค่ะ จนถึงตอนนี้ ครูปลาย ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เมษ์อยู่เสมอค่ะ แง
ผลลัพธ์จากการใส่ใจอาหารธรรมชาติ พยายามลดหวาน และออกกำลังกายด้วย คือลีนขึ้นจริง ตอนนี้รู้สึกแข็งแรงขึ้นด้วย แถมแฮปปี้สุดๆค่ะ เพราะเค้าไม่ได้ทานคลีนแบบต้องทานที่ทำเอง คือเค้าสามารถออกนนอกบ้านแล้วเลือกกินได้อย่างความสุข คิดว่าเพราะมันภูมิต้านทานจากการทานอาหารนอกบ้านบ่อยในช่วงแรก คือตอนนี้ทานเยอะขึ้นจากช่วงนั้นขึ้นมาเยอะเหมือนกัน ตัวแน่นขึ้น เพราะออกกำลังกายมากขึ้นค่ะ
รูปภาพสรุปลดความอ้วน 1 ปี ตั้งแต่โควิทปีที่แล้วค่ะ จากซ้ายบยไปขวาล่างค่ะ
ฟอลมากันได้นะคะ อิอิ ขอฝากไอจีหน่อย Ig : Bitchycooking
https://www.instagram.com/bitchycooking/
เล่าประสบการณ์ลดความอ้วน หลังอาการบินจ์
สวัสดีค่า วันนี้เมษ์มารีวิวการลดน้ำหนักของเมษ์ให้ทุกคนฟังกันนะคะ มีคนถามมาเยอะมากๆ
(ตรงนี้เกรินประวัติที่เคยลกความอ้วนมากค่ะ ข้ามก็ได้นะคะ)ขอเริ่มต้นตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยนะคะ ตอนม.2 เมษ์เริ่มต้นลดนน.(เป็นเรื่องที่ผิดมากๆ สำหรับเด็กอายุน้อยๅประมาณ14-18ที่คิดจะทำ) เมษ์เริ่มจากการออกกำลังกายโดยการวิ่งและการกินน้อย คือแต่ก่อนไม่ใช่ว่าเราไม่หาข้อมูลนะคะ หาข้อมูล ทุกคนก็จะบอกว่ากินน้อยจะโยโย่ แล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่าที่เราทำอยู่คือเรากินน้อย+เป็นเด็กไม่มองเห็นถึงผลเสียในอนาคตหรอกค่ะ มีคนมาเตือนเหมือนกันแต่ไม่ฟังเลย ที่สำคัญที่ประจำเดือนไม่มา สองปี คือในใจแบบ ก็ดี ขี้เกียจใส่ผ้าอนามัย (โถ่ ชีวิตเด็กน้อย) อีกอย่างคือเราไม่สูงเลยค่ะ หยุดอยู่ที่ 150 ซม ทั้งๆที่คนอื่นในบ้านก็ดูสูงนะ เรื่องไม่สูงเสียใจถึงตอนนี้เลยค่ะ
มาถึงตอน ม.5 กำลังไปแลกเปลี่ยน อันนี้ก็เป็นอีกจุดสำคัญค่ะ เราได้ไปเวทเทรนนิ่งที่ยิม ที่ยิมที่นู้นดีมากค่ะ ไม่ต้องจ้าง PT คนที่ดูแลยิมก็มาสอนให้เราเล่นเวทเป็น จัดโปรแกรมให้ ป้องกันการบาดเจ็บ เหมือนยิมที่นู้นเราต้องเล่นเอง มาช่วยซัพพอร์ตแนวเป็นเพื่อนๆกัน
จะบอกว่าเรานี้จิตใจตั้งมั่นมากกก แบบไปแลกเปลี่ยนก็ตั้งมั่นว่าชั้นจะไม่อ้วน🥲 คือทำอาหารคลีน กินตอนกลางวันกับเช้า ตอนเย็นกินกับโฮส ออกกำลังกายบ่อยมากกก 5 วันต่อสัปดาห์ เพราะเหมือนไม่มีไรทำด้วยค่ะ นน. เพิ่มมา 3โล ตอนกลับมาจากอิตาลี อยู่ที่ 43 กก.
พอตอนกลับมาม6 เมษ์ไม่ได้ซํ้าชั้นค่ะ ทำให้เครียดกับการเรียนมาเพื่อเตรียมตัวสอบ เข้ามหาลัย คณะสุดงานจะเยอะ แง แค่ตอนติวเข้าเหนื่อยแล้วค่ะ ทำงานดึกทุกวัน ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่เมษ์ยอมปล่อยตัว คือเมษ์บอกกับตัวเองว่าชั้นจะต้องเข้าคณะนี้ให้ได้ แล้วชั้นค่อยมาสนใจเรื่องลดความอ้วนทีหลังง ช่วงนั้นกินหนักค่ะ แบบไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้ออกกำลังกาย ตัวก็คืออ้วนขึ้นแต่ไม่ได้มากอะไรค่ะ แค่บวมๆแบบออกหน้า
พอติดมหาลัยแล้วว่างจริงค่ะ ช่วงนั้นสามารถออกกำลังได้7วันแบบ อยู่ทั้งวันยังได้เลยค่ะ ไปเอาก็ปไเลยค่า7วัน+เช้าเข้าคลาส เวทบ้าง เย็นตีเเบต หรือไปวิ่ง ว่างและฟิตจริงค่ะเด็กคนนี้5555 เรื่องอาหาร ไม่ได้คุมค่า ตอนนั้นยังเจอเพื่อนบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ทานของอ้วนๆเยอะ หรืออะไรค่ะ นน สัดส่วนลงจริง ช่วงนั้นลีนแบบ คนคาดิโอเยอะ
>>>>>>>เน้นที่ตรงนี้ค่ะ
อะทีนี้แหละ จุดเริ่มอ้วน พอเปิดเทอม ปี1 ปีแรก เป็นปีที่งานหนักมากกกกกกค่ะ สำหรับคณะที่เมษ์เรียน ฮือ ไม่ค่อยได้นอนเลยค่ะ เเต่คือใจเรามันได้ไงค่ะ การออกกำลังหายและคุมอาหารมันเปนชีวิตจิตใจ ทำให้เราก็พยายามบังคบตัวเอง เลิก เรียน5โมงก็ยังไปฟิตเนสอ่ะ ทั้งๆที่ฟิตเนสคือไกลจาก มหาลัย 1ชั่วโมงเพราะรถติด แทนที่จะไปหาเพื่อนหรือกินข้าวrelax คือถือว่าเราฟิตมากก5555
หลังๆยอมรับเริ่มไม่ได้แล้วค่ะ คือจริงๆร่างกายเครียดแหละ นอนก้ไม่ได้นอน คุมอาหาร แถมยังต้องออกกำลังหายอีก แต่คือเราไม่รู้ตัวไง เลยเกิดอาการบินจ์ แบบที่เราไม่รู้ว่าตัวเองเป็น บินจ์คืออาการตะบะแตก เลิกกินไม่ได้ อิ่มก็ยังจะกินนะคะ ช่วงนี้ยังไม่ล้วงคอค่ะ คือจริงๆลองไปอ่านกระทู้เก่า เคยพูดเรื่องบินจ์แยกมาเป็นอีกท้อปปิ้กนึงไว้ <กระทู้เก่าเกี่ยวกับบินจ์ค่ะ https://ppantip.com/topic/40425389/comment16-2 >
ทำให้จบปี 1 อ้วนขึ้นมานิดหน่อยแต่ไม่มากค่ะ จากปิดเทอม-->ปี1 น่าจะ 43กก-->45กก
ตอนปี 2 ตอนนี้ค่ะ เริ่มมีปัญหาครอบครัว คนรอบข้างทำให้เราเริ่มเครียดมากๆค่ะ จนกลายเป็นบิ้นจ์หนักๆ มากจนกระทั่งล้วงคอ ในระยะเวลานี้ยังคงออกกำลังกายอยู่นะคะ ไม่เคยหยุดออกกำลังกายเลยค่ะเพราะกลัวอ้วน แต่เรื่องอาหารในช่วงนี้คือเราอยากบอกว่าเราคุมตัวเองไม่ได้เลยค่ะ เคยเป็นประมาณว่า เปิดตู้เยนคว้านทึกอย่างให้ตู้เย็นออกมา เพื่อจะกินทุกอย่างที่ขว้างหน้า เลือกแต่อะไรอ้วนๆ นํ้าตาลเยอะๆ เช่นเบคอนทอด มาชเมลโล่ คือพยายามทำเมนูอะไรก็ได้ที่ ช่วงลดนน เราไม่กล้ากิน คือเหมือนอาการทำทุกย่างที่ตรงข้ามที่เราเคยทำมาในการลดนํ้าหนัก กินทุกอย่างที่ไม่เคยเข้าปากแบบเต็มใจ เรื่องนี้ไม่พูดเยอะละกันค่ะ กลับไปอ่านอีกกระทู้น้าาา แต่คือหลังๆมากล้วยเป็นอ้วกเอง พัฒนามาเป็นล้วงคอ งือออ อ้วกจนเหนื่อยแล้วก็กินใหม่ แล้วกอ้วกใหม่ วนลูปไปอย่างงี้หลายเดือน จนถึงประมาณอีกห้าเดือนต่อมา อาการเริ่มลดลงค่ะ โดยการเลิกเล่นไอจี เลิกออกกำลังกาย พยายามตัดวงจรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะสังเกตุได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เมษ์หายไปจากวงการกินคลีน ขนมคลีน ตอนช่วงนั้นแอบคิดว่าจะเลิกเล่นไอจีนี้แล้วว
แปะไอจี @bitchycooking < https://www.instagram.com/bitchycooking/ >
ด้วยการที่เราเจอสังคมใหม่ๆด้วย เจอแฟนคนปัจจุบัน ตอนนั้นคุยๆกันอยู่ เห่อแฟน คือแฟนเค้าไม่ได้ความเชื่อมโยงกับการออกกำลังหรือการกินคลีน แล้วเราก็ร็สึกว่าเราไม่ได้เหมาะสมที่จะไปบอกคนอื่นว่าเรากินคลีน เราเลยไม่ได้บอกเกี่ยวกับการที่เราทำไอจีนี้ขึ้นมาค่ะ ทำให้จริงๆ ช่วงแรกแฟนไม่รู้เลยว่าเรากินคลีนและออกกำลังกายมาก่อน เพราะช่วงนั้นเราก็เลิกแล้วจริงๆ เพราะต้แงการรักษอาการบินจ์ ซึ่งบวกกับช่วงที่คุยกับแฟนอยู่ เราก็แฮปปี้กับการกิน การเจอเพื่อนใหม่แล้วก็กิจกรรมต่างๆทำให้เราอ้วนขึ้นมาจริงๆค่ะ5555 แต่อาการบินจ์ที่ลดลงนะคะ
พอมาช่วงโควิด อะ เริ่มอยู่บ้านแล้วค่ะ ว่างง กลับมาดูตัวเองง แง อ้วนจัง ตั้งใจจะลดนํ้าหนักอีกรอบค่ะ โดยการออกกำลังกายและคุมอาหารเหมือนเดิม
การคุมอาหาร : เรานับแคลเช่นเดิมค่ะแบบที่เคยทำเมื่อนานมาแล้ว ช่วงแรก ทำอาหารทานกินคลีนค่ะ แต่เอาจริงๆ กินเสร็จก็ยังมีความอยากขนมอยู่ดีอะ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาติดขนมคลีนค่ะ ซื้อตุนนตลอด ตั้งใจว่าจะทานขนมคลีนเช้าวันละชิ้น หลังๆมาเริ่มไม่ใช่วันละชิ้นแล้วค่ะ เกิดอาการบิ้นจ์อีกรอบ เป็นวันละสี่ชิ้นค่ะ แงง
การออกกำลังกาย ออกกำลังกายที่บ้าน ตามคลิปค่ะ เน้นเหงื่ออก
ผลลัพธ์ ผอมลงจริงค่ะ ทีละนิด มีช่วงอ้วนขึ้นบ้างเวลาชีทเดย์แล้วไม่ยอมกลับมาคุมอาการต่อ
อายตัวเองอ่ะ55555
การออกกำลังกาย;ด้วยความว่าโควิทเริ่มเปิดเเล้วเรากลับไปอยู่คอนโด ทำให้ไม่มีที่ออกกำลังกาย (แล้วเราก็ไม่สมัครฟิตเนสใหม่สักที เพราะยังไม่เจอที่ถูกใจ และตั้งใจว่าจะประหยัดเงินดู ลองออกที่บ้าน) กลายเป็นเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ
การคุมอาหาร ตั้งใจว่าจะไม่เข้าร้านอาหารคลีน จะทานอาหารปกติให้ได้ ในปริมาณที่ลดลง บวกกับไม่ได้ออกกำลังหายแล้ว ทำให้ไม่ค่อยอยากอาหาร
การนอน ช่วงนี้เป็นช่วงที่นอนเยอะมากๆค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร การนอนก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำมห้ความอยากอาหารของเราลดลง ปริมาณอาหารของเราลดลงค่ะ
ผลลัพธ์ ผอมลง แล้วก็ตัวบางๆ ฟีบๆลงเยอะมาก แบบคนไม่ได้ออกกำลังกายค่ะ รู้สึกว่าตัวเองไม่แข็งเเรงเท่าเดิม ไม่แอคทีฟเท่าไหร่ ขี้เกียจเดิน คือปกติจะชอบเดินมาก
ช่วงกลับมาเล่นฟิตเนสอีกรอบเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีแรง ครั้งนี้รู้เเล้วว่าการออกกำลังกายน้อยลงทำให้เรากินน้อยลงตามลำดับ
การออกำลังกาย เลยกะว่าจะมาฟิตเนสนานๆทีค่ะ ช่วงแรก เดือนละสี่ครั้งได้55555 จากคนที่ไปฟิตเนส เจ็ดวันต่อสัปดาห์แอบรู้สึกแปลกเหมือนกันนะ
คุมอาหาร ไม่ได้คุม แต่ทานน้อยลงค่ะ ด้วยความว่าไม่อยากอาหาร แนวแบบ ไม่ชอบความรู้สึกอิ่ม มันแน่นท้อง บ้าม้ะ งงตัวเองมาก(ตอนนี้ผ่านมาหลายเดือนไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว กินอิ่ม ปกติ แอบอยากได้ความรู้สึกนั้นกลับมา 😂😂)
ผลลัพธ์ ตัวบางลงเรื่อยๆค่ะ หลักๆเลยเพราะทานน้อยลง แต่ไม่ได้น้อยแบบนั้นนะคะ คือทานอาหารปกติเลยค่ะ ไม่ได้คลีนอะไร ขนมคลีนก็เลิกแล้วค่ะ มื้อหลักอิ่มแล้วก็ไม่ได้ทานอะไรเลย เน้นอาหารง่ายๆถูกๆค่ะ ช่วงนี้รู้สึกอารมณ์ต่างๆ ดีขึ้น คิดว่าเพราะการทานอาหารที่ครบ 5 หมู่มากขึ้น แต่ก่อนทำอาหารคลีนเอง ชอบไม่ใส่นํ้ามันค่ะ ใส่อะไรก็กล้าๆกลัว พอมาทานอาหารนอกบ้าน เราก็เลือกอะไรมากไม่ได้
เลยหันมาใส่ใจเรื่องอาหารคลีนจากธรรมชาติมากขึ้นค่ะ ไม่ได้นับแคลหรือสารอาหารอะไรเลย เน้นทำสบายๆ อย่าไปเครียดมาก กินอาหารที่ดีก็พอแล้วค่ะ จนถึงตอนนี้ ครูปลาย ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เมษ์อยู่เสมอค่ะ แง
ผลลัพธ์จากการใส่ใจอาหารธรรมชาติ พยายามลดหวาน และออกกำลังกายด้วย คือลีนขึ้นจริง ตอนนี้รู้สึกแข็งแรงขึ้นด้วย แถมแฮปปี้สุดๆค่ะ เพราะเค้าไม่ได้ทานคลีนแบบต้องทานที่ทำเอง คือเค้าสามารถออกนนอกบ้านแล้วเลือกกินได้อย่างความสุข คิดว่าเพราะมันภูมิต้านทานจากการทานอาหารนอกบ้านบ่อยในช่วงแรก คือตอนนี้ทานเยอะขึ้นจากช่วงนั้นขึ้นมาเยอะเหมือนกัน ตัวแน่นขึ้น เพราะออกกำลังกายมากขึ้นค่ะ
รูปภาพสรุปลดความอ้วน 1 ปี ตั้งแต่โควิทปีที่แล้วค่ะ จากซ้ายบยไปขวาล่างค่ะ
ฟอลมากันได้นะคะ อิอิ ขอฝากไอจีหน่อย Ig : Bitchycooking https://www.instagram.com/bitchycooking/